ตอนที่แล้วบทที่ 9 ควีนผู้โชคร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 รู้สึกยังไงที่ได้กินกล้วยของตัวเอง?

บทที่ 10 เขาคือรุ่นพี่ที่ฉันเคารพ หากนายอยากจะให้ฉันลงมือ ก็ต้องเอาของตอบแทนมาแลก


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 10 เขาคือรุ่นพี่ที่ฉันเคารพ หากนายอยากจะให้ฉันลงมือ ก็ต้องเอาของตอบแทนมาแลก

“เจ้าเคยเป็นสมาชิกของสถาบันวิจัยนั้นด้วย เจ้าคงรู้ว่าศิลาพวกนั้นอยู่ที่ไหนใช่ไหม?”

“ฉันรู้ว่าหนึ่งในศิลาพวกนั้นถูกส่งมาพร้อมกับเด็กสองคนนี้ และอีกแผ่นหนึ่งถูกส่งมาโดยรัฐบาลโลก แต่หลังจากที่เวก้าพังค์ได้ข้อตกลงร่วมมือกับรัฐบาล ฉันก็ไม่รู้รายละเอียด รู้เพียงว่าพวกมันมาจากเผ่าลูนาเรีย”

ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน เดิมทีศิลาแห่งเปลวเพลิงนั้นได้ถูกให้แก่ผู้อาวุโสของเผ่าลูนาเรีย ไม่น่าแปลกใจเลยที่พอเขาพ่ายแพ้ก็ตกไปอยู่ในมือของรัฐบาล

ที่เหลืออยู่ก็คงมีแต่ศิลาที่เชย์น่านำมาด้วย

“รัฐบาลมีศิลาแผ่นอื่นอีกไหม?”

“แล้วฉันจะรู้เรื่องนั้นได้ยังไง? ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีศิลาเหล่านี้อยู่มากมาย แต่จากคำพูดของคนพวกนั้น ดูเหมือนว่าจะมีศิลาจำนวนหนึ่งอยู่ในมือของรัฐบาลโลก”

ควีนไม่แน่ใจนัก เพราะมันเป็นเพียงการคาดเดาของเขา แต่อาร์เซอุสคิดว่าการคาดเดาของอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติ เพราะระหว่างที่หลบหนี ศิลาก็อยู่กับชาวลูนาเรีย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มันตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลโลกด้วย

“ดูเหมือนพวกเขาจะศึกษาศิลาพวกนี้ไปพอสมควร แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาพบคือศิลาพวกนั้นไม่สามารถทำลายได้ พวกเขาเชื่อว่ามีพลังมากมายอยู่ในศิลา เพราะศิลาพวกนั่นมันแผ่พลังออกมาตลอดเวลา เวก้าพังค์พยายามดึงพลังจากศิลาอยู่ แต่เขาก็ไม่สามารถหาวิธีทำได้เลย”

นี่เป็นเรื่องปกติ อาร์เซอุสเป็นเจ้าของศิลาแห่งชีวิตเพียงผู้เดียว ศิลามักจะแผ่พลังออกมาเสมอ ซึ่งถ้าไม่มีคำสั่งของเขา ก็จะไม่มีใครสามารถใช้พลังของศิลาเหล่านั้นได้

“โอ้ ที่จริงมีคนในสถาบันวิจัยเคยพยายามสร้างอุปกรณ์เพื่อค้นหาศิลา แต่ข้อเสนอนี้ก็ถูกปัดตกไป เพราะศิลาพวกนั้นเหมือนกับหินธรรมดาและไม่มีส่วนประกอบพิเศษอยู่ข้างใน จึงเป็นการยากที่จะตามหาได้”

พวกเขาคิดว่าจะค้นหามันด้วยการใช้หลักการเดียวกับเครื่องตรวจจับโลหะ ตราบใดที่มีเครื่องตรวจจับ พวกเขาก็คงจะสามารถหามันได้อย่างแน่นอน

แต่ปัญหาคือศิลาไม่มีองค์ประกอบได้สามารถหลุดออกมาได้จากตัวศิลาเอง ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะค้นหาด้วยหลักการเครื่องตรวจจับโลหะได้

พวกมันไม่สามารถทำลายหรือวิเคราะห์ได้ บางคนจึงแนะนำให้ใช้มันเพื่อสร้างชุดเกราะ แต่มันก็ถูกปฏิเสธ

ซึ่งบางคนก็คิดขึ้นมาได้ว่าชาวลูนาเรียอาจมีความเกี่ยวข้องพิเศษบางอย่างกับศิลาแห่งชีวิต ดังนั้นศิลาแห่งเปลวเพลิงจึงได้ถูกส่งมายังสถาบันทดลองนี้พร้อมชาวลูนาเรียสองคน

“ฉันจำได้ว่าฉันเคยเห็นสิ่งที่คล้ายกันตอนที่ฉันอยู่บนเรือของพวกร็อคส์”

ศักยภาพของมนุษย์สามารถถูกกระตุ้นได้ภายใต้สถานการณ์พิเศษ เดิมทีไคโดแทบจะไม่สามารถจดจำเรื่องศิลานี้ได้มากสักเท่าไร แต่ความสามารถในการสร้างโซออนในตำนานทำให้เขาสนใจมาก สิ่งนี้มีเฉพาะอาร์เซอุสเท่านั้นที่ทำได้ ดังนั้นเขาจึงต้องคิดหาวิธีค้นหาศิลาพวกนั้นเพื่อช่วยอีกฝ่ายให้ได้

เขาพยายามนึกย้อนไปในความทรงจำของเขา ในที่สุดเขาก็จำได้ว่าทำไมมันถึงดูคุ้นเคยนัก ในตอนนั้นมีสมบัติมากมายอยู่ในคลังของกลุ่มโจรสลัดร็อคส์ ทว่าสิ่งที่พวกเขาสนใจมีเพียงทองคำและเงินเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีผลปีศาจ แร่ธาตุหายากที่เป็นสิ่งที่ร็อคปล้นมาจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงจากเผ่ามังกรฟ้าพวกนั้นด้วย ในหมู่พวกมังกรฟ้ามีศิลาแบบนี้ฝังอยู่ที่ก้นหีบ

“กลุ่มโจรสลัดร็อคส์?”

“อืม ร็อคส์ ดี. ซีเบค เป็นกโจรสลัดที่ฉันเคยอยู่ด้วยมาก่อน ร็อคส์เป็นสัตว์ประหลาดตัวจริงเลย เขามีความทะเยอทะยานที่จะกลายเป็นราชาของโลก แต่เมื่อห้าปีก่อนในหุบเขาเทพเจ้า สงครามได้ทำลายล้างกลุ่มร็อคส์ไปจนหมดสิ้นและผู้คนที่เหลือก็แยกทางกัน”

โจรสลัดร็อคส์คือเจ้าแห่งท้องทะเลที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นกัปตันหรือลูกเรือ ทุกคนล้วนแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียง หนวดขาวสมัยหนุ่มๆ ราชสีห์ทองคำ ชาร์ล็อตต์ หลินหลินและไคโดต่างก็เป็นสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดร็อคส์

ซึ่งไคโดในยามนั้นถือได้ว่าเป็นเพียงเด็กฝึกหัดบนเรือเท่านั้น

ทว่าที่นี่ไม่เหมือนกับกลุ่มนักผจญภัยที่รวมตัวกันเพราะความฝัน แต่มันเป็นกลุ่มที่มีแต่พวกหัวรุนแรงรวมตัวกัน โดยยึดแน่นทุกคนเข้าไว้ด้วยความแข็งแกร่งของร็อคส์

ผู้คนบนเรือต่างก็มีเจตนารมย์เป็นของตนเอง เมื่อพวกเขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี พวกเขาก็แยกทางกันเป็นเรื่องปกติ

เป็นเวลาห้าปีแล้วนับตั้งแต่การต่อสู้ในหุบเขาเทพเจ้าสิ้นสุดลง ร็อคส์ได้ถูกลบออกจากโลกและประวัติศาสตร์โดยรัฐบาลโลก เนื่องจาก "อาชญากรรมที่ชั่วร้าย"ของเขาและห้ามมิให้เผยแพร่หรือพูดคุยเกี่ยวกับบุคคลนี้

แต่เรื่องมันเพิ่งเกิด จึงยังมีคนที่รู้จักร็อคส์อีกมากมาย ทว่าเขาคงจะค่อยๆ ถูกลืมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ยิ่งไปกว่านั้น ไคโดคือผู้ที่เผชิญกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน เขาคงจะไม่ฟังคำพูดของรัฐบาล ดังนั้นเขาจึงกล้าพูดถึงเรื่องของร็อคส์

แน่นอนว่าประสบการณ์ของเขาบนเรือร็อคส์นั้นไม่สำคัญ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเล่าข้ามไป

“เมื่อกลุ่มโจรสลัดร็อคส์หายไป แล้วศิลาพวกนั้นหายไปไหน? มันอยู่ในหุบเขาพระเจ้าเหรอ?”

“ไม่สิ่งที่เรียกว่าหุบเขาพระเจ้านั้นได้หายไปจากทะเลมานานแล้ว ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นอีกต่อไป ทุกคนบนเรือก็มีเส้นทางเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป บ้างก็ตาย บ้างก็ถูกจับ แต่หลายคนก็หนีออกจากที่นั่นได้ คนบนเรือที่ชอบสมบัติมากที่สุดคือจอห์น หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างบนเรือน่าจะถูกจอห์นนำไปด้วย”

“แล้วยามนี้เขาอยู่ที่ไหน?”

“ฉันไม่รู้ แต่การค้นหาตำแหน่งของเขาไม่น่ายาก แต่ถึงแม้จะพบตัวเขาแล้ว ทว่าด้วยบุคลิกที่สนใจแต่ทรัพย์สมบัติ ก็คงไม่อาจพรากมันไปจากเขาได้โดยง่าย ฉันเกรงว่าเราคงจะต้องต่อสู้ แต่เขาเป็นผู้อาวุโสบนเรือเก่าของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่ค่อยอยากจะทำร้ายเขาสักเท่าไร”

"ทำไม? เมื่อไรกันที่โจรสลัดมีศีลธรรมขนาดนี้? เจ้าไม่ได้บอกเหรอว่าลูกเรือของร็อคส์รวมตัวกันเพราะเจตนารมย์ของตน พวกเขามักจะต่อสู้กันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?”

เป็นเรื่องจริงที่ไคโดดีต่อคนของเขามาก แต่คนของเขาย่อมต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะเป็นกำลังให้กับไคโดได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอาร์เซอุสเป็นคนที่ไคโดให้ความสำคัญมากที่สุดและต้องการนำเข้าร่วมกลุ่มมากที่สุด เนื่องจากอีกฝ่ายมีความสามารถที่ไคโดโหยหา

ทางด้านอาร์เซอุส เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าไคโดจะมีความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับจอห์น

“ฉันไม่เลยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา แต่คนผู้นั้นรับมือด้วยยากมาก ถึงการค้นหาเขาจะไม่ยากเกินไป แต่ก็คงต้องใช้เวลาและเงินพอสมควร”

เมื่อห้าปีที่แล้ว เขาใช้ชีวิตเป็นเด็กฝึกของกลุ่มโจรสลัดร็อคส์ แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว ห้าปีต่อมาเขาย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เขาไม่ได้ติดค้างอะไรจอห์นอยู่แล้ว ดังนั้นใช่ว่าเขาจะช่วยไม่ได้

แต่การที่ไคโดกล่าวเบี่ยงไปมาเช่นนี้ เพราะเขาอยากจะได้รับ "รางวัล" ล่วงหน้าก่อน

“ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ไม่ได้ ควีนเข้ามานี้สิ” เดิมทีเขาต้องการใช้ควีนเพื่อลองใช้ความสามารถของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะให้ไคโดได้ประจักษ์ถึงพลังของเขาเอง

พลังของเขาได้หลั่งไหลเข้าสู่ควีน เขาใช้พลังงานน้อยกว่าตอนที่ใช้กับเชย์น่าและมากกว่าคิง

ควีนเป็นคนโหดเหี้ยมที่สามารถดัดแปลงตัวเองจนมีรูปร่างแปลกประหลาด ดังนั้นเขาไม่ได้ต่อต้านพลังที่ไหลเข้ามานี้เลย แต่เมื่อเขาใช้ความสามารถของเขาที่ได้รับการเพิ่มเข้ามา เขาก็พบกับกล้วยจำนวนหนึ่งงอกออกมาจากคางของเขา...

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด