ตอนที่ 10 ไม่มีใครเพิ่มเลเวลได้เร็วกว่าฉัน

[เลเวล: 4 (99.00%)]

หลินโม่อวี่ดูค่าประสบการณ์ของเขาที่กำลังจะทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

นักรบโครงกระดูกทั้ง 13 ตนกำลังสังหารมอนสเตอร์บริเวณนั้นไปทั่ว และนั่นก็ทำให้ค่าประสบการณ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเทียบกับเลเวลก่อนหน้าของเขาแล้ว การเพิ่มเลเวลในครั้งนี้ของเขานั้นรวดเร็วกว่าเป็นอย่างมาก เพราะมันใช้เวลาเพียงแค่ 50 นาทีเท่านั้น

“สาเหตุที่การเพิ่มเลเวลของฉันไม่ลดลงและมีแต่จะเพิ่มขึ้นก็เพราะจำนวนนักรบโครงกระดูกที่ฉันสามารถเรียกได้มันเพิ่มมากขึ้น และความหนาแน่นของมอนสเตอร์ในสถานที่แห่งนี้ก็เพิ่มขึ้น แต่ความเร็วในการสังหารมอนสเตอร์ของฉันกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย”

หลินโม่อวี่วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของเขา

ตอนนี้เขามาถึงส่วนลึกของดันเจี้ยนมือใหม่แล้ว และในสถานที่แห่งนี้มีมอนสเตอร์เลเวล 6 และเลเวล 7 อยู่ทุกหนทุกแห่ง

มีเพียงมอนสเตอร์เลเวลสูงสุดของดันเจี้ยนนี้ ซึ่งนั่นก็คือมอนสเตอร์เลเวล 8 เท่านั้นที่หลินโม่อวี่ยังไม่เคยพบมาก่อน

นักรบโครงกระดูกเป็นเหมือนนักสู้ที่ไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย พวกมันล่ามอนสเตอร์อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักมาตั้งแต่ที่หลินโม่อวี่เข้ามายังดันเจี้ยนแห่งนี้ และมันก็ยังคงล่าอย่างต่อเนื่อง

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนมือใหม่นั้นไม่ให้สิ่งของอะไรกับเขาเลย

เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่คือดันเจี้ยนมือใหม่ มันเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่เพิ่งเปลี่ยนคลาสและต้องการที่จะปรับตัวให้เข้ากับการต่อสู้จริง เพราะฉะนั้นโดยรวมแล้วมอนสเตอร์ทั้งหมดภายในดันเจี้ยนนี้จะอ่อนแอลง

มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในดันเจี้ยนนี้มีเลเวลอยู่ที่เลเวล 8 และมันไม่ได้ถูกทำให้อ่อนแอลง มันยังคงถูกรักษาความแข็งแกร่งไว้เช่นเดียวกับมอนสเตอร์ที่จะพบเจอได้ด้านนอก

เมื่อคุณไปถึงเลเวล 8 และได้เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลเวล 8 ในตอนนั้นคุณควรจะมีประสบการณ์ในการต่อสู้พอสมควรแล้ว และคุณจะผ่านพ้นช่วงมือใหม่ไปก็ต่อเมื่อคุณผ่านเลเวล 8 ไปแล้วเช่นกัน

ดังนั้นมอนสเตอร์เลเวล 8 ตัวนี้จึงเป็นเพียงสะพานที่ช่วยให้มือใหม่ได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ภายนอกล่วงหน้า

ด้วยวิธีการปรับตัวทั้งหมดนี้ เมื่อคุณเข้าไปในป่าเพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ คุณจะได้ไม่รีบร้อนเมื่อคุณต้องไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่โหดร้ายพวกนั้น

ลำแสงของการเพิ่มเลเวลปรากฏขึ้นบนร่างของหลินโม่อวี่อีกครั้ง ในที่สุดตอนนี้หลินโม่อวี่ก็ได้มาถึงเลเวล 5 แล้ว

ค่าสถานะเพิ่มขึ้นและเลเวลสกิลก็เพิ่มขึ้น

ความแข็งแกร่งของนักรบโครงกระดูกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และค่าสถานะทั้งหมดของมันก็เพิ่มขึ้น 100 หน่วยอีกครั้ง

[สังหารหมีสีน้ำตาลเลเวล 7 สำเร็จ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 70 หน่วย]

[สังหารหมีสีน้ำตาลเลเวล 7 สำเร็จ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 70 หน่วย]

ถึงเลเวลของหลินโม่อวี่จะเพิ่มขึ้นแล้ว นักรบโครงกระดูกก็ไม่ได้หยุด พวกมันยังคงมองหามอนสเตอร์อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และสังหารพวกมันอย่างต่อเนื่องด้วยมีดที่อยู่ในมือของพวกมัน

นับตั้งแต่วินาทีที่หลินโม่อวี่เข้ามาในดันเจี้ยนมือใหม่ นักรบโครงกระดูกก็ไม่เคยหยุดนิ่งเลย

“อืม...ค่าประสบการณ์ของฉันเพิ่มช้าลงแล้ว”

หลินโม่อวี่พบว่าหลังจากที่เลเวลของเขามาถึงเลเวล 5 แล้ว ความเร็วในการเพิ่มเลเวลของเขาก็ลดลงเป็นอย่างมาก

เดิมทีแล้วในตอนที่เขาฆ่าหมีสีน้ำตาลเลเวล 7 ในตอนที่เขาเลเวล 4 เขาจะได้รับค่าประสบการณ์ประมาณ 0.2%

และเขาต้องฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมด 500 ตัวเพื่อเพิ่มเลเวลของเขา

แต่หลังจากที่เขาเลเวล 5 แล้ว การฆ่าหมีสีน้ำตาลเลเวล 7 ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เท่านั้น

เพราะฉะนั้นคุณจะต้องฆ่าพวกมันถึง 1,000 ตัว เลเวลของคุณถึงจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นความเร็วที่ใช้ในการเพิ่มเลเวลของหลินโม่อวี่ในตอนนี้จึงช้าลงเป็นสองเท่า

“ด้วยความเร็วระดับนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคลาสทั่วไปที่จะเพิ่มเลเวลไปให้ถึงเลเวล 12 ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์”

“แม้ว่าเราจะออกจากสถานที่แห่งนี้และไปที่ชานเมืองซีไห่ ฉันก็คิดว่าฉันยังเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมากที่จะขึ้นไปถึงเลเวลขนาดนั้น”

“การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเซี่ยจิงเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ ฉันไม่รู้เลยว่าเมื่อปีที่แล้วพี่สาวของฉันเลื่อนเลเวลไปถึงเลเวล 16 ได้ยังไง”

หลินโม่อวี่คำนวณในใจของเขาว่าถ้าเขาต้องการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยจิง เขาจะต้องมีเลเวลอย่างน้อย 12 และเขาจะต้องใช้เวลาประมาณไหน

หากคุณต้องการเลเวล 12 ภายในหนึ่งสัปดาห์ ภายในดันเจี้ยนมือใหม่ คุณจะต้องเพิ่มเลเวลของคุณให้เป็นเลเวล 8 ให้ได้ภายในระยะเวลา 3 วัน และหลังจากเลเวล 8 ไปแล้ว คุณจะต้องไปที่ชานเมืองซีไห่เพื่อล่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่านั้นเพิ่ม

ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถขึ้นสู่เลเวล 12 ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์

เมื่อคิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว หลินโม่อวี่จึงรู้ว่าหลินโม่ฮานที่สามารถเลื่อนขึ้นไปถึงเลเวล 16 เมื่อปีที่แล้วเป็นการเพิ่มเลเวลที่เร็วมากจริงๆ

หลินโม่อวี่ใช้สกิลของเขา เรียกนักรบโครงกระดูกออกมา 3 ตน ทำให้พลังวิญญาณของเขาหมดลงอีกครั้ง

นักรบโครงกระดูกทั้งหมด 16 ตนกำลังค้นหาและฆ่ามอนสเตอร์อยู่ตลอดเวลา

สำหรับหลินโม่อวี่แล้ว เวลาที่ใช้ในการค้นหามอนสเตอร์นั้นสูงกว่าเวลาที่ใช้ในการฆ่าพวกมันเป็นอย่างมาก

หลินโม่อวี่เดินหน้าต่อไป นักรบโครงกระดูกเปิดทางให้เขาและค้นหามอนสเตอร์ทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในหญ้าและฆ่ามอนสเตอร์ทีละตัว

หลังจากเดินไปได้สักพัก ภูมิประเทศของดันเจี้ยนก็เปลี่ยนไป

ทุ่งหญ้าสูงสิ้นสุดลงและป่าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

หลินโม่อวี่รู้ว่านี่คือจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยนมือใหม่แล้ว

และมอนสเตอร์เลเวล 8 ก็ซ่อนอยู่ในป่าที่อยู่ข้างหน้าของเขาในตอนนี้

“ฉันใช้เวลา 6 ชั่วโมง 42 นาทีในดันเจี้ยนมือใหม่ ซึ่งมันเป็นเวลาน้อยกว่า 7 ชั่วโมง และฉันก็ยังเป็นคนเดียวที่สามารถมาถึงจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยนนี้ได้”

ดันเจี้ยนเพิ่งเปิดมาเพียง 7 ชั่วโมงเท่านั้น และคนส่วนใหญ่เพิ่งจะมีเลเวล 3 เท่านั้น

แม้แต่เซี่ยเสวี่ยก็ยังมีเลเวลเพียงแค่ 4 ซึ่งนั่นเป็นเลเวลที่สูงที่สุดในตอนนี้แล้ว

หลินโม่อวี่เชื่อว่าในตอนนี้เขาเป็นคนที่เพิ่มเลเวลได้เร็วที่สุดในดันเจี้ยนนี้แล้ว

เขาเดินตรงเข้าไปในป่า เขาต้องการดูว่ามอนสเตอร์เลเวล 8 นั้นแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่

นักรบโครงกระดูกจะสามารถสู้กับพวกมันได้หรือเปล่า

เพราะถ้านักรบโครงกระดูกสามารถสู้กับพวกมันได้ พรุ่งนี้เขาจะได้เตรียมตัวเพื่อออกไปยังชานเมืองซีไห่

นักรบโครงกระดูกเปิดทางข้างหน้าและวิ่งเข้าไปในป่านำหน้าหลินโม่อวี่หนึ่งก้าว

เสียงโครงกระดูกกระทบกันดังขึ้นในป่า นักรบโครงกระดูกจำนวน 16 ตนวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อค้นหามอนสเตอร์ภายในป่า

“ไม่เจอเลยงั้นหรอ?”

นักรบโครงกระดูกไม่พบมอนสเตอร์เลยแม้แต่ตัวเดียว

หลินโม่อวี่รู้สึกแปลกๆ ดังนั้นเขาจึงเดินตามเข้าไป

ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในป่า กิ่งไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรุนแรง

กิ่งไม้นั้นพุ่งเข้ามาหาหลินโม่อวี่ราวกับสายฟ้าฟาด

ความเร็วนั้นเร็วมากจนหลินโม่อวี่ไม่มีเวลาตอบสนองต่อมัน

ด้วยความเร็วของกิ่งไม้นั้นที่ดูเหมือนจะทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่มันกลับสร้างอันตรายใดๆต่อหลินโม่อวี่ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

หลินโม่หวี่ไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย มันเหมือนกับว่ามีโล่ที่มองไม่เห็นอยู่ภายนอกร่างกายของเขาและกำลังปกป้องตัวของเขาอยู่

[สกิลติดตัว: การถ่ายโอนความเสียหาย]

ความเสียหายใดๆที่เขาได้รับจะถูกโอนไปยังสิ่งที่เขาอัญเชิญมาโดยอัตโนมัติ

เขาจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆจนกว่าวัตถุที่ถูกอัญเชิญมาจะตาย

มันเป็นสกิลที่ทรงพลังมากจริงๆ มันไม่ได้แย่ไปกว่าพรสวรรค์ระดับพระเจ้าที่เขาได้มาเลย