ตอนที่แล้วบทที่ 67 ออร่าแห่งราชา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 69 ทักษะระดับสุดยอด

บทที่ 68 ผู้สื่อวิญญาณ


“นี่คือ… การปราบปรามเหรอ?”

การปราบปรามที่มีเพียงสัตว์อสูรระดับราชันย์เท่านั้นที่เชี่ยวชาญได้งั้นเหรอ?

สายตาของเหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเต็มไปด้วยความตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะตัดสินไปแล้ว แต่หัวใจของพวกเขาก็ยังสับสนวุ่นวาย

ทุกคนมองไปที่ปีกแห่งนภาที่สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ของมันในชั่วพริบตา และพวกเขาก็อ้าปากค้าง

นี่เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย นี่เป็นเรื่องที่ไร้หลักการวิทยาศาสตร์มาก!

เหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรปฏิเสธสามครั้งในใจของพวกเขา!

ในฐานะนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ พวกเขารู้ดีว่าเรื่องนี้หมายความว่ายังไง

แม้ว่าสัตว์อสูรที่มีการเติบโตระดับราชันย์จะสามารถปลุกการปราบปรามได้อย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันทักษะนี้ก็เป็นทักษะทั่วไปในระดับปรมจารย์ชั้นนำ… ปัญหาก็คืออสูรกินเหล็กตัวนี้เป็นเพียงระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดเท่านั้น!!

หากอีเลฟเว่นเป็นลูกของสัตว์อสูรระดับราชันย์ พวกเขาคงยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือระดับเผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กนั้นเป็นเพียงระดับเหนือธรรมชาติชั้นกลางเท่านั้น!

ดวงตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมาเมื่อทักษะการปราบปรามดังกล่าวปลุกขึ้นมาบนตัวอสูรกินเหล็กดังกล่าว!

ยิ่งกว่านั้น… นี่ไม่ใช่การปราบปรามทั่วไป!

การปราบปรามขั้นเริ่มต้น หรือแม้ว่ามันจะเป็นการปราบปรามขั้นช่ำชองก็ไม่สามารถมีพลังเช่นนี้ได้!

การปราบปรามที่โจมตีเป็นวงกว้างเช่นนี้ โลกแห่งนักฝึกสัตว์อสูรเรียกสิ่งนี้ว่า ‘ออร่าแห่งราชา’!

แม้แต่สัตว์อสูรระดับราชันย์ก็ยังต้องการศักยภาพถึงจุดหนึ่งเพื่อเชี่ยวชาญทักษะการปราบปรามระดับสูง!

อย่างไรก็ตาม ทักษะดังกล่าวกลับปรากฎตัวบนสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัด…

ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นมองดูประธานเฟิงที่สับสนและตกตะลึง

ประธานเฟิงมองดูพวกเขาราวกับจะกล่าวว่า ‘หากข้าบอกว่าข้าเพิ่งรู้ พวกเจ้าจะเชื่อข้าไหม?’

แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนไม่เชื่อ

จากนั้น เขาก็มองไปที่อสูรกินเหล็กน้อยด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ

ด้วยศักยภาพนี้ มันจะกลายเป็นระดับราชันย์อย่างแน่นอน

“นี่…”

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อพวกเขาเห็นปีกแห่งนภาถูกเอาชนะในชั่วพริบตา มือใหม่ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างและตกตะลึง

การพลิกกลับอย่างกะทันหันของสถานการณ์ในการต่อสู้ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ทำไม ทำไมสัตว์อสูรระดับปลุกตื่นถึงสามารถปลุกทักษะปราบปรามได้ล่ะ!!”

พวกเขาคำรามอยู่ใจใจพวกเขา แม้ว่าพรสวรรค์ของสัตว์อสูรจะดีและพวกมันสามารถปลุกการปราบปรามได้ล่วงหน้า แต่อย่างน้อยพวกมันก็ควรจะปลุกทักษะการปราบปรามหลังจากถึงระดับผู้บัญชาการ

การปราบปรามในระดับปลุกตื่น นี่คืออะไรกัน?

แต่ผู้ที่ตกตะลึงและประหลาดใจที่สุดในเวลานี้ก็ยังคงเป็นนักฝึกสัตว์อสูรของปีกแห่งนภา ไป่ฉี

เขาตกตะลึง มึนงง และไร้ซึ่งความคิด

หืมม?

แพ้เหรอ?

มันถูกเอาชนะได้ในชั่วพริบตาก่อนที่มันจะได้เริ่มด้วยซ้ำเหรอ?

ไป่ฉีไม่เข้าใจเลย

“ข้าคิดผิด มันมีปีกสายลมขั้นชำนาญ เขาอาจจะผ่านด่านที่สี่ได้”

ซืออวี๋คิดกับตัวเอง…

คำกล่าวเหล่านี้ทำลายปราการจิตใจของไป่ฉีและเกือบทำให้เขาหมดสติไป

สัตว์ประหลาด!

นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดตรงหน้าเขาและอสูรกินเหล็กที่มีสีหน้าไร้เดียงสาเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน!!!

“#% $# ¥@%!!!”

จากนั้น ไป่ฉีก็กลับมายังที่นั่งคนดูด้วยความงุนงง

ในขณะนี้ เมื่อซืออวี๋ได้รับชัยชนะครั้งแรกอย่างง่ายดาย ทุกคนก็เงียบลง

ทำไม…

ทำไมสัตว์อสูรธรรมดาระดับปลุกตื่นของนักฝึกสัตว์อสูรถึงปลุกทักษะการปราบปรามและพัฒนามันจนถึงขั้นชำนาญได้ล่ะ?

เรื่องนั้นไม่สามารถเข้าใจได้เลย สิ่งที่เข้าใจได้ยากยิ่งกว่าก็คือแม้จะมีทักษะการปราบปรามดังกล่าว แต่เขาก็ไม่สามารถผ่านซากปรักหักพังด่านที่ห้าได้งั้นเหรอ?

ซากปรักหักพังนี้ยากเพียงใดกัน!

มือใหม่หลายคนเริ่มลังเลและล่าถอย

พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะปีกแห่งนภาได้ในทันทีได้ ดังนั้นในตอนนี้จึงดูเหมือนว่าจะไม่มีทางตอบโต้ซืออวี๋ได้เลย

“มีใครต้องการโจมตีต่อไหม?”

ในสนามประลอง หลังจากที่ซืออวี๋โยนผลไม้ลูกเล็กให้แก่อีเลฟเว่นเพื่อฟื้นฟูพละกำลังแล้ว เขาก็มองไปที่นักกฝึกสัตว์อสูรอีกเจ็ดคนและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เสียดแทงเป็นพิเศษ

มันทำให้พวกเขาทั้งเจ็ดคนกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ชายผู้นี้บ้าไปแล้วเหรอ?

พวกเขาจะต่อสู้ได้ยังไงกัน!

ปีกแห่งนภาที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากตัวนั้นถูกเอาชนะได้ในชั่วพริบตา คนส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะซืออวี่เลย

เหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรมองไปที่มือใหม่ที่นิ่งเงียบด้วยสีหน้าอันซับซ้อน

พวกเขาไม่คิดว่าใครจะเอาชนะอสูรกินเหล็กได้

การปราบปรามขั้นชำนาญไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรทั่วไปจะสามารถท้าทายได้

“ให้ข้าลองดู”

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักรบผู้กล้าหาญ ในขณะนี้ เด็กสาวผมสั้นคนหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบได้ยืนขึ้นมา

นางสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาของนางสั่นไหว

ในขณะที่นางยืนขึ้น ทุกคนก็มองไปที่นาง

“จิงหยิน…” ในกลุ่มคนดู ประธานซุนแห่งเขตใต้ได้มองไปที่เด็กสาวผู้นี้ นางมาจากสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเขา

“ข้าชื่อซูจิงหยิน ผู้สื่อวิญญาณ ยินดีที่ได้รู้จัก”

หลังจากลงมายังสนามประลอง สาวผมสั้นที่เงียบครึมก็ได้เริ่มแนะนำตัวเอง

นอกจากนี้นางยังมาจากตระกูลผู้สื่อวิญญาณ

ผู้สื่อวิญญาณ!

ผู้สื่อวิญญาณเป็นสาขาหนึ่งของนักฝึกสัตว์อสูร นักฝึกสัตว์อสูรที่ถูกตัวเองเช่นนั้นมักจะทำสัญญากับสัตว์อสูรอันเดต!

หลังจากกล่าวจบ เด็กสาวก็เริ่มอัญเชิญสัตว์อสูรของนาง

ฟู่ววว ~ ~

ภายใต้ลมหนาวที่หมุนวน ร่างวิญญาณสีดำขนาดใหญ่ที่มีดวงตาสีแดงก็ได้เดินออกมาจากวงแหวนอัญเชิญ

[ชื่อ] : แมวยมโลก

[คุณสมบัติ] : อันเดต จิตวิญญาณ

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติชั้นสูง

[ทักษะเผ่าพันธุ์] : กรงเล็บขยี้วิญญาณ ภาพมายา ซ่อนเร้นจิตวิญญาณ

ในขณะนี้ เมื่อแมวยมโลกปรากฎตัวออกมา เหล่าประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็ตกตะลึงเล็กน้อย มันเป็นสัตว์อสูรอันเดตสองธาตุที่หายาก

ความหายากของสัตว์อสูรตัวนี้ยังเหนือยิ่งกว่าปีกแห่งนภา!

ตามที่คาดไว้ ไม่มีตัวแทนคนไหนจากสี่เขตใหญ่ที่รับมือได้ง่ายนัก ประธานจากสี่เขตชานเมืองได้คิดกับตัวเอง

ทรัพยากรที่อัจฉริยะได้รับ… แตกต่างกันมากอย่างแท้จริง

“เพราะสัตว์อสูรของนางเป็นประเภทจิตวิญญาณ นางคิดว่านางจะสามารถต้านทานการปราบปรามได้งั้นเหรอ?”

“นางจะทนได้ไหม?”

ทุกคนคาดเดา

ในเวลาเดียวกัน บนสนามประลอง

“สวัสดี” ซืออวี๋ตอบกลับห้วนๆ ให้แก่เด็กสาวในชุดดำที่อยู่ตรงหน้าเขา

เด็กสาวผู้นี้ค่อนข้างน่ารัก แต่เขาก็ต้องต่อสู้กับนาง

ในขณะนี้ เมื่อผู้สื่อวิญญาณซูจิงหยินปรากฎตัวออกมาจ การประเมินของทุกคนก็เปลี่ยนไป

ในตอนแรกพวกเขายังคงสงสัยว่าอสูรกินเหล็กน้อยของซืออวี๋จะต้านทานการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้หรือไม่

และในตอนนี้พวกเขาสงสัยคู่ต่อสู้จะต้านทานการปราบปรามของอสูรกินเหล็กน้อยได้หรือไม่

ท้ายที่สุด การปราบปรามนั้นบ้าเกินไปป…

ทักษะการปราบปรามมุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณ หากเป็นสัตว์อสูรที่มุ่งเน้นไปที่พลังจิตวิญญาณเป็นหลัก บางทีสัตว์อสูรตัวนั้นอาจต้านทานมันได้?

“เนเธอใช้ซ่อนเร้นจิตวิญญาณและภาพมายา!”

ในทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ซูจิงหยินก็มุ่งความสนใจทั้งหมดของนางและออกคำสั่งให้แก่สัตว์อสูรของนาง

วินาทีต่อมา ร่างของแมวสีดำยักษ์ก็กลายเป็นโปร่งใส่ในทันทีและหายไปจากสนามประลอง

[ซ่อนเร้นจิตวิญญาณ] : ทักษะอันเดตระดับต่ำ กำจัดออร่าขอองผู้ใช้และเข้าสู่สถานะซ่อนเร้น

[ภาพมายา] : ทักษะจิตวิญญาณระดับสูง มันสามารถสร้างภาพมายาที่รบกวนการรับรู้ได้

ทักษะแรกเป็นทักษะพื้นฐานของสัตวือสูรอันเดต ในขณะที่ทักษะหลังเป็นทักษะภาพมายาที่หายาก

หลังจากที่แมวยมโลกเข้าสู่สถานะซ่อนเร้น มันก็ใช้ภาพมายาเพื่อช่วยในการซ่อนเร้นของมันและรบกวนการมองเห็นของอีเลฟเว่น ร่องรอยตัวตนของมันยากที่จะเข้าใจในทันที

“รูปแบบการต่อสู้ก็คือการใช้กรงเล็บขยี้วิญญาณเพื่อสาปแช่งผ่านการซ่อนเร้นเหรอ?”

นักฝึกสัตว์อสูรค่อยๆ คาดการณ์รูปแบบการต่อสู้ของซูจิงหยิน

กรงเล็บขยี้วิญญาณก็เป็นทักษะอันเดตเช่นกัน ความสามารถในการโจมตีวิญญาณ มันสามารถสาปแช่งศัตรูที่โดนโจมตีได้

ในสถานะต้องสาป เมื่อเวลาผ่านไป คำสาปก็จะกัดกร่อนวิญญาณของคู่ต่อสู้จนอีกฝ่ายใกล้จะตาย

“แต่แมวยมโลกอาจไม่สามารถเข้าใกล้คู่ต่อสู้ได้เสมอไป”

สายตาของนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์หลายคนมุ่งเน้นไปที่จุดเดียวกัน หากอสูรกินเหล็กใช้การปราบปรามอีกครั้ง แม้ว่าแมวยมโลกจะต้านทานมันได้ แต่นั่นก็อาจทำให้เกิดข้อบกพร่องในสถานะซ่อนเร้นของแมวยมโลกอย่างแน่นอน!

ในท้ายที่สุด นี่อาจเป็นการต่อสู้ทางจิตวิญญาณระหว่างทั้งสองฝ่าย…

แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่นักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ก็ตัดสินว่า ‘สิ่งที่ถูกต้องที่สุด’ เป็นยังไง อย่างไรก็ตาม ฉากตรงหน้ากลับไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาจินตนาการไว้

ในสนามประลอง อีเลฟเว่นไม่ได้ใช้การปราบปรามเลย แต่มันกลับพบสิ่งที่น่าสนใจ นอกเหนือจากก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มันต่อสู้กับสัตว์อสูรบินได้ นี่เป็นครั้งแรกที่มันต่อสู้กับสัตว์อสูรอันเดต…

เขาต้องการจะลองผลใหม่ที่มาจากการพัฒนาทักษะของมัน

ทักษะระดับกลาง สุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญ เปิดใช้งาน!

“การเคลือบแข็ง ฝ่ามือสายฟ้า”

เพื่อทดสอบผลของสุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญของอีเลฟเว่น ซืออวี๋จึงได้ออกคำสั่งโดยตรง

บู่ซซ!

ในวินาทีต่อมา ไม่เพียงแค่ทุกอย่างในสนามประลองจะดูช้าลงในสายตาของอีเลฟเว่นเท่านั้น แต่มันยังดูราวกับจะเห็นโครงร่างที่พร่ามัวค่อยๆ เข้ามากใกล้มัน!

นั่นคือแมวยมโลก!

สุดยอดการมองเห็นขั้นชำนาญที่สามารถผ่านภาพมายาได้โดยตรงทำให้ภาพมายาและซ่อนเร้นจิตวิญญาณไร้ประโยชน์ในทันที!

ซิซิซิซิ…

ภายใต้สถานการณ์ที่ทุกคนสับสน ฝ่ามือของอีเลฟเว่นก็กลายเป็นโลหะ จากนั้นกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงสีน้ำเงินขาวก็กระจายออกมา!

ดูราวกับว่าสายฟ้าได้สถิตอยู่ที่กำปั้นขวาของมัน!

พลังของสายฟ้านั้นมหาศาลมาก ส่องสว่างไปทั่วทั้งสนามประลอง กระแสไฟฟาที่พุ่งออกมาจากร่างกายของอีเลฟเว่นทำให้ร่างกายของอีเลฟเว่นถูกล้อมรอบไปด้วยสายฟ้า

“ฝ่ามือสายฟ้าขั้นชำนาญ การเคลือบแข็งอย่างน้อยขั้นชำนาญ มิฉะนั้น มันจะไม่สามารถสร้างทักษะผสานได้ นี่คือทักษะเฉพาะของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ อสูรกินเหล็กตัวนี้ที่มีระดับปลุกตื่นเชี่ยวชาญทักษะนี้ได้ยังไงกัน!”

ในเวลานี้ เหล่าประธานตกตะลึงอีกครั้ง แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็โล่งใจ

ลืมไปเถอะ ท้ายที่สุด มันยังมีแม้กระทั่งการปราบปราม…

ด้วยการปราบปรามก่อนหา้นี้ ทักษะฝ่ามือสายฟ้าเคลือบแข็งในครั้งนี้จึงแทบจะอยู่ในขอบเขตที่ทุกคนยอมรับได้…

นี่ยังคงไม่สมเหตุสมผล เรื่องนี้ผิดหลักวิทยาศาตร์มากเกินไป!

“แต่นั่นไม่ใช่การปราบปรามที่พวกเขาเพิ่งใช้ไป แต่เป็นทักษะผสานแห่งศูนย์ฝึกศิลาไผ่ พวกเขาต้องการทำอะไรกัน?”

เมื่ออสูรกินเหล็กน้อยแสดงไผ่ตายใหม่ของมัน ความคิดของกลุ่มมือใหม่ก็พังทลายลง

ซูจิงหยินเองก็ตกตะลึงกับทักษะผสาน แต่นางก็ยังรู้สึกว่าโชคดี

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา ภายใต้การกระทำที่ไม่มีใครเข้าใจ อีเลฟเว่นได้เหวี่ยงแขนของมันไปทางขวา!

ในชั่วพริบตา

ปัง!

ร่างหนึ่งปรากฎตัวออกมา

ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน แมวจิตวิญญาณยักษ์ที่มีขนาดเทียบได้กับเสือหรือเสือดาวก็ได้ปรากฎตัวขึ้นมากลางอากาศ กรงเล็บของมันแกว่งไปมากลางอากาศ

เนื่องจากอีเลฟเว่นไม่ได้ใช้การปราบปราม ซูจิงหยินและแมวยมโลกจึงเลือกที่จะโจมตีอย่างรวดเร็ว!

อย่างไรก็ตาม ฉากตรงหน้าพวกเขาบอกทุกคนโดยตรงว่าทุกการกรทำภายใต้สถานะซ่อนเร้นของแมวยมโลกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของซืออวี่และอสูรกินเหล็กมาโดยเสมอ!

อีเลฟเว่นไม่ขยับไปไหน แต่ด้วยการโบกแขนของมัน ฝ่ามือสายฟ้าเคลือบแข็งได้กระแทกแมวยมโลกกลางอากาศ!

“เหมี๋ยว!!!” แมวยมโลกส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

จิตวิญญาณของมันเริ่มจมดิ่งในทันที และทั้งร่างกายของมันก็ถูกสายฟ้าห่อหุ้มไว้ มันระเบิดกลางอากาศพร้อมกับเสียงระเบิด หลังจากนั้น มันก็ตกลงมาและมีควันลอยอยู่บนตัวมัน

ในตอนนี้ สีหน้าของซูจิงหยินเปลี่ยนไปอย่างมาก

ดูราวกับว่าหัวใจของนางถูกบีบรัด นางมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสับสน

“เจ้าแพ้แล้ว”

“ทำไม?” ซูจิงหยินมองดูอสูรกินเหล็กและแมวยมโลกด้วยความไม่เชื่อ

ทำไมอสูรกินเหล็กถึงรับรู้ตำแหน่งของแมวยมโลกล่ะ?!?!!

นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? เรื่องนี้จะง่ายเช่นนั้นได้ยังไงใ..

“การซ่อนตัวนั้นไร้ประโยชน์” ซืออวี๋กล่าวอย่างใจเย็น

“อู๋—” อีเลฟเว่นเหลือบมองแมวยมโลกที่อ่อนแอ

คู่ต่อสู้เผ่าพันธุ์ใหม่น่าเบื่อมาก!

ซูจิงหยินแทบจะหมดสติเช่นกัน

นางไม่ควรจะมาท้าทายเขาเลย!!!

ลมหายใจติดขัดอยู่ที่หน้าอกของนาง แม้ว่าซืออวี๋จะเอาชนะนางในทันทีผ่านการปราบปราม แต่นางก็ยังไม่หดหู่ใจเช่นนี้

ในขณะนี้ ไม่เพียงแค่นางเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ แม้กระทั่งกลุ่มนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ก็ยังสับสนเล็กน้อย

“นี่!” ประธานซุนตกตะลึง เขาไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ดังกล่าวเลย

ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองไปที่ประธานเฟิงในทันที ประธานคนอื่นก็มองไปที่ประธานเฟิงอย่างพร้อมเพรียงกัน

บอกข้าสิว่าเกิดอะไรขึ้น?

ไม่ว่าพวกเขาจะมองยังไงก็ดูเหมือนว่าอสูรกินเหล็กจะใช้การมองเห็นแบบเอ็กซ์เรย์!

ในขณะนั้นเอง ประธานเฟิงก็เงียบเช่นกัน ฝ่ามือสายฟ้าขั้นชำนาญและการรับรู้ที่น่าสะพรึง… ทำไมเขาถึงไร้สาระเสียยิ่งกว่าในตอนที่เขาต่อสู้กับเฉิงกง!

หรือเป็นไปได้ว่าในตอนนั้นซืออวี๋จงใจอ่อนข้อให้แก่เขา และเฉิงกงก็เลวร้ายเกินไป? เขาจึงไม่คุ้มค่าที่จะแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมด?

ตามที่คาดไว้ เฉิงกงนั้นเลวร้ายเกินไป…

ท้ายที่สุด การปราบปรามที่น่าสะพรึงนั้นไร้เหตุผลเกินไป มะนไม่ได้ถูกแสดงออกมาในตอนนั้นเลย หลินฮงเหนียนผู้นี้พบซืออวี๋จากที่ไหนกัน?!

“หากข้าจะบอกว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้เพียงแค่มีการรับรู้ที่โดดเด่น พวกเจ้าจะเชื่อข้าไหม?”

สำหรับข้อเท็จจริงที่ว่าอสูรกินเหล็กซึ่งแทบจะมองไม่เห็นนั้นมีสุดยอดการมองเห็น… ไม่มีใครพิจารณาถึงความเป็นไปได้นี้เลย

ทันทีที่เขากล่าวจบ ประธานคนอื่นก็สบถในใจพวกเขา การรับรู้ของอสูรกินเหล็กระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดนั้นน่าสะพรึงมากจนสามารถมองเห็นอันเดตสองธาตุที่ซ่อนตัวอยู่ได้ตลอดเวลาเลยเหรอ??

ช่างเป็นเรื่องตลก! เงียบไปเลย!

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาจำได้ว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้มีศักยภาพราชา พวกเขาก็ตัวสั่นอีกครั้ง

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด