นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 227 - เสียความบริสุทธิ์??
เสียงร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดดังออกมาจากปากของเดวิด สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวเหยเก อาการปวดหัวเป็นริ้ว ๆ สร้างความทรมานให้เป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ตายังหลับอยู่ เดวิดเริ่มใช้ทั้ง 2 มือนวดที่ขมับของตัวเองอย่างแรง หัวของเขามันหนักเหมือนกับมีโลกทั้งใบกดทับอยู่ก็ไม่ปาน
“ทำไมหัวมันถึงได้ปวดมากขนาดนี้!!” เดวิดบ่นออกมา ก่อนที่จะฝืนยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงได้ในที่สุด
และเมื่อพยายามลืมตาขึ้นมา แสงสว่างที่เจอก็ทำให้เขาต้องรีบปิดตาลงอีกครั้ง ดูเหมือนว่าแสงที่จ้าเกินไปอย่างนี้ทำให้อาการปวดนั้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“เฮเซล ลดแสงลงให้เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์” เดวิดรีบสั่งการออกไปโดยสัญชาตญาณ แสงสว่างภายในห้องก็หรี่ลงอย่างรวดเร็ว เขาค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าคราวนี้สายตาจะปรับสภาพได้ดีขึ้น แต่แสงมันก็ยังคงแยงตาทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายอยู่ดี
“เฮเซล 5 เปอร์เซ็นต์ไปเลย” สมองเริ่มทบทวนความทรงจำแล้ว เมื่อคืนนี้ช่างเป็นคืนที่วุ่นวายเป็นอย่างมาก เดวิดยังจำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าตัวเองกลับมาถึงห้องพักได้อย่างไร
สิ่งที่จำได้มากที่สุดก็คือแอลกอฮอล์ปริมาณมหาศาลที่ตัวเองดื่มเข้าไป ซาร่าพาเขาไปสนุกสนานอย่างสุดเหวี่ยงอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง เดวิดนวดขมับของตัวเองไม่หยุด อาการปวดหัวแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดแล้ว
หลังจากที่นั่งนวดอยู่สักพักจนอาการเบาบางลง เดวิดก็เริ่มขยับตัวเพื่อที่จะลุกขึ้นจากเตียง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักตัวอย่างฉับพลัน หางตานั้นเห็นว่าบนเตียงมีสิ่งผิดปกติอยู่ และเมื่อหันไปมองดูอย่างเต็มตา เดวิดก็ต้องตกตะลึงอย่างหนัก
หญิงสาว 2 คนนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเขา ที่สำคัญกว่านั้น พวกเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่แม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงผ้าห่มบาง ๆ ปกคลุมเอาไว้เพียงบางส่วนเท่านั้น ทั้งคู่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข บนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มบาง ๆ อยู่ แม้ว่าลมหายใจจะบ่งบอกว่ายังหลับสนิทอยู่ก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังฝันดีเป็นอย่างมาก!
ยัง! เดวิดยังไม่หายตกตะลึง ในสมองนั้นขาวโพลนไปหมด ไม่มีความทรงจำเรื่องนี้อยู่ในหัวของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้หญิง 2 คนกำลังนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงของตัวเอง? อะไร? ยังไง?
ไม่! เดวิดยังไม่เชื่อสายตาตัวเอง คิดว่านี่เป็นภาพหลอนจากการดื่มหนักเกินไป เขารีบหลับตาลงอีกครั้ง สะบัดหัวไปมาอย่างแรง 2-3 ครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพที่อยู่ตรงหน้ายังเหมือนเดิม
“นี่มันบ้าอะไรกัน!?” เขาหลุดปากออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ผุดตัวลุกขึ้นยืนและถอยหลังออกมาจากเตียงเพื่อตั้งหลักก่อนทันที
ทั้งเสียงอุทานและการขยับตัวในครั้งนี้ของเดวิดนั้นไม่เบาเลย มันทำให้หญิงสาวทั้ง 2 คนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว พวกเธอลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับส่งเสียงหาวครวญครางออกมาเบา ๆ
และเมื่อเห็นเดวิดยืนอยู่ที่ข้างเตียง รอยยิ้มที่สดใสน่ารักมีความสุขก็ถูกส่งมาให้ มือน้อย ๆ ยกขึ้นโบกทักทาย “ไง! พ่อตัวโต”
ส่วนสาวสวยอีกคนเริ่มขยับตัวบิดขี้เกียจ และการที่เธอทำแบบนั้น เรือนร่างที่เย้ายวนก็ถูกเปิดเผยออกมาจนหมด ผ้าห่มผืนบางล่วงหล่นไปกองอยู่บนเตียง หมดสิทธิที่จะปกปิดสิ่งสวยงามอีกต่อไป แต่ที่ทำให้เดวิดต้องยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับเลย คือการที่เมื่อเธอเห็นเดวิดยืนอยู่อย่างเต็มตา สาวสวยก็รีบลุกขึ้นมาจากเตียงและพุ่งตรงเข้ามากอดแขนเขาเอาไว้ทันที แน่นอน! ร่างที่เปลือยเปล่านั้นสัมผัสกับร่างกายของเขาอย่างไม่มีอะไรขวางกั้นเอาไว้เลย
“เมื่อคืนนายคึกราวกับกระทิงเลยรู้มั้ย?” พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก เธอเขย่งขึ้นจุมพิตที่แก้มของเขาเบา ๆ ก่อนที่จะชักชวนกันหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดกองระเกะระกะอยู่บนพื้นมาสวมใส่ หลังจากตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองแล้ว ทั้งคู่ก็เปิดประตูห้องพัก แต่ก่อนที่จะออกไปยังหันมาส่งเสียงยั่วยวนให้เดวิดอีก “เอาไว้มีเวลาค่อยมาคึกกันอีกนะ” ทั้งคู่ส่งจูบผ่านอากาศมา และก็จากไป..
ทิ้งให้เดวิดยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่ในห้องคนเดียว เขาต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ คำพูดแรกถึงจะหลุดออกมาจากปากได้ “โถ่!.. ความบริสุทธิ์ของฉัน! จบสิ้นกัน” ตัวของเขานั้นทรุดลงนั่งบนเตียงอีกครั้ง พร้อมกับยก 2 มือขึ้นมาปิดหน้าคร่ำครวญอยู่เงียบ ๆ
“อรุณสวัสดิ์เดวิด! เมื่อคืนสนุกมั้ย?” เสียงที่ราบเรียบของเฮเซลถามไถ่สารทุกข์สุกดิบออกมา
“หือ? ม-เมื่อคืนฉันกับผู้หญิง 2 คนนั่นทำอะไรกันบ้าง?” เมื่อได้ยินเสียงของเฮเซล เดวิดรีบซักพยานปากเอกทันที เขายังคงมีความหวังอยู่เล็กน้อย
“นายคิดว่าอะไรบ้างล่ะ?” แม้ว่าเฮเซลจะไม่ยอมตอบออกมาตามตรง แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ เดวิดรู้ได้ทันทีว่าความหวังอันน้อยนิดของเขาแตกสลายไปแล้ว
เดวิดได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้โอกาสในการฝึกฝนทักษะร่างแวมไพร์นั้นหมดลงอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาเพิ่งทำตัวเองให้ไม่ผ่านเงื่อนไขของมรดกสืบทอดชิ้นนี้ไป เรื่องแบบนี้ไม่มีทางแก้ไขได้ให้ย้อนคืนกลับมาได้เลย
สิ่งที่เดวิดจะทำได้ต่อจากนี้ ก็เหลือเพียงการพัฒนาตัวเองให้ผ่านเงื่อนไขของมรดกสืบทอดอีกชิ้นที่เหลืออยู่เท่านั้น ทักษะการฝึกฝนร่างมนุษย์หมาป่า! แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะฝึกมากนัก แต่มันก็ยังเป็นทักษะที่อยู่ในระดับมรดกสืบทอดเหมือนกัน
“นายน่าจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวได้แล้ว ชั้นเรียนวิชาทักษะการต่อสู้จะเริ่มต้นในอีกไม่ถึง 1 ชั่วโมงแล้ว” เสียงของเฮเซลดังขึ้นมาขัดความคิดอย่างกะทันหัน
“หือ! บ้าจริง!! ทำไมเธอถึงไม่ปลุกฉันให้เร็วกว่านี้? หา!” หงุดหงิด! เดวิดหงุดหงิดจนต้องตะโกนเป็นการระบายออกมา ก่อนที่จะฝืนลุกขึ้นยืนเพื่อจัดการกิจธุระส่วนตัวของตนเอง
“นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว!” เฮเซลเคยยอมด้วยหรือ? น้ำเสียงเห็นได้ชัดว่าใกล้จะเริ่มหมดความอดทน
แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้ระเบิดออกมาในเช้าวันนี้ เพราะเดวิดเลิกสนใจเธออย่างสิ้นเชิงแล้ว
หลังจากที่จัดการกับธุระยามเช้าทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อย เดวิดก็เปิดประตูห้องเดินออกมา แต่แทนที่จะมุ่งตรงไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปข้างล่างเหมือนกับทุกวัน เขากลับเลือกที่จะเดินออกไปยืนอยู่ที่ระเบียงที่เปิดโล่งแทน
‘นายจะไม่ลงไปเรียกเรือเหาะเหมือนกับทุกครั้งหรือ?’ เสียงของเฮเซลดังขึ้นมาในสมองของเขาโดยตรง
‘จะต้องไปเรียกทำไม? ตอนนี้ฉันมีชุดอุปกรณ์สกายวอคเกอร์แล้วเธอจำไม่ได้เหรอ?’ เดวิดก็ใช้ความคิดตอบเธอกลับไปเช่นกัน ก่อนที่จะกระโดดลงมาจากระเบียงนั้นอย่างรวดเร็ว ในสายตาของคนภายนอกที่มองเข้ามา ทุกคนคิดเป็นทางเดียวกันอย่างช่วยไม่ได้ ทำไมถึงได้มีคนมาฆ่าตัวตายเช้า ๆ แบบนี้?
