บทที่ 12 โจรสลัดไม่มีเรือได้ยังไงกัน?
บทที่ 12 โจรสลัดไม่มีเรือได้ยังไงกัน?
โทรพิอุสที่แปลงร่างเป็นแบรคิโอซอรัสของควีนนั้นมีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก ซึ่งทำให้กล้วยมีขนาดใหญ่พอสมควร แต่สำหรับคนที่กินข้าวเป็นถัง กล้วย 3 ลูกคงได้แค่กระตุ้นความอยากในท้องของพวกเขาเท่านั้น
สิ่งแรกที่ควีนทำไม่ใช่อย่างอื่นเลยนอกจากศึกษาวิธีการปลูกกล้วยจากร่างกายของเขา แต่หลังจากพยายามไม่สำเร็จหลายครั้ง เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันไปมองอาร์เซอุส
ควีนได้รับความสามารถนี้จากเขา ดังนั้นอีกฝ่ายน่าจะต้องรู้อะไรบางอย่าง
ควีนขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา
การดัดแปลงร่างกายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาชื่นชอบ หากมีความสามารถของอาร์เซอุสด้วยก็คงเป็นการดีอย่างมาก
การที่อีกฝ่ายสามารถมอบความสามารถประเภทนี้มาให้ได้ แสดงว่ามันเป็นการดัดแปลงโดยตรงถึงในระดับพันธุกรรม หากเขาสามารถศึกษาพลังนี้ได้อย่างถี่ถ้วน เขาจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดในการดัดแปลงร่างกายอย่างแน่นอน
แถมหากสำเร็จ เขาก็จะได้กล้วยแสนหวานอย่างไม่จำกัด
“เฮ้ เฮ้ นายคงรู้วิธีการผลิตกล้วยใช่ไหม? นายดัดแปลงโครงสร้างร่างกายของฉันได้ยังไงเหรอ…?”
“แก…จงแสดงความย่ำเกรงต่อท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย!”
ควีนที่ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นต้องเผชิญกับมือของเชย์น่าที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิง มันคงเป็นการละทิ้งหน้าที่ของเธออย่างแน่นอนหากเธอปล่อยให้ไอ้อ้วนโง่เขลาเข้ามาใกล้สิ่งที่เธอเคารพมากขึ้นกว่านี้
หลังจากได้รับความสามารถใหม่มา เชย์น่าก็ยังไม่ได้ยกเลิกความสามารถ แต่เธอยังคงสภาพร่างนี้ไว้ตลอดเวลา
ในร่างมนุษย์-สัตว์ ศีรษะของบาชาโม่กลายเป็นหน้ากากและเธอก็ชอบหน้ากากสีแดงเข้มที่ซ่อนใบหน้าของเธอไว้มาก
เธอและคิงตั้งแต่นี้ถูกกำหนดให้ไม่สามารถแสดงร่างกายที่แท้จริงของพวกเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงยังคงสภาพร่างนี้เอาไว้ นอกจากเผยให้เห็นส่วนเล็กๆ ของคางแล้ว มือและเท้าของเธอก็ถูกพันด้วยวัตถุคล้ายผ้าพันแผลบางอย่าง และปีกสีดำบนหลังของเธอก็กลายเป็นปีกสีแดงเข้มเช่นกัน
ชาวลูนาเรียมีร่างกายที่ทรงพลังและมีความอดทนเป็นเลิศ โดยเฉพาะเชย์น่า ทำให้ความสามารถของเธอนั้นแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ดังนั้นการรักษาสภาพร่างนี้ไว้จึงไม่ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยเลย
ความสามารถของเธอมาจากพลังของอาร์เซอุสทั้งหมด แม้ว่ามันจะคล้ายกับผลปีศาจ แต่ก็มีความแตกต่างกัน จึงทำให้ใช้แรงกายน้อยกว่ามากเพื่อรักษาสถานะร่างนี้เอาไว้
คิงก็ใช้ความสามารถของเขาเช่นกัน แต่พเทอรานั้นแตกต่างจากบาชาโม่ที่ไม่มีหน้ากาก ดังนั้นหัวของเขาจึงกลายเป็นเทอราโนดอนไปเลย
นี่เป็นหนึ่งในความแตกต่างที่เกิดจากความสามารถของอาร์เซอุส
ลักษณะเฉพาะของผลโซออนประเภทนกในร่างมนุษย์-สัตว์จะแตกต่างจากโซออนอื่นๆ ตรงที่มันจะเปลี่ยนหัวไปเลย แต่ยังคงรักษาสภาพของแขนขาเอาไว้
รูปร่างมนุษย์-สัตว์ประเภทนกและผลโซออนประเภทเทอราโนดอนจะเปลี่ยนปีกไปให้หลอมรวมเข้ากับแขน แต่ยังคงรูปลักษณ์ของเท้าและศีรษะเอาไว้
ซึ่งเมื่อเทอราโนดอนของคิงกลายเป็นพเทอรา ร่างมนุษย์-สัตว์ของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มือของเขายังคงอยู่ ศีรษะของเขากลายเป็นหัวของเทอราโนดอน และปีกสีดำบนหลังของเขาได้กลายเป็นเยื่อหุ้มปีก
นอกจากนี้ยังมีมือเล็กๆ สองมือที่ปีก ในร่างนี้แทบจะเรียกได้ว่าเขามีสี่มือ
ทว่าด้วยความที่หัวของเขามันเปลี่ยนไปจากเดิมจนประหลาด เขาจึงรู้สึกว่าในอนาคตตัวเขาคงจำเป็นต้องเปลี่ยนใส่ชุดมีผ้าคลุม
แม้ว่าความสามารถของคิงจะมาจากผลปีศาจที่ได้รับการดัดแปลง แต่การใช้พลังงานทางร่างกายก็ยังต่ำกว่าผลโซออนทั่วไป
คิงและเชย์น่าไม่รู้สึกถึงความแตกต่างนี้เลย แต่ควีนซึ่งเป็นผู้เคยใช้ความสามารถจากผลปีศาจย่อมสามารถรับรู้ถึงความแตกต่างที่เปลี่ยนไปได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่กลายเป็นโทรพิอุส การใช้พลังงานตามปกติของเขาต่ำกว่ายามที่เป็นแบรคิโอซอรัสอย่างมาก ผลโซออนที่ตื่นขึ้นนี้สามารถใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าความสามารถของเขาหลังการดัดแปลงจะไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น แต่ก็นับได้ว่าแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมอย่างมาก
พูดตามตรง เขาค่อนข้างมีความสุขที่อาร์เซอุสมอบความสามารถอันทรงพลังเช่นนี้แก่เขา
เมื่อเขาวางแผนปล่อยไคโดและทำให้สถาบันวิจัยถูกทำลายทางอ้อม เขาก็ไม่มีทางหันหลังกลับไปได้แล้ว แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ในยามนี้
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรในอนาคตและเรื่องนี้ไปถึงหูรัฐบาลโลก เขาอาจจะถูกลบหายไปโดยสิ้นเชิง
เพราะผู้ที่ละเมิดข้อห้ามของรัฐบาลโลกจะต้องถูกกำจัดโดยรัฐบาลโลก ขนาดยามที่ต้องกำจัดกลุ่มโจคสลัดร็อคส์ ทหารเรือยังได้เข้าร่วมกับพวกโจรสลัดจำนวนหนึ่ง อีกทั้งมันยังไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวด้วย
ไม่มีใครที่จะไม่ถูกล่อลวงด้วยความสามารถของอาร์เซอุส หากเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของรัฐบาลโลกและรัฐบาลโลกได้รู้ถึงความสามารถของเขา รวมถึงเรื่องของพวกชาวลูนาเรีย มันอาจไม่จบเพียงถูกส่งไปยังคุกอิมเพลดาวน์ด้วยซ้ำ
ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงหวังว่ากลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรจะแข็งแกร่งขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อความสะดวกในการวิจัยและความปลอดภัยของเขา
แม้ว่าควีนจะไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์ลูนาเรีย แต่ตอนนี้เขาและพวกลูนาเรียก็อยู่ฝ่ายเดียวกัน
เขาจึงอยากรู้วิธีผลิตกล้วย เขาไม่เชื่อหรอกว่ากล้วยเหล่านี้เป็นของใช้ครั้งเดียวแล้วหายไปเลย
เมื่อถูกเชย์น่าขัดขวาง เขาจึงเปลี่ยนวิธี
“ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ได้โปรดบอกผมทีเถอะว่าจะใช้ความสามารถนี้ในการผลิตกล้วยขึ้นมาได้ยังไง?”
ต่อให้ต้องเปลี่ยนวิธีการพูด เขาก็ยอม เขาไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีอยู่แล้ว
อีกทั้งเมื่อเห็นว่าอาร์เซอุสสำคัญมากขนาดไหนต่อไคโด ศักดิ์ศรีที่มีอยู่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
“จงกินผลไม้ให้มากขึ้นแล้วกล้วยจะดูดซับน้ำตาลจากผลไม้ที่เจ้ากิน โดยปกติเจ้าจะสามารถผลิตผลไม้ได้เพียงปีละสองครั้ง ซึ่งแม้ว่าเจ้าจะกินผลไม้จำนวนมากไป มันก็จะเพิ่มความหวานของผลไม้ที่ผลิตในครั้งต่อไปเท่านั้น”
หลังจากที่กลายเป็นอาร์เซอุส เขาจึงได้มีความทรงจำมากมายของเหล่าโปเกมอน รวมถึงประเภท ลักษณะ ความสามารถ ความชอบ นิสัย ฯลฯ ซึ่งการผลิตกล้วยของโทรพิอุสก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
ปีละสองครั้ง ควีนรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเมื่อได้ยินคำตอบนี้ มันรู้สึกคล้ายตกนรกที่ต้องรอผลไม้แสนอร่อยเช่นนี้เป็นเวลาครึ่งปี เขาไม่น่ากินมันเข้าไปทีเดียวหมด ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ เขาคงจะลองปลูกมันดูแล้ว
ในยามนี้เอง เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะหาเกาะเขตร้อนเพื่อปลูกกล้วยในอนาคตที่จะผลิตออกมาดู
แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นคงได้แต่ต้องรอก่อน ส่วนยามนี้พวกเขาคงต้องออกจากเกาะนี้ไป เพราะพวกเขาได้เบาะแสต่อไปของศิลาแห่งชีวิตแล้ว
“ไคโด! หยุดดื่มแล้วรีบไปตามหาจอห์นเถอะ!”
“โวโรโรโระ นายนี่ใจร้อนจริงๆ! ถึงเวลาออกทะเลแล้วสินะ ว่าแต่ควีน เรือที่นายเตรียมไว้อยู่ที่ไหนกัน?”
“ตามมาสิ แต่อาจจะแน่นไปหน่อยนะ”
ควีนได้เตรียมเรือไว้แล้ว แต่เขาเตรียมมันโดยคำนึงถึงตัวเขาเองและไคโดเท่านั้น อีกทั้งที่นี่ยังไม่มีท่าเรืออีก ถึงควีนจะเป็นคนมากความสามารถ แต่เขาไม่ใช่โดราเอมอนที่สามารถเอาเรือออกมาได้เลย ดังนั้นเรือที่พวกเขามีจึงเป็นเพียงเรือประมงขนาดใหญ่ แต่มีเครื่องยนต์ดัดแปลงเท่านั้น
หลังจากเพิ่มคิง เชย์น่าและอาร์เซอุสแล้ว เรือก็ไม่มีพื้นที่เพิ่มเติมอีก จนตัวเครื่องยนต์ที่ดัดแปลงก็เดินเครื่องได้ขัดอยู่พอสมควร
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ารู้วิธีบินกันเหรอ? ทำไมเราถึงต้องมาอัดกันอยู่ในเรือลำเล็กเช่นนี้กัน?”
ในมุมมองของอาร์เซอุส วิธีที่ง่ายที่สุดคือให้ไคโดเรียกเมฆเปลวเพลิงและพาทุกคนออกไป แต่เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากเห็นเรือลำเล็กแล้ว ไคโดกลับรีบเร่งเข้าไปหาเรือลำนั้นอย่างตื่นเต้นและปีนขึ้นไป
เมื่อเทียบกับเรือลำเล็ก ถังไม้ของลูฟี่และแพของหนวดดำ ตัวเรือประมงที่มีเครื่องยนต์ลำนี้ล้ำหน้ากว่ามาก แต่ความเร็วของมันคงเทียบไม่ได้กับความเร็วจากการบินแน่นอน
“นี่เป็นการเดินทางครั้งแรกของกลุ่มร้อยอสูร มันจะไม่มีเรือได้ยังไง! ในอนาคตเราจะต้องมีเรือลำใหญ่กว่านี้ แต่สำหรับยามนี้ เรามาออกเดินทางด้วยสิ่งนี้กันก่อนเถอะ! โวโระโระโระ!”
