ตอนที่ 1326 ก่อนสอบปากคําพวกเขา ฉันอยากที่จะขอคุยกับคุณก่อน..
เครื่องบินบินจากเกาะฮ่องกงไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้บินไปกว่าครึ่งทางแล้ว หลังจากบินมานานกว่าหกชั่วโมง เครื่องบินลำนี้ได้บินออกจากจีนแล้วเข้าสู่รัสเซีย และกำลังเข้าใกล้ยุโรปตะวันออก
ในเวลานี้ เครื่องบินได้บินอยู่เหนือเทือกเขาสูงลูกหนึ่ง ทั้งยังสามารถมองเห็นภูเขาสูงที่ไหลทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด และสถานที่ทั้งหมดตรงจุดนี้ก็รกร้างว่างเปล่า ..ไร้ผู้คน
คนกลุ่มนั้นเองก็ได้กำหนดเวลา และสถานที่ไว้แล้ว และต้องการอยากให้เครื่องบินลำนี้ถูกทำลายในบริเวณนี้ พอถึงเวลานั้นถึงอยากจะขอความช่วยเหลือก็ยากลำบากมาก ทั้งการจะกล่าวว่ามีผู้รอดชีวิตก็คง ..เป็นไปไม่ได้
ในแผน เครื่องบินลํานี้จะลดระดับความสูงลง และบินชนภูเขาสูงตรงหน้า แล้วท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่น เครื่องบินก็จะถูกชนจนแตกหักไปทั้งลำ คนบนเครื่องบินก็จะไม่มีใครเหลือรอดได้อีก
เมื่อนั้นคนที่พวกเขาจะฆ่า ก็จะต้องตกตายไปด้วย และจะไม่มีวันได้ไปถึงลอนดอน
อาจกล่าวได้ว่า.. เพื่อให้บุคคลนี้ตาย คนกลุ่มนี้จึงได้คิดแผนบ้าคลั่งนี้ขึ้น และไม่ลังเลใจที่จะปล่อยให้คนบนเครื่องบินทั้งลําถูกฝังเป็นเพื่อนไปพร้อมกับบุคคลที่พวกเขาต้องการจะฆ่า…
และตกลงบุคคลนี้เป็นใครกันแน่ ทําไมกลุ่มคนพวกนี้ถึงได้ทําทุกวิถีทางเพื่อต้องการจะฆ่าเขา?
คําถามเหล่านี้ หลินฟาน เองยังไม่มีคําตอบ
“กัปตัน คุณช่วยออกไปด้านข้างกับผมหน่อย พอดีผมมีเรื่องที่อยากจะพูดคุยกับคุณ พอได้ไหมครับ?” หลินฟาน ได้หันไปพูดกับกัปตัน
ในเวลานี้ กัปตัน ยังคงตกใจ แต่แล้วเขาก็ได้พยักหน้า
หลินฟาน หันไปมองชายร่างใหญ่ : “คุณ มาช่วยผมมัดสองคนนี้หน่อยสิ?”
ชายร่างใหญ่คนนี้ ก็คือคนที่ต้องการทุบตี หลินฟาน มาในก่อนหน้านี้ แต่ หลินฟาน กลับมาขอให้เขาช่วย ..ในเวลานี้
หลินฟาน ไม่สนว่าเขาจะตอบตกลงหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้หันหลังจากไปพร้อมกับ กัปตัน
เมื่อเดินไปด้านข้าง หลินฟาน ได้ถามไปว่า : “ปืนของคนร้ายที่ถูกซ่อนไว้ในห้องน้ำก่อนหน้านี้ ในความเห็นของคุณ คุณคิดว่า ..ใครเป็นคนทํา?”
กัปตัน ได้พูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “คุณกำลังหมายความว่า.. มีคนในสนามบินเป็นคนทำ?”
หลินฟาน ทำเพียงพยักหน้า
เห็นเช่นนั้น กัปตัน ก็ได้พูดว่า : “การรักษาความปลอดภัยของสนามบินนั้นมีความเข้มงวดมาก แม้แต่พนักงานอย่างเราก็ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนที่จะก้าวขึ้นเครื่อง หากพูดถึงคนทั่วไปยิ่งเป็นไปไม่ได้ นอกจาก ตํารวจอากาศ ..แล้ว แต่ ตํารวจอากาศ ก็สามารถพกปืนขึ้นเครื่องมาได้เพียงกระบอกเดียว และหากจะบอกว่าเป็นคนใน เดี๋ยวนะ.. เว้นเสียแต่คนนั้นจะเป็นผู้บริหารระดับสูง!”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืม ถ้าหากเป็นผู้บริหารระดับสูงจริงๆ คนที่วางแผนเรื่องนี้ ก็จะต้องเป็นคนที่มีฝีมือ และมีสายตาที่ยอดเยี่ยม เรื่องนี้.. ผมเกรงว่ามันอาจจะยังไม่จบ”
กัปตัน ได้อุทานออกมาอย่างตกใจว่า : “หรือบนเครื่องบินจะยังมีคนร้ายซ่อนตัวอยู่อีก?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “มัน.. มีความเป็นไปได้นี้ กัปตัน เรื่องต่อไป คุณไม่จําเป็นต้องไปสนใจ คุณแค่กลับไปที่ห้องนักบิน และขับไปตามปกติ ..ส่วน นอกเหนือจากนี้ เรื่องนี้คุณอย่าได้รายงานออกไปชั่วคราว ถือซะว่าไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้น”
กัปตัน กล่าวว่า : “ตกลง จริงสิ อีกอย่าง ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมแซ่ หลิน”
กัปตัน จึงกล่าวว่า : “คุณหลิน เมื่อกี้ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ และผมก็ต้องขอขอบคุณสำหรับเรื่องที่ยังเหลืออยู่ด้วย!”
หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “เมื่อเราลงจอดได้อย่างปลอดภัย ในตอนนั้นคุณจะมาขอบคุณผมก็ดูยังไม่สายเกินไป ไม่จำเป็นต้องพูดแล้วครับ ผมจะไปส่งคุณกลับ”
หลินฟาน ได้เดินไปส่งกัปตัน กลับไปที่ห้องนักบิน และเมื่อเห็นว่าประตูห้องได้ปิดลงแล้ว หลินฟาน จึงได้หันหลังกลับไปยังชั้นประหยัด
ในเวลานี้ ในชั้นประหยัด ผู้โดยสารต่างได้พากันพูดคุยกัน เสียงดังสนั่นไปทั่วห้องโดยสาร
“สุดท้ายมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทําไมพวกเขาถึงจี้เที่ยวบินด้วย?”
“พูดอย่างนี้ หมายความว่า เมื่อกี้พวกเราเกือบจะตายไปแล้วใช่ไหม?”
“บ้าชะมัด ฉันเองกลัวแทบตาย ต่อไปฉันไม่กล้าจะนั่งเครื่องบินอีกแล้ว!”
“กุญแจสําคัญในตอนนี้คือการหาเหตุผลให้ได้ก่อน!”
“แต่สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือ.. จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก!”
“ใช่ ตอนนี้เราก็บินมาได้ครึ่งทางแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ให้เครื่องบินรีบหาที่ลงจอดเถอะ!”
ทุกคนได้พากันส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ความตื่นตระหนกกระจายเต็มไปทั่วห้องโดยสาร ทุกคนกำลังวิตกกังวล และไม่อาจผ่อนคลายความกังวลนี้ได้ และกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเครื่องบินลำนี้อีก
หลินฟาน ได้เดินเข้ามา ทุกคนเมื่อเห็นก็ต่างพากันเงียบลง แต่ต่างก็มองมาที่ หลินฟาน เมื่อกี้ หลินฟาน ได้เป็นคนที่ช่วยพวกเขาไว้ หลินฟาน จึงดูมีน้ำหนักในใจของพวกเขามาก ทุกคนอยากที่จะฟัง หลินฟาน ว่าตอนนี้เขา ..คิดเห็นอย่างไร
ชายร่างใหญ่คนนั้น ในเวลานี้เขาได้เดินเข้าไปหา หลินฟาน แล้วพูดด้วยภาษาจีนที่ฟังดูสำเนียงไม่ชัด แต่พอจะเข้าใจได้ว่า : “สองคนนี้ ฉันมัดไว้ให้แล้ว”
เขาได้เอื้อมมือชี้นิ้วออกไป และเป็นไปตามคาด หลินฟาน ได้เห็นคนร้ายทั้งสองคน ถูกจับมัดมือมัดเท้าเอาไว้แน่นแล้ว
ถ้าชายร่างใหญ่คนนี้ยังอยากจะทุบตี หลินฟาน อย่างในก่อนหน้านี้ แต่มาตอนนี้เขากลับไม่มีความคิดนี้อีกต่อไปแล้ว หลังจากที่เขาได้เห็น หลินฟาน จัดการเก็บกวาดคนร้ายทั้งสองคน ..มาด้วยตาของเขาเอง
อีกอย่าง เขากลับมาคิดถึงเหตุการณ์ที่หน้าประตูห้องน้ำในก่อนหน้า แล้วเริ่มที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมา ..ในตอนนั้น ถ้าไม่ใช่ เสี่ยวอี๋ แอร์โฮสเตสคนนั้นที่เข้ามาห้ามเขาไว้ คนที่โชคร้ายก็อาจกลับกลายเป็นเขาเองเสียแล้ว ในตอนนั้นเขากลับยังคิดว่า เสี่ยวอี๋ แอร์โฮสเตสคนนั้นได้ช่วย หลินฟาน เอาไว้ แต่พอมาในเวลานี้ เขากลับเข้าใจในทันทีแล้วว่า แอร์โฮสเตส เสี่ยวอี๋ ..คนนั้น เธอได้ช่วยเขาไว้
ดังนั้นเมื่อ หลินฟาน ได้บอกให้เขาช่วยทำอะไรบางอย่างให้ เขาจึงไม่กล้าไม่เห็นด้วย ทั้งยังตั้งใจทําอย่างเชื่อฟัง นอกจากนี้เขาเองยังยินดีเต็มใจที่จะช่วยทํา ตัวเขาเองมีความคิดที่จะลอบโจมตีคนร้ายมาในก่อนหน้านี้ แต่ในที่สุดเขาก็ไม่กล้าจะทําอะไรบุ่มบ่าม ในทางตรงกันข้าม หลินฟาน นั้นเขากลับฉลาดมาก และยอดเยี่ยมมากจริงๆ
“ขอบคุณ” หลินฟาน ได้กล่าวด้วยรอยยิ้มออกไป
หลินฟาน จึงเดินเข้าไป และเตรียมจะพาตัวคนร้ายสองคนนี้ออกไป
“เดี๋ยวก่อน!”
ชายหนุ่มผิวขาวจากชั้นเฟิร์สคลาสคนนั้น ได้ร้องเรียก หลินฟาน ให้หยุด จากนั้นเขาได้เดินเข้ามาหา หลินฟาน : “คุณเหมือนรู้ว่าเกิดอะไร.. พอจะช่วยเล่าให้พวกเราทุกคนฟังหน่อยได้ไหม?”
“ใช่ ช่วยบอกเราหน่อยเถอะว่า นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?”
“จริง.. พวกเราทุกคนเองก็ไม่สบายใจมาก”
“แล้วตอนนี้พวกเราปลอดภัยหรือยัง?”
ทุกคนต่างเห็นด้วยที่ต้องการให้ หลินฟาน ได้พูดบางอย่าง
หลินฟาน กล่าวว่า : “พูดตามตรง ผมเองไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มากนัก”
ชายหนุ่มผิวขาว พูดว่า : “แล้วสิ่งที่คุณพูดกับคนร้ายเมื่อกี้ หมายความว่าอย่างไร คุณบอกว่าคนร้ายที่พวกเขามาที่นี่นั่นเป็นเพราะคุณ และถึงขนาดจะทําลายเครื่องบินลำนี้?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเองได้แต่งเรื่องขึ้นมาครับ โดยจงใจจะใช้เพื่อสร้างความสับสนให้กับพวกคนร้าย ทุกคนอย่าได้คิดจริงจังไป”
ชายหนุ่มผิวขาวคนนั้นกลับไม่เชื่อ เขาได้พูดว่า : “จริงเหรอ? แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ แล้วคุณเป็นใครกันแน่?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเหรอ? ผมเป็นแค่ผู้โดยสารคนหนึ่ง เหมือนกับพวกคุณ และคุณเชื่อจริงๆ เหรอว่าเพื่อจะฆ่าคนคนหนึ่ง คนร้ายไม่ลังเลเลยที่จะทําลายเครื่องบินทั้งลํา และฝังทุกคนไปพร้อมกับพวกเขา ถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วคนคนนี้ไปอังกฤษเพื่อไปทําอะไรกันแน่? และบางทีเขาอาจจะไปก่อปัญหาใหญ่บางอย่าง สุดท้ายคุณคิดว่าผมถึงขนาดสำคัญกับตัวคนร้ายขนาดนั้นมั้ย?”
ชายหนุ่มผิวขาว : “......”
หลินฟาน ยิ้ม และกล่าวว่า : “เราทุกคนรู้ว่าคนร้ายสองคนนี้จี้เที่ยวบินลำนี้ ไม่ใช่เพื่อเงิน แรงจูงใจของพวกเขาคืออะไร ในเรื่องนี้คงต้องถามหาจากพวกเขา”
“แล้วตอนนี้พวกเราปลอดภัยหรือยัง?” มีคนถามขึ้นมา
หลินฟาน กล่าวว่า : “คนร้ายสองคนนี้ถูกจัดการแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ ทุกคนกลับไปที่ที่นั่งของตัวเอง ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องกังวลอะไรให้มากครับ ผมจะหาคำตอบให้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
พูดจบ หลินฟาน ใช้มือจับยกคนร้ายสองคนนี้ แล้วหันหลัง เดินจากออกไป
เมื่อมาถึงห้องควบคุม หลินฟาน ได้วางคนร้ายทั้งสองคนลงไปกับพื้น และเดินเข้าไปในห้องควบคุม
“พบเจออะไรบ้างไหมครับ?” หลินฟาน ถาม เฉินหลง
ปรากฏว่า หลินฟาน ได้ออกไปช่วยคน และเข้าปราบพวกคนร้าย และพูดคุยกับทุกคน ,กระบวนการทั้งหมดนี้ มี เฉินหลง และตำรวจอากาศ คอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ เพื่อมองหาความผิดปกติจากภายในฝูงชน
แม้ว่าคนร้ายทั้งสองจะถูกปราบไปแล้ว แต่บุคคลเป้าหมายที่ เฉินหลง กำลังมองหาอยู่นั้น ..เขากลับยังไม่พบ และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ อาจมีคนร้ายที่แฝงตัวอยู่บนเครื่องบินลำนี้อีก!
เฉินหลง กล่าวว่า : “เราได้ทําเครื่องหมายเอาไว้หลายคน…”
เฉินหลง ได้บอก หลินฟาน เกี่ยวกับสถานการณ์ของบุคคลที่ถูกทําเครื่องหมาย และยังได้ปรับกล้องวงจรปิดเพื่อแสดงให้ หลินฟาน ได้เห็น
หลินฟาน กล่าวว่า : “ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาในตอนนี้ มาสอบปากคํากับทั้งสามคนนี้ก่อน และดูว่าเราจะถามอะไรจากพวกเขาได้บ้าง พวกคุณเฝ้าดูต่อไปก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะขอไปสอบปากคําพวกเขา”
เฉินหลง ได้ลุกขึ้น และพูดว่า : “ฉันจะไปกับคุณด้วย”
หลินฟาน พูดว่า : “โอเค”
และพวกเขาจึงได้นำตัวคนร้ายทั้งสองคน พร้อมกับชายที่จับมาได้ก่อนหน้านี้มาที่ห้องรับรอง
“หนุ่มน้อย ก่อนสอบปากคําพวกเขา ฉันอยากที่จะขอคุยกับคุณก่อน..” พอ เฉินหลง เข้าไปในห้องรับรอง เขาก็ได้พูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึมออกมาทันที