บทที่ 56: ข้าผิดเองที่คาดหวังในสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 56: ข้าผิดเองที่คาดหวังในสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น!
“เราไร้ความสามารถ ได้โปรดให้อภัยเราด้วยเถิดฝ่าบาท!” เหล่าขุนนางเต็มไปด้วยความกลัว
“ถ้าเจ้ารู้ว่าเจ้าไร้ความสามารถ ก็จงออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าและอย่าสร้างปัญหาให้ข้าอีก!” จักรพรรดินีกล่าวตำหนิ
“ฝ่าบาท เราไร้ความสามารถจริงๆ! แต่ว่า…” ขุนนางเฒ่าลุกขึ้นยืนและชี้ไปทางหลินเป่ยฟานเพื่อติเตียนเขา “ท่านหลินรู้วิธีเปิดกล่องพันลี้แห่งแม่น้ำและขุนเขา แต่จนถึงที่สุด เขากลับไม่ออกมาทำอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเห็นอาณาจักรของเราต้องอับอาย! เขามีเจตนาร้ายไม่จงรักภักดีต่ออาณาจักรของเราและไม่จริงใจต่อท่านนะฝ่าบาท ได้โปรดตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย!”
"โปรดตรวจสอบด้วย!” เหล่าขุนนางทุกคนตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลินเป่ยฟานถึงกับตะลึง!
สวรรค์! พวกเขาพยายามใส่ร้ายเขาจริงๆ สินะ!
พวกเขากำลังกลับขาวเป็นดำ บิดเบือนความถูกผิดและกล่าวหาเขาโดยไร้หลักฐาน!
สมกับเป็นพวกสุนัขจิ้งจอกเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์!
ส่วนสาเหตุแท้จริงที่เขาไม่รีบออกตัวไป ไม่ใช่เพราะต้องการเห็นอาณาจักรของเขาต้องอับอาย ทว่าอยากเห็นพวกขุนนางโง่เขลาพวกนี้จะแก้ปัญหายังไงต่างหาก
เมื่อพวกเขาไม่สามารถแก้ไขได้ เขาจึงก้าวเข้ามาและแก้ไขมันด้วยตัวเขาเอง
เป็นการตบหน้าที่ดีนัก
เป็นสิ่งที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา!
“ท่านหลิน เป็นความจริงหรือไม่??” ใบหน้าของจักรพรรดินีเรียบเฉย
หลินเป่ยฟานโค้งคำนับและอุทานออกมาด้วยความโกรธ “ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน! ความภักดีต่อท่านของกระหม่อมชัดเจนอยู่เสมอ ความรักที่ข้ามีต่ออาณาจักรของเราต่างรับรู้กันดี! กระหม่อมภักดีและทุ่มเทอย่างเต็มที่ คนอย่างกระหม่อมจะทำแบบนั้นลงไปได้ยังไง? ได้โปรดตรวจสอบด้วยฝ่าบาท!”
ริมฝีปากของจักรพรรดินีกระตุกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้
เหล่าขุนนางก็กระตุกริมฝีปากของพวกเขาเช่นกัน
มันฟังดูดีมาก แต่ไฉนเจ้าถึงกล้าพูดเกินจริงแบบนี้!
ถึงแม้คนจะสามารถไร้ยางอายได้ แต่มันไม่ควรมากถึงเพียงนี้สิ!
“ผู้อำนวยการหลิน ในเมื่อท่านอ้างว่าจงรักภักดีและอุทิศตนเพื่อข้าและอาณาจักรของเรา แล้วทำไมท่านถึงไม่ลุกขึ้นยืนในยามที่ท่านราชทูตกำลังลำบาก? สำหรับข้า ดูเหมือนว่าท่านจะมีแรงจูงใจแอบแฝงบางอย่าง!” ขุนนางที่ชราดูโกรธมาก
"ถูกต้องแล้ว! เห็นได้ชัดว่าท่านต้องการเห็นอาณาจักรของเราและฝ่าบาทอับอาย!” เสนาบดีอีกคนลุกขึ้นยืน
“เจ้าพูดไม่ออกเพราะตนมีความผิดสินะ?” เสนาบดีคนที่สามพูดขึ้นมา
“ฝ่าบาทเมตตาเจ้าอย่างมาก แต่เจ้ากลับไม่รู้คุณและไม่คิดตอบแทน!” เสนาบดีคนที่สี่กล่าว
“ผู้อำนวยการหลิน เจ้ายังมีหน้ายืนอยู่ได้ยังไงกัน?”
เมื่อเห็นโอกาสอันดี เหล่าขุนนางก็โยนหินลงไปในบ่อทันที ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากขุนนางมากมาย หลินเป่ยฟานก็ถอนหายใจลึกๆ และกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันขมขื่น “ทุกท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว! เหตุผลที่ข้าไม่ลุกขึ้นยืนในตอนแรก เป็นเพราะข้าเชื่อมั่นในพวกท่านทุกคนและก็มีความมั่นใจในตัวพวกท่านอย่างเต็มที่ต่างหาก!”
“มีความมั่นใจในในตัวพวกเราอย่างเต็มที่หรือ?” เหล่าขุนนางรู้สึกสับสนยิ่ง
“ใช่แล้ว ข้ามั่นใจในตัวพวกท่านทุกคนอย่างเต็มที่!” หลินเป่ยฟานกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
“ข้าเชื่อว่าปัญหาง่ายๆ เช่นนี้เหล่าท่านขุนนางผู้ปราดเปรื่องย่อมสามารถแก้ไขได้อย่างสบาย! พวกท่านทุกคนเป็นผู้สำเร็จราชการ ซึ่งเป็นผู้โดดเด่นจากผู้เข้าสอบหลายพันคน พวกท่านอยู่ในจุดที่สูงที่สุดทั้งในด้านปัญญาและกลยุทธ์!”
“ข้าเชื่อว่าพวกท่านทุกคนสามารถมองทะลุผ่านแผนการของราชทูตดาร์โรได้! ด้วยประสบการณ์หลายสิบปีในฐานะขุนนาง ท่านหลายคนคงได้เคยพาดผ่านอันตรายและพบเจอแผนการมากมาย ย่อมสามารถคิดหาวิธีตอบโต้ได้อยู่แล้ว!”
“ข้าเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะทำให้ขุนนางทุกท่านที่อยู่ที่นี่เสียท่าได้! พวกท่านเป็นกระดูกสันหลังของจักรวรรดิอู๋อันยิ่งใหญ่ เสาหลักที่ค้ำจุนท้องฟ้าและแผ่นดินของชาติ!”
“ดังนั้นข้าจึงยืนอยู่ข้างหลัง ชื่นชมร่างที่สูงส่งของเหล่าขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ทุกคน!” ขุนนางพลเรือนและทหารทั้งหมดต่างก็คล้อยไปตามคำพูดของหลินเป่ยฟาน
พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าตนในสายตาของอีกฝ่ายยิ่งใหญ่และสูงส่งเพียงใด ทว่าในยามนั้นเอง น้ำเสียงของหลินเป่ยฟานกลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
“แต่ข้าไม่ได้คิดเลยว่า…”
“เจ้าไม่ได้คิดว่าอะไรกัน?” ขุนนางชราคนหนึ่งเอ่ยถาม หลินเป่ยฟานชำเลืองมองขุนนางหลายคนด้วยสายตาอันผิดหวังอย่างมาก
“ข้าไม่คิดเลยว่าคำถามง่ายๆ เช่นนี้จะทำให้ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่นี่ไปไม่เป็น มันทำให้สิ่งที่ข้าชื่นชมกลับต้องพังทลาย จนทำให้ข้าไม่อาจเตรียมตัวได้ทันเวลา! พอข้าเห็นพวกท่านที่หลงกลอุบายอันต้อยต่ำเช่นนี้ มันก็ทำให้ข้าอายเป็นอย่างมากจนข้าไม่กล้าเข้าไปช่วยพวกท่านเลย! ข้าละอายใจยิ่ง!”
เหล่าขุนนางพลเรือนและทหารต่างก็พูดไม่ออก ไอ้บ้านี่ มันดูถูกพวกเขาต่อหน้าชัดๆ! ใบหน้าของพวกเขาทุกคนดูน่าเกลียดยิ่ง ภายในยิ่งน่าเกลียดกว่า จักรพรรดินีที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรเกือบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ยอดเยี่ยมนัก! ฝีปากของท่านหลินแกร่งเกินไปแล้ว! เขาเอาชนะเหล่าขุนนางด้วยคารมคมคายและลิ้นของเขา บังคับให้พวกเขาทุกคนต้องเงียบไป!
นางอยู่ในราชสำนักมาหลายปี แต่ไม่เคยเห็นเหล่าขุนนางและทหารประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลย!
น่าพึงพอใจ! น่าพึงพอใจนัก! ในเมื่อท่านหลินทำได้ถึงเพียงนี้ คงจะต้องตอบแทนเสียหน่อย!
“ท่านหลิน อย่างที่เคยมีคำกล่าวว่า การไม่รู้ย่อมไม่ผิด! ท่านไม่รู้ถึงความสามารถของเหล่าขุนนางทุกท่านที่อยู่ที่นี่ ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ทันการ เรายกโทษให้ท่าน!” จักรพรรดินีไอออกมาและพยายามกลั้นความสุขภายในใจที่กำลังระเบิด
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เข้าใจกระหม่อม!” หลินเป่ยฟานแทบจะน้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าของเหล่าขุนนางยิ่งดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
“ท่านมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่เสนาบดีทั้งหลาย?” จักรพรรดินีถามอีกครั้ง เหล่าขุนนางมองหน้ากันและตอบอย่างพร้อมเพรียง “พวกกระหม่อมไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วฝ่าบาท!”