บทที่ 68 ผู้สื่อวิญญาณ
“นี่คือ… การปราบปรามเหรอ?”
การปราบปรามที่มีเพียงสัตว์อสูรระดับราชันย์เท่านั้นที่เชี่ยวชาญได้งั้นเหรอ?
สายตาของเหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเต็มไปด้วยความตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะตัดสินไปแล้ว แต่หัวใจของพวกเขาก็ยังสับสนวุ่นวาย
ทุกคนมองไปที่ปีกแห่งนภาที่สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ของมันในชั่วพริบตา และพวกเขาก็อ้าปากค้าง
นี่เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย นี่เป็นเรื่องที่ไร้หลักการวิทยาศาสตร์มาก!
เหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรปฏิเสธสามครั้งในใจของพวกเขา!
ในฐานะนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ พวกเขารู้ดีว่าเรื่องนี้หมายความว่ายังไง
แม้ว่าสัตว์อสูรที่มีการเติบโตระดับราชันย์จะสามารถปลุกการปราบปรามได้อย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันทักษะนี้ก็เป็นทักษะทั่วไปในระดับปรมจารย์ชั้นนำ… ปัญหาก็คืออสูรกินเหล็กตัวนี้เป็นเพียงระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดเท่านั้น!!
หากอีเลฟเว่นเป็นลูกของสัตว์อสูรระดับราชันย์ พวกเขาคงยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือระดับเผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กนั้นเป็นเพียงระดับเหนือธรรมชาติชั้นกลางเท่านั้น!
ดวงตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมาเมื่อทักษะการปราบปรามดังกล่าวปลุกขึ้นมาบนตัวอสูรกินเหล็กดังกล่าว!
ยิ่งกว่านั้น… นี่ไม่ใช่การปราบปรามทั่วไป!
การปราบปรามขั้นเริ่มต้น หรือแม้ว่ามันจะเป็นการปราบปรามขั้นช่ำชองก็ไม่สามารถมีพลังเช่นนี้ได้!
การปราบปรามที่โจมตีเป็นวงกว้างเช่นนี้ โลกแห่งนักฝึกสัตว์อสูรเรียกสิ่งนี้ว่า ‘ออร่าแห่งราชา’!
แม้แต่สัตว์อสูรระดับราชันย์ก็ยังต้องการศักยภาพถึงจุดหนึ่งเพื่อเชี่ยวชาญทักษะการปราบปรามระดับสูง!
อย่างไรก็ตาม ทักษะดังกล่าวกลับปรากฎตัวบนสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัด…
ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นมองดูประธานเฟิงที่สับสนและตกตะลึง
ประธานเฟิงมองดูพวกเขาราวกับจะกล่าวว่า ‘หากข้าบอกว่าข้าเพิ่งรู้ พวกเจ้าจะเชื่อข้าไหม?’
แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนไม่เชื่อ
จากนั้น เขาก็มองไปที่อสูรกินเหล็กน้อยด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ
ด้วยศักยภาพนี้ มันจะกลายเป็นระดับราชันย์อย่างแน่นอน
…
“นี่…”
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อพวกเขาเห็นปีกแห่งนภาถูกเอาชนะในชั่วพริบตา มือใหม่ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างและตกตะลึง
การพลิกกลับอย่างกะทันหันของสถานการณ์ในการต่อสู้ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ทำไม ทำไมสัตว์อสูรระดับปลุกตื่นถึงสามารถปลุกทักษะปราบปรามได้ล่ะ!!”
พวกเขาคำรามอยู่ใจใจพวกเขา แม้ว่าพรสวรรค์ของสัตว์อสูรจะดีและพวกมันสามารถปลุกการปราบปรามได้ล่วงหน้า แต่อย่างน้อยพวกมันก็ควรจะปลุกทักษะการปราบปรามหลังจากถึงระดับผู้บัญชาการ
การปราบปรามในระดับปลุกตื่น นี่คืออะไรกัน?
แต่ผู้ที่ตกตะลึงและประหลาดใจที่สุดในเวลานี้ก็ยังคงเป็นนักฝึกสัตว์อสูรของปีกแห่งนภา ไป่ฉี
เขาตกตะลึง มึนงง และไร้ซึ่งความคิด
หืมม?
แพ้เหรอ?
มันถูกเอาชนะได้ในชั่วพริบตาก่อนที่มันจะได้เริ่มด้วยซ้ำเหรอ?
ไป่ฉีไม่เข้าใจเลย
“ข้าคิดผิด มันมีปีกสายลมขั้นชำนาญ เขาอาจจะผ่านด่านที่สี่ได้”
ซืออวี๋คิดกับตัวเอง…
คำกล่าวเหล่านี้ทำลายปราการจิตใจของไป่ฉีและเกือบทำให้เขาหมดสติไป
สัตว์ประหลาด!
นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดตรงหน้าเขาและอสูรกินเหล็กที่มีสีหน้าไร้เดียงสาเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน!!!
“#% $# ¥@%!!!”
จากนั้น ไป่ฉีก็กลับมายังที่นั่งคนดูด้วยความงุนงง
ในขณะนี้ เมื่อซืออวี๋ได้รับชัยชนะครั้งแรกอย่างง่ายดาย ทุกคนก็เงียบลง
ทำไม…
ทำไมสัตว์อสูรธรรมดาระดับปลุกตื่นของนักฝึกสัตว์อสูรถึงปลุกทักษะการปราบปรามและพัฒนามันจนถึงขั้นชำนาญได้ล่ะ?
เรื่องนั้นไม่สามารถเข้าใจได้เลย สิ่งที่เข้าใจได้ยากยิ่งกว่าก็คือแม้จะมีทักษะการปราบปรามดังกล่าว แต่เขาก็ไม่สามารถผ่านซากปรักหักพังด่านที่ห้าได้งั้นเหรอ?
ซากปรักหักพังนี้ยากเพียงใดกัน!
มือใหม่หลายคนเริ่มลังเลและล่าถอย
พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะปีกแห่งนภาได้ในทันทีได้ ดังนั้นในตอนนี้จึงดูเหมือนว่าจะไม่มีทางตอบโต้ซืออวี๋ได้เลย
“มีใครต้องการโจมตีต่อไหม?”
ในสนามประลอง หลังจากที่ซืออวี๋โยนผลไม้ลูกเล็กให้แก่อีเลฟเว่นเพื่อฟื้นฟูพละกำลังแล้ว เขาก็มองไปที่นักกฝึกสัตว์อสูรอีกเจ็ดคนและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เสียดแทงเป็นพิเศษ
มันทำให้พวกเขาทั้งเจ็ดคนกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
ชายผู้นี้บ้าไปแล้วเหรอ?
พวกเขาจะต่อสู้ได้ยังไงกัน!
ปีกแห่งนภาที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากตัวนั้นถูกเอาชนะได้ในชั่วพริบตา คนส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะซืออวี่เลย
เหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรมองไปที่มือใหม่ที่นิ่งเงียบด้วยสีหน้าอันซับซ้อน
พวกเขาไม่คิดว่าใครจะเอาชนะอสูรกินเหล็กได้
การปราบปรามขั้นชำนาญไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรทั่วไปจะสามารถท้าทายได้
“ให้ข้าลองดู”
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักรบผู้กล้าหาญ ในขณะนี้ เด็กสาวผมสั้นคนหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบได้ยืนขึ้นมา
นางสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาของนางสั่นไหว
ในขณะที่นางยืนขึ้น ทุกคนก็มองไปที่นาง
“จิงหยิน…” ในกลุ่มคนดู ประธานซุนแห่งเขตใต้ได้มองไปที่เด็กสาวผู้นี้ นางมาจากสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเขา
…
“ข้าชื่อซูจิงหยิน ผู้สื่อวิญญาณ ยินดีที่ได้รู้จัก”
หลังจากลงมายังสนามประลอง สาวผมสั้นที่เงียบครึมก็ได้เริ่มแนะนำตัวเอง
นอกจากนี้นางยังมาจากตระกูลผู้สื่อวิญญาณ
ผู้สื่อวิญญาณ!
ผู้สื่อวิญญาณเป็นสาขาหนึ่งของนักฝึกสัตว์อสูร นักฝึกสัตว์อสูรที่ถูกตัวเองเช่นนั้นมักจะทำสัญญากับสัตว์อสูรอันเดต!
หลังจากกล่าวจบ เด็กสาวก็เริ่มอัญเชิญสัตว์อสูรของนาง
ฟู่ววว ~ ~
ภายใต้ลมหนาวที่หมุนวน ร่างวิญญาณสีดำขนาดใหญ่ที่มีดวงตาสีแดงก็ได้เดินออกมาจากวงแหวนอัญเชิญ
[ชื่อ] : แมวยมโลก
[คุณสมบัติ] : อันเดต จิตวิญญาณ
[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติชั้นสูง
[ทักษะเผ่าพันธุ์] : กรงเล็บขยี้วิญญาณ ภาพมายา ซ่อนเร้นจิตวิญญาณ
ในขณะนี้ เมื่อแมวยมโลกปรากฎตัวออกมา เหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็ตกตะลึงเล็กน้อย มันเป็นสัตว์อสูรอันเดตสองธาตุที่หายาก
ความหายากของสัตว์อสูรตัวนี้ยังเหนือยิ่งกว่าปีกแห่งนภา!
ตามที่คาดไว้ ไม่มีตัวแทนคนไหนจากสี่เขตใหญ่ที่รับมือได้ง่ายนัก ประธานจากสี่เขตชานเมืองได้คิดกับตัวเอง
ทรัพยากรที่อัจฉริยะได้รับ… แตกต่างกันมากอย่างแท้จริง
“เพราะสัตว์อสูรของนางเป็นประเภทจิตวิญญาณ นางคิดว่านางจะสามารถต้านทานการปราบปรามได้งั้นเหรอ?”
“นางจะทนได้ไหม?”
ทุกคนคาดเดา
ในเวลาเดียวกัน บนสนามประลอง
“สวัสดี” ซืออวี๋ตอบกลับห้วนๆ ให้แก่เด็กสาวในชุดดำที่อยู่ตรงหน้าเขา
เด็กสาวผู้นี้ค่อนข้างน่ารัก แต่เขาก็ต้องต่อสู้กับนาง
ในขณะนี้ เมื่อผู้สื่อวิญญาณซูจิงหยินปรากฎตัวออกมาจ การประเมินของทุกคนก็เปลี่ยนไป
ในตอนแรกพวกเขายังคงสงสัยว่าอสูรกินเหล็กน้อยของซืออวี๋จะต้านทานการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้หรือไม่
และในตอนนี้พวกเขาสงสัยคู่ต่อสู้จะต้านทานการปราบปรามของอสูรกินเหล็กน้อยได้หรือไม่
ท้ายที่สุด การปราบปรามนั้นบ้าเกินไปป…
ทักษะการปราบปรามมุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณ หากเป็นสัตว์อสูรที่มุ่งเน้นไปที่พลังจิตวิญญาณเป็นหลัก บางทีสัตว์อสูรตัวนั้นอาจต้านทานมันได้?
“เนเธอใช้ซ่อนเร้นจิตวิญญาณและภาพมายา!”
ในทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ซูจิงหยินก็มุ่งความสนใจทั้งหมดของนางและออกคำสั่งให้แก่สัตว์อสูรของนาง
วินาทีต่อมา ร่างของแมวสีดำยักษ์ก็กลายเป็นโปร่งใส่ในทันทีและหายไปจากสนามประลอง
[ซ่อนเร้นจิตวิญญาณ] : ทักษะอันเดตระดับต่ำ กำจัดออร่าขอองผู้ใช้และเข้าสู่สถานะซ่อนเร้น
[ภาพมายา] : ทักษะจิตวิญญาณระดับสูง มันสามารถสร้างภาพมายาที่รบกวนการรับรู้ได้
ทักษะแรกเป็นทักษะพื้นฐานของสัตวือสูรอันเดต ในขณะที่ทักษะหลังเป็นทักษะภาพมายาที่หายาก
หลังจากที่แมวยมโลกเข้าสู่สถานะซ่อนเร้น มันก็ใช้ภาพมายาเพื่อช่วยในการซ่อนเร้นของมันและรบกวนการมองเห็นของอีเลฟเว่น ร่องรอยตัวตนของมันยากที่จะเข้าใจในทันที
“รูปแบบการต่อสู้ก็คือการใช้กรงเล็บขยี้วิญญาณเพื่อสาปแช่งผ่านการซ่อนเร้นเหรอ?”
นักฝึกสัตว์อสูรค่อยๆ คาดการณ์รูปแบบการต่อสู้ของซูจิงหยิน
กรงเล็บขยี้วิญญาณก็เป็นทักษะอันเดตเช่นกัน ความสามารถในการโจมตีวิญญาณ มันสามารถสาปแช่งศัตรูที่โดนโจมตีได้
ในสถานะต้องสาป เมื่อเวลาผ่านไป คำสาปก็จะกัดกร่อนวิญญาณของคู่ต่อสู้จนอีกฝ่ายใกล้จะตาย
“แต่แมวยมโลกอาจไม่สามารถเข้าใกล้คู่ต่อสู้ได้เสมอไป”
สายตาของนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์หลายคนมุ่งเน้นไปที่จุดเดียวกัน หากอสูรกินเหล็กใช้การปราบปรามอีกครั้ง แม้ว่าแมวยมโลกจะต้านทานมันได้ แต่นั่นก็อาจทำให้เกิดข้อบกพร่องในสถานะซ่อนเร้นของแมวยมโลกอย่างแน่นอน!
ในท้ายที่สุด นี่อาจเป็นการต่อสู้ทางจิตวิญญาณระหว่างทั้งสองฝ่าย…
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่นักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ก็ตัดสินว่า ‘สิ่งที่ถูกต้องที่สุด’ เป็นยังไง อย่างไรก็ตาม ฉากตรงหน้ากลับไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาจินตนาการไว้
ในสนามประลอง อีเลฟเว่นไม่ได้ใช้การปราบปรามเลย แต่มันกลับพบสิ่งที่น่าสนใจ นอกเหนือจากก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มันต่อสู้กับสัตว์อสูรบินได้ นี่เป็นครั้งแรกที่มันต่อสู้กับสัตว์อสูรอันเดต…
เขาต้องการจะลองผลใหม่ที่มาจากการพัฒนาทักษะของมัน
ทักษะระดับกลาง สุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญ เปิดใช้งาน!
“การเคลือบแข็ง ฝ่ามือสายฟ้า”
เพื่อทดสอบผลของสุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญของอีเลฟเว่น ซืออวี๋จึงได้ออกคำสั่งโดยตรง
บู่ซซ!
ในวินาทีต่อมา ไม่เพียงแค่ทุกอย่างในสนามประลองจะดูช้าลงในสายตาของอีเลฟเว่นเท่านั้น แต่มันยังดูราวกับจะเห็นโครงร่างที่พร่ามัวค่อยๆ เข้ามากใกล้มัน!
นั่นคือแมวยมโลก!
สุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญที่สามารถผ่านภาพมายาได้โดยตรงทำให้ภาพมายาและซ่อนเร้นจิตวิญญาณไร้ประโยชน์ในทันที!
ซิซิซิซิ…
ภายใต้สถานการณ์ที่ทุกคนสับสน ฝ่ามือของอีเลฟเว่นก็กลายเป็นโลหะ จากนั้นกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงสีน้ำเงินขาวก็กระจายออกมา!
ดูราวกับว่าสายฟ้าได้สถิตอยู่ที่กำปั้นขวาของมัน!
พลังของสายฟ้านั้นมหาศาลมาก ส่องสว่างไปทั่วทั้งสนามประลอง กระแสไฟฟาที่พุ่งออกมาจากร่างกายของอีเลฟเว่นทำให้ร่างกายของอีเลฟเว่นถูกล้อมรอบไปด้วยสายฟ้า
“ฝ่ามือสายฟ้าขั้นชำนาญ การเคลือบแข็งอย่างน้อยขั้นชำนาญ มิฉะนั้น มันจะไม่สามารถสร้างทักษะผสานได้ นี่คือทักษะเฉพาะของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ อสูรกินเหล็กตัวนี้ที่มีระดับปลุกตื่นเชี่ยวชาญทักษะนี้ได้ยังไงกัน!”
ในเวลานี้ เหล่าประธานตกตะลึงอีกครั้ง แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็โล่งใจ
ลืมไปเถอะ ท้ายที่สุด มันยังมีแม้กระทั่งการปราบปราม…
ด้วยการปราบปรามก่อนหา้นี้ ทักษะฝ่ามือสายฟ้าเคลือบแข็งในครั้งนี้จึงแทบจะอยู่ในขอบเขตที่ทุกคนยอมรับได้…
นี่ยังคงไม่สมเหตุสมผล เรื่องนี้ผิดหลักวิทยาศาตร์มากเกินไป!
“แต่นั่นไม่ใช่การปราบปรามที่พวกเขาเพิ่งใช้ไป แต่เป็นทักษะผสานแห่งศูนย์ฝึกศิลาไผ่ พวกเขาต้องการทำอะไรกัน?”
เมื่ออสูรกินเหล็กน้อยแสดงไผ่ตายใหม่ของมัน ความคิดของกลุ่มมือใหม่ก็พังทลายลง
ซูจิงหยินเองก็ตกตะลึงกับทักษะผสาน แต่นางก็ยังรู้สึกว่าโชคดี
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา ภายใต้การกระทำที่ไม่มีใครเข้าใจ อีเลฟเว่นได้เหวี่ยงแขนของมันไปทางขวา!
ในชั่วพริบตา
ปัง!
ร่างหนึ่งปรากฎตัวออกมา
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน แมวจิตวิญญาณยักษ์ที่มีขนาดเทียบได้กับเสือหรือเสือดาวก็ได้ปรากฎตัวขึ้นมากลางอากาศ กรงเล็บของมันแกว่งไปมากลางอากาศ
เนื่องจากอีเลฟเว่นไม่ได้ใช้การปราบปราม ซูจิงหยินและแมวยมโลกจึงเลือกที่จะโจมตีอย่างรวดเร็ว!
อย่างไรก็ตาม ฉากตรงหน้าพวกเขาบอกทุกคนโดยตรงว่าทุกการกรทำภายใต้สถานะซ่อนเร้นของแมวยมโลกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของซืออวี่และอสูรกินเหล็กมาโดยเสมอ!
อีเลฟเว่นไม่ขยับไปไหน แต่ด้วยการโบกแขนของมัน ฝ่ามือสายฟ้าเคลือบแข็งได้กระแทกแมวยมโลกกลางอากาศ!
“เหมี๋ยว!!!” แมวยมโลกส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
จิตวิญญาณของมันเริ่มจมดิ่งในทันที และทั้งร่างกายของมันก็ถูกสายฟ้าห่อหุ้มไว้ มันระเบิดกลางอากาศพร้อมกับเสียงระเบิด หลังจากนั้น มันก็ตกลงมาและมีควันลอยอยู่บนตัวมัน
ในตอนนี้ สีหน้าของซูจิงหยินเปลี่ยนไปอย่างมาก
ดูราวกับว่าหัวใจของนางถูกบีบรัด นางมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสับสน
“เจ้าแพ้แล้ว”
“ทำไม?” ซูจิงหยินมองดูอสูรกินเหล็กและแมวยมโลกด้วยความไม่เชื่อ
ทำไมอสูรกินเหล็กถึงรับรู้ตำแหน่งของแมวยมโลกล่ะ?!?!!
นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? เรื่องนี้จะง่ายเช่นนั้นได้ยังไงใ..
“การซ่อนตัวนั้นไร้ประโยชน์” ซืออวี๋กล่าวอย่างใจเย็น
“อู๋—” อีเลฟเว่นเหลือบมองแมวยมโลกที่อ่อนแอ
คู่ต่อสู้เผ่าพันธุ์ใหม่น่าเบื่อมาก!
ซูจิงหยินแทบจะหมดสติเช่นกัน
นางไม่ควรจะมาท้าทายเขาเลย!!!
ลมหายใจติดขัดอยู่ที่หน้าอกของนาง แม้ว่าซืออวี๋จะเอาชนะนางในทันทีผ่านการปราบปราม แต่นางก็ยังไม่หดหู่ใจเช่นนี้
ในขณะนี้ ไม่เพียงแค่นางเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ แม้กระทั่งกลุ่มนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ก็ยังสับสนเล็กน้อย
“นี่!” ประธานซุนตกตะลึง เขาไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ดังกล่าวเลย
ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองไปที่ประธานเฟิงในทันที ประธานคนอื่นก็มองไปที่ประธานเฟิงอย่างพร้อมเพรียงกัน
บอกข้าสิว่าเกิดอะไรขึ้น?
ไม่ว่าพวกเขาจะมองยังไงก็ดูเหมือนว่าอสูรกินเหล็กจะใช้การมองเห็นแบบเอ็กซ์เรย์!
ในขณะนั้นเอง ประธานเฟิงก็เงียบเช่นกัน ฝ่ามือสายฟ้าขั้นชำนาญและการรับรู้ที่น่าสะพรึง… ทำไมเขาถึงไร้สาระเสียยิ่งกว่าในตอนที่เขาต่อสู้กับเฉิงกง!
หรือเป็นไปได้ว่าในตอนนั้นซืออวี๋จงใจอ่อนข้อให้แก่เขา และเฉิงกงก็เลวร้ายเกินไป? เขาจึงไม่คุ้มค่าที่จะแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมด?
ตามที่คาดไว้ เฉิงกงนั้นเลวร้ายเกินไป…
ท้ายที่สุด การปราบปรามที่น่าสะพรึงนั้นไร้เหตุผลเกินไป มะนไม่ได้ถูกแสดงออกมาในตอนนั้นเลย หลินฮงเหนียนผู้นี้พบซืออวี๋จากที่ไหนกัน?!
“หากข้าจะบอกว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้เพียงแค่มีการรับรู้ที่โดดเด่น พวกเจ้าจะเชื่อข้าไหม?”
สำหรับข้อเท็จจริงที่ว่าอสูรกินเหล็กซึ่งแทบจะมองไม่เห็นนั้นมีสุดยอดการมองเห็น… ไม่มีใครพิจารณาถึงความเป็นไปได้นี้เลย
ทันทีที่เขากล่าวจบ ประธานคนอื่นก็สบถในใจพวกเขา การรับรู้ของอสูรกินเหล็กระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดนั้นน่าสะพรึงมากจนสามารถมองเห็นอันเดตสองธาตุที่ซ่อนตัวอยู่ได้ตลอดเวลาเลยเหรอ??
ช่างเป็นเรื่องตลก! เงียบไปเลย!
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาจำได้ว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้มีศักยภาพราชา พวกเขาก็ตัวสั่นอีกครั้ง
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน