ตอนที่แล้วบทที่ 66 การแข่งขัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 68 ผู้สื่อวิญญาณ

บทที่ 67 ออร่าแห่งราชา


ในสนามประลองของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตใต้

ซืออวี๋และไป๋ฉียืนอยู่สองด้านของสนามประลอง

หลังจากที่พวกเขาพยักหน้าทักทายกันเล็กน้อย ซืออวี๋ก็เป็นคนแรกที่กล่าวออกมา

“ส่งสัตว์อสูรของเราออกมาพร้อมกันเถอะ”

“ตกลง” ไป่ฉีตอบกลับ

ในวินาทีต่อมา

ในขณะที่กระแมลมกำลังพัดแรงขึ้น วงแหวนอัญเชิญขนาดใหญ่สองแห่งก็ปรากฎขึ้นมาตรงหน้าพวกเขา

“จิ๋ว!!!!!”

“อู๋?!”

ในวงแหวนอัญเชิญ สองเสียงดังขึ้นมา สัตว์อสูรของพวกเขาปรากฎขึ้นมาโดยตรง!

ทางฝั่งของไป่ฉี สัตว์อสูรอินทรีสูงสองเมตรที่มีกล้ามเนื้ออันแข็งแรง ขนสีน้ำตาลทองอันงดงาม และดวงตาที่เฉียบแหลม

“จิ๋ว!!!!!”

หลังจากมันปรากฎตัวออกมา มันก็เงยหน้าขึ้นและร้องออกมา กระแสลมหมุนวนรอบตัวมัน และเสียงของมันก็ครอบงำอย่างมากราวกับจ้าวแห่งท้องนภา

[ชื่อ] : ปีกแห่งนภา

[คุณสมบัติ] : ลม

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติชั้นสูง

[ทักษะเผ่าพันธุ์] : ปีกสายลม กรงเล็บฉีกกระชาก สุดยอดการมองเห็น ดาบสายลม

นี่คือสัตว์อสูรต่อสู้กลางอากาศที่น่าประทับใจมาก มันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีมาก

อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งของสนามประลอง อีเลฟเว่นผู้ที่ปรากฎตัวขึ้นมาก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

เจ้าตัวนี้… นกส่งของไม่ใช่เหรอ?

กล่าวตามตรง มันเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับนกตัวนั้น!

คู่ต่อสู้ของมันในครั้งนี้คือเจ้าตัวนี้เหรอ?

มันจะแพ้นกส่งของงั้นเหรอ? ไม่!

สายตาของอีเลฟเว่นเริ่มดุร้าย นอกจากนี้ เนื่องจากมันไม่เคยต่อสู้กับสัตว์อสูรบินได้ มันจึงร้อง ‘อู๋’ ออกมาเพื่อแสดงความตื่นเต้นของมันโดยไม่รู้ตัว

“ปีกแห่งนภาปะทะกับอสูรกินเหล็ก!”

ในขณะนี้ เมื่อสัตว์อสูรทั้งสองตัวปรากฎตัวขึ้นมา ทุกคนก็แสดงความคิดเห็น

ทุกคนให้ความสำคัญกับปีกแห่งนภาระดับปลุกตื่นขั้นสิบซึ่งดูโดดเด่นตัวนี้เป็นอย่างมาก

ในระดับปลุกตื่น สัตว์อสูรที่บินได้จะได้เปรียบอย่างมาก ท้ายที่สุด สัตว์อสูรส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้กลางอากาศ

ดังนั้นทันทีที่พวกเขาเห็นปีกแห่งนภา นักฝึกสัตว์อสูรที่เหลือก็รู้สึกว่าไป่ฉีผู้นี้รับมือได้ยากมาก

เผ่าพันธุ์ปีกแห่งนภานั้นไม่เลวเลย และมันมีทักษะที่เกี่ยวข้องมากมาย ในฐานะตัวแทนมือใหม่ของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรที่ราบขาว ความเชี่ยวชาญทักษะของสัตว์อสูรของไป่ฉีจึงไม่ต่ำอย่างแน่นอน ท้ายที่สุด เขาคือทายาทของนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์…

ศัตรูที่แข็งแกร่ง…

ในทางกลับกัน ทางฝั่งของซืออวี๋…

ทุกคนตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นพวกเขาก็ตกตะลึงอย่างไร้ที่สิ้นสุด

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าสัตว์อสูรของซืออวี๋คืออสูรกินเหล็ก แต่…

ทุกคนมองไปที่เจ้าอ้วนน้อยที่สูงประมาณหนึ่งเมตรและตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

ทำไมอสูรกินเหล็กตัวนี้ถึงมีระดับการเติบโตต่ำล่ะ?

การเพิ่มขึ้นของระดับการเติบโตจะนำไปสู่การพัฒนาของสัตว์อสูรด้วยเช่นกัน ดังนั้นอายุจึงไร้ค่า แต่ถึงกระนั้น… การพัฒนาของสัตว์อสูรไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถซ่อนได้

ระดับการเติบโตของอสูรกินเหล็กน้อยที่สูงหนึ่งเมตรตัวนี้ไม่สูงอย่างแน่นอน!

“เกิดอะไรขึ้น?”

เหล่าประธานมองไปที่ประธานเฟิงโดยไม่รู้ตัว

ซืออวี๋ผ่านสี่ด่านของซากปรักหักพังด้วยอสูรกินเหล็กน้อยตัวนี้ได้ยังไงกัน? มันต้องเป็นเรื่องตลก

“ดูก่อนสิ” ประธานเฟิงเงียบ

ในเวลาเดียวกัน เขาก็มีความคิดมากมายภายในหัวของเขา

ปีกแห่งนภา… เขาไม่รู้ว่าซืออวี๋จะรับมือกับสัตว์อสูรบินได้หรือไม่

จากการตัดสินของเขา ปีกแห่งนภาตัวนี้รับมือได้ยากยิ่งกว่าอสูรเพลิงจันทราของเฉิงกงเสียอีก

ท้ายที่สุด อสูรกินเหล็กของซืออวี๋ไม่มีทักษะระยะไกลเลย เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรบินได้ มันย่อมเสียเปรียบเป็นธรรมดา!

ในขณะเดียวกัน ในสนามประลอง ไป่ฉีมองไปที่อีเลฟเว่นและตกตะลึง

“อสูรกินเหล็กของเจ้าอยู่ระดับปลุกตื่นขั้นไหน?” เขาเอ่ยถาม

“ขั้นเจ็ด” ซืออวี๋กล่าวตอบกลับ

ทุกคนเงียบลง

มุมปากของไป่ฉีกระตุก “ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าผ่านสี่ด่านของซากปรักหักพังได้ยังไงกัน? พวกเขาบอกว่ามีสัตว์อสูรดุร้ายเผ่าพันธุ์ผู้บัญชาการและคลื่นสัตว์อสูรขนาดเล็กอยู่ไม่ใช่เหรอ??”

การปรากฎตัวของอีเลฟเว่นทำให้ทุกคนสงสัยในความถูกต้องของข้อมูล นั่นเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ รูปลักษณ์ของอีเลฟเว่นนั้นหลอกหลวงมากเกินไป

“ใช่แล้ว” ซืออวี๋ยิ้มออกมา

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าคิดว่าปีกแห่งนภาของเจ้าสามารถผ่านได้กี่ด่าน?” หลังจากลงมายังสนามประลอง ไป่ฉีก็กล่าวมากขึ้น

“บางทีมันอาจจะติดอยู่ด่านที่สี่” ซืออวี๋วิเคราะห์อย่างจริงจัง

หลังจากที่เขากล่าวจบ ไป่ฉีก็รู้สึกขบขัน นั่นหมายความว่าปีกแห่งนภาไม่สามารถเอาชนะอสูรกินเหล็กของชายผู้นี้ได้งั้นเหรอ?

ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องการดูว่าซืออวี๋เลี้ยงดูอสูรกินเหล็กระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดมายังไง

แม้ว่าจะมีทักษะเสริมและทักษเผ่าพันธุ์ของมันจะถึงขั้นชำนาญแล้วก็ตาม… การที่มันจะเผชิญหน้ากับปีกแห่งนภาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“เริ่มกันเลย”

ไป่ฉีก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง ในเวลาเดียวกัน ระลอกคลื่นสีเขียวก็แผ่ออกมาจากปีกแห่งนภาซึ่งโบยบินอยู่บนท้องฟ้า

ฟู้วววว!!!!

สายลมรอบตัวปีกแห่งนภานั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

และในเวลานี้ สิ่งที่แสดงออกมาโดยปีกแห่งนภาก็น่ายกย่องมากเช่นกัน

“พลังงานสีเขียว ปีกสายลมขั้นชำนาญ ปีกแห่งนภาตัวนี้มีทักษะเผ่าพันธุ์ถึงขั้นชำนาญแล้ว!”

ประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรทุกคนได้เห็นสถานการณ์ทักษะของปีกแห่งนภา!

ในตอนนี้ ความแข็งแกร่งที่แสดงโดยปีกแห่งนภาทำให้ตัวแทนมือใหม่บางคนกังวลมากยิ่งขึ้น

ปีกสายลมเป็นทักษะที่เพิ่มความเร็ว ปีกสายลมขั้นชำนาญหมายความว่าความเร็วของปีกแห่งนภาตัวนี้จะน่าสะพรึงมาก

ไม่เพียงแค่ความเร็วของมันจะน่าสะพรึงเท่านั้น แต่มันยังมีสุดยอดการมองเห็นที่สามารถเล็งเป้าหมายของมันได้อย่างแม่นยำ เช่นเดียวกับอีกสองทักษะโจมตีอันทีทรงพลัง นอกจากนี้ มันก็บินได้ พวกเขาจะต่อสู้กับมันได้ยังไงกัน?

“ข้ารู้สึกว่าอสูรกินเหล็กน้อยตัวนั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลย…”

แม้แต่นักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ก็ยังคิดไม่ออกว่าอสูรกินเหล็กน้อยจะใช้อะไรสู้กับศัตรู

แม้กระทั่งประธานเฟิงผู้ที่รู้ความแข็งแกร่งบางส่วนของซืออวี๋ก็ตัวแข็งเล็กน้อย

อสูรกินเหล็กของซืออวี๋จะรับมือมันได้หรือไม่?

นี่ควร… จะไม่เป็นไรใช่ไหม?

“จิ๋ว!”

ในขณะที่ปีกแห่งนภาบนท้องฟ้าส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง มันก็โจมตี

มันไม่ใช้ใบมีดสายลมเพราะจะขัดแย้งกับปีกสายลม แต่มันกลับใช้กรงเล็บฉีกกระชากซึ่งสามารถฉีกเหล็กจนขาดได้

ปีกแห่งนภาวางแผนที่จะแสดงความได้เปรียบด้านความเร็วของมัน

ความเร็วของปีกสายลมและความแหลมคมของกรงเล็บขนาดใหญ่

การผสมผสานของสองทักษะนี้กลายเป็นทักษะผสานแบบพื้นฐานและเรียบง่าย

อย่างไรก็ตาม ทักษะนี้ใช้งานได้จริง

“ลูกชายของปรมจารย์ไป๋ไม่เลวเลย…”

ทุกคนคิดในใจในขณะที่พวกเขามองไปที่นกยักษ์ที่พุ่งลงไปหาอสูรกินเหล็กน้อยด้านล่างราวกับลำแสง

มันสามารถต้านทานได้ด้วยการเคลือบแข็งใช่ไหม?

มันไม่สามารถหลบได้อย่างแน่นอน

“มันไม่สามารถรับการโจมตีนี้ได้”

ในสนามประลอง สายตาของไป่ฉีเปล่งความมุ่งมั่นออกมาอย่างสุดขีด

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ราวับว่าร่างกายของเขากำลังสั่น

แม้แต่ปีกแห่งนภาที่บินไปหาอีเลฟเว่นก้อดไม่ได้ที่จะหยุด

ราวกับว่ามันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนักล่าชั้นยอดที่แผ่ออกมาจากอสูรกินเหล็กน้อยที่อยู่ด้านล่าง

“เกิดอะไรขึ้น?”

ในขณะนี้ ไม่มีใครตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของฉากนี้

แต่ในขณะที่อสูรกินเหล็กน้อยซึ่งไม่มีใครมองในแง่ดีก็ได้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่คู่ต่อสู้ของมัน ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป

บูม!!!

ฉากนี้ราวกับว่ามีคลื่นที่มองไม่เห็นแผ่ออกมาจากอสูรกินเหล็กน้อย!

ในขณะที่มันมองไปที่คู่ต่อสู้ของมัน อากาศรอบตัวอีเลฟเว่นก็เริ่มสั่นสะเทือน คลื่นการปราบปรามที่เกือบจะก่อตัวเป็นคลื่นโปร่งใสได้อยู่รอบตัวมัน ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างกะทันหัน

ในช่วงเวลาต่อมา คลื่นการปราบปรามที่น่าสะพรึงกลัวได้แผ่กระจายออกไปโดยตรงและกวาดไปทั่วลานประลองราวกับพายุ

บูม!

ปีกแห่งนภาก็ราวกับได้แตะต้องเขตแดนต้องห้ามทั้งที่มันยังไม่ได้สัมผัสกับอะไรเลย แต่ในชั่วพริบตานั้น ดวงตาของมันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งร่างกายของมันอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงราวกับว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัส มันตกลงมาจากท้องฟ้าโดยตรง!

ปัง!

ปีกแห่งนภาตกลงมาบนพื้นอย่างรุนแรง สีหน้าของไป่ฉีค่อยๆ เปลี่ยนแปลง

เพราะเขาไม่ต้องการต่อสู้กับพวกเขาทั้งแปดคน ซืออวี๋จึงแสดงการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในทันที

เขาเพียงแค่เอาชนะฝ่ายตรงข้ามในทันที คนอื่นก็สามารถท้าทายเขาได้หากพวกเขายังต้องการ

ในเวลาเดียวกัน นักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ทุกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้ก็ยืนขึ้นพร้อมกันและกล่าวด้วยความตกตะลึง

“ออร่าแห่งราชา การปราบปรามขั้นชำนาญ นี่เป็นไปได้ยังไงกัน!!!”

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด