ตอนที่แล้วบทที่ 180: ปรับแต่งรถศึก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 182: ความลับในหลุมหลบภัย!

บทที่ 181: รถศึกสไตล์แดนร้างและไอ้หนุ่มจัดซื้อที่ฟื้นคืนชีพ!


ณ ลานกว้างบนจัตุรัสเชิ่งหลง รถบรรทุกดัดแปลงใหม่เอี่ยมอ่องเด่นสะดุดตาจอดเรียงกันเป็นตับอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ไทสันนำคนกลุ่มใหญ่ลูกน้องตนมารวมตัวกันและมองรถศึกที่ถังเจิ้นเอากลับมาเมื่อคืนนี้

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับรถยนต์อีกต่อไป!

นักรบเชิ่งหลงต่างก็สามารถขับรถกันได้อย่างคล่องแคล่วกันหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นรถศึกเหล่านี้ครั้งแรกไทสันก็กระโจนขึ้นไปสตาร์ทก่อนเลยด้วยความชำนาญแล้วเอาไปวนรอบหุบเขาเชิ่งหลงห้ารอบเพื่อเช็กของ

และเมื่อกระโดดลงจากรถมาก็มายืนหัวเราะเสียงดังสะใจบอกว่ารถนี่มันเตรียมมาไว้ทำสงครามชัด ๆ เวลาขับนี่โคตรมันส์มือเลยโว้ยยยยยยย!

ถังเจิ้นมองดูอยู่เฉย ๆ ครู่หนึ่งแล้วก็เข้าไปบอกเรื่องฟังก์ชันการใช้งานรถศึกดัดแปลงนี้ให้ทุกคนได้ทราบ

รถศึกดัดแปลงนี้สามารถติดตั้งปืนกลหนักได้และมีช่องสำหรับสอดปืนเล็งยิงทั้งสองด้านโดยทุกช่องสามารถเปิดปิดได้ ส่วนแคร่ของรถมีการทำกระดูกงูปิดด้วยแผ่นเหล็กเชื่อมต่อเข้ากับตัวหน้ารถ ทหารจะเข้าไปในรถศึกผ่านช่องด้านหลัง

รถศึกดัดแปลงที่สามารถส่งกองกำลังได้อย่างรวดเร็ว มีการป้องกันขั้นพื้นฐานที่โอเค สามารถติดตั้งอาวุธยิงที่ทรงพลังได้ หากครบถ้วนตามสเปคดังกล่าวแสดงว่าเป้าหมายของถังเจิ้นบรรลุแล้ว

ในบรรดารถศึกยี่สิบคันจะใช้สำหรับโจมตี 15 คัน โดยที่รถเหล่านี้จะบรรทุกอาวุธและกระสุนไปเองทั้งหมด

ในจำนวนที่เหลืออีก 5 คันมี 2 คันเป็นรถบรรทุกน้ำมัน 1 คันเป็นรถเสบียงอาหาร 1 คันเป็นรถพยาบาล และอีก 1 คันเป็นรถบังคับการ

จำนวนนักรบเชิ่งหลงปัจจุบันมีไม่มากนัก และรถศึกจำนวนเท่านี้คือพอใช้แล้ว!

เมื่อได้ทราบถึงฟังก์ชั่นพื้นฐานของรถศึกแล้วสิ่งต่อไปที่เหล่าทหารต้องทำคือการโหลดอาวุธและตกแต่งภายในปิดท้ายด้วยการฝึกรบจริงเพื่อปรับตัวให้เข้ากับมัน

ครั้งก่อนที่ไปยกเค้าฐานทัพถังเจิ้นได้เอาของมาเพียบ ทุก ๆ คนต่างได้ไปคนละชุด แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านั้นไปติดตั้งอยู่บนตัวทหารเชิ่งหลงแล้วกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นทหาร แต่เหมือนกองโจรกุ๊ย ๆ มากกว่า

สภาพแต่ละคนนี่เอาตรง ๆ เลยคือไม่โอ แจ็กเก็ตหนัง กางเกงยีนส์ รองเท้าคอมแบท เวสและหมวกเคฟลาร์ แม้จะแต่งตัวดูเหมือนนักรบยุคใหม่กันแล้วก็ตาม แต่ทำไมต้องเอามีดมาเชเต้โฮเมดยาว 2 ฟุตเหน็บเอวได้ด้วยวะ แค่นั้นไม่พอที่หลังยังมีเหน็บหอกสั้นไว้อีกคนละสี่ห้าเล่ม ไรเฟิลกระบอกเดียวที่หลังนั่งไม่พอใช้ไงกัน?

