1100 - จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะกลับมา 

1100 - จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะกลับมา

ดวงตาของหลี่เหอซุยเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเมื่อเขากล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาไม่ได้เมื่อกล่าวถึงหลี่เหิงปู่ของเขาที่พยายามช่วยเหลือทุกคนจนร่างถูกตอกตรึงด้วยทวนศักดิ์สิทธิ์ของสองนักฆ่าโบราณ

“ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะตัดศีรษะของพิภพและอเวจีด้วยมือของตัวเอง จากนั้นข้าจะเหยียบย่ำศาลสวรรค์ให้แหลกเป็นชิ้นๆ!” เขากัดริมฝีปากจนเลือดไหลซึมออกมา

คนตายไม่อาจฟื้นคืนชีพได้ ดังนั้นเย่ฟ่านจึงทำได้เพียงปลอบโยนหลี่เหอซุยและกล่าวว่า

“ข้าต้องการสร้างนิกายของตัวเองขึ้นมา เจ้าต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้หรือไม่”

“เจ้าต้องการที่จะสร้างนิกาย ชื่อของมันคืออะไร?” ชายชราที่อยู่ไม่ไกลถาม

“สวรรค์!” เย่ฟ่านพ่นคำนี้ออกมา

“เป็นชื่อที่ดีและน่าประทับใจ เอะ ไม่สิ มันฟังดูคุ้นๆ นะ นี่มัน…” ชายชราคนเถื่อนอีกคนดูแปลกไป

“ถูกต้อง มันคือสวรรค์เดียวกันกับศาลสวรรค์ ใช้การฆ่าเพื่อหยุดการฆ่า เราจะใช้สวรรค์นี้กวาดล้างศาลสวรรค์ออกไปจากโลกให้ราบคาบ” เย่ฟ่านกล่าวอย่างสงบ

“วันหนึ่งเมื่อสวรรค์ได้รับการจัดระเบียบใหม่ ข้าจะร่วมมือกับเจ้าเพื่อทำลายศัตรูทั้งหมด!” หลี่เหอซุยตอบ

ต่อมา พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หยวนกู่น่ากลัวมากไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ เมื่อเขาโจมตีหากราชาผู้ยิ่งใหญ่ไม่ปรากฏตัวขึ้นทุกคนจะถูกสังหารทันที

หยวนกู่มีความปรารถนาอยู่ที่ทักษะจักรพรรดิอสูรเก้าบาดแผลและต้องการยึดครองมันให้ได้

แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเหลวเพราะถูกขัดขวางจากนักพรตมังกรแดงผู้ประสบความสำเร็จในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ชั้นสามของเซียนเทียมและกลายเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่

“ในที่สุดนักพรตมังกรแดงก็กลายเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ…” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง

ไม่ไกลนักชายชราจากเผ่าคนเถื่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ถ้าไม่ใช่เพราะโลกนี้เกิดความผิดปกติ จะมีราชาเพียงไม่กี่คนในโลกได้อย่างไร สำหรับเซียนอมตะนั้นยิ่งแทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย”

“โชคดีที่โลกเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าเชื่อว่าในตอนที่สิ่งมีชีวิตโบราณตื่นขึ้นมาทั้งหมดโลกของเราก็จะเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอมตะเช่นกัน” อีกคนกล่าว

เย่ฟ่านวางแผนที่จะกลับไปตงหวงเพื่อค้นหาสนามรบที่สหายของเขาถูกฆ่าตาย เขาต้องการดูให้เห็นกับตาว่าสหายของเขาทุกคนตายแล้วจริงๆ

“ไม่จำเป็นต้องมองหาจักรพรรดิดำข้าเห็นด้วยตาตัวเองว่าเขาถูกทุบตีเป็นชิ้นๆ โดยที่เลือดเนื้อสาดกระจายออกไปทุกที่”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ หลี่เหอซุยก็กำหมัดแน่นจนข้อนิ้วของเขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน

นอกจากหวังเถิง ฮั่วอวิ๋นเฟยและคนอื่นๆ แล้ว ยังมีกลุ่มชายที่แข็งแกร่งลึกลับกลุ่มหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบตัวตน

ครั้งหนึ่งพวกเขาบุกเข้าไปในยอดเขาไท่ซวนเพื่อสังหารจางเหวินฉางและยังซุ่มโจมตีหลิวอี่อี้ที่ออกจากทะเลสาบหยก

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่แต่ความแข็งแกร่งที่คนเหล่านี้แสดงออกมานั้นสามารถบอกได้คำเดียวว่าทรงพลังอย่างแท้จริง

นี่คือกลุ่มคนที่ไล่ล่าอู๋จงเทียนและเจียงฮ่วยเหริน พวกเขาสังหารจักรพรรดิดำและบดขยี้ร่างสุนัขนั้นจนกลายเป็นเนื้อบด

“สหายของข้า…”

เย่ฟ่านแค่นเสียงอย่างเย็นชา คนเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่สหายของเขาทุกคน เห็นได้ชัดว่ามีความแค้นกับเขาอย่างลึกซึ้ง

“ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่วานรเป็นอย่างไรบ้าง หากไม่ได้รับความช่วยเหลือของเขาพวกข้าคงตายไปหลายครั้งแล้ว”

เมื่อกล่าวถึงวานรศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนก็กังวลเล็กน้อย ไม่มีข่าวคราวของเขาเป็นเวลานาน เขาถูกไล่ล่าโดยยอดฝีมือที่เป็นผู้ติดตามของหยวนกู่ซึ่งทำให้ทุกคนกังวลใจเป็นอย่างมาก

เย่ฟ่านกล่าวว่า “ตามหาทุกคนก่อน ในระหว่างนั้นหากพวกเราเข้าใกล้ศัตรูคนใดก็ถือโอกาสสังหารพวกมันไปด้วย”

ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ผู้คนมากมายบนโลกสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่กดดันอย่างหนัก สิ่งมีชีวิตโบราณหลายตัวเริ่มออกจากฐานที่ตั้งและท่องไปทั่วโลก

ในที่สุดก็มีข่าวมาจากดินแดนทางเหนือว่าบรรพชนราชาโบราณตื่นขึ้นจากการหลับไหล นี่คือสิ่งมีชีวิตอมตะเมื่อหลายล้านปีก่อน พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาน่าหวาดหวั่นถึงที่สุด

หดหู่!

กดดัน!

หายใจไม่ออก!

นี่คือความรู้สึกร่วมกันในหมู่มนุษย์ผู้มีอำนาจของโลกอำพรางสวรรค์ ราชาบรรพชนโบราณคือสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริง ความแข็งแกร่งของเขาไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดในโลกนี้สามารถเปรียบเทียบได้

ในช่วงเวลานี้เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังตกต่ำอย่างถึงที่สุด นอกจากอาวุธเต๋าสุดขั้วที่อยู่ในมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งแล้ว พวกเขาแทบไม่มีสิ่งใดใช้ต่อต้านราชาโบราณคนนี้เลย

ผู้มีอำนาจในโลกอำพรางสวรรค์เพียงหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ไม่เช่นนั้นเมื่อสงครามเกิดขึ้นนอกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วแล้ว มหาอำนาจอื่นของโลกมนุษย์หากไม่ย้ายข้างก็จะต้องถูกกวาดล้างออกไปทั้งหมด

ในวันนี้ หุบเขาเทพในเขตภาคเหนือของตงหวงสว่างไสวไปด้วยความงดงาม สิ่งมีชีวิตโบราณส่งข้อความไปยังโลกภายนอก ข้อความนั้นสั่นสะเทือนภูเขา แม่น้ำ และแผ่นดิน ราวกับเสียงคำรามของสวรรค์

“เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบ ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณจงมาคุกเข่ายอมรับความผิดที่ด้านหน้าของภูเขาเทพภายในเจ็ดวัน!”

หลังจากเสียงที่โหดเหี้ยมนี้ดังออกมา โลกทั้งใบก็ตกตะลึง ราชาโบราณแห่งภูเขาเทพกำลังสร้างความกดดันไปทั่วโลกเพื่อบีบบังคับให้เย่ฟ่านประสบกับความตาย

“ใครก็ตามที่กล้าปกป้องร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครหรือมีพลังแบบไหน พวกมันจะถูกถอนรากถอนโคนทั้งสิบแปดรุ่น”

หุบเขาเทพแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว นี่คือเสียงของพวกเขา ในฐานะหนึ่งในราชวงศ์โบราณที่ทรงพลังที่สุด คำสั่งของพวกเขาไม่แตกต่างอะไรจากอาญาสิทธิ์แห่งสวรรค์

นี่เป็นการบังคับขู่เข็ญอันทรงพลังซึ่งมุ่งตรงไปที่คนเถื่อนแห่งหนานหลิง นี่คือหุบเขาเทพแห่งราชวงศ์โบราณ คำพูดของสิ่งมีชีวิตอมตะถือเป็นจุดสิ้นสุด

ตอนนี้พวกเขาแสดงท่าทีที่ชัดเจนแล้ว ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณต้องตาย ในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะถือโอกาสกวาดล้างกลุ่มคนเถื่อนแห่งหนานหลิงออกไปจากโลกด้วย

โลก “อำพรางสวรรค์” เงียบงัน ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดว่าการผงาดขึ้นของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณจะทำให้มนุษย์สามารถลืมตาอ้าปากได้สักที

แต่แล้วสิ่งมีชีวิตโบราณระดับผู้อมตะกลับตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน เรื่องนี้ทำให้ผู้คนเกิดความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด

“เจ้าไม่สามารถปรากฏตัวออกไปได้ เมื่อใดก็ตามที่เจ้าบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว ต่อให้มีหุบเขาเทพอีกสิบแห่งพวกมันก็จะถูกทำลายอยู่ดี!” หลี่เหอซุยกล่าวด้วยความโกรธ

“ไม่คิดว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้…” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง เขารู้สึกถึงความกดดันอย่างมาก โลกที่วุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้มาถึงแล้ว

ในวันเดียวกันนั้นเอง เย่ฟ่านก็ตอบโต้หุบเขาเทพกลับไปด้วยมนต์หกอักขระโดยประกาศว่าหุบเขาเทพเป็นเพียงแหล่งรวมตัวกันของเศษสวะทั้งแผ่นดิน

น้ำเสียงของเขาดังก้องไปทั่วหนานหลิง ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือผู้บ่มเพาะล้วนได้ยินคำพูดนี้อย่างชัดเจน!

คำพูดของเย่ฟ่านทำให้โลกทั้งใบตกตะลึง นี่เป็นการท้าทายสิ่งมีชีวิตอมตะแห่งหุบเขาเทพอย่างแน่นอน ผู้คนไม่รู้ว่าทำไมเย่ฟ่านถึงมีความกล้าหาญถึงขนาดนี้

คำพูดของเย่ฟ่านนั้นหยาบคายมาก และคำพูดต่อไปของเขาก็ทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนอีกครั้ง

“ลูกหลานของเจ้าเป็นเพียงเศษสวะ เจ้าที่มีอายุนับล้านปีก็เป็นเศษสวะเช่นกัน เจ้าใช้เวลาบ่มเพาะหลายหมื่นปีแต่กลับมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรังแกเด็กรุ่นหลังเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงเจ้าไม่แตกต่างอะไรจากเศษสวะ!”

ผู้บ่มเพาะในโลกอำพรางสวรรค์เกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดของเย่ฟ่านจะมีความกล้าหาญถึงขนาดนี้

แน่นอนว่าหุบเขาเทพโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด พวกเขาประกาศว่าเว้นแต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะฟื้นคืนชีพกลับมาจะไม่มีใครช่วยชีวิตของเย่ฟ่านได้อย่างเด็ดขาด

ในเวลาสามวันหากเย่ฟ่านไม่มาคุกเข่ายอมรับความตายที่หุบเขาเทพ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาจะถูกสังหารอย่างโหดร้าย

“เมื่อข้าบรรลุความเป็นอมตะในอนาคตข้าจะทำลายภูเขาเทพให้หายไปจากโลก นี่คือคำสาบานของข้า”

เสียงคำรามของเย่ฟ่านดังก้องไปทั้งสวรรค์พิภพ ในวันนั้นโลกทั้งใบเกิดความปั่นป่วนจากสายฟ้านับล้านเส้นที่ผ่าลงมาบนพื้นดิน

สิ่งเหล่านี้ตรงกันกับตำนานโบราณอันยิ่งใหญ่ มันเป็นการตอบรับคำสาบานของสวรรค์!

“เขาบ้าหรือเปล่า แม้กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังกล้าท้าทายสิ่งมีชีวิตอมตะ”

ผู้คนจำนวนมากเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

“เผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกอำพรางสวรรค์ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวต่อสิ่งมีชีวิตโบราณที่กำลังจะตื่นขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราก็จะกลับมาเช่นกัน!”

ในวันนี้เย่ฟ่านได้เผยแพร่ข่าวสะเทือนใจดังกล่าว ประโยคนี้แม้แต่สิ่งมีชีวิตอมตะในหุบเขาเทพยังไม่มีความกล้าที่จะตอบโต้กลับมาด้วยซ้ำ

……