บทที่ 62 เป้าหมายการฝึกฝนพิเศษใหม่
หากมีใครสงสัยว่าเฉิงกงและซืออวี๋ทำลายสถิติได้ยังไง ตอนนี้ความสงสัยชองพวกเขาค่อยๆ หายไปแล้ว
แม้ว่าอสูรเพลิงจันทราจะถูกทุบตีอย่างช่วยไม่ได้ในการต่อสู้นี้ แต่ความแข็งแกร่งที่มันแสดงในการต่อสู้ก็ชัดเจนสำหรับทุกคน
คุณสมบัติของทักษะระเบิดเพลิงที่ทรงพลังนั้นสามารถตอบโต้กับสัตว์อสูรธาตุน้ำแข็งได้อย่างสมบูรณ์
ความเเร็วที่เกิดจากเพลิงจู่โจมเหนือกว่าสัตว์อสูรในซากปรักหักพังอย่างสมบูรณ์!
เมื่อรวมกับกรงเล็บเพลิง วิธีการต่อสู้ของอสูรเพลิงจันทราอาจเป็นการต่อสู้ระยะประชิดและระยะไกล สามทักษะของมันล้วนอยู่ขั้นช่ำชอง และด้วยความได้เปรียบด้านคุณสมบัติ มันจึงมีโอกาสเอาชนะยักษ์เกราะน้ำแข็งที่มีเผ่าพันธุ์ระดับสูงกว่าได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับซืออวี๋… ไม่จำเป็นต้องสงสัยในความแข็งแกร่งของเขา
วิธีการต่อสู้ของอสูรเพลิงจันทราที่ถูกบดขยี้อย่างสิ้นเชิงคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดของซืออวี๋และความแข็งแกร่งของอสูรกินเหล็กน้ิย
นี่คือครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นอสูรกินเหล็กที่ไม่สมเหตุสมผลดังกล่าว
นี่ทำให้ทุกคนเข้าใจอย่างสมบูรณ์มันคือสัตว์อสูรที่โดดเด่นซึ่งสามารถผ่านสี่ด่านติดต่อกันได้!
แม้ว่าจะยังคงมีคนที่สงสัยว่าทำไมอสูรกินเหล็กระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดสามารถเอาชนะสัตว์อสูรดุร้าย 50 ตัวติดต่อกันได้ยังไงกัน แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่เก็บความสงสัยไว้ในใจเท่านั้น ท้ายที่สุด ซืออวี๋และอีเลฟเว่นผ่านทั้งหมดสี่ด่าน
จากนั้น พวกเขาก็มองไปที่ซืออวี๋และอีเลฟเว่นราวกับว่าพวกเขากำลังมองสัตว์ประหลาด
…
การต่อสู็นี้แตกต่างออกไปสำหรับเหล่านักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพ
นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดไม่เข้าใจว่าทำไมซืออวี๋และอีเลฟเว่นถึงแข็งแกร่งมาก ในขณะที่นักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพเช่นประธานเฟิงนั้นมีความคาดหวังอย่างมากสำหรับการถอดรหัสซากปรักหักพัง
เขาคิดว่าเขาควรหักทรัพยากรบางส่วนจากหลานชายของเขามาให้แก่ซืออวี๋ ในเวลานี้ การถอดรหัสซากปรักหักพังสำคัญที่สุด… หลานชายของเขาคงเข้าใจ
โชคดี เฉิงกงไม่รู้สิ่งที่ประธานเฟิงคิด มิฉะนั้น เขาคงคิดว่าเขาเป็นหลานบุญธรรมอย่างแน่นอน
สำหรับตอนนี้ เขากำลังคิดว่าทำไมเขตผิงเฉิงถึงได้มีนักฝึกสัตว์อสูรเช่นนี้ซึ่งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
แม้ว่าอัจฉริยะเหล่านั้นในเมืองทุ่งน้ำแข็งก็อาจไม่สามารถเทียบได้กับซืออวี๋ใช่ไหม?
“เอาล่ะ การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว ไปทำในสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำได้แล้ว”
ผู้บัญชาการเหิอที่เป็นผู้ตัดสินได้ไล่ทหารระดับฝึกหัดเหล่านี้และกล่าวอย่างเกรี้ยวโกรธว่า “วันนี้การฝึกฝนเพิ่มเป็นสองเท่า!”