จับคู่แบบที่ว่านั้นยังพอทน แต่แผ่นเกราะใต้เวสนั่นอะไรมึงอี๊ก เสื้อเกราะเอ่อ? แล้วก็ไอ้ชาติชั่วกู่มาวนี่มึงรีบ ๆ เอาไอ้หมวกเกราะสีเงินวาววับของมึงออกไปให้พ้นหูพ้นตาเด๋วนิ แม่งไม่เข้ากะทั้งเนื้อทั้งตัวเลยซักนิด มันเอาไว้ใส่กะเชนเมลนู่น! โอเค้?

เห็นสไตล์การแต่งตัวของพวกมันแต่ละคนแล้วถังเจิ้นแทบจะลมจับ

แต่จะไปโวยวายใส่ไอ้พวกนอกรีตที่ยังไม่รู้ประสีประสาอะไรไปก็เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ถังเจิ้นได้เรียกให้มู่หรงจื่อเหยียนช่วยหาผู้หญิงฉลาด ๆ มาให้หน่อย โดยเขาได้เอาคลิปวิดีโอการปฐมพยาบาลและการช่วยเหลือในสนามรบให้ดูเพื่อฝึกคนเหล่านี้ให้กลายเป็นแพทย์ทหาร

เขาได้เสียพลังงานและเงินปั้นเจ้าพวกบ้านี่ไปอย่างมหาศาลดังนั้นย่อมไม่อยากให้พวกมันไปตายกันง่าย ๆ เพราะแต่ละคนกว่าจะปั้นขึ้นมาได้นั้นหากเสียไปเพียงคนเดียวนี่ก็เสียดายไปยันลูกบวชแล้วเอาจริง ๆ

ถังเจิ้นจึงพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่ ส่วนผลงานจะเป็นยังไงเขาไม่ได้จะไปบีบบังคับให้มันได้ดั่งใจขนาดนั้น ก่อนที่การทดสอบถ่ายโอนวิญญาณจะเสร็จสิ้นผู้มีความสามารถทางเทคนิคระดับมืออาชีพเป็นทรัพยากรบุคคลที่หายากที่สุดสำหรับถังเจิ้นแล้ว

เขายืนดูกลุ่มคนที่ร่าเริงกำลังติดตั้งอาวุธรอบรถศึก บางคนถึงกับวางหัวกะโหลกมอนสเตอร์หกเหลี่ยมขนาดใหญ่ไว้ที่หน้ารถทำให้รถศึกที่เต็มไปด้วยสไตล์ตะลุยดินแดนรกร้างอยู่แล้วยิ่งดูดุร้ายมากขึ้นไปอีก

จากนั้นถังเจิ้นก็เลิกสนใจคนเหล่านี้แล้วเดินออกจากจัตุรัสไป เขาได้เดินไปจนสุดทางซึ่งเป็นใต้ต้นมารดร ตรวจเช็กผลไม้ที่แขวนอยู่ จากนั้นก็ใช้กริชจื่อเตี้ยนผ่าเปลือกของผลหนึ่งอย่างระมัดระวัง

เมื่อแผลเปิดออกกว้างขึ้นก็มีของเหลวสีเขียว ๆ ลักษณะคล้ายไข่ขาวไหลออกมา ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นร่างกายของผู้ชายที่ดูแข็งแรง

นี่คือร่างโฮสต์ที่ถังเจิ้นบ่มเพาะขึ้นมาเพื่อให้วิญญาณเข้ามาอยู่ ไม่มีการหายใจ ไม่มีวิญญาณ เป็นเพียงร่างกายเปล่า ๆ ที่บริสุทธิ์มาก ๆ เท่านั้น!

ถังเจิ้นเช็กดูคร่าว ๆ และหลังจากที่พบว่าไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ ก็เอามันใส่ช่องเก็บของ จากนั้นก็เทเลพอร์ตกลับไปยังบ้านเช่า

เปิดตู้เย็นเอาเครื่องดื่มเย็น ๆ ออกมาดื่มก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อคลุมสีขาวเดินลงไปยังห้องใต้ดิน ล็อคประตูกันขโมยอย่างแน่นหนา

วัตถุดิบในการคืนชีพนั้นเตรียมไว้ครบนานแล้ว ถังเจิ้นโยนร่างกายที่บ่มเพาะลงในแอ่งเลือด ฝังลูกปัดสมองที่เก็บวิญญาณของไอ้หนุ่มจัดซื้อในร่างนั้นและเปิดใช้แทนพิธีคืนชีพ

พิธีนี้ถังเจิ้นได้ทำจนคล่องมือแล้ว ต่อให้หลับตาทำยังไม่มีพลาดเลย

เมื่อแสงประหลาดหายไปร่างในแอ่งเลือดก็ค่อย ๆ ขยับตัวและลืมตาขึ้น

“ตื่นแล้วก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”

ถังเจิ้นที่คาบบุหรี่ไว้ในปากพูดกับไอ้หนุ่มที่ยังมึนงงอยู่

เจ้าตัวลุกจากแอ่งเลือดพลางรู้สึกถึงอากาศที่เขาสูดเข้าปอด มองร่างกายที่เกือบสมบูรณ์นั่นอีกครั้งไอ้ที่ห้อยโตงเตงตรงหว่างขาพร้อมกับยิ้มกว้าง

เมื่อเห็นท่าทางพออกพอใจของมันถังเจิ้นเลยเยาะเย้ยอย่างไม่อดทน “ถึงของมึงจะใช้งานได้ก็เถอะ แต่เสียใจด้วยที่ใช้ยังไงก็ไม่มีลูก นอกจากเอาไว้สวบแล้วก็ใช้ทำหน้าทีสำคัญที่สุดไม่ได้ร้อก”

มันได้ยินก็มุมปากกระตุกแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเงียบ ๆ หลังจากที่มันสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ เสร็จแล้วก็เดินลงมาหาถังเจิ้น

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับบอส” ไอ้หนุ่มจัดซื้อนั่งตรงข้ามถังเจิ้นด้วยใบหน้าที่มีความสุขและอยากรู้อยากเห็น

“ก็บอกแล้วไงว่าอยู่กะกูต่อให้มึงอยากตายก็ตายไม่ได้ คิดว่ากูพูดจาโม้เหม็นเอ่อ? หรือจริง ๆ แล้วมึงไม่ได้ฟังที่กูพูดเลย?” ถังเจิ้นพูดกับมันน้ำเสียงโกรธ

ไอ้หนุ่มจัดซื้อก็ยิ้มแหย ๆ แล้วรีบอธิบาย “แหะ ๆ คือตอนนั้มผมกะลังกลัวทองที่จู่ ๆ ก็เสกขึ้นมาอะคับก็เลยไม่ได้ยินที่บอสพูด”

“กลัวเนี่ยนะ กะอีกแค่ทองไม่กี่ก้อนมึงก็หน้ามืดแล้วเนี่ยนะ กูชักไม่แน่ใจแล้วว่าเลือกมึงนึ่คิดผิดคิดถูกกันแน่” ถังเจิ้นส่ายหน้าเหมือนจะเริ่มพิจารณาอะไรใหม่

ส่วนไอ้หนุ่มที่เห็นแบบนั้นมันก็รีบแสดงความภักดีอย่างไว “ก็ต้องคิดถูกอยู่แล้วสิคับบอส บอสก็เห็นว่างานก่อนหน้านั้นผมก็ทำได้อย่างเจ๋งขนาดไหน ถ้าไม่โดนฆ่าซะก่อนล่ะก็คงไม่...”

ถังเจิ้นโบกมือให้มันหยุดพล่ามแล้วพูดกับมันเสียงทุ้มต่ำว่า “เรื่องชั่ว ๆ ในอดีตของมึงเป็นอะไรยังไงกูไม่สน แต่ตอนนี้มึงไม่ใช่คนเดิมแล้ว ชาติก่อนของมึงไม่เกี่ยวอะไรกับตัวมึงในตอนนี้อีกต่อไป การชุบชีวิตให้มึงนี่บอกเลยว่าราคาที่กูจ่ายไม่ใช่กระจอก ๆ เพราะงั้นหลังจากนี้ผลงานของมึงต้องเอาให้ดีที่สุด ไม่งั้นล่ะก็ต่อไปมึงได้ไปเกิดใหม่ตามวิถีธรรมชาติแน่นอน แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำงานฟรี อีกไม่นานสำหรับมึงแล้วเงินจะกลายเป็นเพียงตัวเลขที่มีแต่เพิ่มเอา ๆ แต่กลับไม่มีความหมาย”

พูดจบถังเจิ้นก็โบกมืออีกครั้งเอาก้อนทองคำก้อนใหญ่อีกนับสิบก้อนออกมาวางตรงหน้า!

ไอ้หนุ่มจัดซื้อแค่ใช้สายตากะ ๆ เอาก็เห็นว่าเกิน 200 กิโลฯชัวร์!

“ขากลับก็เอาทองนี่ไปด้วย ตั้งหลักในเมืองนี้ให้มั่นคงแล้วก็ตั้งใจทำงานให้กูซะ!”

ถังเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอาปืนพกสำหรับทหารพร้อมกับแม็กกาซีนบรรจุกระสุนเต็มอีกหลายอันให้ด้วย

และขณะที่ไอ้หนุ่มกำลังจะออกไปพร้อมของถังเจิ้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ว่าแต่ยังไม่รู้จักชื่อมึงเลยหนิ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้มันก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “นึกว่าบอสจะไม่ถามซะแล้ว เรียกผมว่าเสี่ยวเฟิงละกันครับ!”

“อ้อ โอเค ไปได้ละ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด