1101 - กลับสู่ตงหวง
1101 - กลับสู่ตงหวง
ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณนั้นน่ากลัวจริงๆ ทุกครั้งที่โลกประสบกับความวุ่นวายร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณจะถือกำเนิดขึ้นเสมอ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของเย่ฟ่านในตอนนี้ยังห่างไกลจากการบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อีกมาก
แล้วเหตุใดเขาจึงกล้าสังหารจื่อเทียนตูและทำให้หุบเขาเทพอับอาย ในตอนแรกทุกคนเกิดความสงสัย แต่เมื่อได้ยินประโยคของเย่ฟ่านทุกคนก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงเหตุผลบางอย่าง
“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าจึงสามารถเดินทางข้ามทะเลดวงดาวอันยิ่งใหญ่และกลับมาที่นี่โดยใช้เวลาเพียงสิบสองปีเท่านั้น เป็นเพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรายังมีเซียนผู้ยิ่งใหญ่กำลังท่องอยู่ในจักรวาลอันมืดมิดนั้น พวกเจ้าก็รู้จักเขาเช่นกัน เขาคือจักรพรรดิผู้บ้าคลั่ง และเขาคือคนที่ส่งข้ากลับมาที่นี่”
คำพูดนี้สั่นสะเทือนจิตใจของผู้คนอย่างรุนแรง
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ แต่ข่าวนี้เพียงพอที่จะสั่นสะเทือนจิตใจของผู้คนอย่างรุนแรง
“หุบเขาเทพของเจ้านับเป็นอะไรได้ พวกเจ้าอยากครองโลกแต่กลับมุดหัวมุดหางอยู่แต่ในรังของตัวเอง เมื่อวันที่จักรพรรดิผู้บ้าคลั่งกลับมาหุบเขาเทพจะถูกกวาดล้างออกไปจากโลกนี้!”
นี่เป็นคำพูดอันเย่อหยิ่งของเย่ฟ่าน ซึ่งทำให้หลายคนไม่สามารถพูดอะไรได้
การตั้งตัวเป็นศัตรูกับหุบเขาเทพย่อมไม่แตกต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย
อย่างไรก็ตาม ในวันนั้นเอง เย่ฟ่านได้แสดงภาพรอยประทับความทรงจำของเขาเหนือเมืองจูเชวียให้คนทั้งโลกได้เห็นเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของตัวเอง
ชายชราผู้บ้าคลั่งต่อสู้กับเรือของราชาโบราณหลายสิบคนเพียงลำพัง!
หมัดแต่ละหมัดทำให้ร่างกายของผู้อมตะแตกเป็นเสี่ยง เขาสังหารอสูรพันมือและราชาโบราณหลายคนอย่างง่ายดาย!
ไม่รู้ว่ารอยประทับนี้เป็นความจริงหรือไม่ แต่มีคนแบบคัดลอกรอยประทับเหล่านี้และแพร่กระจายไปยังดินแดนทางตอนเหนือ เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดที่เห็นเหตุการณ์เกิดความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด!
“พวกเขาเอง ผู้เป็นปรมาจารย์สูงสุดในอดีต ในคนเหล่านี้ยังมีสุดยอดผู้ไม่ดับสูญถึงสามคน…”
แน่นอนว่าราชาโบราณหลายคนตื่นขึ้นจากการที่พวกเขาสัมผัสได้ถึงรัศมีของเรือโบราณลำนั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาตื่นขึ้นช้าเกินไปทำให้ไม่มีโอกาสขึ้นไปบนเรือรบทองแดงไปด้วย
“มีราชาโบราณมากมายที่ถูกฆ่าโดยเซียนมนุษย์เพียงคนเดียว? จากที่เห็นแม้ว่าชายคนนั้นจะยังไม่บรรลุเต๋าผู้ยิ่งใหญ่แต่เขาก็ต้องเป็นเสมือนจักรพรรดิอย่างแน่นอน!”
เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดที่มองเห็นเหตุการณ์นี้ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด!
พวกเขามองเห็นเพียงการต่อสู้ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโดยไม่รู้ว่าในความเป็นจริงชายชราผู้บ้าคลั่งหมดเรี่ยวแรงแล้ว พวกเขามองเห็นแค่ชายชราผู้บ้าคลั่งบดขยี้ราชาโบราณด้วยหมัดหกสังสารวัฏอย่างง่ายดาย
เรื่องนี้สั่นสะเทือนจิตใจและทำให้เผ่าพันธุ์โบราณหลายแห่งไม่กล้าออกความเห็น
“หุบเขาเทพพวกเจ้าก็แค่กลุ่มคนไร้ยางอาย หากมีความกล้าก็ออกมาต่อสู้กับข้า!” ในขณะนี้เสียงของเย่ฟ่านก็ดังขึ้นในหนานหลิงอีกครั้ง
“เย่จื่อน้อยท่าทางของเจ้ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง แต่เจ้ามีปัญญาสังหารพวกเขาจริงๆ หรือ?”
หลี่เหอซุยเกิดความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด การได้ดูถูกหุบเขาเทพแบบนี้ทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ ยังไม่พอ ต้องมีจักรพรรดิที่แท้จริงปรากฏตัวออกมา ข้าอยากไปตงหวง ข้าจำเป็นต้องค้นหาร่องรอยของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เพื่อพิสูจน์เต๋าของตัวเอง!” เย่ฟ่านกล่าว
…
ชายชราผู้บ้าคลั่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว? ทุกคนตกตะลึง พวกเขาสาปแช่งราชวงศ์โบราณและเรียกหุบเขาเทพว่าเป็นพวกขี้ขลาด
การปรากฏตัวของชายชราผู้บ้าคลั่งทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีกำลังใจขึ้นมา ในระหว่างนี้พวกเขาเริ่มปฏิบัติต่อเผ่าพันธุ์โบราณด้วยความเป็นศัตรูตามไปด้วย
เมื่อหวังเถิงรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาก็ต้องตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ว่าอดีตเขาจะหยิ่งผยองแค่ไหน เขาก็ไม่มีความกล้าที่จะทำแบบเย่ฟ่านอย่างแน่นอน
บนหน้าผา ฮั่วอวิ๋นเฟยยืนเงียบๆ เป็นเวลานาน โดยยังคงไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาถามตัวเองเสมอและเชื่อมั่นว่าตัวเขาคือยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามความกล้าหาญของเขากลับเทียบเย่ฟ่านไม่ได้
น้ำตกศักดิ์สิทธิ์ตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับน้ำตาแห่งสวรรค์ พื้นที่หลายพันวาถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาว บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเหยากวงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเงียบๆ
ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของภาคเหนือ นักพรตมังกรแดงที่ร่างกายสกปรกโสโครกผมเผ้ายุ่งเหยิง เขาดื่มสุราคำใหญ่แล้วตะโกนเสียงดัง
“ทำได้ดีมาก หุบเขาเทพก็เป็นเพียงสถานที่รวมตัวกันของเศษสวะเท่านั้น!”
ผู้คนรอบข้างต่างหวาดกลัว นักพรตมังกรแดงกล้าที่จะพูดแบบนี้จริงๆ!
ผู้คนมากมายต่างแยกย้ายกันหลบหนีด้วยความกลัว พวกเขาไม่ได้เก่งกาจเหมือนนักพรตมังกรแดง ดังนั้นการอยู่ที่นี่เพื่อฟังคำพูดของเขาไม่มีประโยชน์ใดๆกับตัวเองทั้งสิ้น
บนภูเขาหงส์เพลิงร่วงหล่นของภาคเหนือในตงหวง ในเวลานี้มีคนสองคนนั่งสมาธิอยู่บนยอดเขา คนหนึ่งสงบนิ่งเหมือนก้อนหิน ราวกับนั่งอยู่ตรงนี้มานานหลายพันปีแล้ว ผ่านไปนานจึงลืมตาขึ้นแล้วกล่าวว่า
“ชีวิตของข้าดำรงอยู่เพื่อเต๋าเท่านั้นและไม่สนใจสิ่งอื่นใด”
ด้านข้างของเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีทั้งตัว เขามีใบหน้าหล่อเหลาชนิดที่ทำให้หญิงสาวทั่วโลกต้องเกิดความอับอาย เมื่อได้ยินคำพูดนี้เขาก็ลุกขึ้นยืนและถอยกลับอย่างเงียบๆ
จนกระทั่งเขากำลังจะออกจากยอดเขาเขาจึงหันไปกล่าวว่า
“หวงซูเต๋าถ้าเจ้าต้องการเป็นเต่าหดหัวอยู่ที่นี่ขอเชิญอยู่ไปคนเดียว อีกไม่นานข้าจะนำหัวของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมาเซ่นสังเวยเส้นทางแห่งการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เอง”
ในระยะไกล ข้ารับใช้ผู้เฒ่าคนหนึ่งกำลังรออยู่
ชายหนุ่มรูปงามก้าวไปข้างหน้าอย่างเย็นชาและกล่าวเบาๆว่า
“เส้นทางแห่งการเป็นจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่มีแต่ต้องช่วงชิงมาด้วยตัวเอง หากคิดจะทำตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่ที่นี่เจ้าก็จะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น”
ข้ารับใช้ที่แก่ชราก้มตัวลงและกล่าวว่า “นายน้อยต้องการไปที่ใด”
“ไปฆ่าร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ วาจาไร้สาระของเขามากเกินไปแล้ว”
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีห่อหุ้มร่างกายของชายหนุ่มรูปงามบินออกจากภูเขาหงส์เพลิงร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว
นับตั้งแต่ข่าวที่ชายชราผู้บ้าคลั่งสังหารราชาโบราณมากมายนับไม่ถ้วนแพร่กระจายออกไป โลกก็เกิดความปั่นป่วนและไม่สงบ ภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้บ่มเพาะชาวมนุษย์จำนวนมากรู้สึกหลงระเริงและเริ่มโจมตีเผ่าพันธุ์โบราณโดยปราศจากความเกรงใจอีกต่อไป
สิ่งที่โลกไม่รู้ก็คือภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกหลังจากที่เย่ฟ่านเข้าสู่ตงหวง
ชายชราผู้บ้าคลั่งตายไปแล้ว เย่ฟ่านเพียงหลอกลวงผู้คนทั้งโลกเท่านั้น และวันนี้เขากลับสู่ตงหวงก็เพราะต้องการสร้างเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่เพื่อตอกย้ำคำพูดของตัวเอง
หลี่เหอซุยและตงฟางม่านเดินทางไปพักที่ตระกูลจี้ร่วมกับสองพี่น้อง
สิ่งที่เย่ฟ่านกำลังจะทำคือการออกเดินทางเพียงลำพัง เขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ร่องรอยของเขา แน่นอนว่าการลงมือเพียงลำพังย่อมมีความคล่องตัวมากกว่า
จุดแรกเขามาถึงหน้าผาศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาอมตะ เย่ฟ่านยืนอยู่นอกภูเขาอันมืดมิดนี้เป็นเวลานาน เขาอยากจะเข้าไปข้างในแต่ไม่สามารถเดินฝ่าสถานที่อยู่อาศัยของศัตรูนับไม่ถ้วนได้
ในส่วนที่ลึกที่สุดของภูเขามีหน้าผาหินเปื้อนเลือด ในอดีตร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าเฉิงถูกฝังอยู่ที่นี่ ความตายของเขาทำให้เกิดสิ่งลี้ลับมากมายขึ้นกับหน้าผาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“ในตอนนั้นแม้ว่าข้าจะรอดชีวิตได้อย่างหวุดหงิดแต่ก็ยากที่จะกลับเข้าไปข้างในได้”
สุดท้ายเย่ฟ่านก็จากไป
ภาคเหนือแห่งตงหวงนั้นกว้างใหญ่ โดยดินแดนส่วนมากปกคลุมไปด้วยทะเลทรายสีแดงยาวไกลหลายแสนลี้
หลังจากห่างหายไปนานกว่าสิบปี เย่ฟ่านก็ก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความตายนี้อีกครั้ง ความรู้สึกของเขาค่อนข้างสับสนปนเป หลังจากเดินทางเป็นเวลานานหลายปีในที่สุดเขาก็ทำลายคำสาปของร่างศักดิ์สิทธิ์เทียนโบราณได้
เย่ฟ่านไม่รอช้าเขารีบเดินทางไปยังสถานที่ซ่อนตัวของราชามังกรเขียว สิ่งที่เขาต้องการคือซากศพของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณที่ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่คนนั้น
นี่คือโลกใบเล็กที่มีรัศมีหลายร้อยลี้ มันไม่กว้างใหญ่นัก เป็นดินแดนที่ถูกสร้างขึ้นโดผู้ยิ่งใหญ่บางคน
ในอดีตเย่ฟ่านมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือผังป๋อ แต่ตอนนี้เขากลับมาอย่างลับๆ โดยปลอมตัวเป็นอสูรโบราณ เขาไม่อยากจะเปิดเผยข่าวของตัวเองออกไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เย่ฟ่านไม่คาดคิดก็คือราชามังกรเขียวได้ล่วงลับไปแล้วเมื่อสองปีก่อนและศพของเขาก็ถูกฝังอยู่ในหนองน้ำในโลกใบนี้
…….