บทที่19
ดีเจมือใหม่ป้ายแดงพร้อมไฟกระพริบและมือของผีสาวชุดแดงที่โบกไปมาบนอากาศ เอาจริง ๆแล้วหลิวเฉิงกะจังหวะเพลงให้เข้ากับมือของผีสาวด้วย
“สวัสดีทุกคน!” หลิวเฉิงแกว่งมือไปมาราวกับตอนนี้เขาอยู่ไนท์คลับ
“………..”
เซี่ยว่านชิวที่ประจำการเตรียมพร้อมอยู่ข้างนอกก็ยังพูดไม่ออก
ผีสาวในห้องน้ำรู้สึกเหมือนโดนดูถูก!!
โดยเฉพาะเพลงที่ดังแม้แต่หอพักข้างเคียงก็ยังได้ยิน แม้แต่จางเซว่เฟิงและยามอีกสองคนด้านล่างก็ยังได้ยินชัดเจนไม่ต่างกัน
จางเซว่เฟิงอดที่จะเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
“ไม่รู้สิ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนส่ายหัวด้วยความสับสน
………
“นายเห็นฉันเหรอ” ผีสาวเห็นหลิวเฉิงจ้องมองมาที่เธอ เธอเลยอดถามด้วยความอัดอั้นไม่ได้
“ใช่ ฉันเคยบอกเหรอว่ามองไม่เห็น” หลิวเฉิงยอมรับ
“……….”
ผีสาวรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้หน้าเธอเกิดสีขึ้น เธอหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย
เธอคิดว่าหลิวเฉิงเป็นเพียงคนธรรมดาและมองไม่เห็นเธอ ดังนั้นเธอเลยใช้วิธีนี้ข่มขู่อีกฝ่าย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าอีกฝ่ายมองเห็นตัวเธอได้
ผีสาวทั้งโกรธ ทั้งอายผ ผู้ชายคนนี้จงใจเปิดเพลงล้อเลียนเธอจริง ๆ เธออาศัยในหอพักนี้มานานแล้วและเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะได้ฟังเพลงหรือเห็นคนธรรมดาถ่ายคลิปเธอเอาไว้
แต่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งเธอจะถูกทำให้กลายเป็นตัวตลก
ตอนนี้เธอโกรธมากแล้ว!!!
ผีสาวในห้องน้ำยกมือเล็ก ๆของเธอขึ้นด้วยความไม่พอใจ จิตอาฆาตล้อมรอบตัวเธอและไอพลังหยินของผีมีอยู่สามสี นั่นคือดำ แดงและขาวเหมือนที่หลิวเฉิงเคยเห็นก่อนหน้านี้ และพลังของผีเจ้านายเขาเป็นสีขาวไปทางขาวซีดซึ่งทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผีที่อ่อนแอตัวหนึ่ง
ทว่าผีตรงหน้าหลิวเฉิงตอนนี้ มีไอพลังหยินเป็นสีแดงเลือด มันดูแข็งแกร่งกว่าผีเจ้านายของเขามากนัก
อย่างไรก็ตาม หลิวเฉิงยังคงพูดไม่หยุด
“น้องสาว ฉันแนะนำว่าเธออย่าทำอะไรฉันดีกว่านะ”
“หืม!!” ผีสาวแค่นเสียง ทำไมเธอต้องสนใจคำเตือนของหลิวเฉิงด้วย ด้วยความโกรธนี้ทำให้เธอรวมรวมพลังแค้นอันทรงพลัง สร้างเป็นกรงเล็บสีแดงขนาดใหญ่และจับหลิวเฉิง
มาจนถึงตอนนี้ เธอไม่ได้โง่ หลิวเฉิงมองเห็นตัวเธอได้ มันพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาและไม่หวาดกลัวเธอเหมือนคนทั่วไป
แม้ว่าที่ผ่านมาเธอจะไม่ได้ฆ่าใคร แต่ไม่ได้หมายความว่าเธออ่อนแอ
ถึงอย่างนั้น ทันทีที่กรงเล็บของเธอกำลังจะคว้าจับหลิวเฉิง เธอก็ได้พบว่ามีบางอย่างปิดกั้นเธอและเขาเอาไว้
เธอถูกผลักให้ถอยหลังเล็กน้อย เธอไม่สามารถโจมตีฝ่าม่านพลังนี้ไปได้
และในขณะที่เธอออกแรงโจมตีอีกครั้ง แรงกดดันอันทรงพลังก็พุ่งเข้ามา ผีสาวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ฟังเสียงปัง กรงเล็บอันทรงพลังและไอแค้นของเธอก็ถูกทำลายจนสิ้น
“ได้ไง... เป็นไปได้ยังไง!” ผีสาวในห้องน้ำเบิกตากว้างทันที
ทันใดนั้นผีสาวก็สังเกตเห็นเงาสีแดงคล้ำด้านหลังหลิวเฉิง มันเป็นใบหน้าที่ทั้งเย่อหยิ่ง เย็นชาและมีความรู้สึกกดดันอันแผ่วเบาเหมือนคลื่นใต้น้ำแผ่ออกมาจากเงาด้านหลังหลิวเฉิง
แม้ว่าหลิวเฉิงขอให้เซี่ยว่านชิวซ่อนตัวให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ตอนนี้เธอเห็นว่าผีในห้องน้ำกล้าโจมตีคนรักของเธอ เธอก็เลยต้องชิงออกหน้ามาป้องกันให้เขาปลอดภัย
ถ้าหลิวเฉิงไม่ต้องการให้เธอโจมตีอีกฝ่าย เธอก็จะไม่โจมตี
กล้าที่จะต่อต้านสามีของเธอ นั่นก็เหมือนสัมผัสเกล็ดย้อนของเซี่ยว่านชิว มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เธอโกรธได้
แม้ว่าเซี่ยว่านชิวจะอ่อนโยนมาก อย่างน้อยก็อ่อนโยนต่อหลิวเฉิง ทว่าในสายตาคนอื่นและผีตัวอื่น เซี่ยว่านชิวทั้งเย็นชา น่ากลัว โหดร้ายและทรงพลัง
“เธอ... เธอเป็นใคร” ผีตัวนั้นพอเห็นเซี่ยว่านชิวก็ตัวสั่นเทา
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีวิญญาณที่ทรงพลังนี้อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และแรงกดดันนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิญญาณร้ายบนหลังคาอาคาร
เซี่ยว่านชิวไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอมีสีหน้าเมินเฉยและมองผีอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเย็นชา หากอีกฝ่ายกล้าทำอะไรที่รักของเธอ ครั้งต่อไปเธอจะทำลายอีกฝ่ายให้ย่อยยับ
“เฮ้ ฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าอย่าทำอะไรฉัน เธอทำให้แฟนของฉันโกรธแล้วล่ะ” หลิวเฉิงมีสีหน้าแปลก ๆ เหมือนกับพ่อที่กำลังกล่อมให้ลูกสาวเชื่อฟัง
ผีสาวพูดไม่ออก ถ้าหากเธอรู้ว่าอีกฝ่ายมีวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้คอยตามอยู่ เธอจะกล้าทำอะไรเขาเหรอ?
หรือว่าชอบเล่นเป็นหมูกินเสือ ไม่ยอมให้ผีสาวออกมาตั้งแต่แรก แต่รอให้เธอโจมตีก่อนค่อยออกมา
นี่คือเรื่องที่ผีสาวในห้องน้ำเข้าใจผิด เพราะหลิวเฉิงกลัวว่าความแข็งแกร่งของเซี่ยว่านชิวจะทำให้วิญญาณในหอพักหนีกระเจิงไปหมด เขาเลยให้เซี่ยว่านชิวซ่อนตัวตนต่างหาก
“อย่ามาคุยกันแบบนี้เลย ลงมาเถอะ ห้องน้ำมันมีกลิ่นแรงนะ อยากจะคุยกันในห้องน้ำจริงเหรอ” หลิวเฉิงถอนหายใจแล้วเปิดประตูห้องน้ำพร้อมสาวเท้าเดินออกไป
ถึงมันจะเป็นห้องน้ำหญิง แต่มันก็เป็นห้องน้ำ ย่อมมีกลิ่นไม่พึงประสงค์อยู่ดี
ไม่รู้ว่าทำไมผีถึงชอบไปรอคนในห้องน้ำแบบนี้เพื่อให้น่ากลัวกัน?
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ที่ผีสาวพูดไม่ออก แน่นอนว่าเธอไม่ได้กลิ่นเพราะไม่อย่างนั้นคงไม่สิงอยู่ที่นี่ทั้งวัน