บทที่ 33 เก็บกวาด
บทที่ 33 เก็บกวาด
สิ่งนี้ทำให้เจียงเฉิงซวนประหลาดใจอย่างมาก
ในฐานะผู้ฝึกตนปีศาจที่ชั่วร้ายและโหดร้าย เขาควรจะโกธรแค้นเมื่อเห็นสหายของเขาถูกฆ่าใช่ไหม?
ทำไมเขาถึงหนีไปแบบนั้นล่ะ?
มันไม่ตรงกับลักษณะของผู้ฝึกตนปีศาจเลย
แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้แ
ในความเป็นจริง ไหวพริบและความเฉลียวฉลาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นธรรมชาติของผู้ฝึกตนปีศาจเหล่านี้
ความดุร้ายเป็นเพียงหนังพยัคฆ์ที่พวกเขาสวมใส่เท่านั้น
เมื่อพวกเขารู้สึกถึงอันตรายและความตาย พวกเขาจะวิ่งหนีออกไปตามสัญชาตญาณ
อย่างไรก็ตาม เขาได้ลงมือแล้วและเขาก็ได้เป็นศัตรูกับชายร่างผอมสูงคนนั้นแล้ว ถ้าเขาปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไป อนาคตเขาอาจจะต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงมากขึ้นไม่ใช่หรือ?
นี่คือสิ่งที่เจียงเฉิงซวนจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น
ดังนั้น
เจียงเฉิงซวนไม่ลังเลอีกต่อไป
หลังจากเอื้อมมือออกไปหยิบถุงเก็บของที่ตกลงมาจากชายร่างกำยำแล้ว เขาก็หยิบดาบเพลิงม่วงออกมาทันทีและไล่ตามชายร่างผอมสูงคนนั้นไป
ความแข็งแกร่งของพลังปราณแท้จริงของเขาตอนนี้เกือบจะใกล้เคียงกับความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานระยะกลางแล้ว
นอกจากนี้ ดาบบินที่อยู่ใต้เท้าของเขายังเป็นดาบบินระดับ 2 ขั้นกลางซึ่งสูงกว่ากระบี่ของชายร่างผอมสูงที่อยู่ในขั้นต่ำ
ดังนั้น ครู่ต่อมาเจียงเฉิงซวนจึงค่อย ๆ ตามชายร่างผอมสูงคนนั้นทัน
มารดามันเถอะ! เขาจะรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?
ชายร่างผอมสูงที่กำลังหลบหนีอยู่ข้างหน้า รู้สึกถึงออร่าดาบที่เข้ามาใกล้จากด้านหลัง และหัวใจของเขาก็ตกลงตาตุ่มทันที
เมื่อสักครู่นี้ เจียงเฉิงซวนก็สังหารชายร่างกำยำในชุดดำซึ่งอยู่ในขั้นที่ 3 ของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน
ตอนนี้ในฐานะผู้ฝึกตนขอบเขตการก่อตั้งรากฐานขั้นที่ 2 เจียงเฉิงซวนกำลังจะไล่สังหารเขาซึ่งอยู่ในขั้นที่ 4 ของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน ชายร่างผอมสูงรู้ว่าสิ่งนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
เขาต้องคิดหาหนทางที่จะฆ่าคนผู้นี้ให้ได้!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ร่องรอยของความโหดเหี้ยมก็ฉายแวววูบในดวงตาของชายร่างผอมสูง
ทันใดนั้นเขาก็หยุดบินทันที
หลังจากนั้นกระบี่ปีศาจที่อยู่ใต้เท้าของเขากลายเป็นลำแสงสีดำและฟันไปที่เจียงเฉิงซวน!
เจียงเฉิงซวนมีความสุขมากที่ชายร่างสูงผอมต้องการเผชิญหน้ากับเขา ดาบเพลิงม่วงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเจียงเฉิงซวนก็กลายเป็นลำแสงสีม่วงเข้าปะทะกับกระบี่ปีศาจสีดำ
ตูม!
ทันใดนั้นแสงสีม่วงและแสงสีดำก็ปะทุขึ้น
ปราณดาบที่รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวก็กระจายไปทั่วท้องฟ้าทันที
คลื่นพลังปราณกับกระทบกับเนินเขาเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล
ทันใดนั้น หินทั้งก้อนเล็กและก้อนใหญ่ก็กลิ้งลงมาและฝุ่นก็ลอยตลบอบอวนขึ้นไปบนท้องฟ้า
ในขณะที่อาวุธกำลังห่ำหันกัน เจ้าของของพวกมันก็ไม่อยู่เฉย
จากนั้นทันใดนั้นจู่ๆธงเล็กๆก็ปรากฏขึ้นในมือของชายร่างผอมสูง
ธงนี้เรียกว่าธงวิญญาณอสูรโลหิต มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ปีศาจระดับ 2 ที่ได้รับการปรับแต่งโดยชายร่างผอมสูง ด้วยการใช้เลือดมนุษย์ 300,000 คน ทำให้พลังของมันใกล้เคียงกับสิ่งประดิษฐ์ระดับ 2 ขั้นกลางแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีวิญญาณชั่วร้ายระดับ 2 อาศัยอยู่ในธงซึ่งวิญญาณตนนี้อยู่ในขอบเขตการก่อตั้งรากฐานระยะกลาง
เมื่อมันถูกอัญเชิญ วิญญาณชั่วร้ายนี้จะโจมตีสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่มันพบเห็น
แน่นอนว่ารวมถึงชายร่างผอมสูงนั้นด้วย
นอกจากชายร่างผอมสูงจะปรับแต่งธงวิญญาณอสูรโลหิตนี้ให้เป็นสิ่งประดิษฐ์ธรรมระดับ 2 ขั้นกลางอย่างแท้จริงเท่านั้น วิญญาณชั่วร้ายที่อาศัยอยู่ในนั้นถึงจะมีสติปัญญาในระดับหนึ่งและหยุดโจมตีเจ้านายของมันได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชายร่างผอมสูงดึงธงนี้ออกมา เขาก็มีวิธีหลบการโจมตีของวิญญาณชั่วร้ายโดยธรรมชาติ
จู่ๆ ลูกปัดสีน้ำตาลอมเทาก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
ลูกปัดนี้ปล่อยออร่าแห่งความตายที่แข็งแกร่งมาก มันปกคลุมทั่วทั้งร่างชายร่างผอมสูงคนนี้
ด้วยเหตุนี้ สำหรับวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ในธงวิญญาณอสูรโลหิตจะกำหนดเป้าหมายไปที่เจียงเฉิงซวนที่ลอยอยู่ในอากาศเท่านั้น
ตามที่คาดไว้ วิญญาณชั่วร้ายที่พุ่งออกมาจากธงวิญญาณอสูรโลหิตก็พุ่งเข้าหาเจียงเฉิงซวนทันที
“ฮึ่ม!”
เมื่อเห็นว่าวิญญาณชั่วร้ายกำลังโจมตีเขา เจียงเฉิงซวนก็หยิบโล่ออกมาอีกครั้ง
ภายใต้การโจมตีของวิญญาณชั่วร้าย แสงวิญญาณรอบๆ โล่วิญญาณสีม่วงทองของเจียงเฉิงซวนเริ่มอ่อนลงอย่างรวดเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้น ที่ขอบของโล่ยังมีร่องรอยสีแดงของออร่าปีศาจแทรกซึมเข้ามาอีกด้วย
วิญญาณชั่วร้ายนี้มีความสามารถในการทำให้สิ่งประดิษฐ์ธรรมะเสียหายได้
ดวงตาของเจียงเฉิงซวนมืดมนลง
เขารู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปได้
มิฉะนั้น โล่วิญญาณสีม่วงทองของเขาอาจจะได้รับความเสียหายอย่างมากได้
เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เขาก็มองไปที่ชายร่างผอมสูงที่กำลังมองเขาด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาทันที
หวืด
ในขณะนั้น จู่ๆเจียงเฉิงซวนก็หยิบยันต์สีทองจำนวนออกมาหลายสิบแผ่น จากนั้นแสงสีทองจำนวนมากก็ลอยออกจากมือของเขาไปที่วิญญาณชั่วร้ายนั่น
แม้ว่ายันต์นี้จะเป็นเพียงยันต์ระดับ 1 ขั้นสูง แต่ก็มีประสิทธิภาพอย่างมากในการต่อต้านภูตผีและวิญญาณชั่วร้าย
แม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถทำอะไรกับวิญญาณชั่วร้ายได้จริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะยับยั้งมันไว้สักระยะหนึ่ง
เมื่อแสงสีทองนั้นลอยออกไป เจียงเฉิงซวนก็ได้ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วและยกมือขึ้นราวกับกำลังถืออะไรบางอย่างอยู่
ก่อนที่ชายร่างผอมสูงที่อยู่ไม่ไกลจะทันได้ตอบสนองอะไร ทันใดนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็เต็มไปด้วยแสงสีขาวอันไม่มีที่สิ้นสุด
นี่… นี่คืออะไร?
ชายร่างผอมสูงกลายเป็นตกตะลึงอย่างมาก
เขาต้องการหลบหนี แต่ความเร็วของแสงสีขาวเกินความคาดหมายของเขามาก
ในเวลาเพียงชั่วครู่ เขาก็ถูกแสงสีขาวกลืนกินไปจนหมด
แคร็ก แคร็ก
ร่างกายของชายร่างผอมสูงถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งหนาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน กระบี่ปีศาจสีดำที่สูญเสียเจ้าของไปแล้วก็ถูกดาบเพลิงม่วงของเจียงเฉิงซวนตัดออกเป็นสองท่อนทันที
จากนั้น ดาบเพลิงม่วงก็แทงทะลุศีรษะของชายร่างผอมสูง และคร่าชีวิตเขาไปในอากาศนั่นเอง
หลังจากฆ่าชายร่างผอมสูงแล้ว ดาบเพลิงม่วงก็ไม่หยุด
มันพุ่งผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว
ดาบเพลิงม่วงแทงทะลุหน้าอกของวิญญาณชั่วร้ายด้วยเสียงดังฉึบ
พร้อมกับเปลวไฟที่เป็นดาวข่มของสิ่งมีชีวิตในโลกใต้พิภพเช่นวิญญาณชั่วร้ายและภูตผีเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีพลังปราณแท้จริงที่พลุ่งพล่านของเจียงเฉิงซวนที่เคลือบอยู่บนตัวดาบเช่นกัน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของวิญญาณชั่วร้ายจะเทียบได้กับระยะกลางของขอบเขตการก่อตั้งรากฐานแล้ว แต่มันก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที
เจียงเฉิงซวนไม่ได้ลังเลอีกต่อไป
หลังจากทำร้ายวิญญาณชั่วร้ายอย่างรุนแรง เขาก็ฟันดาบเพลิงม่วงใส่วิญญาณชั่วร้ายนั้นซ้ำหลายครั้ง
จากนั้นทั้งวิญญาณชั่วร้ายและธงวิญญาณอสูรโลหิต ก็แตกสลายและแตกระเบิดออกในอากาศ
เจียงเฉิงซวนยกมือขึ้นแล้วคว้าเอาถุงเก็บของบนศพของชายร่างผอมสูงนั้น จากนั้นเขาก็ไม่ได้อ้อยอิ่งอีกต่อไป เมื่อเขายืนอยู่บนดาบเพลิงม่วงได้แล้วเขาก็กลายเป็นแสงดาบหายไปทันที
ครู่ต่อมา ก็มีลำแสงหลายเส้นปรากฏขึ้นบริเวณใกล้ๆ
เมื่อพวกเขาเห็นศพของชายร่างผอมสูงและชายร่างกำยำ ท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“มันคือตาเฒ่ากัวและตาเฒ่าจ้าว พวกเขากลับมาตายอยู่ที่นี่จริงๆ
รีบหน่อย! รีบไปรายงานท่านหัวหน้าตระกูล!”
…