บทที่ 601: การยั่วยุของกู่สือ
“หายไป?” เมื่อหลงจงรู้ว่าเจ้าตัวเล็กหายไป เขาก็โซเซจวนเจียนจะล้ม “เขาไม่ได้ไปอึหรอกหรือ แล้วจะหายไปได้ยังไง!?”
“เซียวเซียว เกิดอะไรขึ้น?”
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเสียงโวยวายของลูกชายจึงรีบเข้ามาถาม
ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยของหลงเซียวยามนี้ฉาบด้วยความวิตกกังวล
“เสี่ยวเหยาเพิ่งเข้าไปในป่า ข้าก็เลยรอเขาอยู่ไม่ไกล แต่หลังจากรออยู่นานเขาก็ไม่ออกมาจากพุ่มไม้ตรงนั้นสักที พอข้าเข้าไปดูก็พบว่าเขาหายไปแล้ว” เด็กชายเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด
“ไม่มีทาง เสี่ยวเหยาจะไปอึที่ไหนได้อีก?” หลงจงทำหน้าสับสน “หรือว่าเขาจะแอบออกไปเล่นคนเดียวหรือเปล่า?”
ทันทีที่น้องชายคนที่ 3 พูดจบ หลงอวี้ก็ส่ายหัวและพูดว่า
“ไม่ ถึงแม้ว่าเสี่ยวเหยาจะติดเล่นไปสักหน่อย แต่เขาไม่เคยทำแบบนี้ เขาเป็นคนที่เชื่อฟังท่านแม่มากที่สุดด้วย เขาไม่มีทางฝ่าฝืนคำสั่งท่านแม่แล้วหนีไปเล่นคนเดียวแน่นอน”
หลงจงคิดตามคำพูดของพี่ใหญ่ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “แล้วอีกอย่างระดับสมองของเสี่ยวเหยาไม่มีทางคิดหาวิธีโกหกเราได้อย่างแนบเนียนหรอก”
ขณะเดียวกัน หลงเซียวที่ยืนฟังอยู่นานก็อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ
โอ๊ย ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้กันสักหน่อย!!
“แล้วทำไมเสี่ยวเหยาถึงหายไปล่ะ?” หลงจงขมวดคิ้วถาม
“เซียวเซียว เสี่ยวเหยาหายไปจากตรงไหน พาพวกเราไปดูได้ไหม?” หูเจียวเจียวหันไปมองหน้าหลงโม่และเธอก็เอ่ยถามเด็กชายทันที
หลงเซียวพยักหน้าแล้วเดินนำทุกคนไปแบบไม่รอช้า
“อยู่ตรงนี้...”
พ่อแม่ตระกูลหลงติดตามลูกชายคนรองเข้าไปในป่าที่อยู่ไม่ไกล
หลังจากทุกคนเดินเข้าไปได้ประมาณ 10 เมตร เสียงของหลงเซียวก็หยุดกะทันหัน
“ท่าน-ท่านแม่…”
จังหวะนั้นหลงโม่ได้กลิ่นบางอย่างในอากาศ แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในขณะที่เขาเดินผ่านหูเจียวเจียวไปยืนอยู่ข้างหน้า
“เขาตายแล้วหรือ!?” เมื่อหลงจงเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
ภาพที่หลายคนเห็นก็คือศพที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังนอนอยู่ใต้เศษหญ้า ซึ่งศพนั้นถูกทรมานอย่างหนักโดยการตัดหลอดเลือดและปล่อยให้เลือดไหลจนพื้นดินถูกย้อมไปด้วยสีแดงเข้ม
ตอนนี้จิ้งจอกสาวถูกชายร่างสูงมายืนขวางเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นภาพเบื้องหน้า แต่เธอก็ยังได้กลิ่นคาวเลือดรุนแรงโชยมา ประกอบกับมองปฏิกิริยาของทุกคนเธอก็รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
ในไม่ช้า หญิงสาวก็โผล่หัวออกมาจากข้างแขนของมังกรหนุ่มเพื่อมองดูศพ
ร่างที่นอนจมกองเลือดนั้นทำให้เธอขมวดคิ้วจนเป็นปม ก่อนที่เธอจะมองไปทางหลงเซียวแล้วถามว่า
“เซียวเซียว เมื่อกี้เจ้าเห็นศพตรงนี้ไหม?”
เด็กชายส่ายหัวทั้งที่ยังตกใจไม่หาย “ไม่ เมื่อกี้ไม่มีอะไรอยู่ตรงนี้”
เขาเพิ่งวิ่งออกไปได้เดี๋ยวเดียว แล้วจู่ ๆ จะมีศพมานอนอยู่ได้อย่างไร?
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสงสัย หลงจงก็ขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับหาอะไรมาเขี่ยหญ้าที่อยู่บนหน้าของศพออกไป
“ท่านแม่!” เด็กชายเบิกตากว้างและถอยหลังไป 2 ก้าวด้วยความหวาดกลัว “ศพนี้คือ คือ…”
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเสียงร้องของลูกชายจึงหันหน้าไปมอง ในขณะที่ดวงตาของเธอจับจ้องใบหน้าของศพนั้น
พลันสีหน้าของจิ้งจอกสาวก็เปลี่ยนไปทันที “หยินซื่อ?”
…
ณ บ้านไม้
ปัจจุบันหยินสุ่ยกำลังทำความสะอาดหน่อไม้ที่สามีหนุ่มเก็บกลับมาในวันนี้
“หยินสุ่ย!” ภูตเผ่าไป๋ผีคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาจากด้านนอก
พอหญิงสาวเห็นว่าเป็นคนคุ้นเคย นางก็คิดว่าหยินซื่อส่งเขามาแจ้งข่าวอะไรกับตน นางจึงรีบสะบัดน้ำออกจากมือแล้วหันไปทักทายแขกที่มาเยือนด้วยรอยยิ้ม
“หยินซื่อวานให้เจ้ามาบอกข้าว่าเขาไปจับเหยื่อแล้วอาจจะกลับมาช้าใช่ไหม?”
“หยินซื่อคนนี้ ใคร ๆ ก็เตือนเขาแล้วว่าอย่าทำงานหนักขนาดนั้น…”
หยินสุ่ยอดที่จะบ่นไม่ได้ แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
ขณะที่หญิงสาวพูด นางก็หยิบหน่อไม้ที่ล้างเสร็จแล้วมามอบให้ภูตชายที่นางคิดว่าสามีส่งมาแจ้งข่าว
“ขอบคุณเจ้ามาก แต่ข้าฝากเจ้าไปบอกเขาหน่อยว่าอยู่ข้างนอกก็ระวังตัวด้วย แล้วก็รีบกลับบ้านล่ะ…”
“ไม่ หยินซื่อ… เขาตายแล้ว!”
ภูตเผ่าไป๋ผีพูดกับหยินสุ่ยด้วยความลำบากใจ
ปึ่ก!
วินาทีนั้นหน่อไม้ในมือของหญิงสาวที่กำลังยื่นไปให้คนที่มาแจ้งข่าวหล่นลงกับพื้นในทันที
“เจ้า-เจ้าพูดว่าอะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับหยินซื่อนะ?” ริมฝีปากของหญิงสาวหน้ามนสั่นเทา ในขณะที่นางไม่อยากจะเชื่อคำพูดที่ออกมาจากปากของอีกฝ่ายเลยสักนิด
“หยินซื่อตายแล้ว…”
...
อีกด้านหนึ่ง
เตี๋ยฉ่ายรอหูเจียวเจียวอยู่นาน ก่อนที่นางจะตัดสินใจเดินออกไปตามหาจิ้งจอกสาว
เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากในป่าด้านข้าง นางก็หันไปมองแล้วเห็นร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของหยินซื่อ
แม้ว่านางจะไม่รู้จักหยินซื่อ แต่ใบหน้าของนางก็ซีดเซียวเพราะได้เห็นภาพอันน่าสยดสยอง แล้วนางก็เข้าไปถามคนในที่เกิดเหตุเสียงสั่น
“นั่นเขา! นี่คือ... กู่สือเป็นคนทำ!”
“เจ้ารู้ได้ยังไง?” หลงโม่ถามเสียงเย็น
ส่วนหูเจียวเจียวและลูกอีก 3 คนก็หันไปมองนางเช่นกัน
เตี๋ยฉ่ายปิดปากตัวเองในขณะที่กำลังพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด
ครู่ถัดมา นางมองไปที่ร่างไร้วิญญาณของหยินซื่อ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
“มันจะต้องเป็นกู่สือแน่ ๆ เขาชอบทิ้งร่องรอยเฉพาะของภูตแมลงเอาไว้ เขาจงใจ เขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าข้าอยู่กับเจ้าที่นี่...”
ภูตผมแดงจงใจทิ้งสิ่งนี้เอาไว้ เขากำลังยั่วยุพวกนาง!
เหตุการณ์น่ากลัวทำให้ไหล่ของเตี๋ยฉ่ายสั่นไหวไม่หยุด นางต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะตั้งสติได้
“เขาทิ้งข้อความพิเศษของภูตแมลงไว้ ซึ่งเป็นข้อความที่ภูตแมลงอย่างเราเท่านั้นที่สามารถอ่านได้”
“เขาบอกว่ายังไง?” หูเจียวเจียวขมวดคิ้วถาม
เธอไม่เห็นข้อความอะไรบนศพของหยินซื่อเลย
เบาะแสเดียวที่บ่งบอกถึงตัวฆาตกรก็คือกู่สือคนนี้เป็นคนที่ลำพองใจคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรตนได้!
อีกฝ่ายลักพาตัวเหยาเอ๋อไปก่อนแล้วค่อยนำศพมาทิ้งไว้ที่นี่ เขาจงใจให้พวกเธอพบศพโดยที่หาตัวคนกระทำไม่พบ
ไอ้โรคจิตนั่นมันจะได้ใจเกินไปแล้ว!
เมื่อเตี๋ยฉ่ายได้ยินคำถามของจิ้งจอกสาว นางก็พยายามตั้งสติแล้วอ่านข้อความที่ภูตแมลงผมแดงทิ้งเอาไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ข้ารู้ว่าเจ้าจำข้าได้ ใช่ ข้าเป็นคนทำทั้งหมดนี้เอง ศพนี้ถือว่าเป็นการส่งคำเตือนถึงเจ้า”
“แล้วข้าจะกลับมา ข้าจะดูดสมองลูกเจ้าให้แห้ง ลูก ๆ ของเจ้าทั้งหมด… ส่วนเจ้าตัวน้อยนั้น ข้าจะขอรับตัวมันไปเล่นสนุกก่อนก็แล้วกัน!”
หูเจียวเจียวกำหมัดแน่นพร้อมกับดวงตาที่ฉายแววเคียดแค้น “ไอ้เดรัจฉาน!”
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้พบเจอคนที่รู้ดีขนาดนี้!!
นี่มันวางกล้องวงจรปิดเอาไว้บนหัวพวกฉันหรือไง?
เขารู้ได้อย่างไรว่าพวกเธอได้ตัวเตี๋ยฉ่ายมาแล้ว แถมยังลงมือได้รวดเร็วมาก เมื่อไม่นานมานี้เธอยังเห็นหยินซื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธออยู่เลยแท้ ๆ...
ขณะเดียวกัน หลงจงพูดขึ้นมาขณะทำหน้ากังวล “งั้นตอนนี้เสี่ยวเหยาก็กำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือ? เราจะทำยังไงดี ถ้ายังหาร่องรอยของมันไม่เจอในเร็ว ๆ นี้ เสี่ยวเหยาก็จะถูกมันกินสมอง”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีสมองตั้งแต่แรกก็เถอะ
ระหว่างที่หลงจงพูด ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
แม้นภายนอกทั้ง 2 คนมักจะทะเลาะหรือไม่ก็เขม่นกันอยู่ทุกวัน แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลงเหยา หลงจงจะเป็นคนที่รู้สึกกังวลมากที่สุด
“มันคงไม่ลงมือเร็ว ๆ นี้หรอก” หลงโม่ที่ยืนจ้องศพนิ่ง ๆ มาสักพักพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ทุกคนที่ได้ยินเสียงของมังกรหนุ่มก็หันไปมองเขา
“จริงหรือ?”
หลงโม่สัมผัสได้ถึงสายตาเป็นกังวลของหูเจียวเจียว เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงว่า “มันจงใจทิ้งข้อความไว้แบบนั้น ในเมื่อมันสามารถวางร่างของหยินซื่อไว้ที่นี่ได้โดยที่ไม่มีใครรู้ มันก็น่าจะมีเวลาโจมตีเหยาเอ๋อตรงนี้ได้เช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำ”
จิ้งจอกสาวและคนอื่น ๆ เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้าหมายความว่ามันจงใจยั่วยุเราอย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวตระหนักได้ในทันใด
ใช่! นั่นคือสิ่งที่พวกตัวร้ายในโทรทัศน์ชอบทำกัน
บางทีในขณะนี้มันอาจจะกำลังแอบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อชื่นชมท่าทางเป็นกังวลของพวกเธอ
เมื่อหูเจียวเจียวคิดได้แบบนี้ก็กัดฟันแน่น เธอหวังในใจว่าตัวเองจะสามารถลากคอไอ้สารเลวนั่นออกมาได้โดยเร็ว แล้วให้มันได้ชดใช้กับสิ่งที่มันทำกับหยินซื่อด้วยชีวิต และแก้แค้นให้กับหลงเหยา!
“ใช่” หลงโม่พยักหน้านิ่ง ก่อนจะวางมือบนไหล่ของภรรยาสาวเป็นการปลอบโยนอีกฝ่าย
จากนั้นมังกรหนุ่มก็พูดเสียงแน่วแน่เป็นการให้คำมั่นกับจิ้งจอกสาวว่า “มันจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง แล้วเราจะมีโอกาสจับตัวมัน”
ทางด้านพวกหลงอวี้กำลังรู้สึกไม่สบายใจกันมาก แต่หลังจากได้ยินคำพูดของพ่อมังกร พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
โชคดีที่อย่างน้อยในตอนนี้เสี่ยวเหยาก็ยังไม่เป็นอะไร
แต่…
หูเจียวเจียวมองไปที่ศพของหยินซื่อด้วยใจที่หนักอึ้ง “แล้วแบบนี้ หยินสุ่ย...”
พวกเธอจะไปอธิบายให้นางฟังว่าอย่างไรดี?
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: สงสารหยินสุ่ยมาก คนที่ไม่น่าตายก็ดันตายซะได้ ฮืออออ