บทที่ 63 เพียงแค่เพิ่มแต้ม
วันที่ 7 เดือนสิงหาคม
ในตอนบ่าย
ในลานบ้าน อีเลฟเว่นที่กระตือรือร้นกำลังฝึกฝนอย่างจริงจัง
ซืออวี๋ถือหินไร้ตัวตนและทำสมาธิ
หากกลุ่มนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะต้องอับอายอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด ซืออวี๋และอีเลฟเว้นเพิ่งทำลายสถิติซากปรักหักพังสี่ด้านติดต่อกันในตอนเช้าและได้ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน
ในตอนท้าย พวกเขาก็ไม่แม้กระทั่งจะพักผ่อนในช่วงบ่าย และฝึกฝนต่อ… นี่ดูราวกับพฤติกรรมอับเรียบง่ายของสัตว์
“นี่เร็วกว่าการที่ข้าทำสมาธิเองอย่างแท้จริง”
ซืออวี๋วางหินไร้ตัวตนลงและรู้สึกโล่งใจ
“หากมีหินพวกนี้มากยิ่งกว่านี้”
ซืออวี๋พบเหตุผลว่าทำไม่การบ่มเพาะของเขาจึงช้ามาก
หากเขาต้องการเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูรอย่างรวดเร็วผ่านการทำสมาธิ เขาจะต้องทำสมาธิอย่างสมบูรณ์
แต่ทุกครั้งที่เขาสอนทักษะสัตว์อสูรเสร็จ เขาจะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ เขาจะอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งการทำสมาธิได้ยังไงกัน?
เมื่อเวลาผ่านไป การเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูรก็จะช้าลง
ในท้ายที่สุด มันก็ยังคงเป็นความผิดของอีเลฟเว่น
อีเลฟเว่นผู้ที่อยู่ในระหว่างการฝึกฝน : (.•ˇ‸ˇ•.)???
หลังจากเพิ่มแต้มให้อีเลฟเว่นมากขึ้น ข้าต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเพื่อเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูร ซืออวี๋คิดกับตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น ซืออวี๋ก็ได้เปิดโทรศัพท์ของเขาและเข้าไปในเว็บไซต์ซื้อของก่อนหน้านี้
เขาซื้อถั่วเซียนอีกสิบห้าเม็ดและอาหารเสริมอื่น รวมเป็นเงินประมาณสองล้านหยวน
ในตอนนี้ มีเงินเหลือน้อยกว่า 7 ล้านหยวนจากทั้งหมด 10 ล้ารหยวนในตอนแรก
แต่ด้วยสิ่งเหล่านี้ เขาแทบจะยกทักษะทั้งหมดของอีเลฟเว่นเข้าสู่ขั้นชำนาญได้แล้ว
“มันแพงมากอย่างแท้จริง…”
เมื่อมองไปที่ยอดเงินคงเหลือ ซืออวี๋ก็รู้สึกเจ็บปวด
จากลักษณะแล้ว แม้ด้วยสารบัญทักษะ แต่เงินทุนเริ่มต้น 10,000,000 หยวนก็อาจไม่สามารถยกทักษะทั้งหมดของอีเลฟเว่นเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ได้ นับประสาอะไรกับขั้นเหนือธรรมชาติ
ในอนาคต หากเป็นทักษะระดับสุดยอดหรือความสามารถเทพนิยาย ไม่ต้องใช้อาหารเสริมที่มีราคานับร้อยล้านหยวนเลยเหรอ?
เมื่อถึงเวลานั้น สัตว์อสูรอาจจะต้องกินสิ่งที่อุกอาจเช่น ‘ตับมังกรหรือไขกระดูกฟินิกซ์’
ในท้ายที่สุด เขาก็ยังคงขาดแคลนเงิน สารบัญทักษะทำให้เขาเพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะสัตว์อสูรของเขาได้เร็วยิ่งกว่านักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นได้ แต่ค่าใช้จ่ายก็คือเงิน
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้คุ้มค่าแก่การเสียเงิน ท้ายที่สุด นักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นก็ต้องใช้เงินซื้ออาหารเสริมที่มีสารอาหารสูงเพื่อฝึกฝนทักษะสัตว์อสูรของพวกเขา ในด้านของความคุ้มค่า ฝั่งของซืออวี๋จะดีกว่าอย่างแน่นอน
ในคืนนั้น…
ซืออวี๋หยิบหนึ่งในสองถั่วเซียนที่เหลืออยู่และรากทารกโสมออกมา และเริ่มเรียกหาอีเลฟเว่นเพื่อเพิ่มแต้มให้แก่มัน
อีเลฟเว่น : ๐·°(৹˃̵_˂̵৹)°·๐!!
อีเลฟเว่นผู้ที่ฝึกฝนมาครั้งวันก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า มันกังวลมากว่ามันจะทำให้การเพิ่มแต้มนี้ผิดหวัง
มันได้ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองผ่านทั้งหกด่านในครั้งต่อไป
“อย่ากังวล หากเรารวมทั้งความขยันขันแข็งและสูตรโกง แม้แต่เทพก็ไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเราได้” ซืออวี่ปลอบโยน
ในคืนนั้น การปราบปรามขั้นเริ่มต้นได้เข้าสู่ขั้นช่ำชอง
การปราบปรามที่ถูกใช้เพื่อเพิ่มเจตจำนงต่อสู้และทำให้เจตจำนงต่อสู้ของศัตรูอ่อนแอลง… กลายเป็นทักษะโจมตีจิตวิญญาณในทันที
การเพิ่มขั้นการปราบปรามไม่ได้หมายความว่าอีเลฟเว่นสามารถสังหารศัตรูที่อ่อนแอกว่ามันได้ในทันทีด้วยออร่าของมัน แต่มันก็หมายความว่าทักษะประเภทจิตใจอาจไม่มีผลกับมันมากนัก
อย่างไรก็ตาม หลังจากสอนทักษะในครั้งนี้ ซืออวี๋ก็ไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับผลข้างเคียง
ทักษะพิเศษบางอย่างอาจเปลี่ยนนิสัยและบุคลิกของสัตว์อสูรได้เล็กน้อย
ตัวอย่างเช่น หากเขาให้สัตว์อสูรใช้ทักษะบ้าคลั่งบ่อย การที่สัตว์อสูรของเขาจะบ้าคลั่ง ป่าเถื่อน และไร้เหตุผลนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก
การปราบปรามก็เช่นเดียวกัน มันสามารถบ่มเพาะออร่าที่ครอบงำซึ่งมาจากจิตวิญญาณของสัตว์อสูร!
อีเลฟเว่น : (/ ^ Д ′) / อู๋!!!
ตามที่คาดไว้ หลังจากขั้นการปราบปรามเพิ่มขึ้น อีเลฟเว่นก็หยิ่งยโสอีกครั้งในทันที
ในตอนนี้มันต้องการที่จะท้าทายด่านที่ห้าแล้ว หนึ่งต่อร้อย
ซืออวี๋เงียบลง เขาไม่ได้คาดหวังว่าการปราบปรามจะมีบัฟสติปัญญาต่ำติดมาด้วย
“บัดซ* นอนได้แล้ว”
อีเลฟเว่นอาจไร้เหตุผล แต่ซืออวี๋ก็เช่นกัน
เพื่อให้อีเลฟเว่นสงบลง ซืออวี๋จึงจับมันเป็นหมอนอีกครั้งในคืนนี้…
เรื่องนี้ทำให้ราชาอสูรกินเหล็กอีเลฟเว่นตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
ราชาจะไม่ตกต่ำ!!!
เว้นแต่ว่าจะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรของมัน
…
ในเช้าวันรุ่งขึ้น
ซืออวี๋ยังคงนอนอย่างสบายใจบนโซฟาในลานบ้าน และทำสมาธิ
บางครั้ง เขาก็จะมองดูโทรศัพท์ของเขาและตรวจสอบความคืบหน้าการขนส่งของการซื้อของเมื่อวานนี้
ในขณะที่เขาเฝ้าดู เขาก็ใส่หูฟังและเริ่มดูหนัง
ตามที่คาดไว้ การดูหนังก็ยังคงเป็นเรื่องสนุก
อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋ก็ไม่ได้ยอมรับว่าเขาผัดวันประกันรุ่ง เขาเชื่อมั่นในตัวเองว่าเขาเพียงแค่ต้องการกระตุ้นสมองของเขาด้วยการดูหนังเพื่อปูทางให้เขาค้นหาทักษะใหม่ในอนาคต
หนังในโลกนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับสัตว์อสูร
สัตว์อสูรเป็นหัวข้อยอดนิยมอยู่เสมอ ตราบใดที่สัตว์อสูรอยู่ในหนัง มันก็จะดึงดูดความสนใจมหาศาล ความนิยมของหนังก็จะไม่ต่ำ
ตัวอย่างเช่น หนังที่ซืออวี๋กำลังดูอยู่ได้บรรยายเรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลายและเด็กสาวหูสัตว์อสูร เรื่องราวของผู้คนต่างเผ่าพันธุ์ที่มาพบกันในความฝันและตามหากัน
“ขุนนางแสนดี”
ซืออวี๋ตกตะลึง นี่คือ ‘หลับตาฝันถึงชื่อเธอ (Your Name)’ ที่ต่างโลกใช่ไหม?
โดยการใช้ตัวเอกชายในการทำสัญญากับเจ้าหญิงเงือกในตอนจบและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสึนามิงั้นเหรอ?
พวกเขากล้าถ่ายทำมันอย่างแท้จริง
ในขณะที่ซืออวี๋กำลังคิดว่าทำไมเขาถึงไม่พบกับสิ่งที่ดีเลย เขาก็รู้สึกว่าเขาถูกจ้องมอง
เขาเงยหน้าขึ้นมาและเห็นอีเลฟเว่นที่โง่เง่ากำลังมองมาที่เขา
“อะไรเหรอ?”
“อู๋!” อีเลฟเว่นเบิกตากว้างและชี้ไปด้านนอก
มันสื่อความหมายว่าของมาถึงแล้ว
ซืออวี๋หมกมุ่นอยู่กับหนังมากเกินไปและไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย
“!!!” ซืออวี๋เก็บโทรศัพท์ของเขาและวิ่งไปรับพัสดุ
ด้านนอก มันยังคงเป็นปีกแห่งสายลมที่คุ้นเคยและคนส่งของที่คุ้นเคย
“น้องชาย เป็นเจ้าอีกแล้ว…”
ชายส่งของครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง เขาคิดว่าที่อยู่นี้ค่อนข้างคุ้นเคย พอมาถึงที่นี่ เขาก็นึกออกในทันที
นี่ไม่ใช่นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดที่ใช้เงินจำนวนมกาเพื่อซื้ออาหารเสริมก่อนหน้านี้หรอกเหรอ?
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ซื้ออีกแล้วเหรอ?
“ข้าหวังว่าเจ้าจะมีร่างกายที่แข็งแรง”
ชายหนุ่มส่งของไม่รู้อะไรและไม่กล้าที่จะเอ่ยถาม เขาทำได้เพียงแค่อวยพรให้ซืออวี๋มีร่างกายแข็งแรง
“เดินทางปลอดภัยและระวังตัวด้วย” ซืออวี๋อวยพรเขาเช่นกัน ทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความรักที่แท้จริง
ซืออวี๋ได้รับอาหารเสริมกล่องใหญ่อีกครั้ง
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ในลานบ้าน ซืออวี๋ อีเลฟเว่น และหนอนไหมเขียวมองไปที่กล่องอาหารเสริมขนาดใหญ่และตกอยู่ในห้วงความคิด
ในอดีตตอนยังไม่มีอาหารเสริม ซืออวี๋กลัวการสอนทักษะ
แต่ตอนนี้เมื่อเขามีอาหารเสริมจำนวนมาก ซืออวี๋ก็ยังกลัวเช่นเดิม
แม้ว่าเขาจะกลัวทั้งสองครั้ง แต่ความกลัวทั้งสองประเภทไม่ได้มีความหมายเดียวกัน ซืออวี๋กล่าวได้เพียงแค่ว่าพวกมันมีความหมายที่ลึกซึ้ง
“เฮ้อ!!!”
เขาต้องใช้พรสวรรค์ที่เขาปลุกขึ้นมา! เขาต้องเพิ่มแต้มต่อไป!
…
ในเวลาเดียวกัน
เมืองทุ่งน้ำแข็ง เขตผิงเฉิง
ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร
นอกเหนือจากวันแรกที่เขาเข้าไปที่ซากปรักหักพังเพื่อสังเกตสถานการณ์แล้ว ประธานเฟิงก็กลับมาที่สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรในวันรุ่งขึ้น เขามอบหมายทุกอย่างให้กับผู้บัญชาการเหอเปียวเพื่อป้องกันสถานที่แห่งนั้น
ในฐานะประธานแห่งสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรในเขตนี้ เขามีหลายเรื่องที่ต้องทำ
ในขณะนี้ ในห้องประชุมขนาดใหญ่ ประธานเฟิงกำลังจัดการประชุมทางวิดีโอกับประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรในอีกแปดเขตในเมืองทุ่งน้ำแข็ง
ในบรรดาเก้าเขตในเมืองทุ่งน้ำแข็ง สี่เขตอยู่ที่พื้นที่ศูนย์กลางเมือง พวกเขามีการพัฒนาที่ดีมาก ในขณะที่เขตผิงเฉิงและอีกสี่เขตอยู่ติดกับภูเขาหิมะและอยู่ในชานเมือง
“ตามข้อมูลของเฒ่าเฟิง… มาหารือกันเกี่ยวกับการใช้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการกันเถอะ”
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน