ตอนที่แล้วบทที่ 51 ภารกิจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 53 เตรียมทะลวงขั้น

บทที่ 52 คำเตือนของเหมิงซิว


บทที่ 52 คำเตือนของเหมิงซิว

ตลาดหยกขาวเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตระกูลเฉินรองจากตลาดพันพฤกษา

ตอนนี้ตลาดพันพฤกษาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ตระกูลเฉินได้ย้ายทรัพย์สินส่วนใหญ่มาที่ตลาดหยกขาวแล้ว

อาจกล่าวได้ว่าตลาดหยกขาวในปัจจุบันเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดภายใต้เขตอำนาจของตระกูลเฉิน

มันสามารถทำกำไรให้กับตระกูลเฉินเป็นหินวิญญาณอย่างน้อย 100,000 ก้อนต่อปี

ในขณะนี้ ณ อาคารที่เรียกว่าวังหยกขาวในตลาดหยกขาว

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานกำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของตลาดหยกขาวในขณะที่ฟังรายงานของผู้ดูแลคนในปัจจุบันไปด้วย

นี่เป็นวันที่สามนับตั้งแต่พวกเขามาถึงตลาดหยกขาวแห่งนี้

…..

ต้องบอกว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการจัดการตลาด

ซึ่งรวมถึงการรักษาความปลอดภัยของตลาด การใช้ระบบของตลาด การสอบถามเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในตลาด และสร้างการเชื่อมต่อกับตลาดภายใต้เขตอำนาจของตระกูลหรือนิกายระดับปราการม่วงอื่น ๆ

หากเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานต้องทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดด้วยตัวเอง พวกเขาจะมีเวลาฝึกฝนและพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเองได้อย่างไร?

ดังนั้นพวกเขาจึงคิดไว้แล้วว่าจะทำอะไรก่อนที่จะมา

พวกเขาจะควบคุมสถานการณ์โดยรวมของตลาดและเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญบางอย่างเท่านั้น

ส่วนที่เหลือพวกเขาสามารถปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นคนจัดการ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในโลกแห่งการฝึกฝนที่ผู้ชนะสามารถครอบครองทุกอย่างได้ทั้งหมดนั้น ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความแข็งแกร่งเฉพาะบุคคลเลย

ในขณะนี้ ทั้งคู่ได้ฟังรายงานจากผู้ดูแลในปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว

เฉินหรู่หยานพูดกับชายชราในวัยเจ็ดสิบชื่อเฉินโบหงว่า

“ผู้อาวุโสโบหง ข้าต้องการให้ท่านและคนอื่น ๆ ดูแลทุกอย่างในตลาดไปก่อน ถ้าไม่จำเป็นหรือไม่มีเรื่องที่สำคัญ ข้ากับสามีก็ไม่ต้องการถูกรบกวน

เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ท่านก็ออกไปทำงานได้”

เฉินโบหงและคนอื่น ๆ พยักหน้า

หญิงวัยกลางคนชื่อเฉินเฟยหยานกล่าวว่า “ผู้อาวุโส งานแสดงสินค้าขนาดใหญ่จะจัดขึ้นในอีกสามวัน ข้าเกรงว่าเรายังต้องการให้พวกท่านไปเป็นประธานในงานนี้”

"ได้ ไม่มีปัญหา"

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานพยักหน้า

เฉินหรู่หยานกล่าวว่า “เรารู้เรื่องนี้แล้ว เมื่อถึงเวลาพวกข้าจะไปที่งานอย่างแน่นอน”

เฉินโบหง, เฉินเฟยหยานและคนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่อีกต่อไป หลังจากโค้งคำนับให้เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานแล้ว พวกเขาก็จากไป

เฉินหรู่หยานหันไปมองเจียงเฉิงซวนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"สามี อีกสามวันเราค่อยไปร่วมงานแสดงสินค้าด้วยกัน

เมื่อถึงตอนนั้นเราก็จะเห็นว่ามีอะไรที่เราอยากแลกเปลี่ยนหรือเปล่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม็ดยาแก่นแท้สวรรค์ที่สามารถช่วยให้ท่านทะลวงขั้นไปสู่ระดับการก่อตั้งรากฐานระยะกลางได้ ก่อนที่คลื่นของสัตว์อสูรจะมาถึง ท่านและข้าควรจะเพิ่มความแข็งแกร่งของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน ทั้งสองคนก็เก็บข้าวของไว้บนโต๊ะข้างหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องฝึกฝน

ในเวลาเดียวกัน

ซงหวันเถา, เฉินฉางเหนียน, เฉินเต้าเฟิงและเฉินไป่เฟยได้ติดตามบรรพบุรุษของพวกเขา เฉินหยวนหลง มายังนิกายเจียงหยาง

ทันทีที่พวกเขามาถึงนิกายเจียงหยาง พวกเขาก็เห็นเฉินเหมิงซิ่วซึ่งออกมารับพวกเขา

เฉินเหมิงซิ่วยังคงมีผมสีขาวบนศีรษะของเธอ

อย่างไรก็ตามเฉินหยวนหลงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าดูเหมือนว่าจะมีออร่าแห่งความตายปกคลุมน้องสาวของเขาอยู่

เขาจึงถามอย่างกังวลใจว่า

“น้องพี่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”

"ไม่มีอะไรหรอก"

เฉินเหมิงซิ่วยิ้มและส่ายหัว

“ก่อนหน้านี้ การล้วงความลับแห่งสวรรค์ทำให้อายุขัยของข้าหมดไป”

เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ ใบหน้าของเฉินเหมิงซิ่วค่อยๆ เคร่งขรึม

เธอมองไปที่เฉินหยวนหลงและเปลี่ยนหัวข้อ

“พี่ใหญ่ ข้ารู้สึกไม่ดีกับการดำเนินการของนิกายเจียงหยางในครั้งนี้ จำไว้ว่าท่านและคนอื่นๆ จากตระกูลเฉินต้องอยู่ห่างจากผู้อาวุโสหนานกงให้มากที่สุด

ข้าไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ จำไว้ว่าอย่าพูดถึงมันให้ใครฟังอีก”

คนที่เฉินเหมิงซิ่วพูดถึงคือผู้อมตะระดับแก่นทองคำของนิกายเจียงหยาง ซึ่งเป็นรับผิดชอบในการปฏิบัติการครั้งนี้

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเฉินหยวนหลงหนักอึ้งโดยไม่มีเหตุผล

เฉินหยวนหลงไม่เคยละเลยคำเตือนของน้องสาวของเขาเลย

เนื่องจากการเตือนหลายครั้งของเธอ ทำให้ตระกูลเฉินสามารถหลีกเลี่ยงจากภัยพิบัติมากมายได้

และครั้งนี้มันรุนแรงอย่างมาก

มีโอกาสมากที่พวกเขาจะเสียชีวิต

สามวันหลังจากที่เฉินหยวนหลงและคนอื่น ๆ มาถึงนิกายเจียงหยาง

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานซึ่งอยู่ในตลาดหยกขาวก็มาถึงสถานที่ที่เรียกว่าศาลาเซียนเมฆา

ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้าอีกด้วย

ทันทีที่พวกเขาทั้งสองมาถึงศาลาเซียนเมฆา พวกเขาก็เห็นว่ามีผู้ฝึกตนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่แล้ว

ท่ามกลางใบหน้าแปลก ๆ มากมาย เจียงเฉิงซวนจำคนบางคนที่เขาเคยเห็นในงานแสดงสินค้าที่ตลาดของนิกายเมฆาคล้อย

พวกเขาคือว่านตงไหลแห่งนิกายเมฆาคล้อย, หยานจุนหลานแห่งนิกายเมฆาอัสดง, เย่เฟ่ยเฉินแห่งตระกูลเย่ และผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานที่เรียกว่ากู่เฉียนซานจากนิกายฟ้านิรันดร์

และเฉินหรู่หยานก็รู้จักคนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน

ขณะที่เธอเดินออกมา เธอก็แนะนำผู้คนจำนวนมากที่อยู่ที่นั่นให้รู้จักกับเจียงเฉิงซวนฟังผ่านการส่งเสียงทางลมปราณ

“นั่นคือผู้อาวุโสระดับการก่อตั้งรากฐานของตระกูลจาง,จางไคซวน นั่นคือผู้ฝึกตนอิสระหวงเหอ ทางด้านขวาดูเหมือนจะเรียกว่าไป๋ห่าว ฉายาของเขาคือนักดาบคลั่ง เขาเป็นผู้ฝึกฝนดาบที่แท้จริง”

ในขณะนั้นหยานจุนหลานจากนิกายเมฆาอัสดงก็เดินเข้ามาทักทายเจียงเฉิงซวนด้วยรอยยิ้ม

“สหายเต๋าเจียง ไม่ได้เจอกันนาน”

จากนั้นเธอก็มองดูเฉินหรู่หยานซึ่งอยู่ข้างๆเจียงเฉิงซวนอย่างสงสัย

ดูเหมือนว่าเธอไม่รู้จักเฉินหรู่หยาน

ดังนั้นเจียงเฉิงซวนจึงริเริ่มแนะนำ "สหายเต๋าหยาน ให้ข้าแนะนำท่าน นี่คือคู่บำเพ็ญเต๋าของข้า เฉินหรู่หยาน”

จากนั้นเขามองไปที่เฉินหรู่หยานและพูดว่า

“หรู่หยาน นี่คือสหายเต๋าหยานจุนหลานแห่งนิกายเมฆาอัสดง เธอยังเป็นน้องสาวของสหายเต๋าชิวยี่ซุยอีกด้วย”

“อ่อ เช่นนั้นท่านจึงเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของสหายเต๋าเจียง ยินดีที่ได้รู้จัก”

หยานจุนหลานประสานมือของเธอไปที่เฉินหรู่หยานทันที

เฉินหรู่หยานตอบคำทักทายด้วยรอยยิ้ม

ในขณะนี้เจียงเฉิงซวนมองไปที่หยานจุนหลานและอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัยว่า

“ยังไงก็ตาม สหายเต๋าหยาน คราวนี้สหายเต๋าชิวไม่ได้อยู่กับท่านหรือ?”

เมื่อได้ยินเจียงเฉิงซวนพูดถึงชิวยี่ซุย หยานจุนหลานก็ดูกังวลเล็กน้อย เธอส่ายหัวและพูดว่า

“คราวนี้เธอถูกเรียกตัวไปที่นิกายเจียงหยาง ข้าไม่รู้ว่าเธอจะมีอันตรายหรือป่าว..”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด