ตอนที่ 1 เริ่มต้นการเปลี่ยนคลาส
อาณาจักรเซินเซีย มณฑลเจียงหนิง เมืองซีไห่
ในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนอันดับหนึ่งของมัธยมซีไห่ คนหลายคนกำลังจัดวงเวทย์อยู่
นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้กำลังจะเปลี่ยนคลาสของตัวเอง
นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้มากกว่า 100 คนกำลังนั่งตัวตรงและฟังคำพูดของอาจารย์ใหญ่ลู่หยุนอยู่
"สวัสดีนักเรียนทุกคน หลังจากที่พวกคุณทุกคนเรียนที่นี่มาได้สามปี ตอนนี้พวกคุณทุกคนก็ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคลาสต่างๆทั้งหมดแล้ว”
“วันนี้จะเป็นวันที่พวกคุณทุกคนได้เปลี่ยนคลาสของตัวเอง และเป็นวันที่พวกคุณจะได้รู้ว่าชีวิตในอนาคตของตัวเองจะเป็นยังไงด้วย”
“ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระไปมากกว่านี้อีกแล้ว ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะสามารถกลายเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับ ซูเฉียนชิง และกลายเป็นเสาหลักของมนุษย์ชาติของเราได้”
ซูเฉียนชิงที่ลู่หยุนกล่าวถึงคือผู้ที่เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมซีไห่ เขาได้เปลี่ยนคลาสเป็นจอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ และตอนนี้เขาก็เป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่มีเลเวลอยู่ที่ 80
ลู่หยุนมักจะใช้การกระทำของเขาเพื่อสอนนักเรียนอยู่เสมอ
หลินโม่อวี่มองไปที่วงเวทย์เปลี่ยนคลาสที่กำลังถูกสร้างขึ้นในสนามเด็กเล่น ดวงตาของเขามืดลงในขณะที่เขากำลังตั้งตารอมันถูกสร้างเสร็จ
หลินโม่อวี่ได้มาถึงโลกนี้หลายปีแล้ว และตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าโลกนี้เป็นยังไง
โลกนี้ได้ถูกหลอมรวมเข้ากับเกม และผู้คนจะได้เปลี่ยนคลาสของพวกเขาตอนที่พวกเขาอยู่ในระดับชั้นปีที่สามของโรงเรียนมัธยมปลาย
คุณสามารถหาค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มเลเวลของตัวเองได้โดยการเคลียร์ดันเจี้ยน พิชิตอาณาจักรลึกลับ เข้าร่วมสมรภูมิรบ หรือสังหารมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ที่ดินแดนร้างด้านนอก
คนในโลกนี้ทุกคนล้วนหาค่าประสบการณ์ เพิ่มเลเวล ฝึกฝนสกิล และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
และพวกเขาก็ต้องต่อสู้กับปีศาจและมอนสเตอร์ทุกชนิดเพื่อสร้างพื้นที่อยู่อาศัยสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเขาเอง
มีจอมเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ได้หลั่งเลือดและสละชีวิตเพื่อให้มนุษย์ในปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยและมีชีวิตอยู่
อัตราความสำเร็จของการเปลี่ยนคลาสนั้นสูงถึง 100% อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของคนๆนั้นมีเพียงคลาสที่พวกเขาได้รับว่ามันจะเป็นอย่างไร
คลาสที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและเป็นคลาสหลักคือคลาสสายต่อสู้ รองลงมาคือคลาสสายสนับสนุน และลำดับสุดท้ายคือคลาสสายชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตหรือการใช้ชีวิตประจำวัน
แต่นี่เป็นเพียงการจำแนกทั่วไปเท่านั้น แม้ว่าคลาสสายต่อสู้จะเป็นที่นิยม แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคลาสสายสนับสนุนและคลาสสายชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตจะแย่
คลาสสายสนับสนุนก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจดันเจี้ยนหรือการพิชิตอาณาจักรลึกลับหรือในสนามรบแนวหน้า คลาสสายสนับสนุนก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
และในสถานที่บางแห่งหรือใบบางสถานการณ์ การยอมสูญเสียกำลังรบก็ยังดีกว่าการขาดคลาสสายสนับสนุนที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง
เช่นเดียวกับคลาสสายชีวิต ในอดีตเคยมีผู้ที่กลายเป็นคลาสสายชีวิตและสามารถเพิ่มเลเวลของตัวเองไปถึงระดับที่สูงมากจนถูกขนานนามว่าเป็นเทพ และคนๆนั้นก็เป็นผู้ที่มีพลังมากจนเป็นที่หวั่นเกรงเช่นกัน
ในความเข้าใจของหลินโม่อวี่คลาสของคนๆนั้นจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ตัวบุคคลเป็นหลัก
เพราะในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ได้รับคลาสต่อสู้แล้วกลายเป็นเพียงแค่ขยะ ในขณะที่คลาสสายสนับสนุนกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ราวกับพระเจ้านั้นมีให้เห็นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเยอะเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานลำแสงก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า วงเวทย์การเปลี่ยนคลาสได้ถูกสร้างเสร็จโดยสมบูรณ์แล้ว
ลู่หยุนโบกมือ
“ตามฉันมา!”
เขาพานักเรียนมัธยมกว่า 100 คนไปที่สนามเด็กเล่น
หลินโม่อวี่เดินตามกลุ่มคนไปโดยที่เขาคิดกับตัวเองว่าเขาจะได้เปลี่ยนเป็นคลาสอะไร
แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าใครจะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสอะไร
บางคนเป็นคนธรรมดามาตลอดโดยที่พวกเขาไม่ได้มีการเรียนหรือทักษะที่โดดเด่นมากนัก แต่เมื่อพวกเขาเปลี่ยนคลาสพวกเขาก็ได้กลายเป็นบุคคลที่ทรงพลัง
บางคนที่มีผลการเรียนที่ดีและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่ผลสุดท้ายพวกเขากลับได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายชีวิต
เพราะฉะนั้นแม้ว่าเขาและเซี่ยเสวี่ยจะถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะทั้งสองของโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งซีไห่ แต่เมื่อพวกเขาเข้าสู่วงเวทย์แล้ว พวกเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นอะไรและอนาคตของเขาจะเป็นแบบไหน
ในขณะนั้นเองมีคนๆหนึ่งเดินเข้ามาตบไหล่ของหลินโม่อวี่ คนๆนั้นคือเกาหยาง เขาเดินเข้ามาหาหลินโม่อวี่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนจะพูดว่า
“นายอยากเปลี่ยนเป็นคลาสอะไรมากที่สุด?”
หลินโมอวี่มองไปที่เขาก่อนจะส่ายหัวและไม่ได้ตอบอะไรออกไป
เกาหยางยังคงหัวเราะและพูดว่า
“พูดออกมาเถอะน่า เพราะถึงนายพูดถึงมันมันก็ไม่ได้ทำให้การเปลี่ยนคลาสของนายมีอะไรผิดปกติไปหรอก แต่ฉันขอบอกเลยว่าฉันอยากเปลี่ยนคลาสเป็นอัศวินมากที่สุด เพราะฉันทั้งสูง แข็งแกร่ง และสง่างาม ถ้าฉันได้เปลี่ยนคลาสเป็นอัศวิน ฉันจะต้องสง่างามยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนและฉันจะปกป้องพวก ‘สาวๆ’ ได้อีกด้วย”
ร่างกายของเกาหยวนนั้นค่อนข้างเหมาะสมกับคลาสอัศวินมากจริงๆ
แต่การจะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายการต่อสู้นั้นเป็นอะไรที่ยากมาก
ตามสถิติที่หลินโม่อวี่สังเกตและศึกษามา ความน่าจะเป็นในการได้เปลี่ยนเป็นคลาสสายต่อสู้นั้นมีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ในบรรดาคนมากกว่า 100 คนที่อยู่ตรงนี้ จะมีคนไม่เกิน 15 คนที่จะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายต่อสู้
เกาหยางพูดต่อไป แต่หลินโม่อวี่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆและไม่ได้ตอบอะไรเขา
หลินโม่อวี่เป็นคนไม่ค่อยพูด และแม้ว่าเขาจะได้เกรดดี แต่เขาก็มีเพื่อนไม่มากนัก
และนั่นทำให้หลายๆคนคิดว่าหลินโม่อวี่ป่วย
หลังจากนั้นเกาหยางก็พูดต่ออีกสองสามคำและเขาก็ไปคุยกับคนอื่นต่อ
ในขณะที่เขากำลังคุยกับคนอื่นก็มีคนมาจับไหล่ของเขา
“นายไปคุยอะไรกับโม่อวี่งั้นหรอ? นายจะไปคุยกับเขาทำไม ถึงนายไปคุยกับเขาเขาก็ไม่คุยกับนายหรอก”
“ถูกต้อง เขาก็แค่เป็นนักเรียนที่เรียนได้เกรดดี มันไม่เห็นจะมีอะไรยิ่งใหญ่ตรงไหนเลย ทำไมเขาถึงต้องทำตัวหยิ่งแบบนั้นด้วย”
“ไม่รู้ว่าวันนี้ฉันจะได้เปลี่ยนคลาสเป็นอะไร ฉันอาจจะได้เปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายชีวิตก็ได้”
มีคนไม่กี่คนที่พูดถึงหลินโม่อวี่และคนที่พูดถึงเขาก็พูดถึงเขาเพียงไม่กี่คำเท่านั้น หลายคนคิดว่าหลินโม่อวี่เย็นชาและหยิ่งผยองมากเกินไป นั่นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนร่วมชั้น
ทุกคนคิดว่าเพราะเขาเรียนได้เกรดดีเขาเลยดูถูกคนอื่น
เกาหยางหัวเราะก่อนจะพูดว่า
“อันที่จริงโม่อวี่ก็แค่ไม่ชอบพูดเฉยๆ”
น่าเสียดายที่ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้
หลินโม่อวี่ไม่อธิบายเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เพราะในความคิดของเขาเขาคิดว่ามันไม่จำเป็น
เมื่อกลุ่มคนเดินมาถึงด้านหน้าของวงเวทย์ ลู่หยุนก็เดินไปหาชายชราคนหนึ่งและพูดด้วยความเคารพว่า
“ท่านอาจารย์จาง วันนี้ต้องขอรบกวนท่านแล้ว”
ท่านอาจารย์จางส่ายหัว
"ไม่มีปัญหา มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว และตอนนี้วงเวทย์ก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน"
ทุกคนในที่นี่สามารถเห็นข้อมูลของอาจารย์จางได้ เพราะอาจารย์จางไม่ได้ซ่อนข้อมูลของเขา
[จางเฉียน เลเวล 52 ปรมาจารย์วงเวทย์]
หลินโม่อวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะชายชราคนนั้นคือปรมาจารย์วงเวทย์ และเลเวลของเขาก็สูงถึง 52
ปรมาจารย์วงเวทย์นั้นถือเป็นคลาสสายสนับสนุนที่หายาก และมันก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะหาตัวคนอย่างจางเฉียนได้
ปรมาจารย์วงเวทย์นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในสนามรบ เพราะใครก็ตามที่เข้าไปในวงเวทย์พวกนั้นจะต้องตาย
ลู่หยุนและจางเฉียนเดินกลับมาหานักเรียนทุกคนหลังจากที่พวกเขาคุยกันเล็กน้อย
เขาหยิบรายชื่อออกมาและมองดูนักเรียนที่อยู่ตรงหน้าของเขา
“นักเรียนที่ฉันขานชื่อต่อจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนคลาส”
“ทุกสิ่งที่พวกเราควรสอนก็ได้สอนให้พวกคุณทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วพวกคุณทุกคนก็ได้รู้สิ่งที่จำเป็นทั้งหมดแล้วเช่นกัน อย่าประหม่า ทำใจให้สบายและเข้าไปที่วงเวทย์ได้เลย”
“คนแรก เสี่ยวต้า!”
เสี่ยวต้าตอบรับเสียงเรียกของลู่หยุนและเดินเข้าไปในวงเวทย์เปลี่ยนคลาสด้วยความประหม่าเล็กน้อย
วงเวทย์เรืองแสงขึ้นเรื่อยๆก่อนที่แสงนั้นจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และหลังจากแสงที่เจิดจ้าจางหายไป การเปลี่ยนคลาสของเสี่ยวต้าก็สิ้นสุดลง
[คลาสสายชีวิต: เกษตรกร]
ใบหน้าของเสี่ยวต้าซีดลง เขาไม่ได้คิดไว้มาก่อนว่าเขาจะได้เป็นเกษตรกร
“เสี่ยวต้าเปลี่ยนคลาสเป็นเกษตรกร”
“ถ้าคุณสามารถยกระดับให้ตัวเองกลายเป็นเกษตกรผู้เชี่ยวชาญหรือเกษตรศักดิ์สิทธิ์ได้ มันก็จะกลายเป็นคลาสที่สุดยอดไม่ต่างไปจากคลาสอื่นๆเช่นกัน”
“ใช่แล้ว เพราะในคลาสสายชีวิต คลาสเกษตรก็เป็นคลาสที่ไม่เลวเลย”