บทที่ 38 การประชุมผู้อาวุโส
บทที่ 38 การประชุมผู้อาวุโส
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจียงเฉิงซวนก็ผงะไปทันที
ทันใดนั้นเขาก็จำผู้ฝึกตนปีศาจสองคนที่เขาพบหลังจากออกจากตระกูลเฉิน
เป็นไปได้ไหมที่คนสองคนในตอนนั้นมีหน้าที่ฆ่าผู้อาวุโสของตระกูลเฉินด้วยเหมือนกัน?
หากเป็นกรณีนี้ มันก็สมเหตุสมผลแล้วว่าทำไมเขาถึงถูกโจมตีอย่างกะทันหันเช่นนั้น
“ผู้อาวุโสเจียง มีอะไรผิดปกติหรือ?”
เมื่อดูปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเจียงเฉิงซวนแล้ว เฉินหรู่หยานก็ถามด้วยความสับสน
เจียงเฉิงซวนไม่ได้ปิดบังอะไรและบอกเธอทันทีว่าเขาถูกโจมตีโดยผู้ฝึกตนปีศาจสองคนหลังจากออกจากตระกูลเฉิน
เมื่อเฉินหรู่หยานได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“ผู้อาวุโสเจียง สิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
เจียงเฉิงซวนพยักหน้า
“ผู้อาวุโสหรู่หยาน ลองดูนี่สิ”
ขณะที่เขาพูดเจียงเฉิงซวนก็หยิบสิ่งประดิษฐ์กรงเล็บแหลมคมที่ชายร่างใหญ่ใช้ในตอนนั้นออกมา
จากนั้น เขาก็หยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากถุงเก็บของของชายร่างผอมสูง
“พวกนี้คือ…?”
ดวงตาของเฉินหรู่หยานหรี่ลง
เธอเอื้อมมือออกไปหยิบสิ่งของเหล่านี้เพื่อตรวจสอบ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้า
“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนปีศาจเหล่านั้นใช้จริงๆ
ถ้าข้าจำไม่ผิด สิ่งประดิษฐ์กรงเล็บนี้ควรจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คนเรียกว่าจ้าวกุ้ยโจวใช้ สำหรับสิ่งของเหล่านี้…”
เฉินหรู่หยานมองดูอยู่ครู่หนึ่งและดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้
“พวกมันควรจะใช้เพื่อขัดเกลาวิญญาณชั่วร้ายบางชนิด
เมื่อรวมกับคำอธิบายของท่านเกี่ยวกับบุคคลนั้น ข้าแน่ใจว่ามีแนวโน้มมากว่าจะเป็นชายที่ชื่อกัวซีหลิง
สิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงของเขาคือกระบี่ปีศาจระดับ 2 ขั้นต่ำและธงที่สามารถเรียกวิญญาณชั่วร้ายออกมาได้”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ดูเหมือนว่าเฉินหรู่หยานจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และอดไม่ได้ที่จะมองเจียงเฉิงซวนด้วยความประหลาดใจ
“ผู้อาวุโสเจียง ท่านเพิ่งบอกว่าพวกเขาทั้งคู่ตายด้วยน้ำมือของท่านเหรอ?”
เจียงเฉิงซวนพยักหน้า
ในเรื่องนี้เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง
โดยเฉพาะในช่วงเวลาแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดเขาก็ยังคงพูดเสริมไปว่า
“ข้าแค่โชคดี หากพวกเขาระมัดระวังตัวมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างออกไป”
เขาไม่ได้ถ่อมตัว แต่นี้คือเรื่องจริง
เหตุผลที่เจียงเฉิงซวนสามารถฆ่าคนสองคนนั้นได้ก็มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการศัตรูดูถูกเขาในตอนแรก
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าเขาสามารถสังหารผู้ฝึกตนปีศาจระดับก่อตั้งรากฐานขั้นที่สามและสี่ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาแล้ว
แม้ว่าเฉินหรู่หยานจะไม่ทราบสถานการณ์ที่แน่นอนในขณะนั้น แต่เธอก็สามารถจินตนาการถึงอันตรายเขาต้องเผชิญหน้าได้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีและพูดว่า
“โชคดีที่ท่านกลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่…”
เฉินหรู่หยานออกมาอย่างเย็นชา
สิ่งนี้ทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันเมื่อรู้ว่ามีคนจะล้างแค้นเขาหากเขาถูกทำร้าย เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่เสียเวลาอีก พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังยอดเขาหลักของภูเขาหยกวิเศษ
ในขณะนั้นผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลเฉินได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว
หนึ่งในนั้นคือซงหวันเถา,ซูเฉียนเหอ และเฉินฉางเหนียน
สีหน้าของพวกเขาเคร่งขรึมอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้อาวุโสของตระกูลเฉินเหล่านี้โกรธแค้นอย่างมาก
ในขณะนี้ เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานเข้ามา พวกเขาก็พยักหน้าให้พวกเขาทั้งสองเป็นการทักทายเท่านั้น
เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานก็พยักหน้าทักทายกลับเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะแลกเปลี่ยนการสนทรนาอะไรกัน พวกเขาหาที่นั่นและนั่งลง
ไม่นานหลังจากนั้น เฉินเต้าหมิงหัวหน้าตระกูลเฉินคนปัจจุบัน เขาบินกลายเป็นลำแสงลงมา
เมื่อเขาเดินเข้ามาทุกคนก็เห็นว่าในมือเขาถือศีรษะที่เปื้อนเลือดอยู่ ดวงตาของศีรษะนั้นก็เบิกกว้าง และดูเหมือนว่าเขาจะตายทั้งๆ ที่ลืมตาอยู่
"นี่คือ…?"
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างตกใจ
เฉินเต้าหมิงเหลือบมองทุกคนและพูดอย่างเย็นชาว่า
“ศีรษะนี้เป็นของเสิ่นจิ่วเซียวผู้ฝึกตนปีศาจในขั้นที่เก้าของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน เขายังเป็นหนึ่งในผู้ร้ายที่โจมตีตลาดพันพฤกษาในครั้งนี้”
"เขานั่นเอง..!"
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเต้าหมิงทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็มีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป
แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็แปลกใจเล็กน้อย
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเสิ่นจิ่วเซียวผู้ฝึกตนปีศาจในขั้นที่เก้าของขอบเขตการก่อตั้งพื้นฐานจะถูกสังหารโดยหัวหน้าตระกูลเฉินเช่นนี้
ถ้าพิจารณาจากสิ่งนี้ ตอนนี้หัวหน้าตระกูลเฉินน่าจะอยู่ไม่ไกลจากการเข้าสู่ขอบเขตปราการม่วงมากนัก
เฉินเต้าหมิงโยนศีรษะของเสิ่นจิ่วเซียวลงไปที่พื้นอย่างไม่สนใจและพูดกับทุกคนว่า
“อีกสักพัก ข้าจะใช้เขาเพื่อแสดงความเคารพต่อสหายผู้ฝึกตนของเราที่เสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งนี้ รวมถึงมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ 800,000 คนที่พวกเขาฆ่า
แต่ตอนนี้เรามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนและทำการมอบหมายภารกิจกันต่อไป”
ขณะที่เขาพูด สายตาของเฉินเต้าหมิงก็กวาดสายตาไปทั่วทุกคน
“พูดตามตรง สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฉินในครั้งนี้เป็นการแก้แค้นของผู้ฝึกตนปีศาจเหล่านั้น”
"หมายความว่าอย่างไร?"
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเต้าหมิงผู้คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความงงงวย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเฉินเต้าหมิงหมายถึงการแก้แค้นอะไร
เฉินเต้าหมิงกล่าวต่อว่า “เมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว บรรพบุรุษคนปัจจุบันของตระกูลเฉินเราได้นำผู้ฝึกตนของตระกูลเฉินไปทำลายฐานที่มั่นของผู้ฝึกตนปีศาจ
ในเหตุการณ์นั้น บรรพบุรุษของเราสังหารผู้ฝึกตนปีศาจในขอบเขตปราการม่วง พร้อมกับสังหารผู้ฝึกตนปีศาจในขอบเขตก่อตั้งรากฐานหลายสิบคน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีผู้ฝึกตนปีศาจหลายคนที่บังเอิญไม่อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาจึงสามารถหลบหนีความตายได้
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฉินในครั้งนี้เป็นการลงมือของผู้ที่รอดชีวิตในตอนนั้น
สิ่งสำคัญที่สุดคือ หนึ่งในนั้นได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปราการม่วงได้ไม่นานมานี้
โชคดีที่พวกเราได้ติดตั้งค่ายกลไว้ที่ตลาดพันพฤกษา มิฉะนั้นการสูญเสียตระกูลเฉินอาจจะยิ่งใหญ่กว่านี้มาก”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินเต้าหมิง แม้แต่ซงหวันเถา,ซูเฉียนเหอและผู้อาวุโสที่อยู่ในตระกูลเฉินมานานก็อดไม่ได้ที่จะดูประหลาดใจเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้ว่า มีเหตุผลเบื้องหลังของการโจมตีครั้งนี้
เจียงเฉิงซวนคิดกับตัวเองว่าเกือบไปแล้วจริงๆ
และโชคดีที่ผู้ที่มุ่งเป้าหมายมาที่เขาในวันนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนปีศาจเพียงสองคนที่อยู่ในขั้นที่สามหรือสี่ของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน
หากเป็นผู้ฝึกตนปีศาจขอบเขตการก่อตั้งรากฐานระยะปลายสองคนเป็นคนที่ลงมือกับเขา เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้
ในขณะนี้ซงหวันเถา,ซูเฉียนเหอมองไปที่เฉินเต้าหมิงและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่เต้าหมิง ข้าสงสัยว่าแล้วตอนนี้ผู้ฝึกตนปีศาจในขอบเขตปราการม่วงเป็นยังไงบ้าง?”