ตอนที่ 8 การโจมตีที่ไม่สนพลังป้องกัน
ค่าสถานะทั้งหมดของนักรบโครงกระดูกเลเวล 2 นั้นเพิ่มขึ้น 100 หน่วยเมื่อเปรียบเทียบกับเลเวล 1
มันถูกเปลี่ยนจาก 150 หน่วย เป็น 250 หน่วย
หลินโม่อวี่รู้ว่าการเพิ่มขึ้นของค่าสถานะนี้มันไม่ได้เกินจริงมากนัก และเหตุผลที่เขาคิดแบบนั้นเพราะเขารู้ว่าพรสวรรค์ของเขามันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
หากเขาไม่มีพรสวรรค์แปรผันทวีคูณ นักรบโครงกระดูกเลเวล 2 ของเขาจะมีค่าสถานะทั้งหมดเพียงแค่ 25 หน่วยเท่านั้น เพราะค่าสถานะของมันจะถูกเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 10 หน่วยต่อหนึ่งเลเวลที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นแม้ว่ามันจะไม่ได้อ่อนแอสมกับที่เป็นคลาสลับเอกลักษณ์ แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก
สิ่งสำคัญอยู่ที่พรสวรรค์ที่เขาได้รับมา มันคือพรสวรรค์ระดับพระเจ้า
พรสวรรค์นี้และคลาสเนโครแมนเซอร์เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
หลินโม่อวี่ยังคงใช้สกิลอัญเชิญนักรบโครงกระดูกของเขาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มจำนวนนักรบโครงกระดูกขึ้นเป็น 7 ตน
นักรบโครงกระดูกทั้ง 7 ตนเป็นเหมือนกับนักล่าที่แข็งแกร่งทั้ง 7 คนที่ได้กระจายอยู่ในดันเจี้ยนมือใหม่เพื่อสังหารมอนสเตอร์พวกนั้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์เลเวล 1 เลเวล 2 หรือแม้กระทั่งเลเวล 3 พวกมันล้วนถูกสังหารด้วยดาบของนักรบโครงกระดูกในทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น
ค่าสถานะทั้งหมดของนักรบโครงกระดูกนั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าพวกมันจะไม่มีสกิลพิเศษใดๆเลย แต่พลังโจมตีของมันที่ได้รับมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าสถานะนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
“ค่าสถานะความแข็งแกร่งของนักรบโครงกระดูกที่มีถึง 250 หน่วยทำให้มันมีความแข็งแกร่งไม่ได้ต่างไปจากคลาสนักสู้เลเวล 10 เลย”
นักรบโครงกระดูกเลเวล 2 ที่มีพลังโจมตีเทียบเท่ากับนักรบเลเวล 10 นั้นสามารถเดินไปได้ทุกที่ในดันเจี้ยนมือใหม่ได้อย่างง่ายดาย และไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนสามารถหยุดมันได้อีกด้วย และที่สำคัญกว่านั้น มันยังมีถึง 7 ตัว
แต่ 7 ตัวนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
หลังจากที่หลินโม่อวี่ฟื้นพลังวิญญาณของเขาแล้ว เขาก็เรียกนักรบโครงกระดูกออกมาต่อไป
[สังหารแมวเทาเลเวล 2 สำเร็จ ค่าประสบการณ์ของท่านเพิ่มขึ้น 20 หน่วย]
[สังหารสุนัขน้ำตาลเลเวล 3 สำเร็จ ค่าประสบการณ์ของท่านเพิ่มขึ้น 30 หน่วย]
[สังหารราชาหนูตาฟ้าเลเวล 4 สำเร็จ ค่าประสบการณ์ของท่านเพิ่มขึ้น 40 หน่วย]
นักรบโครงกระดูกฆ่าพวกมันได้ในทันทีโดยปราศจากความยากเย็นใดๆ
เมื่อมอนสเตอร์เหล่านี้ที่มีเลเวลเพียงแค่ 3 หรือ 4 ต้องเผชิญหน้ากับตัวตนที่มีพลังโจมตีที่อยู่ในระดับของเลเวล 10 พวกมันจึงไม่สามารถต่อต้านหรือต่อกรใดๆได้เลย
สิ่งที่พวกมันทำได้มีเพียงการยอมรับความตายอย่างไร้ความกังวล และไร้ความเจ็บปวด
หลินโม่อวี่เดินตามเส้นทางที่โครงกระดูกเดินไปอย่างช้าๆ
ขณะที่นักรบโครงกระดูกวิ่งออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ แผนที่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลินโม่อวี่ ซึ่งแผนที่นี้เป็นรูปร่างของดันเจี้ยนนี้
“มีฟังก์ชั่นแบบนี้ด้วยงั้นหรอ?”
แผนที่จะถูกสร้างขึ้นเรื่อยๆโดยอัตโนมัติเมื่อนักรบโครงกระดูกเดินไปตามเส้นทางของพวกมัน
นอกจากการฆ่ามอนสเตอร์แล้ว ตอนนี้นักรบโครงกระดูกก็ยังกลายเป็นผู้สำรวจพื้นที่แบบเต็มรูปแบบไปโดยอัตโนมัติอีกด้วย
ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ค่าประสบการณ์ของเขาก็เกือบจะมาถึงจุดที่เลเวลของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้เองที่หลินโม่อวี่ตระหนักได้ว่าเขาควรเลิกทำสมาธิ เพราะหากเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้ การทำสมาธิเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
สิ่งที่เขาต้องทำคือการรอให้พลังวิญญาณของเขาถูกฟื้นฟูโดยอัตโนมัติเมื่อเลเวลของเขาเพิ่มขึ้น
นักรบโครงกระดูกยังคงไล่ล่ามอนสเตอร์อย่างต่อเนื่องและไร้ความปราณี
ในขณะนั้นหลินโม่อวี่ก็ได้สังเกตเห็นมอนสเตอร์ที่ไม่ได้ถูกสังหารโดยนักรบโครงกระดูก
แมวเทาเลเวล 2 มันกำลังนอนหลบอยู่บนพื้นหญ้า
“พอดีเลย ฉันมีสกิลอยากจะลองใช้พอดี”
หลินโมอวี่คิดในใจ และเปลวไฟสีน้ำเงินก็ลุกไหม้ขึ้นบนฝ่ามือของเขา
[เปลวเพลิงวิญญาณ!]
นี่เป็นสกิลโจมตีเพียงอย่างเดียวที่เขามีในตอนนี้
เปลวเพลิงสีฟ้าได้ลุกไหม้ขึ้นบนแมวเทาเลเวล 2 ทันทีราวกับว่ามันถูกเคลื่อนย้ายมวลสารไป
แมวเทาเลเวล 2 กรีดร้องอย่างโหยหวนก่อนที่ร่างกายของมันจะกระตุกสองครั้งก่อนจะล้มลงกับพื้น
เมื่อเผชิญกับสกิลการโจมตีที่เพิ่มขึ้น 10 เท่า แมวเทาจึงถูกฆ่าในเวลาไม่กี่วินาที
[สังหารแมวเทาเลเวล 2 สำเร็จ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 20 หน่วย]
แมวเทาตายแล้ว แต่ภายนอกของมันไม่มีร่องรอยของการถูกไฟเผาเลยแม้แต่น้อย
หลินโม่อวี่เข้าใจได้ในทันทีว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะเช่นเดียวกับคำอธิบายที่ถูกกล่าวไว้ในคำอธิบายสกิล เปลวเพลิงวิญญาณจะโจมตีวิญญาณของเป้าหมาย ดังนั้นสกิลนี้จึงเป็นสกิลการโจมตีทางวิญญาณ
สิ่งนี้ทำให้หลินโม่อวี่ต้องตื่นตกใจอีกครั้ง เนื่องจากการโจมตีทางวิญญาณนั้นคือการโจมตีที่เพิกเฉยต่อการป้องกัน
ไม่ว่าการป้องกันทางกายภาพของคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหนหรือการป้องกันธาตุของคุณจะสูงแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีทางวิญญาณได้
“คลาสลับนี่เป็นคลาสที่ทรงพลังจริงๆ แม้ว่ามันจะมีสกิลเพียงแค่สองสกิลแต่มันก็เป็นสกิลที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก”
“แม้ว่าจะไม่มีค่าโบนัสความสามารถพิเศษอะไร แต่คลาสเนโครแมนเซอร์นี่ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคลาสระดับตำนานเลย”
หลินโม่อวี่มีความคิดเป็นของตัวเองซึ่งมันอาจจะไม่ได้เป็นกลางนัก แต่เขาเชื่อว่าความคิดของเขาไม่ใช่สิ่งที่ผิด เขาสามารถพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งมากกว่านี้ได้
ในขณะนั้นเองลำแสงก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา
เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว
ค่าสถานะทั้งหมดของเขาเพิ่มขึ้น 10 หน่วยอีกครั้ง และในส่วนของค่าพลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก 20 หน่วย ส่วนสกิลนักรบโครงกระดูกก็ได้รับการพัฒนาเป็นเลเวล 3
ค่าสถานะทั้งหมดของนักรบโครงกระดูกก็เพิ่มขึ้น 100 หน่วยเช่นเดิม ซึ่งนั่นทำให้ค่าสถานะทั้งสี่ของนักรบโครงกระดูกอยู่ที่ 350 หน่วยซึ่งนั่นเป็นอะไรที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก
หลินโม่อวี่ยังคงใช้สกิลอัญเชิญนักรบโครงกระดูกของเขาอย่างต่อเนื่องและเรียกนักรบโครงกระดูกออกมา 3 ตนติดต่อกัน ทำให้จำนวนนักรบโครงกระดูกที่เขาเรียกออกมานั้นมีทั้งหมด 10 ตน
นักรบโครงกระดูกทั้ง 10 อาละวาดอยู่ในดันเจี้ยนแห่งนี้เหมือนกับว่าพวกมันกำลังถูพื้นทำความสะอาดสถานที่แห่งนี้อยู่
[สังหารราชาหนูตาฟ้าเลเวล 4 สำเร็จ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 40 หน่วย]
[สังหารหมาป่าน้ำเงินเลเวล 5 สำเร็จ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 50 หน่วย]
มอนสเตอร์เลเวล 5 ถูกสังหารโดยนักรบโครงกระดูกเพียงดาบเดียว
หลินโม่อวี่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เขาแค่ต้องรอค่าประสบการณ์ที่จะได้รับจากนักรบโครงกระดูกเพียงเท่านั้น
หากเลเวลของเขายังเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเร็วเท่านี้ ในทุกๆสองชั่วโมงเลเวลของเขาจะเพิ่มขึ้น
สำหรับคนอื่นๆการที่พวกเขาเพิ่มเลเวลไปจนถึงเลเวล 3 ได้ภายในวันแรกก็เป็นเรื่องที่ไม่แย่มากแล้ว เพราะมันจะค่อยๆช้าลงเรื่อยๆในภายหลัง
อีกทั้งท้ายที่สุดแล้วข้อกำหนดของลู่หยุนที่กำหนดไว้ให้พวกเขาคือพวกเขาจะต้องพัฒนาตัวเองไปให้ถึงเลเวล 8 ภายในหนึ่งสัปดาห์ เพราะพวกเขาจะสามารถเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาระดับสูงได้ก็ต่อเมื่อพวกเขามีเลเวล 8
และหากคุณต้องการที่จะเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง 50 อันดับแรกของประเทศ คุณจะต้องมีเลเวลอยู่ที่ 9 หรือ 10 จากการจบภาคการเรียนนี้
ด้านนอกดันเจี้ยน อาจารย์ใหญ่หลายคนเริ่มพูดคุยและเปรียบเทียบเรื่องต่างๆกันอีกครั้ง
พวกเขารวมกลุ่มกันและตั้งโต๊ะเพื่อชงชาและพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ
“ฉันไม่รู้เลยว่าพวกเด็กๆจะสามารถเพิ่มเลเวลไปได้ถึงเลเวลเท่าไหร่ในวันแรกนี้”
“ใครจำได้บ้างว่าสถิติที่สูงที่สุดก่อนหน้านี้อยู่ที่เลเวลเท่าไหร่?”
“ฉันจำได้ สถิติที่สูงที่สุดคือเลเวล 5 และผู้ที่ทำสถิตินั้นไว้ก็คือซูเฉียนซิงและหลินโม่ฮาน”
“ซูเฉียนซิงและหลินโม่ฮานต่างก็เป็นคลาสหายาก และในปีนี้เซี่ยเสวี่ยก็เป็นคลาสหายากเหมือนกัน ดังนั้นฉันคิดว่าเซี่ยเสวี่ยก็น่าจะสามารถทำสถิติได้คล้ายกับทั้งคู่”
“โดยทั่วไปแล้วความเร็วในการเพิ่มเลเวลในวันแรกจะเป็นตัวตัดสินความเร็วในการเพิ่มเลเวลในวันหลังๆเช่นกัน”
“ถ้าเซี่ยเสวี่ยไม่สามารถเพิ่มเลเวลของเธอให้กลายเป็นเลเวล 5 ภายในวันแรก มันจะกลายเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเธอที่จะเข้าสู่มหาวิทยาลัยเซี่ยจิง”
ลู่หยุนฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันและคิดในใจว่า
“ฉันสงสัยจริงๆว่าหลินโม่อวี่จะสามารถเพิ่มเลเวลไปได้ถึงเลเวลไหน คลาสลับของเขาคือคลาสลับเอกลักษณ์ ฉันคิดว่าเขาคงจะเพิ่มเลเวลได้เร็วไม่แพ้เซี่ยเสวี่ยอย่างแน่นอน”
หลังจากที่ใครก็ตามที่เลเวล 5 ไปแล้ว ความเร็วในการเพิ่มเลเวลของพวกเขาจะลดลงเป็นอย่างมาก และวันแรกที่พวกเขากำลังพูดถึงกันอยู่นี้จริงๆแล้วมันคือเวลา 12 ชั่วโมง
เนื่องจากหลังจากที่ทุกคนเข้าสู่ดันเจี้ยนไปแล้ว การนับถอยหลังจะเริ่มต้นขึ้น และพวกเขาจะถูกบังคับให้ออกจากดันเจี้ยนโดยอัตโนมัติหลังจากเวลาผ่านไป 12 ชั่วโมง
ภายใน 12 ชั่วโมงนี้มันขึ้นอยู่กับตัวของคุณว่าคุณจะสามารถเพิ่มเลเวลไปได้มากแค่ไหน