ตอนที่แล้วบทที่ 600: พ่อของเขาเป็นจิงหลิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 602: เสี่ยวเหยาทนไม่ไหวอีกต่อไป

บทที่ 601: การยั่วยุของกู่สือ


“หายไป?” เมื่อหลงจงรู้ว่าเจ้าตัวเล็กหายไป เขาก็โซเซจวนเจียนจะล้ม “เขาไม่ได้ไปอึหรอกหรือ แล้วจะหายไปได้ยังไง!?”

“เซียวเซียว เกิดอะไรขึ้น?”

หูเจียวเจียวที่ได้ยินเสียงโวยวายของลูกชายจึงรีบเข้ามาถาม

ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยของหลงเซียวยามนี้ฉาบด้วยความวิตกกังวล

“เสี่ยวเหยาเพิ่งเข้าไปในป่า ข้าก็เลยรอเขาอยู่ไม่ไกล แต่หลังจากรออยู่นานเขาก็ไม่ออกมาจากพุ่มไม้ตรงนั้นสักที พอข้าเข้าไปดูก็พบว่าเขาหายไปแล้ว” เด็กชายเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด

“ไม่มีทาง เสี่ยวเหยาจะไปอึที่ไหนได้อีก?” หลงจงทำหน้าสับสน “หรือว่าเขาจะแอบออกไปเล่นคนเดียวหรือเปล่า?”

ทันทีที่น้องชายคนที่ 3 พูดจบ หลงอวี้ก็ส่ายหัวและพูดว่า

“ไม่ ถึงแม้ว่าเสี่ยวเหยาจะติดเล่นไปสักหน่อย แต่เขาไม่เคยทำแบบนี้ เขาเป็นคนที่เชื่อฟังท่านแม่มากที่สุดด้วย เขาไม่มีทางฝ่าฝืนคำสั่งท่านแม่แล้วหนีไปเล่นคนเดียวแน่นอน”

หลงจงคิดตามคำพูดของพี่ใหญ่ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “แล้วอีกอย่างระดับสมองของเสี่ยวเหยาไม่มีทางคิดหาวิธีโกหกเราได้อย่างแนบเนียนหรอก”

ขณะเดียวกัน หลงเซียวที่ยืนฟังอยู่นานก็อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ

โอ๊ย ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้กันสักหน่อย!! 

“แล้วทำไมเสี่ยวเหยาถึงหายไปล่ะ?” หลงจงขมวดคิ้วถาม

“เซียวเซียว เสี่ยวเหยาหายไปจากตรงไหน พาพวกเราไปดูได้ไหม?” หูเจียวเจียวหันไปมองหน้าหลงโม่และเธอก็เอ่ยถามเด็กชายทันที

หลงเซียวพยักหน้าแล้วเดินนำทุกคนไปแบบไม่รอช้า

“อยู่ตรงนี้...”

พ่อแม่ตระกูลหลงติดตามลูกชายคนรองเข้าไปในป่าที่อยู่ไม่ไกล

หลังจากทุกคนเดินเข้าไปได้ประมาณ 10 เมตร เสียงของหลงเซียวก็หยุดกะทันหัน

“ท่าน-ท่านแม่…”

จังหวะนั้นหลงโม่ได้กลิ่นบางอย่างในอากาศ แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในขณะที่เขาเดินผ่านหูเจียวเจียวไปยืนอยู่ข้างหน้า

“เขาตายแล้วหรือ!?” เมื่อหลงจงเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

ภาพที่หลายคนเห็นก็คือศพที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังนอนอยู่ใต้เศษหญ้า ซึ่งศพนั้นถูกทรมานอย่างหนักโดยการตัดหลอดเลือดและปล่อยให้เลือดไหลจนพื้นดินถูกย้อมไปด้วยสีแดงเข้ม

ตอนนี้จิ้งจอกสาวถูกชายร่างสูงมายืนขวางเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นภาพเบื้องหน้า แต่เธอก็ยังได้กลิ่นคาวเลือดรุนแรงโชยมา ประกอบกับมองปฏิกิริยาของทุกคนเธอก็รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

ในไม่ช้า หญิงสาวก็โผล่หัวออกมาจากข้างแขนของมังกรหนุ่มเพื่อมองดูศพ

ร่างที่นอนจมกองเลือดนั้นทำให้เธอขมวดคิ้วจนเป็นปม ก่อนที่เธอจะมองไปทางหลงเซียวแล้วถามว่า

“เซียวเซียว เมื่อกี้เจ้าเห็นศพตรงนี้ไหม?”

เด็กชายส่ายหัวทั้งที่ยังตกใจไม่หาย “ไม่ เมื่อกี้ไม่มีอะไรอยู่ตรงนี้”

เขาเพิ่งวิ่งออกไปได้เดี๋ยวเดียว แล้วจู่ ๆ จะมีศพมานอนอยู่ได้อย่างไร?

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสงสัย หลงจงก็ขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับหาอะไรมาเขี่ยหญ้าที่อยู่บนหน้าของศพออกไป

“ท่านแม่!” เด็กชายเบิกตากว้างและถอยหลังไป 2 ก้าวด้วยความหวาดกลัว “ศพนี้คือ คือ…”

หูเจียวเจียวที่ได้ยินเสียงร้องของลูกชายจึงหันหน้าไปมอง ในขณะที่ดวงตาของเธอจับจ้องใบหน้าของศพนั้น

พลันสีหน้าของจิ้งจอกสาวก็เปลี่ยนไปทันที “หยินซื่อ?”

ณ บ้านไม้

ปัจจุบันหยินสุ่ยกำลังทำความสะอาดหน่อไม้ที่สามีหนุ่มเก็บกลับมาในวันนี้

“หยินสุ่ย!” ภูตเผ่าไป๋ผีคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาจากด้านนอก

พอหญิงสาวเห็นว่าเป็นคนคุ้นเคย นางก็คิดว่าหยินซื่อส่งเขามาแจ้งข่าวอะไรกับตน นางจึงรีบสะบัดน้ำออกจากมือแล้วหันไปทักทายแขกที่มาเยือนด้วยรอยยิ้ม

“หยินซื่อวานให้เจ้ามาบอกข้าว่าเขาไปจับเหยื่อแล้วอาจจะกลับมาช้าใช่ไหม?”

“หยินซื่อคนนี้ ใคร ๆ ก็เตือนเขาแล้วว่าอย่าทำงานหนักขนาดนั้น…”

หยินสุ่ยอดที่จะบ่นไม่ได้ แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

ขณะที่หญิงสาวพูด นางก็หยิบหน่อไม้ที่ล้างเสร็จแล้วมามอบให้ภูตชายที่นางคิดว่าสามีส่งมาแจ้งข่าว

“ขอบคุณเจ้ามาก แต่ข้าฝากเจ้าไปบอกเขาหน่อยว่าอยู่ข้างนอกก็ระวังตัวด้วย แล้วก็รีบกลับบ้านล่ะ…”

“ไม่ หยินซื่อ… เขาตายแล้ว!”

ภูตเผ่าไป๋ผีพูดกับหยินสุ่ยด้วยความลำบากใจ

ปึ่ก!

วินาทีนั้นหน่อไม้ในมือของหญิงสาวที่กำลังยื่นไปให้คนที่มาแจ้งข่าวหล่นลงกับพื้นในทันที

“เจ้า-เจ้าพูดว่าอะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับหยินซื่อนะ?” ริมฝีปากของหญิงสาวหน้ามนสั่นเทา ในขณะที่นางไม่อยากจะเชื่อคำพูดที่ออกมาจากปากของอีกฝ่ายเลยสักนิด

“หยินซื่อตายแล้ว…”

...

อีกด้านหนึ่ง

เตี๋ยฉ่ายรอหูเจียวเจียวอยู่นาน ก่อนที่นางจะตัดสินใจเดินออกไปตามหาจิ้งจอกสาว

เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากในป่าด้านข้าง นางก็หันไปมองแล้วเห็นร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของหยินซื่อ

แม้ว่านางจะไม่รู้จักหยินซื่อ แต่ใบหน้าของนางก็ซีดเซียวเพราะได้เห็นภาพอันน่าสยดสยอง แล้วนางก็เข้าไปถามคนในที่เกิดเหตุเสียงสั่น

“นั่นเขา! นี่คือ... กู่สือเป็นคนทำ!”

“เจ้ารู้ได้ยังไง?” หลงโม่ถามเสียงเย็น

ส่วนหูเจียวเจียวและลูกอีก 3 คนก็หันไปมองนางเช่นกัน

เตี๋ยฉ่ายปิดปากตัวเองในขณะที่กำลังพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด

ครู่ถัดมา นางมองไปที่ร่างไร้วิญญาณของหยินซื่อ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

“มันจะต้องเป็นกู่สือแน่ ๆ เขาชอบทิ้งร่องรอยเฉพาะของภูตแมลงเอาไว้ เขาจงใจ เขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าข้าอยู่กับเจ้าที่นี่...”

ภูตผมแดงจงใจทิ้งสิ่งนี้เอาไว้ เขากำลังยั่วยุพวกนาง!

เหตุการณ์น่ากลัวทำให้ไหล่ของเตี๋ยฉ่ายสั่นไหวไม่หยุด นางต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะตั้งสติได้

“เขาทิ้งข้อความพิเศษของภูตแมลงไว้ ซึ่งเป็นข้อความที่ภูตแมลงอย่างเราเท่านั้นที่สามารถอ่านได้”

“เขาบอกว่ายังไง?” หูเจียวเจียวขมวดคิ้วถาม

เธอไม่เห็นข้อความอะไรบนศพของหยินซื่อเลย

เบาะแสเดียวที่บ่งบอกถึงตัวฆาตกรก็คือกู่สือคนนี้เป็นคนที่ลำพองใจคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรตนได้!

อีกฝ่ายลักพาตัวเหยาเอ๋อไปก่อนแล้วค่อยนำศพมาทิ้งไว้ที่นี่ เขาจงใจให้พวกเธอพบศพโดยที่หาตัวคนกระทำไม่พบ

ไอ้โรคจิตนั่นมันจะได้ใจเกินไปแล้ว!

เมื่อเตี๋ยฉ่ายได้ยินคำถามของจิ้งจอกสาว นางก็พยายามตั้งสติแล้วอ่านข้อความที่ภูตแมลงผมแดงทิ้งเอาไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

“ข้ารู้ว่าเจ้าจำข้าได้ ใช่ ข้าเป็นคนทำทั้งหมดนี้เอง ศพนี้ถือว่าเป็นการส่งคำเตือนถึงเจ้า”

“แล้วข้าจะกลับมา ข้าจะดูดสมองลูกเจ้าให้แห้ง ลูก ๆ ของเจ้าทั้งหมด… ส่วนเจ้าตัวน้อยนั้น ข้าจะขอรับตัวมันไปเล่นสนุกก่อนก็แล้วกัน!”

หูเจียวเจียวกำหมัดแน่นพร้อมกับดวงตาที่ฉายแววเคียดแค้น “ไอ้เดรัจฉาน!”

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้พบเจอคนที่รู้ดีขนาดนี้!!

นี่มันวางกล้องวงจรปิดเอาไว้บนหัวพวกฉันหรือไง?

เขารู้ได้อย่างไรว่าพวกเธอได้ตัวเตี๋ยฉ่ายมาแล้ว แถมยังลงมือได้รวดเร็วมาก เมื่อไม่นานมานี้เธอยังเห็นหยินซื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธออยู่เลยแท้ ๆ...

ขณะเดียวกัน หลงจงพูดขึ้นมาขณะทำหน้ากังวล “งั้นตอนนี้เสี่ยวเหยาก็กำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือ? เราจะทำยังไงดี ถ้ายังหาร่องรอยของมันไม่เจอในเร็ว ๆ นี้ เสี่ยวเหยาก็จะถูกมันกินสมอง”

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีสมองตั้งแต่แรกก็เถอะ

ระหว่างที่หลงจงพูด ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

แม้นภายนอกทั้ง 2 คนมักจะทะเลาะหรือไม่ก็เขม่นกันอยู่ทุกวัน แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลงเหยา หลงจงจะเป็นคนที่รู้สึกกังวลมากที่สุด

“มันคงไม่ลงมือเร็ว ๆ นี้หรอก” หลงโม่ที่ยืนจ้องศพนิ่ง ๆ มาสักพักพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ทุกคนที่ได้ยินเสียงของมังกรหนุ่มก็หันไปมองเขา

“จริงหรือ?”

หลงโม่สัมผัสได้ถึงสายตาเป็นกังวลของหูเจียวเจียว เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงว่า “มันจงใจทิ้งข้อความไว้แบบนั้น ในเมื่อมันสามารถวางร่างของหยินซื่อไว้ที่นี่ได้โดยที่ไม่มีใครรู้ มันก็น่าจะมีเวลาโจมตีเหยาเอ๋อตรงนี้ได้เช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำ”

จิ้งจอกสาวและคนอื่น ๆ เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“เจ้าหมายความว่ามันจงใจยั่วยุเราอย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวตระหนักได้ในทันใด

ใช่! นั่นคือสิ่งที่พวกตัวร้ายในโทรทัศน์ชอบทำกัน

บางทีในขณะนี้มันอาจจะกำลังแอบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อชื่นชมท่าทางเป็นกังวลของพวกเธอ

เมื่อหูเจียวเจียวคิดได้แบบนี้ก็กัดฟันแน่น เธอหวังในใจว่าตัวเองจะสามารถลากคอไอ้สารเลวนั่นออกมาได้โดยเร็ว แล้วให้มันได้ชดใช้กับสิ่งที่มันทำกับหยินซื่อด้วยชีวิต และแก้แค้นให้กับหลงเหยา!

“ใช่” หลงโม่พยักหน้านิ่ง ก่อนจะวางมือบนไหล่ของภรรยาสาวเป็นการปลอบโยนอีกฝ่าย

จากนั้นมังกรหนุ่มก็พูดเสียงแน่วแน่เป็นการให้คำมั่นกับจิ้งจอกสาวว่า “มันจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง แล้วเราจะมีโอกาสจับตัวมัน”

ทางด้านพวกหลงอวี้กำลังรู้สึกไม่สบายใจกันมาก แต่หลังจากได้ยินคำพูดของพ่อมังกร พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่อย่างน้อยในตอนนี้เสี่ยวเหยาก็ยังไม่เป็นอะไร

แต่…

หูเจียวเจียวมองไปที่ศพของหยินซื่อด้วยใจที่หนักอึ้ง “แล้วแบบนี้ หยินสุ่ย...”

พวกเธอจะไปอธิบายให้นางฟังว่าอย่างไรดี?

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: สงสารหยินสุ่ยมาก คนที่ไม่น่าตายก็ดันตายซะได้ ฮืออออ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด