ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 ฉันจะไม่แพ้นายในเรื่องการเปลี่ยนคลาส

ตอนที่ 1 เริ่มต้นการเปลี่ยนคลาส


อาณาจักรเซินเซีย มณฑลเจียงหนิง เมืองซีไห่

ในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนอันดับหนึ่งของมัธยมซีไห่ คนหลายคนกำลังจัดวงเวทย์อยู่

นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้กำลังจะเปลี่ยนคลาสของตัวเอง

นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้มากกว่า 100 คนกำลังนั่งตัวตรงและฟังคำพูดของอาจารย์ใหญ่ลู่หยุนอยู่

"สวัสดีนักเรียนทุกคน หลังจากที่พวกคุณทุกคนเรียนที่นี่มาได้สามปี ตอนนี้พวกคุณทุกคนก็ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคลาสต่างๆทั้งหมดแล้ว”

“วันนี้จะเป็นวันที่พวกคุณทุกคนได้เปลี่ยนคลาสของตัวเอง และเป็นวันที่พวกคุณจะได้รู้ว่าชีวิตในอนาคตของตัวเองจะเป็นยังไงด้วย”

“ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระไปมากกว่านี้อีกแล้ว ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะสามารถกลายเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับ ซูเฉียนชิง และกลายเป็นเสาหลักของมนุษย์ชาติของเราได้”

ซูเฉียนชิงที่ลู่หยุนกล่าวถึงคือผู้ที่เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมซีไห่ เขาได้เปลี่ยนคลาสเป็นจอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ และตอนนี้เขาก็เป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่มีเลเวลอยู่ที่ 80

ลู่หยุนมักจะใช้การกระทำของเขาเพื่อสอนนักเรียนอยู่เสมอ

หลินโม่อวี่มองไปที่วงเวทย์เปลี่ยนคลาสที่กำลังถูกสร้างขึ้นในสนามเด็กเล่น ดวงตาของเขามืดลงในขณะที่เขากำลังตั้งตารอมันถูกสร้างเสร็จ

หลินโม่อวี่ได้มาถึงโลกนี้หลายปีแล้ว และตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าโลกนี้เป็นยังไง

โลกนี้ได้ถูกหลอมรวมเข้ากับเกม และผู้คนจะได้เปลี่ยนคลาสของพวกเขาตอนที่พวกเขาอยู่ในระดับชั้นปีที่สามของโรงเรียนมัธยมปลาย

คุณสามารถหาค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มเลเวลของตัวเองได้โดยการเคลียร์ดันเจี้ยน พิชิตอาณาจักรลึกลับ เข้าร่วมสมรภูมิรบ หรือสังหารมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ที่ดินแดนร้างด้านนอก

คนในโลกนี้ทุกคนล้วนหาค่าประสบการณ์ เพิ่มเลเวล ฝึกฝนสกิล และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง

และพวกเขาก็ต้องต่อสู้กับปีศาจและมอนสเตอร์ทุกชนิดเพื่อสร้างพื้นที่อยู่อาศัยสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเขาเอง

มีจอมเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ได้หลั่งเลือดและสละชีวิตเพื่อให้มนุษย์ในปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยและมีชีวิตอยู่

อัตราความสำเร็จของการเปลี่ยนคลาสนั้นสูงถึง 100% อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของคนๆนั้นมีเพียงคลาสที่พวกเขาได้รับว่ามันจะเป็นอย่างไร

คลาสที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและเป็นคลาสหลักคือคลาสสายต่อสู้ รองลงมาคือคลาสสายสนับสนุน และลำดับสุดท้ายคือคลาสสายชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตหรือการใช้ชีวิตประจำวัน

แต่นี่เป็นเพียงการจำแนกทั่วไปเท่านั้น แม้ว่าคลาสสายต่อสู้จะเป็นที่นิยม แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคลาสสายสนับสนุนและคลาสสายชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตจะแย่

คลาสสายสนับสนุนก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจดันเจี้ยนหรือการพิชิตอาณาจักรลึกลับหรือในสนามรบแนวหน้า คลาสสายสนับสนุนก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

และในสถานที่บางแห่งหรือใบบางสถานการณ์ การยอมสูญเสียกำลังรบก็ยังดีกว่าการขาดคลาสสายสนับสนุนที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง

เช่นเดียวกับคลาสสายชีวิต ในอดีตเคยมีผู้ที่กลายเป็นคลาสสายชีวิตและสามารถเพิ่มเลเวลของตัวเองไปถึงระดับที่สูงมากจนถูกขนานนามว่าเป็นเทพ และคนๆนั้นก็เป็นผู้ที่มีพลังมากจนเป็นที่หวั่นเกรงเช่นกัน

ในความเข้าใจของหลินโม่อวี่คลาสของคนๆนั้นจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ตัวบุคคลเป็นหลัก

เพราะในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ได้รับคลาสต่อสู้แล้วกลายเป็นเพียงแค่ขยะ ในขณะที่คลาสสายสนับสนุนกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ราวกับพระเจ้านั้นมีให้เห็นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเยอะเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นไม่นานลำแสงก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า วงเวทย์การเปลี่ยนคลาสได้ถูกสร้างเสร็จโดยสมบูรณ์แล้ว

ลู่หยุนโบกมือ

“ตามฉันมา!”

เขาพานักเรียนมัธยมกว่า 100 คนไปที่สนามเด็กเล่น

หลินโม่อวี่เดินตามกลุ่มคนไปโดยที่เขาคิดกับตัวเองว่าเขาจะได้เปลี่ยนเป็นคลาสอะไร

แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าใครจะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสอะไร

บางคนเป็นคนธรรมดามาตลอดโดยที่พวกเขาไม่ได้มีการเรียนหรือทักษะที่โดดเด่นมากนัก แต่เมื่อพวกเขาเปลี่ยนคลาสพวกเขาก็ได้กลายเป็นบุคคลที่ทรงพลัง

บางคนที่มีผลการเรียนที่ดีและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่ผลสุดท้ายพวกเขากลับได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายชีวิต

เพราะฉะนั้นแม้ว่าเขาและเซี่ยเสวี่ยจะถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะทั้งสองของโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งซีไห่ แต่เมื่อพวกเขาเข้าสู่วงเวทย์แล้ว พวกเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นอะไรและอนาคตของเขาจะเป็นแบบไหน

ในขณะนั้นเองมีคนๆหนึ่งเดินเข้ามาตบไหล่ของหลินโม่อวี่ คนๆนั้นคือเกาหยาง เขาเดินเข้ามาหาหลินโม่อวี่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนจะพูดว่า

“นายอยากเปลี่ยนเป็นคลาสอะไรมากที่สุด?”

หลินโมอวี่มองไปที่เขาก่อนจะส่ายหัวและไม่ได้ตอบอะไรออกไป

เกาหยางยังคงหัวเราะและพูดว่า

“พูดออกมาเถอะน่า เพราะถึงนายพูดถึงมันมันก็ไม่ได้ทำให้การเปลี่ยนคลาสของนายมีอะไรผิดปกติไปหรอก แต่ฉันขอบอกเลยว่าฉันอยากเปลี่ยนคลาสเป็นอัศวินมากที่สุด เพราะฉันทั้งสูง แข็งแกร่ง และสง่างาม ถ้าฉันได้เปลี่ยนคลาสเป็นอัศวิน ฉันจะต้องสง่างามยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนและฉันจะปกป้องพวก ‘สาวๆ’ ได้อีกด้วย”

ร่างกายของเกาหยวนนั้นค่อนข้างเหมาะสมกับคลาสอัศวินมากจริงๆ

แต่การจะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายการต่อสู้นั้นเป็นอะไรที่ยากมาก

ตามสถิติที่หลินโม่อวี่สังเกตและศึกษามา ความน่าจะเป็นในการได้เปลี่ยนเป็นคลาสสายต่อสู้นั้นมีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ในบรรดาคนมากกว่า 100 คนที่อยู่ตรงนี้ จะมีคนไม่เกิน 15 คนที่จะได้รับการเปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายต่อสู้

เกาหยางพูดต่อไป แต่หลินโม่อวี่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆและไม่ได้ตอบอะไรเขา

หลินโม่อวี่เป็นคนไม่ค่อยพูด และแม้ว่าเขาจะได้เกรดดี แต่เขาก็มีเพื่อนไม่มากนัก

และนั่นทำให้หลายๆคนคิดว่าหลินโม่อวี่ป่วย

หลังจากนั้นเกาหยางก็พูดต่ออีกสองสามคำและเขาก็ไปคุยกับคนอื่นต่อ

ในขณะที่เขากำลังคุยกับคนอื่นก็มีคนมาจับไหล่ของเขา

“นายไปคุยอะไรกับโม่อวี่งั้นหรอ? นายจะไปคุยกับเขาทำไม ถึงนายไปคุยกับเขาเขาก็ไม่คุยกับนายหรอก”

“ถูกต้อง เขาก็แค่เป็นนักเรียนที่เรียนได้เกรดดี มันไม่เห็นจะมีอะไรยิ่งใหญ่ตรงไหนเลย ทำไมเขาถึงต้องทำตัวหยิ่งแบบนั้นด้วย”

“ไม่รู้ว่าวันนี้ฉันจะได้เปลี่ยนคลาสเป็นอะไร ฉันอาจจะได้เปลี่ยนคลาสเป็นคลาสสายชีวิตก็ได้”

มีคนไม่กี่คนที่พูดถึงหลินโม่อวี่และคนที่พูดถึงเขาก็พูดถึงเขาเพียงไม่กี่คำเท่านั้น หลายคนคิดว่าหลินโม่อวี่เย็นชาและหยิ่งผยองมากเกินไป นั่นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนร่วมชั้น

ทุกคนคิดว่าเพราะเขาเรียนได้เกรดดีเขาเลยดูถูกคนอื่น

เกาหยางหัวเราะก่อนจะพูดว่า

“อันที่จริงโม่อวี่ก็แค่ไม่ชอบพูดเฉยๆ”

น่าเสียดายที่ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้

หลินโม่อวี่ไม่อธิบายเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เพราะในความคิดของเขาเขาคิดว่ามันไม่จำเป็น

เมื่อกลุ่มคนเดินมาถึงด้านหน้าของวงเวทย์ ลู่หยุนก็เดินไปหาชายชราคนหนึ่งและพูดด้วยความเคารพว่า

“ท่านอาจารย์จาง วันนี้ต้องขอรบกวนท่านแล้ว”

ท่านอาจารย์จางส่ายหัว

"ไม่มีปัญหา มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว และตอนนี้วงเวทย์ก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน"

ทุกคนในที่นี่สามารถเห็นข้อมูลของอาจารย์จางได้ เพราะอาจารย์จางไม่ได้ซ่อนข้อมูลของเขา

[จางเฉียน เลเวล 52 ปรมาจารย์วงเวทย์]

หลินโม่อวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะชายชราคนนั้นคือปรมาจารย์วงเวทย์ และเลเวลของเขาก็สูงถึง 52

ปรมาจารย์วงเวทย์นั้นถือเป็นคลาสสายสนับสนุนที่หายาก และมันก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะหาตัวคนอย่างจางเฉียนได้

ปรมาจารย์วงเวทย์นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในสนามรบ เพราะใครก็ตามที่เข้าไปในวงเวทย์พวกนั้นจะต้องตาย

ลู่หยุนและจางเฉียนเดินกลับมาหานักเรียนทุกคนหลังจากที่พวกเขาคุยกันเล็กน้อย

เขาหยิบรายชื่อออกมาและมองดูนักเรียนที่อยู่ตรงหน้าของเขา

“นักเรียนที่ฉันขานชื่อต่อจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนคลาส”

“ทุกสิ่งที่พวกเราควรสอนก็ได้สอนให้พวกคุณทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วพวกคุณทุกคนก็ได้รู้สิ่งที่จำเป็นทั้งหมดแล้วเช่นกัน อย่าประหม่า ทำใจให้สบายและเข้าไปที่วงเวทย์ได้เลย”

“คนแรก เสี่ยวต้า!”

เสี่ยวต้าตอบรับเสียงเรียกของลู่หยุนและเดินเข้าไปในวงเวทย์เปลี่ยนคลาสด้วยความประหม่าเล็กน้อย

วงเวทย์เรืองแสงขึ้นเรื่อยๆก่อนที่แสงนั้นจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และหลังจากแสงที่เจิดจ้าจางหายไป การเปลี่ยนคลาสของเสี่ยวต้าก็สิ้นสุดลง

[คลาสสายชีวิต: เกษตรกร]

ใบหน้าของเสี่ยวต้าซีดลง เขาไม่ได้คิดไว้มาก่อนว่าเขาจะได้เป็นเกษตรกร

“เสี่ยวต้าเปลี่ยนคลาสเป็นเกษตรกร”

“ถ้าคุณสามารถยกระดับให้ตัวเองกลายเป็นเกษตกรผู้เชี่ยวชาญหรือเกษตรศักดิ์สิทธิ์ได้ มันก็จะกลายเป็นคลาสที่สุดยอดไม่ต่างไปจากคลาสอื่นๆเช่นกัน”

“ใช่แล้ว เพราะในคลาสสายชีวิต คลาสเกษตรก็เป็นคลาสที่ไม่เลวเลย”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด