ตอนที่แล้วบทที่ 65: กับดัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 67: การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่

บทที่ 66: เสียสละ


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 66: เสียสละ

"ระวัง!"

เมื่อฟังเสียงสภาพแวดล้อมและทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นในท่าเรือ แมตต์จึงเตือนเพื่อนๆ ของเขาด้วยเสียงดัง

"นายไม่ต้องเตือนหรอก เราทุกคนเห็นหมดแล้ว"

เจสซิก้าลูบหน้าอกที่รู้สึกปวดร้าวและทำหน้ามุ่ย

"พวกมันจำนวนมากกรูออกมากันแล้ว ถ้านายไม่ตาบอดก็คง..." เจสซิก้ากล่าวออกมา แต่แล้วนางก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าแมตต์ที่ยืนอยู่ตรงนั้น "เอ่อ... ขอโทษด้วย”

"ไม่เป็นไรหรอก" แมตต์ส่ายศีรษะ เขาคุ้นเคยกับความมืดมานานแล้ว และด้วยความช่วยเหลือจากประสาทสัมผัสอันเหนือชั้นของเขา ชีวิตประจำวันของเขาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนทั่วไปมากนัก

"เฮ้พวก ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะพูดคุยกันนักหรอกนะ"

ลุคขัดจังหวะคำพูดของเจสซิก้าและแมตต์ จากจั้นจึงมองไปที่ฝูงชนที่ถืออาวุธปืนล้อมรอบพวกเขา "ฉันคิดว่าเราเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว"

แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่กลัวปืนในมือของคนพวกนี้ก็ยังรู้สึกกังวล เพราะทีมดีเฟนเดอร์สทุกคนใช่ว่าจะกันกระสุนได้เหมือนกับเขา เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ลุคก็ก้าวไปข้างหน้า "พยายามอยู่ข้างหลังฉันไว้"

ในยามนี้ เจสซิก้าได้เลิกทะเลาะกับลุคแล้ว

เมื่อมองดูผู้คนที่กำลังเข้ามารุมล้อมรอบตัวเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ระวังตัวด้วย"

ลุคหันศีรษะและมองไปที่ทีมดีเฟนเดอร์สที่อยู่ข้างหลังเขา จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ต้องกังวล ปืนทำร้ายฉันไม่ได้หรอก"

"จัดการมันให้หมด"

มาดามเกาพูดด้วยสีหน้าเย็นชาขณะที่เธอเดินไปทางบูลส์อายด้วยการใช้ไม้เท้า เธอมองไปที่ทีมดีเฟนเดอร์สที่ถูกรายล้อมไปด้วยเดอะแฮนและคนของคิงพิน

"ไม่ต้องกังวลครับ พวกเขาหนีไม่พ้นหรอก"

บูลส์อายพยักหน้าอย่างเฉยเมย "คิงพินเองก็อยากได้หน้ากากของแดร์เดวิลเป็นหนึ่งในของสะสมของเขาพอดี"

"หากคิงพินอยากเอามันไปก็เอาไปได้เลย ฉันต้องการแค่ผลลัพธ์เท่านั้น"

มาดามเกาและบูลส์อายมั่นใจในชัยชนะของพวกเขามาก

ในทางกลับกัน เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มคนจำนวนมาก ดีเฟนเดอร์สทุกคนกลับมีสีหน้าเคร่งเครียด

"ยิง!"

ท่ามกลางฝูงชน เมื่อได้รับคำสั่งจากใครบางคน คนของคิงพินก็ยกปืนในมือขึ้นทันทีและยิงใส่ดีเฟนเดอร์ส

"นั่นเสียงอะไรน่ะ?"

ที่ท่าเรือ คนงานที่ทำงานกลางคืนก็สังเกตเห็นว่ามีเสียงผิดปกติจึงอยากเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

"ถ้าไม่อยากตายก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเถอะ เชื่อฉันสิ นายไม่อยากรู้หรอก" หัวหน้าคนงานได้หยุดคนงานผู้นั้นที่ต้องการเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองไปในทิศทางของเสียงปืนแล้วพูดว่า "สิ่งที่ฉันบอกนายได้ก็คือ มันเป็นฝีมือของคิงพิน"

แม้ว่าฉากหน้าคิงพินจะปรากฏตัวเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและผู้ใจบุญตามรายงานข่าวท้องถิ่น แต่คนงานส่วนใหญ่ที่ท่าเรือก็รู้ว่าอะไรอยู่เบื้องหลังตัวตนของเขา เจ้าพ่อแห่งอาชญากรรม มีเรือเข้าออกท่าเรือเป็นจำนวนมาก รวมถึงเรือที่ทำธุรกิจให้กับคิงพิน

เมื่อรู้เช่นนั้น คนงานผู้นี้ก็เลิกความตั้งใจที่จะเดินเข้าไปดู

พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคิงพินอยู่แล้ว

  ...

ปัง ปัง--

ลุคยกแขนขึ้นเพื่อปกป้องดวงตา เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงทีละก้าว ต้านทานกระสุนที่พุ่งเข้ามา

กระสุนแข็งจากปืนกลได้กระทบเข้ากับร่างกายของเขา ราวกับว่าพวกมันถูกทุบด้วยเหล็ก ร่างกายของเขาไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

"ทำไมคุณไม่ได้บอกเราว่าหนึ่งในนั้นสามารถกันกระสุนได้!"

ภาพที่ลุคป้องกันกระสุนทำให้สีหน้าไร้กังวลของบูลส์อายพลันเปลี่ยนไปในทนัที เขาหันหน้าไปมองมาดามเกาที่อยู่ข้างๆ แล้วถามขึ้นมา

"ชายร่างใหญ่คนนั้นสามารถหยุดกระสุนได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่อยู่กับเขาที่เหลือสามารถหยุดกระสุนได้เช่นกัน"

มาดามเกาไม่สนใจคำถามของบูลส์อายและพูดอย่างหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัวเสียที

เมื่อได้ยินคำพูดของมาดามเกา บูลส์อายก็เข้าใจแล้ว ด้วยสายตาอันทรงพลังของเขา ทำให้เขามองเห็นแมตต์และคนอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังลุคได้ทันที ดังที่มาดามเกากล่าว ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถป้องกันกระสุนได้

"งั้นฉันคงต้องลงมือสินะ"

บูลส์อายพึมพำเบาๆ เหวี่ยงแขนของตนอย่างรุนแรงและไพ่โป๊กเกอร์ธรรมดาหลายใบในมือของเขาก็กลายเป็นอาวุธมีคม พวกมันบินไปหาคนที่อยู่ข้างหลังลุค

ความมืดในยามราตรีและเสียงยิงปืนอันดุเดือดได้ปกปิดการโจมตีของบูลส์อายได้ดีที่สุด

“ระวัง!”

เมื่อแมตต์สังเกตเห็นไพ่ที่บินพุ่งเข้ามา มันก็สายเกินไปแล้ว เขาเองก็แทบจะไม่สามารถหลบไพ่ที่บินเข้ามาได้ จนไพ่พวกนี้ทิ้งบาดแผลลึกไว้บนใบหน้าของเขา ทว่าแมตต์ไม่มีเวลาสนใจเรื่องนั้น เขาหันหน้าไปทางเจสซิก้าและอาซิงที่อยู่ข้างหลังเขาแล้วตะโกนว่า "ระวังไพ่ที่กำลังพุ่งเข้ามา!"

"อะไรนะ?"

เสียงปืนที่พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้เสียงของแมตต์เบาเป็นอย่างมาก เมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของแมตต์ เจสซิก้าจึงเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้น ไพ่อีกใบที่โยนจากมือของบูลส์อายก็บินพุ่งผ่านเข้ามา

"หมอบลง!"

เมื่อได้ยินคำเตือน เจสซิก้าก็รู้สึกเหมือนถูกใครบางคนผลักออกไปอย่างรุนแรง

เมื่อเธอหันกลับมา เธอก็เห็นอาซิงซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเธอกำลังถูกอะไรบางอย่างพุ่งเข้าชน เขาเซไปข้างหน้า หลุดออกมาจากด้านหลังที่กำบังของลุคและสัมผัสเข้ากับห่ากระสุน

"อาซิง!"

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งลุคและเจสซิก้าก็ตะโกนออกมา

เจสซิก้าไม่อาจทำอะไรได้ เธออยากจะเข้าไปช่วยเขามาก

"ไม่ เจสซิก้า"

ลุคคว้าแขนของเจสซิก้าไว้ข้างหลังเขา ลุคยังคงพยายามป้องกันกระสุนที่อยู่ข้างหน้าเขาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สิ่งที่เราทำได้คือต้องก้าวไปข้างหน้า!"

  ...

ในร้านขายของเก่า สีหน้าของไรอันก็ดูเจ็บปวดยิ่ง

ในขณะที่ไพ่ของบูลส์อายโดนร่างแยก เขาก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดเพราะจักระที่ใช้คงสภาพร่างแยกนั้นลดลง

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บร่างแยกนี้เอาไว้ได้ต่อ

ไรอันรู้ดีว่าถ้าร่างแยกถูกทำลายในเวลานี้ ความพยายามทั้งหมดที่เขาทำมาตลอดเวลานี้จะสูญเปล่า ดังนั้นเขาจึงรีบปล่อยร่างแยกอีกตัวที่ทำหน้าที่เป็นจอมโจรคิดให้หายไป เพื่อนำจักระที่เหลือมาคงสภาพร่างแยกอาซิง

โชคดีที่ภายใต้ค่ำคืนอันมืดมิด จึงไม่มีใครเห็นเลยว่าร่างแยกไม่มีเลือดออกมาแม้จะถูกกระสุนยิงเข้าใส่

ภาพสุดท้ายที่เจสซิก้าและคนอื่นๆ เห็นคืออาซิงได้เดินโซเซล้มลงกับพื้นและถูกกลุ่มนินจาเดอะแฮนรุมล้อมจนไม่อาจมองเห็นได้เลย

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด