ตอนที่ 146 การมีมิตรดีกว่ามีศัตรู(อ่านฟรี)
ตอนที่ 146 การมีมิตรดีกว่ามีศัตรู
“ดวงซวยจริง ๆ ดันมาเจอคนจากกิลด์ ทหารพวกนั้นไม่ได้รอแค่เพราะทหารอีกนายบาดเจ็บ แต่รอคนที่ตอบรับสัญญาณขอความช่วยเหลือ เราไม่ได้ตอบรับสัญญาณพวกนั้นเลยไม่รู้ พลาดซะแล้ว ต้องรีบออกจากที่นี่ ตอนนี้อีคอนไม่อยู่ถ้าคนจากกิลด์ทั้งสองมาเจอ พวกมันฆ่าแน่นอน”
ลุครีบวิ่งออกไปด้วยความเร็วทั้งหมด อย่างน้อยต้องเว้นระยะให้ไกลที่สุด แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเขา เพราะออกมายังไม่ไกลก็มีเสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังซะแล้ว
“แกเองเหรอ?”
“เร็วไล่ตามเจ้านั้นไป!”
เขาจดจำเสียงได้ เป็นแจสเปอร์จากกิลด์เจ็ดอัศวิน ชายผู้นั้นเป็นระดับ C ที่แข็งแกร่งอันดับต้น ๆ คนหนึ่ง ลุครับมือไม่ไหวแน่นอน
ลุคกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ ก่อนจะเลี้ยวอีกทิศทาง ถึงแบบนั้นความเร็วของเขาก็ช้ากว่าระดับ C มาก ถึงขนาดใช้รองเท้าสายฟ้าก็ยังหลบไม่พ้น
“ชุดเกราะด้วงทมิฬ” ลุคเปลี่ยนมาใช้ชุดเกราะในระดับ E เพื่อใช้ความสามารถการบินที่หาได้ยาก ก่อนจะบินขึ้นไป มันเร็วกว่าวิ่ง เพราะไม่ต้องคอยหลบสิ่งกรีดขวาง แต่ยังไงก็ไม่ได้บินสูงมาก เนื่องจากถ้าพ้นต้นไม้ออกไปลุคหวาดกลัวว่าจะโดนมอนสเตอร์ที่น่ากลัวด้านบนนั้นฆ่าตายก่อนจะได้หนี
“มันมีอุปกรณ์บินได้ ชุดเกราะนั้นมันอะไรกัน”
“ฉันจะต้องเอามาให้ได้”
แจสเปอร์มองด้วยความโลภ อุปกรณ์ที่บินได้มีคุณค่าสูงกว่าระดับของตัวมันเองขึ้นหนึ่ง หรือก็คือเทียบเท่ากันอุปกรณ์พิเศษระดับ C ได้เลย
“หยุดซะแล้วฉันจะไว้ชีวิตแก” แจสเปอร์อาศัยพละกำลังวิ่งนำคนในกิลด์ตามลุคมาติด ๆ แต่น่าเสียดายที่แจสเปอร์บินไม่ได้
ถึงอย่างนั้นก็ตามติดลุคแทบไม่คาดสายตา
‘หยุดก็โง่สิ’
ลุคด่ากลับในใจ ไม่คิดจะเสียเวลาหันไปพูดด้วย แต่แล้วโชคก็เป็นสิ่งที่ยากจะจับต้องได้ เมื่อการหนีของเขาเหมือนจะหนีเสือปะจระเข้เข้าให้แล้ว
ลุคดันมาเจอกับกิลด์ดาบกางเขนที่แต่ละคนสภาพสะบักสะบอมกำลังเดินมาทางนี้อยู่พอดี ลุคเบิกตากว้างรีบเปลี่ยนทิศทาง ส่วนครูสก็ยืนนิ่งมองด้วยความสนใจ ก่อนที่มาคัสที่ยังรอดอยู่ได้ตะโกนเตือนคนอื่น ๆ ว่า
“นั้นมันลุค ซันเดอร์”
มาคัสจำได้อย่างชัดเจน ถึงจะเหลือแต่กระดูกเขาก็จำเจ้าสาระเลวน้อยคนนี้ได้ ไม่รอให้คนอื่น ๆ ตอบสนองมาคัสระเบิดพลังระดับ D สูงสุดทะยานร่างไล่ตามลุคไปอย่างไม่คิดชีวิต
“ฮ่า ๆ ๆ แม้แต่เบื้องบนก็เต็มใจ ผืนป่าตั้งกว้างไกลแต่ส่งแกมาตาย มา ๆ มาให้ฉันส่งแกไปตายซะ” มาคัสตะโกนไล่ตามหลังลุคไป
ก่อนที่ในมือของมาคัสจะปรากฏจรวดพิฆาตศัตรูขึ้นมาและเล็งไปทางลุคพร้อมกับที่เจ้าตัวก็วิ่งไปด้วย
‘ไอ้เวรนั้นมันเอาจรวดมาด้วย’ ลุคตกตะลึง แต่ไม่ตื่นตกใจ เขาหันหน้ากลับพร้อมกับบินถอยหลังไปด้วยความเร็วสูงเหมือนเดิม
โดยที่ไม่เสียจังหวะการบินแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้บนบ่าของลุคปรากฏหัวที่สองขึ้นมา
“ถ้าฉันตายแกก็ตาย” ลุคกล่าวกับมัน ถ้าไม่คับขันจริง ๆ เขาก็ไม่คิดจะใช้ไอเทมที่มีความเสี่ยง ถ้าเกิดหัวที่สองเป็นความคิดด้านมืดของตัวเอง แบบนั้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แต่ว่าตอนนี้ศีรษะที่สองแสดงสีหน้าที่ต่างจากความกังวลของเขามาก ศีรษะที่สองมีใบหน้าแสดงถึงความเมตตาและแววตาที่อ่อนโยนและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพนิ่มนวล
“คุณอย่าพูดคำหยาบได้ไหม มันดูไม่ดีเลย”
“ผมจะช่วยตัวเราให้รอดไปได้แน่นอน คุณสบายใจได้ แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ก็หอย่าทำร้ายพวกเขาเลย ทุกชีวิตก็รักตัวกลัวตายเช่นกัน เราควรใช้ความเมตตาและหัวใจเพื่อแสดงถึงความเป็นมิตรกับพวกเขา ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องเปิดใจและเข้าใจคุณ”
ลุคอึ้งจนไปไม่เป็น ก่อนจะนึกถึงผลของไอเทมหัวที่สองมีความคิดมาจากด้านตรงข้ามของตัวเอง
‘ถ้าหัวนี้มีความอ่อนโยน เมตตาและสุภาพ แล้วฉันละ?!’ ลุคพูดไม่ออกไปสักพัก ไม่สิตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น
หัวที่สองเป็นอิสระกว่ามากสามารถหันไปด้านหลังได้ราวกับด้านหน้า แถมช่วยควบคุมร่างกายได้ส่วนหนึ่ง จึงควบคุมการบินของชุดเกราะได้อย่างไม่มีปัญหา
แม้จะค่อนข้างขนลุกที่มีความคิดสองสายในร่างกาย แต่ว่านี่ช่วยแบ่งเบาสมาธิของเขาได้มาก
ลุคยื่นมือออกไปทำท่าจับปืนพริบตาต่อมาปืนไรเฟิลโลหิตก็ปรากฏบนมือของเขา ดวงตาของลุคส่องมองผ่านกล้องไป
ระยะห่างของลุคและมาคัสคือ 1,000 กิโลเมตร
“ตาย!” มาคัสล็อกเป้าของลุคได้แล้ว
แต่มาคัสไม่รู้เลยว่าลุคเองก็เล็งมาที่หัวมาคัสไว้เหมือนกัน แถมลุคยังเร็วกว่าจังหวะหนึ่งด้วย
ปัง!
เสียงปืนดังสนั่นขึ้นมา แต่ไม่ได้มาจากจรวดพิฆาตมอนสเตอร์ของมาคัส แต่เป็นปืนไรเฟิลโลหิต ความรุนแรงของมันส่งให้ตัวลุคบินพุ่งไปด้านหน้าเล็กน้อยตามแรงถีบ
ส่วนตัวของมาคัสในตอนนี้ได้แต่วิ่งและถือจรวดพิฆาตไปด้วย ก่อนที่ร่างกายเหมือนจะรู้ตัวว่าหัวของมาคัสนั้นโดนยิงหัวระเบิดไปแล้วด้วยปีนไรเฟิลโลหิต
“Head shot!!!”
ลุคพูดและมองด้วยใบหน้าสะใจ เพราะรู้สึกเหม็นขี้หน้ามาคัสมานานแล้ว
คนที่ตามหลังมาในตอนนี้โดยเฉพาะระดับ C สองคนอย่างครู่และแจสเปอร์ก็รู้สึกตกตะลึงไม่น้อยกับพลังโจมตีของไรเฟิลในมือของลุค
“นั้นมันปืนอะไร?”
แจสเปอร์ถามอย่างตกใจ
“ก็แค่ปืนของเด็กเล่น” ครูสพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันเล็กน้อย แม้ก้อนหน้านั้นจะเผยความตกใจออกมาก็ตาม
ทั้งสองยังคงไล่ล่าต่อ คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ต่อให้มาคัสตายแล้วไง อย่างไรซะมาคัสก็เป็นแค่คนจากกิลด์เล็ก ๆ ที่มาขอเข้าร่วมเท่านั้น ตายไปกิลด์ใหญ่ ๆ อย่างกิลด์ดาบกางเขนหรือกิลด์เจ็ดอัศวินก็ไม่ใส่ใจแม้แต่นิดเดียว
“คุณไม่น่าฆ่าเขาเลย ดูสิพวกเขาโกรธใหญ่แล้ว เวรย่อยระงับด้วยการไม่จองเวร” ศีรษะที่สองเริ่มกล่าวคำสอนอีกครั้ง
‘หรือหัวที่สองจะเป็นนักบวชเหรอ เดี๋ยวสิแล้วตรงข้ามกับนักบวชคือมารปีศาจ ฉันเลยร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ’ ลุคเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง
แต่ก็ยังยกปืนขึ้นมา ก่อนจะเลือกเป้าหมาย
“พวกแกบังคับฉันเองนะ” ลุคพูดด้วยแววตาดุร้าย
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ครูสเบิกตากว้าง ก่อนจะใช้ความเร็วที่เหนือกว่าหลบกระสุนโลหิตที่ยิงมาจากระยะ 900 เมตร
แต่ว่ากระสุนนั้นไม่โดนตัวเขาก็จริง แต่กลับยิงไปโดนตัวคนจากกิลด์เจ็ดอัศวินเข้า
“อ้า!” ร่างของคนโชคร้ายระดับ D คนนั้นขาดครึ่งจากพลังทำลายของกระสุน ร่างกายตกลงพื้นเลือดสาดไปทั่วบริเวณได้ต้องร้องด้วยความเวทนา ก่อนจะสิ้นใจได้
“ไม่!” แจสเปอร์ตะโกนด้วยความโกรธแค้น เพราะคนที่ตายคือน้องชายของภรรยาเขาเอง
“แกฆ่าน้องภรรยาฉัน” แจสเปอร์ตะโกนด้วยความแค้นเคืองไล่ตามลุคอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเก่า
“หึ ทีหลังก็บอกไอ้บ้านั้นอย่าหลบสิ!” ลุคตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงดูแคลน
แจสเปอร์เหมือนจะนึกขึ้นได้เลยหันไปมองครูสเชิงกล่าวโทษ แต่ครูสตอบกลับด้วยแววตาดูถูกยิ่งกว่า คิดว่าเขาจะรับกระสุนนั้นแทนเหรออย่าหวังอะไรโง่ ๆ
ลุคเริ่มยิงอีกนัด แต่นัดนี้ยิงไปทางแจสเปอร์
ปัง!
แจสเปอร์เองก็เป็นระดับ C จึงหลบได้ไม่ยากเช่นกัน แต่ว่ากระสุนก็ยิงผ่านไปโดนคนของกิลด์ดาบกางเขน ชายคนั้นเป็นระดับ D ขั้นสูงถึงจะตอบสนองทันเอาดาบออกมา แต่ก็ช้าไปจังหวะหนึ่ง โดนยิงเข้าที่ช่วงกลางหน้าอกพอดี
หน้าอกแหลกหายเป็นรูขนาดใหญ่ทะลุจนเห็นอีกฝั่งตรงคือเหลือเพียงกล้ามเนื้อที่ยังยึดติดอยู่เล็กน้อย คอพับลงตายอนาถไม่ต่างกัน
“หลบทำไม แกรับกระสุนนั้นได้” คราวนี้ครูสตะคอกด้วยความโมโหกลับไปใส่แจสเปอร์
“เรื่องของกู...” แจสเปอร์เปิดพูดด้วยน้ำเสียงเชิงท้าทาย เพื่อเอาคืน ที่ตอนตัวเองโดนยังหลบได้ ทำไมเขาจะหลบไม่ได้
กึดๆ ครูสกัดฟันแทบแตกและอยากจะชักดาบออกไปฆ่ากับแจสเปอร์ซะเดียวนี้ แต่ว่าถ้าทำแบบนั้นคนที่หัวเราะทีหลังจะต้องเป็นลุคแน่นอน
ลุคยิงอีกนัดคราวนี้ใส่ทางครูส แต่เหมือนครูสจะรู้ตัวแล้ว คนอื่น ๆ ก็เช่นกันพวกเขาเว้นระยะห่างจากครูสทันที
ปัง!
กระสุนยิงออกไป คราวนี้ไม่โดนใคร ลุคเอกก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เขาแค่ลองเสี่ยงเท่านั้น
“ปืนนั้นโคตรน่ากลัวเลย”
พวกระดับ D ที่ตามหลังมาต่างก็หวาดกลัวว่าจะตกเป็นเป้ายิงของลุค
ปืนไรเฟิลโลหิตไม่ใช่แค่ปืน แต่มันคือปืนที่มีความเร็วของกระสุนและพลังที่สร้างความเสียหายต่อระดับ D ได้ ปืนส่วนใหญ่ที่ใช้กระสุนพิเศษ อย่างมากก็มีความสามารถทำความเสียหายตามระดับของหัวกระสุน
แต่ความเร็วยังอาศัยพลังจากดินปืนที่ขับมันอยู่ดี
ซึ่งถ้าในพวกพลังระดับสูงพวกนั้นสามารถหลบความเร็วของปืนได้อย่างง่ายดาย
ก็เหมือนตอนที่พวกทหารยิงทากกระสุนโลหิตที่ตกลงมา แล้วพวกมันอาศัยการควบคุมร่างกายหลบกระสุนส่วนใหญ่ได้ก็เป็นกรณีเดียวกันกับตอนนี้
“ใครเป็นคนผลิตอาวุธพิเศษนี้”
“ไม่รู้ฆ่ามันแล้วแย่งมาค่อยเอามาวิจัยได้”
“ระดับ D ทิ้งระยะมาอยู่ด้านหลัง พวกฉันจะไล่บี้มันเอง”
ครูสสั่งคนของตัวเอง
“พวกนายตามมาด้านหลัง”
ระยะห่างระหว่างลุคและพวกเขาเข้าใกล้กันมาเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว ลุคเป็นระดับ D ส่วนพวกนั้นเป็นแค่ระดับ C ทำให้ความเร็วพวกเขาไล่เข้าใกล้มาเรื่อย ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะการที่บินได้ ลุคคงโดนพวกนั้นตามมาถึงตัวตั้งนานแล้ว
กระสุนเหลืออีกสองนัดเขาไม่ได้ยิงต่อเพราะมันไม่มีความหมายอะไร อีกอย่างระดับ D พวกนั้นก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเหลือเพียงครูสและแจสเปอร์ที่ตามไม่เลิก
ซู่......
ตอนนั้นเองลุคก็ได้ยินเสียงน้ำไหลมาจากที่ไกล ๆ มันดังมาก นี่ไม่ใช่แค่ธารน้ำเล็ก ๆ แน่นอน เขาไม่รอช้าหันหน้าบินไปที่นั่นในทันที
หัวที่สองโดนเก็บไปแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร อาจจะเพราะเป็นพวกอ่อนโยนรักสงบ ไม่คิดขบถอยู่แล้ว แต่ก่อนจะหายไปมันยังเตือนลุคว่า “การมีมิตรดีกว่ามีศัตรู”
ลุคเลยตอบมันกลับไปว่า “มิตรหมายถึงคนที่ไม่ฆ่าเราใช่ไหม”
หัวที่สองพยักหน้าเบา ๆ
“ถ้าอย่างนั้นพวกนี้ก็เป็นศัตรู” ลุคกล่าวไปและยกเลิกการใช้ไอเทมเหรียญสองหัวทันที