นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 68
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 68
สองวันต่อมา
ริมเมอร์ยืนอยู่บนเวทีในสนามฝึกที่ห้า
เด็กฝึกหัดมองไปที่เขาด้วยตาที่เต็มไปด้วยความกังวลใจและความตื่นเต้น
"ฉันบอกเธอเป็นครั้งสุดท้าย อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ถ้าคิดว่ามันยากเกินไปก็อย่าลังเลที่จะถอยกลับมา”
"ครับ/ค่ะ!”
เขาจ้องมองที่ราอนที่ยืนอยู่ที่แถวแรก ราอนพยักหน้าให้เขา
"ไปได้แล้ว ปกติคงจะเดินทางกันเป็นเดือน แต่เราเปิดทางลัดให้แล้ว พวกเธอน่าาจะไปถึงในสองอาทิตย์ ขอให้พวกเธอโชคดีกับการต่อสู้”
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”
ริมเมอร์ปรบมือของเขาด้วยท่าทีสบายๆ เด็กฝึกหัดโค้งคำนับเขากับอาจารย์ผู้ฝึกสอน แล้วหันไปทางออก
"ตั้งแถวสี่แถว เราจะเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มแบบที่เราพึ่งได้คุยกันไป”
เด็กฝึกหัดย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ของตัวเองตามคำสั่งของราอน
"หึๆ”
ริมเมอร์ก็เฝ้าดูพวกเขาอยู่
'เขาให้แบ่งกลุ่มกันตามใจชอบงั้นเหรอ?’
ดูเหมือนเขาจะยังมีความเป็นเด็กอยู่ เขารู้สึกประหลาดใจที่ความสงบของเขา
'เขามักจะทำให้ฉันประหลาดใจ’
เขาไม่เคยเบื่อที่จะเฝ้าดูราอน ราอนมักจะทำให้ริมเมอร์รู้สึกตื่นเต้น
'สิ่งที่น่าแปลกใจมากที่สุดคือยานพมาลา’
ก่อนหน้านี้เขาเห็นราอนกินยาอมฤตที่ได้มาจากการเอาชนะมาร์ธา
หลังจากที่กินยาอมฤต ร่างกายจะถูกใช้งานอย่างหนัก จะต้องมีคนมาช่วยระหว่างการกินยาอมฤตเสมอเพื่อไม่ให้ร่างกายสูญเสียพลังไปมากเกินไป แต่ราอนกลับรับมือมันได้ด้วยตัวคนเดียว
'ถ้าแบบนี้พวกเขาก็คงไม่เป็นอะไรหรอก’
ราอนมีความสามารถพิเศษในการรับรู้ เขาได้พิสูจน์ให้เห็นในระหว่างการต่อสู้กับสนามฝึกที่หกแล้ว เขาจะพาเด็กๆ ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน
"เตรียมเสร็จแล้วครับ”
ราอนวิ่งมาบอกริมเมอร์ ดวงตาที่สงบของเขาไม่ได้มีสัญญาณของความตื่นเต้นหรือความกังวลใจใดๆ
'เขาอายุสิบห้าปีจริงเหรอเนี่ย...'
ริมเมอร์พยักหน้า
"โชคดีนะ”
"ครับ"
ราอนตอบและเดินนำเหล่าเด็กฝึกหัดออกจากสนามฝึกไป
“……”
ริมเมอร์มองตามหลังเด็กๆ ที่อยู่ในการดูแลของเขามากว่าสามปี
เมื่อเด็กฝึกหัดออกไปหมดแล้ว อาจารย์คนอื่นก็เข้ามาหาเขา
"หัวหน้าริมเมอร์ คุณจะรีบตามไปใช่หรือเปล่า?”
"ยังหรอก”
ริมเมอร์ส่ายหัว เขาหาวแล้วนวดคอตัวเอง
"เด็กคนนั้นดูแลคนอื่นๆ ได้อยู่แล้ว ฉันขอไปงีบก่อนละกันนะ”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นไปที่ห้องพักของตัวเอง
"เอ่อ..."
"ได้เหรอนั่น?”
"หรือเราจะแอบตามเด็กๆ ไปด้วยดีมั้ย?”
ริมเมอร์ลอบยิ้ม แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ผู้ฝึกสอนพูด
'พวกเขาดูแลกันเองได้อยู่แล้ว กังวลเรื่องของพวกออร์คแทนเถอะ’
***
ราอนเดินอยู่ด้านหน้า เด็กฝึกหัดมีทั้งหมดสี่สิบสองคน พวกเขาแบ่งกลุ่มกันเป็นสามกลุ่ม
กลุ่มแรกคือกลุ่มของเบอร์เรนและเด็กสายรองที่ยอมรับเขา เด็กสายรองยอมติดตามเบอร์เรนในฐานะที่เขาเป็นเจ้านายของพวกเขา
กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มของลูกขุนนางที่ไม่ถูกกับเด็กสายรองกลุ่มแรก แต่รูนันที่เป็นหัวหน้ากลุ่มของพวกเขากลับมาเดินข้างราอน
กลุ่มที่สามคือเด็กที่มาจากครอบครัวธรรมดา พวกเขาติดตามราอนซึ่งเป็นคนที่คอยช่วยเหลือพวกเขาตั้งแต่การฝึกซ้อมช่วงแรกๆ
แล้วก็ยังเหลือมาร์ธา ที่ไม่ยอมเข้าพวกกับใครเลย
หลังจากมองสำรวจแต่ละคนแล้ว ราอนก็หลับตา
ราอนไม่ได้ใส่ใจความคิดของคนอื่นอยู่แล้ว
เขาไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถอยู่ภายใต้ชื่อซีกฮาร์ทตลอดไปได้ เขากำลังจะออกจากตระกูลนี้หลังจากที่ซิลเวียได้รับตำแหน่งสายตรงกลับมา
อย่างไรก็ตาม
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เขาเข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดทำให้เขารู้ว่ามันไม่ได้มีแค่นั้น
เขาได้ใช้เวลาร่วมกันกับเด็กคนอื่นๆ นั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกผูกพันธ์
'และคำพูดของท่านแม่...’
เสียงของซิลเวียที่บอกให้เขาทำตัวเหมือนหัวหน้าตระกูลซีกฮาร์ทคนแรก ยังคงสลักอยู่ในหัวใจของเขา
'มันเป็นไปได้ยาก’
อาจเป็นเพราะเขาเคยเป็นนักฆ่า การดูแลคนอื่นจึงเป็นเรื่องยากกว่าการฆ่าและทำลายศัตรู
"เราจะพักกันที่นี่”
ราอนหยุดอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ขนาดหกคนโอบ ทุกคนทิ้งสัมภาระและนั่งลงพิงหลังของพวกเขากับต้นไม้
"ฉันมีอะไรจะบอก”
ขณะที่เด็กคนอื่นกำลังดื่มน้ำและพักหายใจ เขาก็ลุกมายืนอยู่ด้านหน้า
"บางคนอาจไม่ชอบฉัน แต่ตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้าของพวกเธออยู่”
บางคนกำหมัด บางคนพยักหน้า บางคนก็มองนิ่งๆ
"ฉัรรู้ว่าบางคนไม่ได้จริงจังกับภารกิจครั้งนี้ แต่ถึงยังไงความประมาทก็จะทำให้เธอหรือคนรอบตัวเสียชีวิต.”
“อืม…”
เด็กฝึกหัดที่มีความคิดเช่นนั้นก้มหัวด้วยความอับอาย
"เราไม่สามารถรู้อนาคตได้ ดังนั้นอย่าทำตัวหุนหันพลันแล่น และช่วยทำตามคำสั่งของฉันด้วย”
"อึ้อ”
"โอเค!”
รูนันและเด็กจากครอบครัวธรรมดาตอบเสียงดังฟังชัด มาร์ธาและเด็กจากครอบครัวขุนนางพยักหน้า
“……”
เด็กสายรองยังคงพยายามอ่านใจเบอร์เรน
"แน่นอนสิ”
เบอร์เรนตอบและเทน้ำราดหัวตัวเอง
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันยอมรับนายในฐานะผู้นำแล้ว ฉันจะทำตามคำสั่งของนายตราบใดที่มันฟังดูสมเหตุสมผล แต่ฉันจะไม่ทำเด็ดขาดถ้ามันทำให้ชื่อเสียงซีกฮาร์ทแย่ลง ”
"แล้วชื่อเสียงของซีกฮาร์ทคืออะไรสำหรับนาย?”
"เกียรติยศของนักดาบ ช่วยเหลือผู้อ่อนแอ, ใช้ความแข็งแกร่งอย่างเหมาะสม, และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ นักดาบของซีกฮาร์ทจะไม่แสดงกิริยาใดๆ ที่น่าละอาย”
“……”
ราอนสบสายตาของเบอร์เรน
"ฉันรู้ ตอนนั้นฉันสู้กับนายเพราะอิจฉาแล้วก็ไม่ยอมรับผลลัพธ์ ฉันรู้ตัวมานานแล้ว และฉันจะบอกนายอีกครั้งว่า ฉันจะไม่แสดงพฤติกรรมที่น่าอับอายแบบนั้นอีก”
เบอร์เรนชกอกตัวเอง ดวงตาสีเขียวของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เขากล้ายอมรับความผิดพลาดของตัวเองหน้าคนจำนวนมาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กสิบห้าปีจะกล้าทำได้ง่ายๆ
"เข้าใจแล้วล่ะ”
ราอนพยักหน้า ถึงขนาดนี้เขาก็คงสามารถไว้วางใจเบอร์เรนได้แล้ว ราอนดื่มน้ำแล้วลุกขึ้น
"ไปกันต่อได้แล้ว”
* * *
* * *
เบอร์เรนมองไปที่แผ่นหลังเล็กๆ ของราอนที่เดินนำพวกเขาไปตามทางที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ
ร่างกายของเขามีขนาดพอๆ กับเด็กทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับเด็กฝึกหัดด้วยกันแล้วเขาตัวเล็กมากๆ
'ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น..'
ร่างกายของราอนเทียบกับใครในที่นี้ไม่ได้เลย แต่กลับแข็งแกร่งได้ขนาดนั้น...
เบอร์เรนรู้สึกเจ็บปวด
ราอนแทบไม่เคยแสดงความเหนื่อยออกมาเลย
ตอนนี้พวกเขาต้องอดทนกับความหนาวเย็นและอ่อนเพลีย แต่ราอนก็นำทุกคนเดินหน้าต่อไปโดยไม่แสดงความอ่อนเพลียออกมา นั่นทำให้เด็กฝึกหัดมีความมั่นใจและมีกำลังใจมากขึ้น
'ถ้าเขาเดินทางคนเดียวเขาคงจะไปถึงนานแล้วมั้ง'
ราอนมักจะคอยเฝ้าระวังในตอนกลางคืนแม้จะต้องเป็นคนนำทางด้วยก็ตาม เขาแทบไม่ได้นอนพักเลย
'เขาน่าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก’
เวลาผ่านมาตั้งครึ่งปีแล้วจากการฝึกซ้อมกลุ่มครั้งนั้น เบอร์เรนไม่แน่ใจระดับของเขาในตอนนี้แต่เขาน่าจะไปถึงระดับนักดาบขั้นสูงหรืออาจจะสูงสุดแล้วก็ได้
พูดตามตรงว่าในตอนนี้เขาคงไม่มีทางเอาชนะราอนได้เลย
'แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอก’
เบอร์เรนจับดาบแน่น
เขาจะต้องไล่ตามราอนให้ทันในสักวันหนึ่ง
'รอฉันก่อนเถอะราอน’
***
หลังคาสีรุ้งคือความภาคภูมิใจของหมู่บ้านเซบู
ราอนและเด็กฝึกหัดใช้เวลาเดินทางสองอาทิตย์ก็มาถึงหมู่บ้านเซบู พวกเขากำลังมองลงมาที่หมู่บ้านจากบนเนินเขา
"อยู่ตรงนั้นไง”
“ในที่สุด...”
"เฮ้อ... ในที่สุดเราก็จะได้นอนหลับกันดีๆ สักที”
เด็กฝึกหัดยิ้มดีใจและทุบไหล่ทุบหลังของตัวเอง
"หมู่บ้านเซบู..."
เขาพึ่งจะรู้จักที่นี่ตอนได้รับภารกิจและเขาก็หาข้อมูลมาบ้างแล้ว มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชาวบ้านส่วนมากทำการเกษตร นานๆ ทีจะมีคนจากภายนอกมาเยี่ยมเยียนที่นี่
โดยปกติที่หมู่บ้านนี้ก็มีสัตว์ประหลาดมารุกรานทุกๆ สองสามปีอยู่แล้ว ชาวบ้านจึงไม่ได้ตื่นกลัวกันมากนัก และยังมีกำแพงไม้อยู่รอบๆ หมู่บ้านที่ป้องกันไม่ให้พวกสัตว์ประหลาดบุกเข้ามาด้านใน
"ไปกันเถอะ”
ราอนพยักหน้าหลังจากมองไปรอบๆ หมู่บ้าน
"โอเค!”
ทุกคนเดินลงไปตามราอน
'หืม?'
ราอนหรี่ตามอง
'อะไรน่ะ?’
อยู่ๆ เขารู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา เขารู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาทางเขา
'อาจารย์เหรอ? ...ไม่ใช่นี่นา?’
มันเป็นความรู้สึกที่น่าขนลุกที่มาจากคนที่พยายามเก็บข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา
'ไม่มีใครรู้ตัวเลยเหรอ?’
เด็กฝึกหัดมัวแต่สนใจกับภารกิจตรงหน้า แม้แต่เบอร์เรน มาร์ธาและรูนันก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
'แต่ก็ไม่แปลกหรอก’
มันเป็นความรู้สึกจางๆ ที่ขนาดราอนยังแทบไม่รู้สึก มันคงจะแปลกถ้าเด็กฝึกหัดสัมผัสมันได้
ราอนยังเดินต่อไปทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่สามารถหาตำแหน่งที่ชัดเจนได้เพราะการรับรู้ของเขายังอ่อนเกินไป
'ฉันไม่รู้อะไรเลย’
ราอนไม่สามารถระบุได้ว่าคนที่จับตามองพวกเขาอยู่เป็นคนจากตระกูลหรือเป็นศัตรูกันแน่
ราอนเดินลงจากภูเขาโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ ราอนจงใจเดินช้าๆ แล้วในที่สุดความรู้สึกที่ถูกจ้องมองก็หายไป
ดูเหมือนว่าเขาคงกลับไปรายงานกลุ่มของเขาแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาของราอน
วืด!
ราอนสร้างชั้นพลังเก็บเสียงขึ้นมาล้อมรอบเด็กฝึกหัด แล้วหันมาหาเบอร์เรน
"เบอร์เรน”
"อะไร?”
เบอร์เรนเงยหน้าขึ้นมองเขา
"ครั้งนี้นายจะต้องเป็นตัวแทนเด็กฝึกหัด และเป็นคนออกคำสั่งแทนฉัน”
"พูดอะไรของนาย...?”
"ฉันกับรูนันทำผลงานในภารกิจแรกไปแล้วคราวนี้ก็เป็นตาของนาย แสดงให้ฉันเห็นในสิ่งที่นายเคยพูดสิ”
"นายหมายถึง?"
"ที่บอกว่าจะเป็นนักดาบที่เหมาะสมกับชื่อซีกฮาร์ทไง”
“อืม…”
เบอร์เรนกัดริมฝีปาก เขาขมวดคิ้วคิดอย่างจริงจัง
เด็กฝึกหัดคนอื่นๆ พยายามเงี่ยหูฟังและใช้สายตาของพวกเขามองมาที่ราอนและเบอร์เรน
"...ก็ได้”
เบอร์เรนพยักหน้า ความลังเลได้หายไปจากดวงตาของเขา
"ฉันจะแสดงให้นายเห็นเอง เราไปกันต่อเถอะ!”
"ครับ/ค่ะ!”
เขาตะโกนออกมาเสียงดัง สีหน้าของเด็กสายรองที่ตามเบอร์เรนก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวาขึ้นมา
"ได้ยินเหมือนกันใช่มั้ย?”
"ใช่!”
กลุ่มของราอนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
"รูนัน”
"อื้อ”
รูนันเข้าใจในทันทีและมองไปที่ลูกขุนนางที่อยู่ในกลุ่มของเธอ
“อืม…”
"พวกเราเข้าใจแล้ว”
เด็กจากครอบครัวขุนนางขมวดคิ้วไม่พอใจกับการที่เบอร์เรนได้เป็นคนออกคำสั่ง แต่ก็พยักหน้า
"มาร์ธา เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังแต่ตอนนี้ให้เบอร์เรนเป็นหัวหน้าของพวกเราไปก่อน”
ราอนหันไปมองมาร์ธาซึ่งยืนอยู่ข้างๆเขา เธอมองกลับมาที่ราอนด้วยสายตาเยือกเย็น
"ไม่ต้อง ฉันต้องทำตามคำสั่งของนายอยู่แล้วแต่ฉันจะรอดูผลลัพธ์ละกัน”
มาร์ธาพูดและเดินไปหาเบอร์เรน
ไอ้เด็กนั่นมันเปลี่ยนไปซะที่ไหนกัน?
น้ำเสียงของราธค่อนข้างไม่พอใจ
อวดดีเหมือนเดิม!
ราธยังคงโกรธเกลียดทุกอย่างรอบตัวมัน ยกเว้นของกิน
'เมื่อกี้...แกก็สัมผัสได้เหมือนฉันใช่ไหม?’
เจ้าก็ด้วยเหรอ? แต่ก็นะ...ถ้าเจ้าเอาความสามารถของข้าไปแล้วยังสัมผัสสิ่งนั้นไม่ได้ก็กัดลิ้นตัวเองตายไปซะเถอะ
'พวกเขาแอบอยู่ตรงไหน? แล้วมากันกี่คน?’
คิดว่าข้าจะยอมบอกตำแหน่งของเขางั้นรึ
''เขา'งั้นเหรอ แสดงว่ามีคนเดียวล่ะสิ’
ฮะ?
'แกหลุดปากออกมาแล้ว’
เจ้า…!
ราธโกรธจนตัวสั่น
'แต่ปัญหาก็คือ....'
ราอนไม่รู้ว่าพรรคพวกของเขามีกี่คนและใครส่งพวกเขามา ราอนคงไม่สามารถทำตัวผ่อนคลายได้จนกว่าจะรู้เรื่องนี้
"อืม..."
ราอนเลียริมฝีปากและมองไปที่รั้วไม้ของหมู่บ้านเซบู
'ภารกิจนี้คงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด’