ตอนที่แล้วตอนที่ 558 กลับมาอีกแล้ว!?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 560 โลงศพน้ำแข็ง

ตอนที่ 559 ประตูมิติที่ปั่นป่วน


ตอนที่ 559 ประตูมิติที่ปั่นป่วน

สมองของเซี่ยเฟยพยายามประมวลสถานการณ์ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว และถึงแม้ว่ามู่ฟู่ผิงจะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่าคุณปู่เจ็ดแต่เขาย่อมไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นร่างของหญิงสาวก็คงจะไม่สั่นไปทั่วทั้งตัวแบบนี้ และแม้แต่ภายในแววตาของเธอก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

จากข้อตกลงที่พวกเขาได้คุยกันเอาไว้ หยูฮัวควรที่จะจับตาดูพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ แล้วรีบเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาทันทีในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่น่าเสียดายที่ในเวลานี้หยูฮัวกำลังสู้กับใครสักคนอยู่ในระยะไกลและเขาก็คงจะปลีกตัวออกมาไม่ได้อีกสักระยะ

“ว่าไงหลานสาว? พอดีว่าปู่คนนี้มีเรื่องอยากจะขอให้หนูช่วยปู่สักหน่อย ช่วยตามปู่มาอย่างเชื่อฟังหน่อยจะได้ไหม?” มู่ฉิวโป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ผนึก!

ทันใดนั้นมันก็ได้มีกำแพงมิติปรากฏขึ้นมาดักจับเซี่ยเฟยกับมู่ฟู่ผิงเอาไว้ภายใน ก่อนที่ชายชราจะเริ่มสร้างประตูมิติขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพื่อจะได้นำพามู่ฟู่ผิงไปยังสถานที่ที่เขาได้เตรียมการเอาไว้

ปัง!

เซี่ยเฟยพยายามต่อยกำปั้นออกไปสุดแรงเพื่อใช้กฏแห่งความโกลาหลทำลายกำแพงมิติที่ปรากฏขึ้นมาขวางทาง

ตูม!

กำแพงมิติพังทลายลงอย่างง่ายดายทำให้มู่ฉิวโป๋เลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่านักรบตัวน้อย ๆ อย่างเซี่ยเฟยจะสามารถทำลายกำแพงมิติของเขาได้

จากนั้นชายหนุ่มก็ขว้างร่างของหญิงสาวออกไปไกลหลายสิบเมตร พร้อมกับตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันจริงจังว่า

“ใช้ประตูมิติหนีไปเร็วเข้า!!”

เหตุการณ์นี้ทำให้มู่ฟู่ผิงทำอะไรไม่ถูกและเนื่องมาจากว่าเธอมีพลังอยู่ในระดับอัศวินกฎ การขว้างปาของเซี่ยเฟยจึงไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อเธอได้ แต่ในทางตรงกันข้ามมันกลับช่วยให้เธอเข้าใกล้ประตูมิติได้มากยิ่งขึ้น

15 วินาที!!

เซี่ยเฟยเชื่อว่าตราบใดก็ตามที่เขาสามารถถ่วงเวลามู่ฉิวโป๋ได้เป็นเวลา 15 วินาที มู่ฟู่ผิงย่อมสามารถหลบหนีผ่านประตูมิติออกไปได้อย่างแน่นอน และถ้าหากว่าเขายื้อเวลาได้นานเกินกว่า 30 วินาที หยูฮัวก็จะต้องรีบปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเขาแน่ ๆ

เมื่อสรุปแผนการภายในใจได้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้วิชาหมัดพายุคลั่งจู่โจมเข้าใส่ชายชราอย่างไร้ปรานี

“ไสหัวไปซะ!!” มู่ฉิวโป๋ส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธ ก่อนที่จะสะบัดแขนขึ้นไปบนท้องฟ้าและทันใดนั้นมันก็มีลำแสงมิติ 2 เส้นพุ่งออกมาตามแนวโจมตี

เล่ห์กายา!

หากคนผู้นี้สามารถหลอกล่อหยูฮัวออกไปไกลขนาดนั้นได้ ระดับพลังของชายชราคนนี้ย่อมไม่ต่ำอย่างแน่นอน เซี่ยเฟยจึงไม่ได้มีความคิดที่จะปะทะกับอีกฝ่ายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และการจู่โจมของเขาก็เป็นเพียงแค่กลอุบายที่คิดจะใช้เพื่อถ่วงเวลาฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น

จู่ ๆ ร่างของชายหนุ่มก็บิดตัวอย่างกะทันหันหลบหลีกการโจมตีและอ้อมตัวไปทางด้านซ้ายของมู่ฉิวโป๋เหมือนกับปลาไหลที่คล่องแคล่ว

ฟิ้ว!!

ลำแสงมิติเคลื่อนที่ผ่านหน้าเขาไปสร้างรอยแผลบนมิติเป็นรอยกรีดไปเป็นทางยาว

“ไร้ประโยชน์!” ชายชราเริ่มสะบัดแขนซ้ายของเขาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะได้มีลำแสงพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขาราวกับปืนเลเซอร์

ตูม!

พื้นที่มิติถูกฉีกกระชากแยกออกจากกันเป็นชิ้น ๆ ซึ่งพลังทำลายของชายชราคนนี้มันก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่เซี่ยเฟยได้จินตนาการเอาไว้

ซิลเวอร์เดสเซิร์ด!

ชุดเกราะโลหะเหลวที่ชายหนุ่มเพิ่งซื้อมาเริ่มกระจายตัวออกไปปกป้องทั่วทั้งร่างของเขาเอาไว้ในทันที แต่พลังทำลายจากการจู่โจมในครั้งนี้มันก็ทำให้ร่างของเขากระเด็นขึ้นไปในอากาศหลายสิบเมตร

“น่ารำคาญจริง ๆ”

มู่ฉิวโป๋พึมพำออกมาอย่างรำคาญใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมุ่งเน้นความสนใจไปที่การไล่ตามมู่ฟู่ผิงอีกครั้ง

แม้ว่ามู่ฟู่ผิงจะมีพลังอยู่ในระดับอัศวินกฎแต่เธอก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับศัตรูมาก่อน มันจึงทำให้เธอไม่สามารถจะเป็นคู่ต่อสู้ของเซี่ยเฟยได้ด้วยซ้ำ แล้วมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงการเผชิญหน้ากับมู่ฉิวโป๋ที่แข็งแกร่งกว่าเซี่ยเฟยเลย

ปัง ปัง ปัง!

เมื่อเห็นว่าแขนของมู่ฉิวโป๋ใกล้ที่จะสัมผัสกับร่างของมู่ฟู่ผิง เซี่ยเฟยที่ถูกกระแทกกระเด็นออกไปไกลก็เริ่มเปิดการโจมตีระยะไกลเพื่อยิงลูกบอลแสงออกไปขวางเส้นทางของชายชราไว้

อันที่จริงมันจะเรียกว่าการโจมตีของเซี่ยเฟยก็ไม่ถูกมากนัก เพราะลูกบอลแสงที่ถูกยิงออกไปเป็นลูกบอลแสงของขนอุย

ขนอุยได้ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อของเซี่ยเฟยตั้งแต่แรกเพื่อที่เขาจะได้ใช้การโจมตีของมันในยามคับขัน ซึ่งในขณะที่ชายชรากำลังจะจับร่างของหญิงสาว ชายหนุ่มก็ออกคำสั่งให้เจ้าตัวน้อยพ่นลูกบอลพลังงานออกมาเพื่อขัดขวางมู่ฉิวโป๋เอาไว้

ทันทีที่เท้าของเขาสัมผัสกับพื้นเซี่ยเฟยก็เริ่มเร่งความเร็วเข้าหาหญิงสาวอีกครั้ง จากนั้นเขาก็คว้าร่างของมู่ฟู่ผิงด้วยมือซ้ายพร้อมกับหมุนตัวและโยนเธอเข้าไปหาประตูมิติ

การกระทำของเซี่ยเฟยเป็นสิ่งที่บ้าคลั่งมาก เพราะเขาได้ขว้างปาเธอออกไปราวกับลูกบอลถึงสองครั้ง แต่ในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้เซี่ยเฟยไม่ได้สนใจถึงวิธีการใด ๆ แล้ว อีกอย่างหนึ่งคือหญิงสาวคนนี้ก็มีพลังมากพอที่จะไม่ตายเพราะแรงตกกระทบเพียงแค่เล็กน้อย

ในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็วิ่งตามร่างของหญิงสาวไป โดยมีร่างของชายชราตามหลังเขามาติด ๆ

แว๊บ!!

ฟิ้ว!!

ตูม!!

เมื่อร่างของหญิงสาวเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติเข้าไป ชายหนุ่มก็เริ่มดีดนิ้วออกไปอีกครั้งเพื่อขว้างก้อนหินเข้าไปใส่เครื่องระบุตำแหน่งของประตูมิติ ทำให้ตัวเลขระบุตำแหน่งเริ่มหมุนอย่างรวดเร็วและมันก็ไม่มีใครรู้ว่าประตูมิตินี้จะได้นำพาพวกเขาไปที่ไหน

เล่ห์กายา!

เมื่อร่างของเขากำลังจะปะทะเข้ากับประตูมิติ เซี่ยเฟยก็พลิกร่างออกไปยังด้านข้างอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามหลบหลีกประตูมิตินี้ และทำให้ชายชราที่พุ่งตัวตามมาหลงเข้าไปในประตูมิติที่ไม่มีใครสามารถระบุตำแหน่งได้

ในที่สุดชายชราก็ตระหนักได้ว่าประตูมิตินี้จะไม่ได้นำพาร่างของเขาตรงไปยังที่ที่เดียวกันกับมู่ฟู่ผิง แต่มันก็สายเกินไปที่เขาจะหยุดร่างกายเอาไว้อย่างกะทันหัน ซึ่งประตูมิติที่กำลังผันผวนนี้มันก็อาจจะส่งร่างของเขาไปยังหลุมดำที่บ้าคลั่งก็ได้

เมื่อทุกอย่างใกล้ที่จะเป็นไปตามแผนเซี่ยเฟยก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก แต่ในทันใดนั้นเองฝ่ามือที่มีความแข็งแกร่งราวกับคีมเหล็กก็คว้าจับข้อเท้าของเขาเอาไว้ และเริ่มดึงตัวเขาเข้าไปในประตูมิติพร้อมกับมู่ฉิวโป๋ด้วย

เหตุการณ์นี้เริ่มทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตื่นตระหนก เพราะเขาเป็นคนทำลายเครื่องระบุตำแหน่งของประตูมิติเอง มันจึงไม่มีใครรู้ว่าประตูบานนี้จะส่งเขาไปปรากฏตัวที่ไหน

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยได้พยายามทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งสำหรับนักรบคนอื่น ๆ พวกเขาก็อาจจะยังไม่สามารถตั้งสติได้ด้วยซ้ำ และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการคิดแผนการเพื่อช่วยเหลือมู่ฟู่ผิงแบบนี้เลย

แต่เซี่ยเฟยกลับคิดแผนการทุกอย่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเขาก็คิดได้แม้กระทั่งวิธีการที่จะส่งร่างชายชราคนนี้ออกไปจากตระกูลหยู

น่าเสียดายที่เรื่องเดียวที่ผิดแผนคือชายชราคนนั้นได้คว้าข้อเท้าของเขาเอาไว้ด้วย และได้พาร่างของชายหนุ่มเข้าไปในประตูมิติที่กำลังปั่นป่วน

เกือบจะในเวลาเดียวกันกับที่ร่างของเซี่ยเฟยเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติไป หยูฮัวกับมู่หยวนก็เดินทางมาถึงประตูมิติด้วยเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยได้แอบปล่อยคลื่นมิติขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อส่งสัญญาณบอกหยูฮัวให้รู้ว่าทางฝั่งเขากำลังได้พบกับอันตราย

“คุณหนูอยู่ไหน? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!” มู่หยวนส่งเสียงคำรามออกมาอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อเขาถูกหลอกให้ออกไปต่อสู้ในระยะไกลจนไม่สามารถปกป้องมู่ฟู่ผิงเอาไว้ได้

ในเวลาเดียวกันใบหน้าของหยูฮัวก็กำลังเปลี่ยนไปเป็นสีซีดเผือด และสายตาของเขาก็กำลังจับจ้องมองไปยังอุปกรณ์ระบุตำแหน่งที่ตัวเลขหน้าปัดยังคงหมุนอยู่อย่างบ้าคลั่ง

เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่สัญญาณบอกเหตุที่ดีอย่างแน่นอน เพราะการที่ตัวเลขระบุตำแหน่งยังคงหมุนอยู่แบบนี้ มันก็หมายความว่าพวกเขาไม่มีทางรู้ว่าใครถูกเคลื่อนย้ายไปที่ไหน และไม่ว่าใครที่เคลื่อนที่ผ่านประตูมิติที่ปั่นป่วนแบบนี้ไป เขาคนนั้นก็มีโอกาสจะต้องพบเจอกับอันตรายที่สูงมากอย่างแน่นอน

‘เซี่ยเฟยหรือคุณหนูมู่ฟู่ผิง? หรือพวกเขาหนีเข้าไปพร้อมกัน?’ หยูฮัวพยายามคาดการณ์สถานการณ์ภายในใจ

เหตุการณ์นี้ทำให้หยูฮัวรู้สึกเหมือนกับตัวเองแก่ลงไปอีกหลายปี เพราะถ้าหากเซี่ยเฟยเสียชีวิตมันก็หมายความว่าตระกูลหยูจะได้สูญเสียนักรบผู้มากพรสวรรค์ไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากคุณหนูมู่ฟู่ผิงเป็นอะไรขึ้นมา ความโกรธทั้งหมดของตระกูลวิทเทอร์ก็คงจะถูกโยนเข้ามาใส่ตระกูลหยูอย่างแน่นอน

“เอ๊ะ? อุปกรณ์ระบุตำแหน่งกำลังหมุนอยู่อย่างนั้นเหรอ?” มู่หยวนอุทานออกมาอย่างสงสัย

“ไม่นะ! อย่าบอกนะว่าคุณหนูถูกส่งผ่านประตูนี้ไป ถ้าหากว่าเธอเป็นอะไรขึ้นมามันไม่ใช่แค่ฉันแต่ตระกูลหยูทั้งตระกูลก็จะต้องตายเพื่อชดใช้ความสูญเสียในครั้งนี้ด้วย!!”

มู่หยวนส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าจู่ ๆ เขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“แกเป็นใคร... อั่ก!!”

จู่ ๆ นักสู้จากตระกูลหยูก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางอันเหนื่อยหอบ พร้อมกับชี้นิ้วไปทางมู่หยวนที่พวกเขาคิดว่าเป็นศัตรู

แต่เดิมมู่หยวนก็กำลังรู้สึกหงุดหงิดมากพออยู่แล้ว เขาจึงรีบพุ่งตัวออกไปและฉีกกระชากร่างของนักรบพวกนั้นออกจากกันในทันที

ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความสับสนอยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็ได้มีร่าง ๆ หนึ่งเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติออกมาอีกครั้งและร่าง ๆ นั้นก็คือมู่ฟู่ผิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย

“คุณหนู!!” มู่หยวนตะโกนออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่เขาจะรีบกระโจนไปคุกเข่าแทบเท้ามู่ฟู่ผิง

“คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่า? ผมผิดไปแล้ว ผมสมควรตายที่ไม่ดูแลคุณหนูให้ดี!”

มู่หยวนส่งเสียงร้องอย่างคร่ำครวญพร้อมกับตบใบหน้าของตัวเองอย่างรุนแรง จนทำให้มีเศษฟันกระเด็นหลุดออกมาจากปากของเขา

ระหว่างนั้นหยูฮัวก็พยายามดึงสติกลับคืนมาและมันก็ทำให้เขาได้ตระหนักว่าสถานการณ์ในครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงมากกว่าที่เขาได้คิดเอาไว้

จากการปะทะกันเมื่อสักครู่หยูฮัวจึงได้รู้ว่ามู่หยวนคือราชากฎขั้นสูง แต่ในตอนนี้ราชากฎที่แข็งแกร่งคนนั้นกลับคุกเข่าแทบเท้ามู่ฟู่ผิงและลงโทษตัวเองอย่างรุนแรง ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่าสถานะของมู่ฟู่ผิงในตระกูลวิทเทอร์อยู่เหนือเกินกว่าสิ่งที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้ไปหลายขั้น

“นี่คุณแอบตามฉันมาเหรอ?” มู่ฟู่ผิงถามพร้อมกับจับร่างของมู่หยวนเอาไว้

“คุณหนูมู่ฉิงปิงเป็นคนขอให้ผมแอบตามคุณหนูมาครับ”

มู่หยวนทุบตีร่างของตัวเองจนใบหน้าบวมไปจนหมดแล้ว และเขาก็ยังคงมีความคิดวน ๆ อยู่ซ้ำ ๆ ว่าเขาสมควรตาย

เหตุการณ์นี้ทำให้หยูฮัวถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เพราะการที่มู่ฟู่ผิงยังมีชีวิตรอดปลอดภัย มันก็หมายความว่าตระกูลหยูได้รอดพ้นจากหายนะด้วยเหมือนกัน

“คุณหนูมู่ฟู่ผิงสบายดีนะครับ?”

“เซี่ยเฟยล่ะ? เซี่ยเฟยอยู่ที่ไหน? เขาจะหยาบคายกับฉันมากเกินไปแล้วนะ ถึงขนาดกล้าโยนฉันเข้าใส่ประตูมิติแบบนั้น!” มู่ฟู่ผิงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจและคำพูดของเธอก็ทำให้หยูฮัวสามารถสรุปสถานการณ์ทั้งหมดได้ในทันที

“เซี่ยเฟยน่าจะเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติไปแล้วครับ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าเขาไปปรากฏตัวอยู่ที่ไหน หลังจากนี้พวกเราจะรีบตรวจสอบเรื่องทุกอย่างโดยเร็วที่สุด แล้วเราจะรีบรายงานให้คุณหนูทราบนะครับ” หยูฮัวกล่าว

โดยปกติมู่ฟู่ผิงเป็นผู้หญิงที่ใจเย็นมาก แต่ในระหว่างที่เซี่ยเฟยลากตัวเธอออกมาฝ่ามือของเขาก็ได้สัมผัสเข้ากับหน้าอกของเธอ มันจึงทำให้เธอไม่สามารถรักษาความสงบได้เหมือนในยามปกติ

หยูฮัวรีบทำการตรวจสอบวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์บริเวณประตูมิติเอาไว้อย่างเร่งรีบ ก่อนที่บรรยากาศจะตกอยู่ในความเงียบสงัดเมื่อภาพได้ดำเนินไปจนถึงตอนที่มู่ฉิวโป๋ได้คว้าข้อเท้าของชายหนุ่ม และนำร่างของเซี่ยเฟยเข้าไปในประตูมิติพร้อมกับเขาด้วย

***************

มู่ฟู่ผิงเอ้ยยยย หนูควรกลับไปอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ของหนูต่อนะ หนูไม่รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของปัญหานี้สักนิดเลยเหรอ…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด