บทที่ 593: ปากนี้ควรให้มันปิดไปตลอดกาล
“หายไปหรือ?” หยินซางแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง แล้วเขาก็ตะคอกใส่ลูกน้องเสียงกร้าว
“พวกเจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไง!”
ชายหนุ่มยังคงทำหน้าไม่เชื่อ
ถ้าไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตาของตัวเอง คนปกติที่ไหนจะเชื่อเรื่องแบบนี้กัน?
แต่...
“ท่านหัวหน้า เราไม่ได้โกหก สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง เมื่อกี้พวกเขา—”
ลิ่วล้อของหัวหน้าเผ่าไป๋ผีรีบอธิบายด้วยความตื่นตระหนก
“พวกเจ้าอยากจะบอกว่าจู่ ๆ 2 คนนั้นก็หายไปในอากาศงั้นรึ?” หยินซางขัดจังหวะคำพูดของลูกน้องตนเอง “พวกเจ้าคิดจะเอาเรื่องไร้สาระแบบนี้มาหลอกข้าหรือ พวกมันติดสินบนพวกเจ้าเท่าไหร่? บอกข้ามา!”
ตอนนี้สายตาของชายหนุ่มมีแต่ความเคลือบแคลงสงสัยในตัวอีกฝ่าย
นั่นยิ่งทำให้ภูตเผ่าไป๋ผีกังวลจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“ท่านหัวหน้า เราไม่ได้โกหก เรากำลังพูดความจริง จู่ ๆ พวกเขาก็หายไปจริง ๆ …”
พวกเขาอยากจะร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอดเสียตรงนี้!
เหตุใดท่านหัวหน้าถึงไม่เชื่อทั้ง ๆ ที่พวกเขากำลังพูดความจริง!
“หุบปาก!” หยินซางหมดความอดทนแล้ว เขารีบไล่คนพวกนี้ไปให้พ้นหน้าตัวเองทันที
“จู่ ๆ จะมีภูตที่ไหนหายตัวไปเฉย ๆ พวกเจ้าจะต้องเอาพวกนางไปซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่งแน่ ๆ ไปเอาตัว 2 คนนั้นกลับมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!!”
ชายหนุ่มคำรามเสียงดังอย่างเหลืออด
ไอ้หน้าโง่พวกนี้ถึงขั้นรวมหัวกันหลอกข้า รอให้ข้าได้ตัวพวกนางมาก่อนเถอะ แล้วข้าจะส่งพวกเจ้าไปลงนรกทั้งหมดทีเดียว!
บัดนี้ดวงตาสีดำสนิทของหยินซางวาวโรจน์
อีกฝั่งหนึ่งในเวลาเดียวกัน
หลงหลิงเอ๋อกอดต้นขาของพ่อมังกรขณะซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขา ซึ่งนางโผล่หัวออกมาทันเวลาที่จะได้เห็นเหตุการณ์เหลือเชื่อพอดี
นั่นทำให้ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเต็มไปด้วยความตกใจ
“ท่านพ่อ ท่านแม่… พวกนาง...”
หายไปในพริบตา!!
เด็กหญิงรู้ว่าพวกภูตเผ่าไป๋ผีไม่ได้โกหก
ท่านแม่กับหยินชางหายตัวไปอย่างกะทันหันจริง ๆ ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน
หมอผีตัวน้อยแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
ไม่นานแสงบางอย่างก็ส่องประกายในดวงตาที่มืดมนของหลงโม่
ต่อมา เขาดึงข้อมือของลูกสาวเบา ๆ และพูดเสียงทุ้มว่า
“หลิงเอ๋อ จับพ่อไว้ให้แน่น ๆ”
ถึงเวลาที่เขาต้องออกโรงแล้ว!
“ท่านพ่อ…อื้อ” หลงหลิงเอ๋อตอบ
ครู่ต่อมา ร่างเล็ก ๆ ของนางก็ถูกผู้เป็นพ่อโยนขึ้นไปบนฟ้า แล้วมังกรดำตัวใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นในชั่วพริบตา ซึ่งทันเวลาที่จะจับเด็กน้อยไว้พอดีก่อนที่นางจะตกพื้น
ราวกับว่าหนวดมังกรยาวมีชีวิต มันพาตัวหลงหลิงเอ๋อไปวางไว้บนหัวตัวเองอย่างแม่นยำเหมือนตาเห็น
ขณะนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ของเด็กหญิงนิ่งเฉยมากเพราะนางเชื่อใจพ่อมังกร แล้วนางก็เอื้อมมือไปจับเขามังกรไว้แน่น
วินาทีถัดมา มังกรดำตัวใหญ่ทะยานขึ้นไปข้างบน ก่อนจะแผ่รังสีอำมหิตไปทางพวกหยินซางดั่งคลื่นมหาสมุทรมหึมาที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วกำลังจะตกลงมาท่วมโลก
ทางด้านเหล่าภูตเผ่าไป๋ผีที่รับรู้ถึงจิตสังหารจากคู่ต่อสู้ยืนตัวแข็งทื่อ แขนขาของพวกเขาเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมาถ่วงเอาไว้จนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
พอหยินซางกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง สภาพรอบตัวเขาก็มีแต่ลูกน้องที่ค่อย ๆ ล้มลงกับพื้นไปทีละคนแล้ว
บัดนี้เลือดอุ่น ๆ สาดกระเซ็นเปื้อนผืนหญ้าที่เหี่ยวเฉา ก่อนจะค่อย ๆ ซึมลงไปบำรุงหล่อเลี้ยงพื้นดินที่แห้งแล้ง
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจก็ไม่เหลือใครยืนอยู่บนผืนดินรกร้างนอกจากหัวหน้าเผ่าไป๋ผี
ระหว่างซากศพที่กระจัดกระจายและบ้านเรือนที่พังพินาศ หยินซางรู้สึกกลัวมากจนทำได้เพียงคลานหนีไปบนพื้น
เขาหันหน้ามองย้อนกลับไปแล้วก็สบเข้ากับดวงตาสีทองคู่หนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวบนท้องฟ้า
ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นดูเหมือนจะเปื้อนไปด้วยเลือด ซึ่งมันเหมือนกับยมทูตที่มารอรับชีวิตของเขา
“อย่า-อย่าเข้ามานะ... หูเจียวเจียวและหยินชางยังอยู่ในกำมือของข้า ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะไม่มีวันได้พบหน้าพวกนางอีกอย่างแน่นอน…” ชายหนุ่มพยายามถอยหนีในขณะที่เขาทรุดตัวลงไปกองกับพื้น
เขายังคงคิดว่าตัวเองจะใช้จิ้งจอกสาวคุกคามภูตมังกรได้อยู่เหมือนเดิม
จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่เชื่อว่าหูเจียวเจียวกับหยินชางจะหายตัวไปในอากาศเหมือนที่ลูกน้องของตนบอก
“ท่านพ่อ…” หลงหลิงเอ๋อที่กำเขามังกรไว้แน่นแสดงสีหน้าเป็นกังวล
ตัวนางเองยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ แม่จิ้งจอกกับหยินชางถึงหายไปต่อหน้าต่อตา?
นางรู้สึกเป็นกังวลว่าพวกเขาทั้ง 2 คนจะไม่ได้กลับมาจริง ๆ
ทางด้านหลงโม่พ่นลมแรง ๆ ไปทางหัวหน้าเผ่าไป๋ผี
ลมหายใจที่แผดเผานั้นเหมือนกับลมกระโชกที่ปะทะเข้าใส่หยินซางจนกลิ้งไปมาบนพื้นหลายตลบ
ในขณะเดียวกัน มังกรดำก็แหวกว่ายเหมือนผีในยามราตรี
ระหว่างที่ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองคุกคามอีกฝ่ายได้สำเร็จ จู่ ๆ เขาก็มีอาการปวดแขนอย่างรุนแรงขึ้นมาแบบกะทันหัน
“อ๊ากกก!!”
เขาก้มลงมองแขนขาของตนที่ถูกตัดออกด้วยความหวาดกลัว
บัดนี้ใบหน้าซีดเซียวประทับอยู่ในดวงตาสีทองขนาดใหญ่ จากนั้นมังกรดำก็ยกกรงเล็บขึ้นโดยไม่ลังเลใจและพร้อมที่จะหักคอของศัตรู
ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวได้พาหยินชางออกมาจากมิติซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับการเคลื่อนไหวนี้
“ท่านแม่! หยินชาง!” หลงหลิงเอ๋อร้องออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นทั้งคู่ปรากฏตัวขึ้น
ส่วนมังกรตัวเขื่องหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองแล้วหันไปมองทั้ง 2 คน
ดวงตาล้ำลึกของเขาเคลื่อนไปหยุดอยู่ที่จิ้งจอกสาว ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน
หูเจียวเจียวออกมาหลังจากปล่อยให้เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง แล้วเธอก็ต้องมาเจอสภาพที่มีแต่เลือดและศพเกลื่อนพื้น จากนั้นเธอก็หันไปมองหลงโม่กับลูกสาวทันที
“ท่านแม่!” ทันทีที่หนวดมังกรพาตัวเด็กหญิงวางลงบนพื้น นางก็รีบวิ่งไปหาแม่จิ้งจอก
“หลิงเอ๋อ เจ้ากลัวหรือเปล่า?” หญิงสาวปล่อยมือจากหยินชางก่อนจะย่อตัวลงไปกอดเด็กน้อย
หลงหลิงเอ๋อส่ายหัวพลางพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ไม่ ท่านแม่ ข้าดีใจที่พวกท่านไม่เป็นอะไร”
ส่วนหยินชางที่ยืนอยู่ด้านข้าง โลกเบื้องหน้าเขาสว่างวาบเหมือนกับว่าตัวเองเพิ่งตื่นจากความฝัน ในขณะที่เขามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
“หยินชาง เจ้าเป็นอะไรไหม?” หลงหลิงเอ๋อสังเกตเห็นว่าท่าทางของเด็กหนุ่มแปลก ๆ จึงคิดว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกหวาดกลัว นางจึงยื่นมือขวาออกไปโบกต่อหน้าเขา
หูเจียวเจียวเองก็ก้มลงมองปฏิกิริยาของเขาเช่นกัน
ขณะเดียวกัน หยินชางถูกดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยเสียงของเด็กหญิง เขารีบระงับความตกใจที่ฉายผ่านดวงตาก่อนจะส่ายหัวตอบ
“ไม่เป็นไร...”
อันที่จริงเขาแค่แปลกใจกับความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ
ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ไปโผล่ในสถานที่ที่เงียบสงบมากจนไม่มีเสียงอะไร ไม่นานเขาก็กลับมาสู่โลกอันวุ่นวายในพริบตาเดียว
แม้ว่าเด็กหนุ่มจะถูกแม่จิ้งจอกปิดตาเอาไว้ตลอดเวลา แต่เขาก็รู้สึกมั่นใจมากว่าสิ่งที่เขาสัมผัสได้นั้นไม่ผิด
นั่นคือพลังของเทพอสูรหรือเปล่า?
“นี่เจ้า… เจ้าเป็นภูตเผ่าพันธุ์ไหนกัน!?”
หยินซางที่ได้เห็นฉากนี้ด้วยตาของตัวเองก็ตื่นตระหนก
ดวงตาสีดำของเขาเบิกกว้างพร้อมกับจิตใจที่ว่างเปล่า
เป็นเรื่องจริงที่หูเจียวเจียวกับหยินชางหายตัวไป แล้วจู่ ๆ พวกนางก็ปรากฏตัวขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เป็นไปได้ไหมว่านางเป็นจิงหลิง!?
การกระทำที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ในความรู้ของหยินซาง มีเพียงจิงหลิงเท่านั้นที่ทำได้
จากนั้นหูเจียวเจียวก็ตระหนักว่าหัวหน้าเผ่าไป๋ผียังไม่ตาย
จิ้งจอกสาวไม่แปลกใจกับสภาพปัจจุบันของอีกฝ่าย ตอนนี้แขนขาทั้งหมดของเขาถูกตัดขาดโดยเหลือเพียงลำตัวและศีรษะเท่านั้น
ประกอบกับใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนเป็นโรคไตบกพร่อง คนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าเขาถูกทรมานมาเป็นเวลานานแล้ว
ความทรงจำที่หายไปนานนี้ทำให้เธอนึกถึงจุดจบที่เจ้าของร่างเดิมจะต้องพบเจอ
ทันใดนั้นมุมปากของหญิงสาวก็กระตุก
ดูเหมือนว่าการแยกชิ้นส่วนคนเป็นงานอดิเรกของหลงโม่ เขาไม่ได้คิดที่จะใช้วิธีนี้ฆ่าหูเจียวเจียวเพียงคนเดียว
ทางด้านมังกรดำหันศีรษะไปมองหยินซางด้วยความไม่พอใจ ขณะที่มีร่องรอยของความกระหายเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
ปากนี้ควรให้มันปิดไปตลอดกาล
ภายใต้สายตาอาฆาต ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไป๋ผีได้แต่ตัวสั่นพลางเฝ้ามองมังกรยักษ์ที่เทียบได้กับภูเขาขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาตน
ตอนนี้แม้แต่การจะขยับตัวหนี ชายหนุ่มก็ยังทำไม่ได้
“ไม่!” เขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด เขาเป็นคนที่ได้ดื่มเลือดภูตอสูร ขอแค่เขาได้ดื่มเลือดของหยินชาง การเอาชนะภูตมังกรก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!
ขณะที่หยินซางรู้สึกหวาดกลัวและกำลังพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก
เขาจึงหลับตาและตะโกนว่า
“เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้! ถ้าเจ้าฆ่าข้า ทุกคนในเผ่าเยว่หูจะต้องตาย แล้วพวกเจ้าก็จะตายกันหมด!”
“ข้าได้เอาสิ่งของของคนเป็นโรคระบาดไปทิ้งไว้ทั่วเผ่าแล้ว ถ้าพวกเจ้าฆ่าข้า พวกเจ้าจะไม่มีวันรู้ว่าต้นตอของโรคระบาดมาจากไหน!!”