บทที่ 131 - อารัมภบท
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 131 - อารัมภบท
“นี่มันวิชาอะไรกัน?”
ฮิตโตะหยุดการกระทำของเขาและมองไปรอบๆ แต่เขาไม่พบร่องรอยของหลินเฉินเลย กระทั่งออร่าของพวกเขาก็ไม่สามารถสัมผัสได้
นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อนัก บนดาวเคราะห์ซาดาลา ออร่าของหลินเฉินเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ในราตรีอันมืดมิด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหายไปในพริบตา แต่ฮิตโตะกลับไม่สามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยของหลินเฉินเลย
ไม่เพียงแต่ฮิตโตะเท่านั้น กระทั่งชาวไซย่าบนดาวเคราะห์ซาดาลาทุกคนที่ได้สัมผัสถึงออร่ามหาศาลของหลินเฉิน ก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงมันอีกแล้ว ราวกับว่ามันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทุกคนรู้สึกโล่งใจที่พลังที่กดดันพวกเขาได้หายไป ทว่าหลายคนรู้สึกสงสัยว่าเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อผู้คนบนดาวเคราะห์ซาดาลากำลังสับสน เทวดาวาโดสแห่งจักรวาลที่ 6 ที่อยู่บนดาวเคราะห์เทพเจ้าแห่งการทำลายล้างก็ปิดปากเล็กๆ ของนางด้วยความประหลาดใจ
“ยากที่จะเชื่อจริงๆ ว่าเขาสามารถหนีจากฮิตโตะมาได้ ฮ่าๆๆ ฮิตโตะ กระทั่งมือสังหารอันดับหนึ่งก็ยังล้มเหลวได้สินะ ช่างน่าสนใจจริงๆ...”
“จะว่าไปแล้ว เจ้าเด็กนั่นรู้วิชาข้ามเวลาได้ยังไงกัน? วิชาข้ามเวลาของฮิตโตะนั้นใกล้เคียงกับระดับของเทพเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ?”
วาโดสหรี่ตาลง
นางมองดูหลินผ่านลูกบอลผลึกเหนือคทา เห็นเฉินที่ได้หลบหนีไปยังดาวดวงอื่นด้วยเคลื่อนย้ายพริบตาและได้ออกตามหาลูกแก้วมังกรต่อ จากนั้นนางจึงกล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ “ช่างเป็นเด็กที่น่าสนใจนัก แต่ข้าคงไม่สามารถปล่อยให้เจ้ารอดพ้นไปเช่นนี้ได้”
จากนั้นวาโดสก็แตะคทาเบาๆ สองสามครั้ง
ข้อความได้ถูกส่งไปยังฮิตโตะที่กำลังพยายามตามหาหลินเฉินบนดาวเคราะห์ซาดาลาต่อ
เมื่อเขาเห็นเนื้อหาในข้อความ ฮิตโตะก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะบินกลับไปยังยานอวกาศของเขา
เกมแมวจับหนูระหว่างหลินเฉินและฮิตโตะยังคงดำเนินไปอีกยาวไกล
…
หนึ่งปีถัดมา ตามเวลาโลก ปีที่ 761
ณ จักรวาลที่ 7…
ยานอวกาศทรงกลมลำใหม่ของชาวไซย่าสองลำได้แล่นผ่านชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าสู่แท่นเทียบยานทางทหารในเมืองหลวงของดาวเคราะห์เบจิต้า
"ดูนั่นเร็ว! เบจิต้าและราดิซกลับมากันแล้ว!”
“รีบไปต้อนรับพวกเขากันเถอะ!”
ก่อนที่ยานอวกาศจะลงจอด ก็ได้เกิดความโกลาหลไปทั่วจุดเทียบยานอวกาศ
หลายคนได้รีบวิ่งออกไปจุดเทียบยาน เพื่อรอต้อนรับเบจิต้าและราษฎร
นับตั้งแต่การแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพของชาวไซย่าเป็นครั้งแรก เบจิต้าและราดิซก็กลายเป็นคนดังในหมู่ชาวไซย่าไปทันที
ชาวไซย่าชื่นชมผู้แข็งแกร่งอยู่เสมอ และแม้ว่าอุปนิสัยของพวกเขาจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่สิ่งนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ดังนั้นราดิซที่ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 32 และเบจิต้าที่เป็นผู้ชนะจึงได้กลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ยานอวกาศทั้งสองลำลงจอดบนจุดลงจอดอย่างมั่นคง หลังจากที่ประตูเปิดออก เบจิต้าและราดิซก็เดินออกมา
“เคารพ!” ไม่รู้ว่าผู้ใดตะโกน แต่ชาวไซย่าในที่นี่ต่างก็คำนับพวกเขาทั้งสองทันที
ทว่าพวกเขาต้องประหลาดใจที่เบจิต้าและราดิชเมื่อลงจากยานกลับดูจะไม่สังเกตเห็นพวกเขาเลย พวกเขากำลังโต้เถียงเรื่องบางอย่างกันอยู่
"ราดิช มันเป็นความผิดของเจ้าทั้งหมด! หากเจ้าจับตาดูพวกมัน พวกนักล่าพวกนั้นคงไม่หนีไปไหนแล้ว!”
“ท่านเบจิต้า ภารกิจหลักคือการประกันความปลอดภัยของสัตว์พวกนั้นเป็นอันดับแรกก่อน ข้าไม่มีเวลามาหยุดยานอวกาศนะขอรับ!”
“ถ้าเจ้าฝึกความเร็วมากกว่านี้ เจ้าก็คงตามมันไปทันแล้ว!”
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน เบจิต้าก็ออกมาจากยานอวกาศพร้อมกับกล่าวโทษราดิช
ทั้งสองได้รับภารกิจปกป้องสัตว์หายากบนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์มา
ข้อกำหนดของภารกิจคือการช่วยเหลือกลุ่มสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์จากผู้ลักลอบล่าสัตว์ในจักรวาล
แม้ว่ากลุ่มนักล่าพวกนั้นจะเป็นแก๊งที่เลื่องชื่อในจักรวาล และได้หลบหนีจากสายตรวจอวกาศมาหลายครั้งแล้ว ทว่าราดิชและเบจิต้าก็สามารถจัดการกับพวกเขาได้ง่ายดายมาก
แต่เนื่องจากข้อกำหนดของภารกิจ พวกเขาจึงต้องจัดลำดับความสำคัญในการปกป้องสัตว์บนยานอวกาศก่อน ซึ่งทำให้เบจิต้าและราดิชใช้พลังทั้งหมดได้ไม่เต็มที่นัก ถึงพวกเขาจะช่วยเหลือสัตว์พวกนี้ได้สำเร็จ แต่ก็ทำให้พวกผู้ลักลอบล่าสัตว์หลบหนีจากพวกเขาไปได้
ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะทำภารกิจสำเร็จ แต่เบจิต้าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์นัก
ในฐานะที่เป็นตัวตนระดับสูงในหมู่ชาวไซย่า การที่เขาทำภารกิจได้ไม่สมบูรณ์แบบ มันถือเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งสำหรับเขา
เมื่อเห็นว่าเบจิต้าดูไม่สบอารมณ์ ราดิชก็คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ท่านเบจิต้า ทำไมเราไม่ไปหาคนอื่นมาร่วมทีมกันล่ะ? ปกติทีมที่ออกปฏิบัติการจะมีกันห้าคน แต่พวกเรามีเพียงสอง แม้ว่าท่านและข้าจะแข็งแกร่ง แต่ในบางครั้งเราไม่สามารถจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองหรอกนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของราดิช เบจิต้าก็หยุดเดิน เขาหันกลับมาแล้วถามว่า "หาคนงั้นเหรอ? เป็นความคิดที่ดี…แล้วเจ้าคิดว่าใครเหมาะสมล่ะ?”
“เช่นนั้นทาร์เบิลเป็นเช่นไร? เขาเป็นน้องชายของท่านด้วย!” ราดิชแนะนำ
“เจ้าขยะนั่นเหรอ? เหอะ! การพาเขาไปมันก็เหมือนการแบกภาระไปด้วยไม่ใช่หรือไง?” เบจิต้าปฏิเสธโดยไม่ลังเล
“เช่นนั้น…แล้วไซไบแมนจักรกลล่ะ? ข้าได้ยินมาว่ามีไซไบแมนจักรกลรูปแบบใหม่แล้ว มันมีระดับพลังหลายแสนเลย!” ราดิชเสนอขึ้นมาอีกครั้ง
"เหอะ! ให้ข้าทำภารกิจกับเรดิซหุ่นเชิดแบบนั้นเนี่ยนะ ราดิช เจ้าอยากตายเหรอ?“เบจิต้าจ้องมองเขาด้วยสายตาอันดุร้าย”ราดิช ข้าจะฝากเรื่องการหาผู้ช่วยไว้ให้เจ้า ไว้เจ้าค่อยๆ คิดไปก็ได้ ส่วนยามนี้ข้าจะไปพักผ่อนก่อน!”
หลังจากพูดจบ เบจิต้าก็เดินออกไปด้วยความโกรธ ทิ้งราดิชที่ยืนตะลึงไว้ตรงนั้น
หลังจากคิดหนักมาเป็นเวลานาน ราดิชก็ไม่สามารถหาผู้ที่เหมาะสมที่จะทำให้เบจิต้าพอใจได้
ในยามนั้น เขาก็เพิ่งตระหนักว่าตัวเขาได้มาถึงประตูบ้านของเขาแล้ว
เมื่อเปิดประตู ราดิชก็พบว่าพ่อและแม่ของเขาไม่อยู่ที่นี่
เขาคิดว่าทั้งสองคนออกไปแล้ว แต่ในยามนั้นเอง ระบบข้อความโฮโลแกรมในห้องก็ได้ถูกเปิดขึ้นมาขึ้น
ภาพโฮโลแกรมของบาร์ดัคปรากฏขึ้นต่อหน้าราดิช
“เฮ้ ราดิซ แม่ของเจ้าและข้าได้มายังโลกแล้ว เหมือนเมื่อก่อน หากเจ้ามีปัญหาอะไรก็จัดการมันด้วยตัวเองเสีย”
“พวกเขาไปยังโลกอีกแล้วเหรอ?”
ราดิชมองดูวันที่ของข้อความและพบว่ามันเป็นของเมื่อเดือนที่แล้ว ถ้าอย่างนั้นทั้งสองก็น่าจะเดินทางกลับกันมาแล้วสินะ
ราดิชรู้ดีว่าทุกปี พ่อแม่ของเขามักจะไปยังดาวเคราะห์ที่มีชื่อเรียกว่าโลกที่ขอบกาแล็กซีทางช้างเผือกเป็นเวลาสองสามวัน
คาคารอท น้องชายที่เขาไม่เคยพบเจอได้อาศัยบนดาวเคราะห์ดวงนั้น...
หืม?
จู่ๆ ราดิชก็พลันคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้
.
คาคารอท...
จริงสิ! เขาอาจเป็นคนที่เหมาะก็ได้!
เมื่อนึกได้เช่นนี้ ราดิชก็ติดต่อเบจิต้าด้วยเครื่องมือสื่อสารทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของราดิช เบจิต้าก็รู้สึกสนใจมาก "โอ้? เจ้ามีน้องชายอยู่ด้วยเหรอ? แต่เมื่อนานมาแล้ว ฝ่าบาทลิงค์ได้ออกคำสั่งให้นำบุตรของเหล่าชาวไซย่าที่ถูกเนรเทศให้หวนคืนกลับมายังดาวเคราะห์เบจิต้าแล้วไม่ใช่เหรอ? กระทั่งทาร์เบิลที่ถูกเนรเทศโดยพ่อของข้ายังกลับมา แล้วทำไมคาคารอทถึงยังอยู่ที่นั่นกัน?"
“ข้าได้ยินจากท่านพ่อของข้าว่ามันเป็นคำสั่งของฝ่าบาทที่ให้คาคารอทไปยังดาวเคราะห์โลก”