บทที่ 148 ไป๋หยูหลาน
บทที่ 148 ไป๋หยูหลาน
ในตอนนี้ เฟิงซินหยูกำลังพักรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองตงไห่ อาการบาดเจ็บของนางสาหัสกว่าของหลินเป้ยมาก ทำให้นางต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสิบวันเพื่อฟื้นตัว
โชคดีที่นางมีโอสถรักษาระดับสูงติดตัวไปด้วย ไม่เช่นนั้นอาจต้องใช้เวลานานมากกว่ามากนี้ในการฟื้นตัว
นางได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้เดินทางไม่สะดวก ดังนั้นเฟิงซินหยูจึงตัดสินใจพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บก่อนจะเดินทางกลับเมืองหลวง ไม่เช่นนั้นอาการบาดเจ็บของนางอาจแย่ลงหากนางเร่งรีบเดินทางมากเกินไป
สำหรับผู้อาวุโสโม่ เขาอาศัยอยู่ห้องตรงข้ามกับเฟิงซินหยู หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น ผู้อาวุโสโม่จะสามารถเข้ามาช่วยเหลือนางได้ทันท่วงที
ในเวลานี้ เฟิงซินหยูกำลังควบคุมลมปราณของนาง ถ่ายโอนพลังของโอสถไปยังทุกส่วนของร่างกาย เพื่อฟื้นฟูอวัยวะภายใน เนื่องจากผลกระทบของมังกรเพลิงนั้นรุนแรงเกินไป โชคดีมากแค่ไหนแล้วที่นางไม่ถูกสังหารในทันที
ต้องบอกว่า หากเงามายาชิงหลวนไม่ได้รับพลังส่วนใหญ่ไว้ หลังจากนั้นนางคงไม่ได้มานั่งอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
ในตอนนี้เอง มีควันบางๆ ลอยออกมาจากกำไลข้อมือของเฟิงซินหยู
ควันจาง ๆ กลายเป็นรูปลักษณ์ของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว หญิงสาวผู้นี้ดูมีอายุในวัย 20 ปี นางมีความงามอย่างน่าทึ่งและมีกลิ่นอายของผู้ที่ไม่ใช่คนของโลกนี้
หญิงสาวผู้นี้มีออร่าแห่งความเหนือกว่าและดูแคลนกับทุกสิ่ง
หญิงสาวผู้นี้เป็นเพียงภาพมายา ทันทีที่นางปรากฏตัว พลังลึกลับก็แผ่ออกมา ปกคลุมนางและเฟิงซินหยูไว้ภายใน
พลังลึกลับทำหน้าที่เหมือนปราการป้องกัน เพื่อไม่ให้ผู้อื่นสอดรู้สอดเห็นพวกนางทั้งสองคน
“หืม ศิษย์ข้า ทำไมเจ้าถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้?” ทันทีที่หญิงสาวผู้นี้ปรากฏตัว นางเห็นเฟิงซินหยูนั่งอยู่บนเตียงและควบคุมลมปราณของนาง พลังชีวิตของนางอ่อนแรง บ่งบอกว่านางอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเฟิงซินหยูได้ยินเสียงของอาจารย์ นางจึงหยุดปรับลมปราณและมองดูอาจารย์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความละอายใจ
“ท่านอาจารย์ ศิษย์ทำให้ท่านต้องอับอาย ข้าประลองกับผู้อื่นแล้วพ่ายแพ้” เฟิงซินหยูถอนหายใจ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
หญิงสาวผู้นี้ก็คือ อาจารย์ลึกลับที่สอนทักษะชิงหลวนซิน(หัวใจนกชิงหลวน) ให้แก่นาง นางมีชื่อว่าไป๋หยูหลาน
สำหรับผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหมิงซินที่ต้องการรับเฟิงซินหยูเป็นศิษย์สายตรงนั้น เขาคืออาจารย์อีกคน แต่เป็นอาจารย์ในโลกภายนอกเท่านั้น
ไม่งั้นถ้าวันข้างหน้า เฟิงซินหยูเกิดโดดเด่นและทรงพลังขึ้นมา มันจะทำให้ผู้คนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยนางได้ ว่าเหตุใดนางถึงได้ทรงพลังขนาดนี้ โชคดีที่ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหมิงซินถูกใจนาง และอยากรับนางเป็นศิษย์ส่วนตัว มันจึงทำให้นางสามารถมีเหตุผลเพื่อที่จะรองรับตัวตนของนางได้ในอนาคตนั่นเอง
นอกจากนี้ หากนางปฏิเสธผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหมิงซิน อีกฝ่ายอาจจะรู้สึกไม่พอใจ แม้ว่าตระกูล เฟิงจะเป็นหนึ่งในสิบตระกูลอันดับต้นๆ ในเมืองหลวง แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาก็ยังเทียบนิกายหมิงซินไม่ได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสสูงสุดผู้นี้เป็นจักรพรรดินักรบ(หวู่ฮวง)ที่แข็งแกร่ง อย่างน้อยนางก็ยังมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
สำหรับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้น เฟิงซินหยูถือว่านางเป็นอาจารย์ที่แท้จริง แต่เรื่องนี้เป็นความลับ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ นางก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย นอกจากนี้ อาจารย์ของนางเองก็กังวลว่าจะถูกคนอื่นค้นพบ ดังนั้นทุกครั้งที่นางปรากฏตัว นางจะใช้พลังลึกลับปกคลุมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครค้นพบการปรากฏตัวของนาง
“อีกฝ่ายอยู่ในขอบเขตมหาปรมาจารย์นักรบงั้นเหรอ?” ไป๋หยูหลานถาม
เป็นไปไม่ได้ที่ปรมาจารย์นักรบทั่วไปจะเป็นคู่ต่อสู้ของเฟิงซินหยู ไป๋หยูหลานยังรู้นิสัยของลูกศิษย์ของนางดี เฟิงซินหยูมีนิสัยที่ชอบปฏิเสธการยอมรับความพ่ายแพ้
คนที่ทำร้ายเฟิงซินหยูจนบาดเจ็บได้ แถมยังบังคับนางให้ใช้พลังอย่างเต็มที่ เพราะปกติแล้วนางไม่มีทางจะเปิดเผยทักษะลับชิงหลวนซินอย่างด็ดขาดถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่ถึงขนาดเฟิงซินหยูใช้ทักษะลับนี้ นางก็ยังพ่ายแพ้กลับมาได้ แสดงให้เห็นว่าคู่ต่อสู้ต้องมีขอบเขตที่ทรงพลังมากกว่าจริงๆ
เพราะในบรรดาอัจฉริยะที่สามารถต่อสู้กับเฟิงซินหยูได้ ในขอบเขตเดียวกัน อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องเป็นอัจฉริยะเหนือร่างจิตวิญญาณปฐพี(ตี้ถี่) ซึ่งร่างจิตวิญญาณปฐพีธรรมดาไม่สามารถเอาชนะเฟิงซินหยูได้ เนื่องจากระดับของทักษะชิงหลวนซินนั้นสูงเกินไป มันสามารถชดเชยช่องว่างทางกายภาพได้อย่างสมบูรณ์
ร่างจิตวิญญาณสายลมของเฟิงซินหยู อยู่ในระดับร่างจิตวิญญาณลึกลับ(ซวนถี่) เท่านั้น
อัจฉริยะทางกายภาพยังแบ่งออกเป็น ร่างจิตวิญญาณมนุษย์ (ฮวงถี่), ร่างจิตวิญญาณลึกลับ (ซวนถี่), ร่างจิตวิญญาณปฐพี (ตี้ถี่) , ร่างจิตวิญญาณสวรรค์ (เทียนถี่) , ร่างจิตวิญญาณราชัน(หวางถี่) , ร่างจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์(เซิ่งถี่) และร่างจิตวิญญาณเทวะ (เฉินถี่)
มันบังเอิญที่นกชิงหลวนยังเป็นสัตว์ร้ายที่มีคุณลักษณะของสายลมด้วย ซึ่งเฟิงซินหยูก็มีร่างจิตวิญญาณสายลม ทำให้ทักษะนี้เหมาะสมมากกับนาง
ท้ายที่สุดแล้ว อาณาจักรชิงหยานเป็นสถานที่เล็กมาก และโอกาสที่อัจฉริยะจะปรากฏออกมานั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก
ดังนั้น ไป๋หยูหลานไม่คิดว่าเฟิงซินหยูจะมีคู่แข่งในขอบเขตเดียวกันได้เลย
ชิงหลวนซิน(หัวใจนกชิงหลวน)คือการเลียนแบบการบ่มเพาะของนกหลวนซิน หลังจากบ่มเพาะจนสมบูรณืแล้ว ความแข็งแกร่งของนางจะไม่น้อยไปกว่าอัจฉริยะที่มีสายเลือดนกหลวนซิน และนางยังสามารถมีข้อได้เปรียบมากกว่าอีกด้วย
ส่วนระดับที่นางสามารถไปถึงได้ ก็ขึ้นอยู่กับโชคและความพยายามของนางเอง
ไป๋หยูหลานนั้น นางอยู่ในสภาพจิตวิญญาณ และสามารถมีชีวิตอยู่ในสร้อยข้อมือเส้นนี้ได้เท่านั้น
ไป๋หยูหลานบ่มเพาะทักษะชิงหลวนซิน เพื่อเข้าสู่ขอบเขตจอมเทพนักรบ(หวู่เฉิน)
แต่นางถูกศัตรูสังหาร โชคดีที่นางได้เรียนรู้ทักษะลับที่ช่วยให้วิญญาณของนางมีชีวิตอยู่บนสร้อยข้อมือได้ เวลาต่อมาเฟิงซินหยูได้รับสร้อยข้อมือนี่มาอย่างบังเอิญ
จากนั้นสร้อยข้อมือก็ดูดซับปราณจิตวิญญาณบางส่วนของเฟิงซินหยู แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา
นางสอนทักษะต่อสู้และทักษะชิงหลวนซินให้เฟิงซินหยู และรับเฟิงซินหยูเป็นลูกศิษย์ของนาง
เมื่อเฟิงซินหยูได้รับการสอนทักษะระดับ 10 และรู้ว่าอาจารย์ตรงหน้านางนั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นนางจึงเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเป็นศิษย์ของไป๋หยูหลาน
ไป๋หยูหลานทำข้อตกลงกับเฟิงซินหยูว่า นางจะปล่อยให้เฟิงซินหยูเติบโตขึ้นโดยเร็วที่สุด และเฟิงซินหยูจะต้องหาร่างใหม่ให้นางและฟื้นคืนชีพนางในอนาคต
ตอนนี้เป็นไป๋หยูหลานเป็นเพียงสภาพจิตวิญญาณ นางไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้วมากนัก
และการปรากฏตัวแต่ละครั้งต้องใช้ปราณจิตวิญญาณมหาศาล ดังนั้นนางจึงไม่สามารถปรากฏตัวได้เป็นเวลานาน
นางต้องแฝงตัวอยู่ในสร้อยข้อมือและฟื้นตัวอย่างช้าๆ
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ไป๋หยูหลานจะปรากฏตัวทุกๆ สองเดือน ทุกครั้งที่นางปรากฏตัว นางจะตอบคำถามของเฟิงซินหยู และแนะนำการฝึกฝนของนาง หลังจากครึ่งชั่วยาม นางจะกลับไปที่สร้อยข้อมือ
ในบางครั้งเฟิงซินหยูจะส่งปราณจิตวิญญาณของนาง เพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของไป๋หยูหลาน ในตอนนี้จิตวิญญาณของไป๋หยูหลานแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มันดูไม่โปร่งใสเหมือนเมื่อพบกันครั้งแรก
ไม่มีใครคาดคิดได้ว่า เฟิงซินหยูจะมีอาจารย์ลึกลับที่สามารถนำติดไปด้วยได้
ถูกแล้ว ไม่เพียงแต่หลินเป้ยเท่านั้นที่มีโอกาส แต่คนอื่นๆ ก็อาจมีโอกาสเช่นกัน และเฟิงซินหยูก็เป็นหนึ่งในนั้น
ไป๋หยูหลานผู้นี้ ในขณะที่มีชีวิต นางเป็นถึงผู้แข็งแกร่งจอมเทพนักรบ ทำให้เฟิงซินหยูได้รับอาจารย์ที่ทรงพลังอย่างมากมาสั่งสอน ถ้ามีผู้อื่นรู้ว่านางมีอาจารย์เช่นนี้ คงมีหลายๆ คนอิจฉาจนอยากฆ่าตัวตาย
“เขาไม่ได้อยู่ขอบเขตมหาปรมาจารย์นักรบ อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในขอบเขตปรมาจารย์นักรบด้วยซ้ำ เขาอยู่แค่ขอบเขตนักรบแท้จริงเท่านั้นเท่านั้น ข้าพ่ายแพ้ให้กับบุคคลที่อยู่แค่นักรบแท้จริงขั้น 4 ข้าช่างไร้ประโยชน์จริงๆ ใช่ไหมท่านอาจารย์!?” เฟิงซินหยู่กล่าวด้วยความสิ้นหวัง
นางผิดหวังมากหลังจากพ่ายแพ้ให้กับหลินเป้ย เมื่ออาจารย์ของนางปรากฏตัวเฟิงซินหยูจึงดูเหมือนจะพบคนที่จะพูดคุยด้วยได้
“อะไรนะ นักรบแท้จริงขั้น 4 เอาชนะเจ้าได้?” ไป๋หยูหลานตกตะลึง
เฟิงซินหยูได้รับทักษะชิงหลวนซินมาจากนาง ถึงแม้ว่านางจะยังฝึกไมได้ถึงระดับสูงมาก เพราะติดเงื่อนไขของสมบัติสวรรค์ที่ต้องใช้ แต่ไม่ว่ายังไงมันก็คือทักษะระดับ 10 เพียงแค่อาณาจักรชิงหยางเล็กๆ แห่งนี้ มันจะมีนักรบแท้จริงที่สามารถชนะเฟิงซินหยูได้อย่างไร?
เป็นเรื่องยากที่จะหาอัจฉริยะที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าเฟิงซินหยูในอาณาจักรชิงหยาน แต่นางได้พบกับเขาโดยไม่คาดคิด
“ใช่แล้ว คู่ต่อสู้เอาชนะข้าได้สามครั้งติดต่อกัน ข้า…” เฟิงซินหยูไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
พูดตามตรง เมื่อคิดถึงตอนนี้ นางยังคงรู้สึกว่านางคอดที่จะจัดการหลินเป้ยด้วยวิธีต่างๆ แต่นางก็ยังพ่ายแพ้ให้กับเขาอยู่ดี
แม้ว่านางจะไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ แต่นางก็รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของหลินเป้ย!
“เล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียด ว่าเกิดอะไรขึ้น” ไป๋ยู่หลานพูดช้าๆ
ดังนั้นเฟิงซินหยูจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมด โดยไม่เสริมแต่งเรื่องราวอื่นใดเลย