‘ทำไมจะจำไม่ได้? ฉันเป็น AI นะ! จะมีวันลืมอะไรได้ยังไง? แค่หลังจากที่คำนวณแล้ว ชุดสกายวอคเกอร์พานายไปถึงไม่ทันเวลาหรอก ฉันถึงได้ไม่เอามาอยู่ในการวางแผนเดินทางด้วย’ เฮเซลให้ข้อมูลออกมา
ตอนนี้เดวิดกำลังอยู่ระหว่างตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก สายลมที่พัดผ่านปลุกความรู้สึกของเขาให้สดชื่นขึ้นไม่น้อย แต่หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเฮเซลแล้ว เดวิดก็ได้แต่ถามออกมาด้วยความสงสัย “อะไรนะ? ทำไมล่ะ? เครื่องมันก็เร็วอยู่นี่”
“ไม่เกี่ยวกับชุดอุปกรณ์สกายวอคเกอร์ ฝีมือการใช้งานของนายมันห่วยเกินไปต่างหาก ต่อให้เครื่องดีแค่ไหน นายก็ไม่มีทางไปทันได้หรอก” น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นเหยียดหยามมาก
และมันทำให้เดวิดขมวดคิ้วเล็กน้อยทันที แม้ว่าจะค่อนข้างไม่พอใจกับน้ำเสียงนั่น แต่สิ่งที่เฮเซลพูดมานั้นเป็นความจริง เขาเพิ่งได้ครอบครองชุดสกายวอคเกอร์มาไม่นาน ยังไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างคล่องตัวนัก แต่เดวิดไม่คิดว่าฝีมือของเขาจะถึงขนาดห่วยอย่างที่เธอบอกเลย
“ก็ได้! ไม่ใช้ก็ได้ เธอเรียกเรือเหาะมาให้ฉันหรือยัง” เดวิดตัดสินใจยอมแพ้ เขาไม่อยากจะไปเข้าเรียนสาย โดยเฉพาะยิ่งเป็นวิชาทักษะการต่อสู้ด้วยแล้ว ครูฝึกไม่ใช่คนที่น่าจะไปมีเรื่องด้วยเลย
ระหว่างที่เขาพูดออกมา นิ้วโป้งก็กดย้ำลงไปที่พื้นรองเท้า มันเป็นการเปิดให้ชุดสกายวอคเกอร์ทำงาน ส้นรองเท้าจัดเรียงตัวใหม่เป็นช่องทางเดินไอพ่น พลังขับเคลื่อนพุ่งตัวออกมาลดความเร็วในการตกลงมาสู่พื้นเอาไว้ จนเมื่อเหลือระยะทางอีก 1 เมตร ตัวของเดวิดก็ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ เขาปิดการทำงานของเครื่องยนต์ และปล่อยให้ตัวเองตกลงมายืนอยู่ที่พื้นในที่สุด
และสิ่งที่เขาทำทั้งหมดนี่สร้างความแตกตื่นให้กับนักเรียนที่ยืนอยู่ด้านล่างไม่น้อย แถมจุดที่เขา ‘กระโดด’ ลงมานี้ มันดันเป็นด้านหน้าของตึกพักเสียด้วย
“เจ้าหมอนั่นทำบ้าอะไร แล้วไอ้ที่อยู่ใต้เท้านั่นมันอะไรกัน” เสียงใครบางคนบ่นออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด เดวิดลงมาใกล้กับตัวเขามากเกินไป มันทำให้เขาตกใจจนต้องกระโดดหลบอย่างจ้าละหวั่นเลยทีเดียว
“โอ้! ว้าวว!! นั่นมันอุปกรณ์ชุดสกายวอคเกอร์ไง นายไม่รู้จักเหรอ มันแพงมากเลยนะ” เสียงอุทานตอบมาจากนักเรียนชายอีกคน
“ทำไมจะไม่รู้จัก! และนายพูดถูก มันแพงจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าชาตินี้ตัวเองจะหาซื้อมาใช้ได้ด้วยซ้ำ” มีเสียงที่แฝงไปด้วยความอิจฉาดังตอบกลับมา
เดวิดไม่สนใจความเห็นของเหล่านักเรียนจน ๆ พวกนั้นเลย เขายืนเชิดหน้ารอเรือเหาะสาธารณะที่เฮเซลเรียกมาให้อย่างเงียบ ๆ เท่านั้น..