บทที่ 611: อาการบาดเจ็บของพ่อมังกรไม่สามารถรักษาให้หายได้
หูเจียวเจียวมองเหยียนหุนที่เปลี่ยนน้ำเสียงพูดมาเป็นเสียงเล็กแหลมแบบเด็กผู้หญิงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “…”
สรุปว่าเจ้าหินอ้วนก้อนนี้เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่
“เจียวเจียว เจียวเจียว!”
ในขณะที่หญิงสาวให้ความสนใจกับเหยียนหุนอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็ได้ยินน้ำเสียงที่ฟังดูกระวนกระวายใจของหูหลินดังมาจากด้านนอกถ้ำ
หูเจียวเจียวที่กำลังนั่งทุกข์ใจอยู่ก่อนหน้านี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงของพ่อรอง เธอก็รู้สึกมีความสุขมากจึงรีบลุกขึ้นยืนรอการมาถึงของเขา
ถึงแม้ว่าที่นี่จะอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งเผ่ามากนัก แต่เธอก็ไม่คิดว่าพ่อจิ้งจอกของเธอจะมาถึงเร็วขนาดนี้
เมื่อหินสีทองได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากนอกถ้ำ มันก็เริ่มวิตกกังวล แล้วร่างอวบของเจ้าหินน้อยก็ลอยวนไปรอบ ๆ ศีรษะของจิ้งจอกสาวด้วยความตื่นตระหนก
“เร็วเข้า! พาบิดากลับเข้าไปในมิติเร็ว ๆ บิดาไม่อยากให้ภูตพวกนั้นเห็น!”
ถึงแม้เหยียนหุนจะเกิดจากการดูดซับพลังของสวรรค์และโลก แต่เหยียนหุนทุกตนมีการสืบทอดความทรงจำต่อกันมา
ซึ่งในความทรงจำทั้งหมดที่มันเคยเห็นไม่เคยมีเรื่องดีเกิดขึ้นเลยเมื่อพวกภูตค้นพบการมีอยู่ของมัน
นี่จึงเป็น 1 ในเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงอยากอยู่กับหูเจียวเจียว
นับตั้งแต่ที่เหยียนหุนถูกปลุกให้ตื่นขึ้น มันก็ไม่สามารถกลับไปหลบซ่อนตัวได้ดังเดิม ดังนั้นการซ่อนตัวอยู่ในมิติของหญิงสาวย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมัน
และที่สำคัญที่สุดก็คือ ในสายตาของมันมองว่าจิ้งจอกสาวดูไม่ค่อยฉลาดนักและนางไม่มีท่าทีว่าจะสนใจในตัวของมันเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าอาหารก็มีส่วนในการตัดสินใจของมันอยู่นิดหน่อย…
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าเจ้าก้อนหินอ้วนดูเป็นกังวลมาก เธอจึงหยุดล้อเล่นแล้วยื่นมือออกไปจับมันไว้ ก่อนจะส่งอีกฝ่ายกลับเข้าไปในมิติ
“เจียวเจียว!”
“พ่อรอง พวกเราอยู่ทางนี้!”
หญิงสาวขานรับเสียงเรียกของหูหลิน ไม่กี่อึดใจเธอก็เห็นชายวัยกลางคนรีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาตนด้วยสีหน้าเป็นกังวลพร้อมกับภูตชายอีก 2-3 คนและเตี๋ยฉ่าย
“เจียวเจียว เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” พอหูหลินเข้าไปในถ้ำ เขาก็รีบตรวจสอบทันทีว่าลูกสาวได้รับบาดเจ็บหรือไม่
เตี๋ยฉ่ายที่วิ่งไล่ตามมาเมื่อเห็นว่าหัวหน้าเผ่าเยว่หูใส่ใจผิดประเด็นไปหน่อยจึงเอ่ยเตือนเขาว่า “ท่านหัวหน้า คนที่ได้รับบาดเจ็บคือหลงโม่ ไม่ใช่หูเจียวเจียว”
ส่วนจิ้งจอกสาวที่เห็นท่าทีร้อนใจของคนตรงหน้าก็กล่าวขึ้นว่า “พ่อรอง ข้าสบายดี เป็นหลงโม่ต่างหากที่ได้รับบาดเจ็บ”
“โอ้! หลงโม่ได้รับบาดเจ็บงั้นหรือ? ไม่เป็นไร ข้าให้คนพาหลิงเอ๋อมาด้วย หลิงเอ๋ออยู่ที่ไหนแล้วล่ะ?”
พอหูหลินกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง ความกังวลของเขาก็คลายลง เขาจึงมองไปรอบ ๆ ถ้ำเพื่อหาหลานสาวตัวน้อย
“ท่านตาหลิน! ข้ามาแล้ว”
หลงหลิงเอ๋อนั่งอยู่บนหลังของภูตเสือคนหนึ่ง เป็นเพราะว่าผู้เป็นตาวิ่งเร็วมากเกินไปจนทำให้ภูตเสือที่พานางมาตามฝีเท้าของท่านตาไม่ทัน นางจึงเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน
เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยได้ยินหูหลินเรียกหาตน นางจึงกระโดดลงจากหลังของภูตเสือแล้วรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของพ่อมังกร
“ท่านแม่ เสี่ยวเหยากลับถึงบ้านแล้ว ท่านไม่ต้องห่วงนะ ตราบใดที่ข้าอยู่ที่นี่ ท่านพ่อจะไม่เป็นอะไร”
หลงหลิงเอ๋อเอ่ยปลอบใจแม่จิ้งจอกเพื่อไม่ให้แม่ของนางเป็นกังวลอีก
พอหูเจียวเจียวได้ยินในสิ่งที่นางพูด เธอก็รู้สึกมีความสุขมากที่ลูกสาวตัวน้อยเป็นห่วงเป็นใยเธอถึงเพียงนี้
หลังจากที่หลงหลิงเอ๋อพูดกับแม่จิ้งจอกจบ นางก็นั่งลงข้าง ๆ พ่อมังกรแล้วเริ่มรักษาเขาทันที
เหล่าภูตที่ได้เห็นดังนั้น พวกเขาก็ไม่กล้ารบกวนหมอผีตัวน้อย ก่อนจะพากันไปยืนรออยู่ที่มุมหนึ่งในถ้ำเงียบ ๆ
ยามนี้จิ้งจอกสาวและคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองไปที่หลงหลิงเอ๋อกับหลงโม่อย่างใกล้ชิด
แต่คราวนี้หลังจากรอเป็นเวลานาน อาการบาดเจ็บของมังกรหนุ่มก็ไม่ดีขึ้นเลย แต่กลับเป็นคนตัวเล็กที่เริ่มขมวดคิ้วก่อนที่ใบหน้าของนางจะค่อย ๆ ซีดลงจนทุกคนสังเกตเห็นได้
“หลิงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้น?” หูเจียวเจียวถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“หลิงเอ๋อ วันนี้เจ้าอาจจะเหนื่อยเกินไป หากตอนนี้เจ้ายังรักษาบาดแผลของพ่อเจ้าไม่หายก็ไม่เป็นไร ตาจะพาเขากลับไปที่เผ่าแล้วให้หมอประจำเผ่ารักษาเขาให้หายเอง พวกหมอเก่งกันมากทีเดียว” หูหลินที่เห็นสีหน้าผิดปกติของหลานสาวก็กล่าวปลอบโยนขึ้นด้วยเช่นกัน
เมื่อหมอผีตัวน้อยได้ยินคำปลอบใจของผู้เป็นตาก็ส่ายหัวพร้อมกับทำหน้าเคร่งเครียด
“ท่านตาหลิน ท่านแม่ ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น อาการบาดเจ็บของท่านพ่อดูเหมือนจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยพลังของข้า”
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหญิงเต็มไปด้วยความหนักใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่นางต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากลำบากเช่นนี้
“รักษาไม่ได้งั้นหรือ?”
“ใช่ ถ้าพูดให้ถูกก็คือ แม้ว่าข้าจะรักษาบาดแผลภายนอกให้หายดีก็ตาม แต่อาการบาดเจ็บภายในของท่านพ่อก็จะยังคงแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะก่อนหน้านี้อาการบาดเจ็บของท่านพ่อนั้นรุนแรงมากจนทำให้ร่างกายของท่านพ่อทรุดโทรม”
การรักษาเขาด้วยพลังหมอผีมันเป็นเหมือนกับการพยายามเปลี่ยนน้ำให้เป็นน้ำแข็งทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในเตาฟืนร้อน ๆ
ความเร็วในการรักษาของนางในตอนนี้ไม่สามารถตามทันความเร็วของอาการป่วยที่พ่อของนางเป็นอยู่ได้
“ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูขมวดคิ้วแน่น “ถ้างั้นเราควรกลับไปที่เผ่าก่อนแล้วค่อยให้พวกหมอช่วยกันคิดหาวิธีแก้ปัญหา”
เขามีชีวิตอยู่มาหลายสิบปีแต่ไม่เคยเจอกับสถานการณ์ดังกล่าวมาก่อนเลย
“ท่านแม่ ข้าจะลองดูอีกครั้ง รอข้าสักครู่” ใบหน้าของหลงหลิงเอ๋อยับย่นเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้อาการบาดเจ็บของท่านพ่อรุนแรงน้อยลง”
การพาพ่อมังกรกลับไปทั้ง ๆ ที่เขายังบาดเจ็บสาหัสแบบนี้มีแต่จะทำให้ร่างกายของเขาแย่ลงเท่านั้น
“หลิงเอ๋อ เจ้าอย่าฝืนตัวเองนักเลย” หูเจียวเจียวตบไหล่ลูกสาวเบา ๆ ขณะทำหน้าลำบากใจ
ในสายตาของเธอ หลงหลิงเอ๋อยังคงเด็กมาก แต่นางกลับต้องมาแบกรับเรื่องสำคัญหลายสิ่งหลายอย่าง
“ไม่เป็นไรท่านแม่ เรื่องแค่นี้เอง” ใบหน้าอันซีดเซียวของเด็กหญิงตัวน้อยส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับแม่จิ้งจอก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจดจ่อกับการรักษาพ่อมังกรอีกครั้ง
ยามนี้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนทำให้ผู้ที่เฝ้าดูอยู่รู้สึกทรมานใจ
ในที่สุดอาการบาดเจ็บของหลงโม่ก็สามารถหาจุดสมดุลระหว่างการรักษาและการเสื่อมถอยของร่างกายได้ จึงทำให้บาดแผลของเขาค่อย ๆ ดีขึ้น แม้จะมีผลเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม
แต่นั่นคือการทุ่มเทพลังในร่างกายของหลงหลิงเอ๋อไปทั้งหมดแล้ว
โชคดีที่สภาพของมังกรหนุ่มไม่ได้แย่ลงไปกว่าเดิม ปัจจุบันอาการบาดเจ็บของเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของนางแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะทรงตัวอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนหรือมันจะแย่ลงเมื่อไหร่
หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น หมอผีตัวน้อยก็ดึงมือของนางกลับมา ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนจึงทำให้ตัวนางโงนเงนจวนเจียนจะล้ม ประกอบกับใบหน้าเล็ก ๆ ที่ดูซีดเซียวและเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
“หลิงเอ๋อ! เจ้าไหวไหม?!” หูเจียวเจียวปรี่เข้าไปประคองลูกสาวเอาไว้พร้อมถามด้วยความเป็นห่วง
“ท่านแม่ ข้าสบายดี ตอนนี้ท่านพ่อก็สบายดีด้วยเช่นกัน” หลงหลิงเอ๋อยิ้มให้กับแม่จิ้งจอกอย่างอ่อนแรง จากนั้นคนตัวเล็กก็เอนศีรษะพิงอกของผู้เป็นแม่แล้วหลับตาลง
“หลิงเอ๋อ!!”
เมื่อหูเจียวเจียวกับหูหลินเห็นท่าทางของเด็กหญิงตัวน้อย หัวใจของทั้งคู่ก็กระตุกวูบในทันที พวกเขาก็ต่างจ้องมองไปที่หมอผีในอ้อมแขนของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงบางอย่างดังมาจากภายในมิติของหูเจียวเจียว
“นางไม่เป็นไร นางแค่เหนื่อยจนหลับไปเท่านั้นเอง” เหยียนหุนที่กำลังถือถังไอศครีมใบใหญ่พูดขึ้นก่อนจะตักไอศครีมยัดเข้าปากคำโต
เพราะเห็นแก่อาหารที่แสนอร่อย มันจึงเอ่ยปากตอบข้อสงสัยของจิ้งจอกสาว
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเสียงนั้นก็เงยหน้าแล้วหันไปมองรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว และมันทำให้เธอสังเกตเห็นว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณโดยรอบไม่ได้ยินเสียงของเจ้าหินอ้วน
ในไม่ช้าเธอก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอุ้มหลงหลิงเอ๋อขึ้นไว้แนบอกแล้วหันไปพูดกับหูหลินว่า
“พ่อรอง หลิงเอ๋อแค่เหนื่อยก็เลยหลับไป พวกเราพาหลงโม่กลับไปที่เผ่ากันก่อนเถอะ”
อาการบาดเจ็บที่แม้แต่หมอผีอย่างหลงหลิงเอ๋อก็ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ มันคงไม่มีประโยชน์ที่พวกเธอรั้งจะอยู่ที่นี่ต่อไป
“เอาล่ะ กลับกันเถอะ” ชายร่างสูงใหญ่พยักหน้าแล้วขอให้ภูตชายคนอื่นอุ้มหลงโม่ขึ้นมาวางไว้บนหลังของเขา ส่วนหูเจียวเจียวก็พาหลงหลิงเอ๋อกับเตี๋ยฉ่ายขึ้นไปบนหลังของภูตคนอื่นด้วยเช่นกัน
จากนั้นพวกหูหลินก็ใช้ประโยชน์จากความมืดเร้นกายเพื่อรีบกลับไปยังเผ่าเยว่หู
…
อีกด้านหนึ่ง
เด็ก ๆ หลายคนกำลังรออยู่ที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ
ก่อนหน้านี้หลงโม่ขุดห้องใต้ดินไว้ที่บ้านเพื่อให้ครอบครัวของเขาเอาไว้ใช้ซ่อนตัวยามเกิดเหตุฉุกเฉิน เรื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเด็กตระกูลหลงจึงมั่นใจได้ว่าตนจะปลอดภัยจากอันตราย
ตอนที่หูหลินรีบออกไปหาหูเจียวเจียว เขาก็บอกให้เด็ก ๆ พากันไปรออยู่ในห้องใต้ดินก่อน
กว่าพวกหูเจียวเจียวจะกลับมาถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
“ท่านแม่!”
เหล่าเด็กน้อยที่ยังคงนั่งรอกันอยู่ในบ้าน เมื่อพวกเขาเห็นร่างของผู้เป็นแม่กับคนอื่น ๆ พวกเขาก็พุ่งเข้าไปหานางทันที
หยินชางเองก็เดินตามไปด้วยความเป็นกังวล สายตาของเขาจับจ้องไปที่เด็กหญิงในอ้อมกอดของแม่จิ้งจอกแบบไม่คลาดสายตา
ทางด้านหูเจียวเจียวอุ้มหลงหลิงเอ๋อลงจากหลังของภูตชาย ในขณะที่หูหลินให้ภูตชายคนอื่นอุ้มหลงโม่เข้าไปในบ้านด้วยเช่นกัน
เมื่อพวกหลงอวี้เห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยกับพ่อมังกรกำลังหมดสติพวกเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที จากนั้นเด็กทั้ง 5 คนก็รีบเดินตามหูเจียวเจียวเข้าไปในบ้านติด ๆ
“ท่านแม่! เกิดอะไรขึ้นกับหลิงเอ๋อและท่านพ่อ!?”
“พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม?”