คำกล่าวของเขาทำให้เหล่าทหารโอดครวญทันที
เหอเปียวผู้ที่คาดหวังวิ่งที่ดีจากผู้คนได้เลือกบีบทหารใหม่ให้แห้ง
ประธานเฟิงแอบปาดเหงื่อของเขา เขากลัวว่าเหอเปียวจะจอเงินทุนาำหีับการฝึกฝน
หลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง เฉิงกงและซืออวี๋ก็เก็บสัตว์อสูรของพวกเขา
“ครั้งหน้าเรามาต่อสู้กันอีกครั้ง” เฉิงกงกล่าวกับซืออวี๋และเดินจากไป เขาไม่สนใจทุกคนและออกไปทำบางสิ่ง
สำหรับซืออวี๋ เขารู้สึกหมดหนทาง
มันคืออีเลฟเว่น!
มันคืออีเลฟเว่นผู้ต้องการระบายความรู้สึกล้มเหลวของมันในการต่อสู้นี้ ทำให้เกิดสถานการณ์ซึ่ง… ไม่สมดุลเล็กน้อย
ซืออวี๋ส่ายหัวของเขาเล็กน้อยและวางแผนที่จะจากไป
กล่าวตามตรง เขาจะออกจากหุบเขาแห่งนี้และกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้อีกครั้ง
“ประธานเฟิง”
เมื่อซืออวี๋เดินออกจากสนามประลอง เฉินไค เฉียวเหลียง และคนอื่นก็ต้องการเข้ามาหาเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นว่าประธานเฟิงเดินตรงไปหาซืออวี๋ พวกเขาก็หยุดลงในทันที
“ซืออวี๋ ความแข็งแกร่งของเจ้า… ได้เปิดโลกทัศน์ของข้าอย่างแท้จริง”
ประธานเฟิงหรี่ตาลงและกล่าวออกมา เขามีความสุขอย่างแท้จริง
ด้วยศักยภาพที่ซืออวี๋และอีเลฟเว่นแสดงออกมา พวกเขายังมีความหวังในการเป็นนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ในอนาคต
สิบปีต่อมา เขตผิงเฉิงอาจมีนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์อีกคนหนึ่ง!
“ข้ายังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก” ซืออวี๋กล่าวอย่างถ่อมตัว
นี่ไม่มีอะไรเลย แม้ว่าซืออวี๋จะต้องการอวด แต่เขาก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน เขาไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งมากในในบรรดาคนรุ่นเดียวกับเขา
เขตผิงเฉิงเป็นเพียงเมืองขนาดเล็กชั้นสาม
เมืองทุ่งน้ำแข็งเป็นเพียงหนึ่งในเมืองชั้นสองธรรมดาในประเทศตงหวง
ทายาทรุ่นสองของเมืองใหญ่ชั้นหนึ่งอาจใช้สัตว์อสูรตัวแรกที่มีเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัาการ ยิ่งกว่านั้น อายุของสัตว์อสูรที่ทำสัญญาอาจน้อยกว่าอีเลฟเว่นด้วยซ้ำ
ซืออวี๋สงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพวกเขา
แต่เขาก็ควรจะรู้ในไม่ช้า
เพราะหลู่ชิงอี้ได้แนะนำให้เขาไปที่เมืองชั้นหนึ่งเพื่อเข้าร่วมการประเมินมืออาชีพ ใบรับรองมืออาชีพดังกล่าวมีคุณค่ายิ่งกว่า…
ผู้หญิงคนนี้ชอบเพิ่มความยากของเกมมากเกินไป
“ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าไม่ต้องถ่อมตัว เจ้าโดดเด่นมากอย่างแท้จริง”
“เจ้ามีความคิดเกี่ยวกับด่านที่ห้าไหม?” ประธานเฟิงเอ่ยถาม
“ข้ามีแผนแล้ว ข้าวางแผนที่จกลับไปเพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้” ซืออวี๋กล่าวออกมา
“นั่นเยี่ยมมาก” ดวงตาของประธานเฟิงเปล่งประกาย
“การที่กลับไปเพื่อเตรียมตัวสำหรับกการต่อสู้นั้นดีมาก รอสักพักหนึ่ง ข้าจะให้ข้อมูลติดต่อส่วนตัวของข้าให้แก่เจ้า หากเจ้าต้องการอะไร เพียงแค่บอกข้าโดยตรง”
“ทรัพยากรที่ถูกจัดสรรโดยสมาคมจะอยู่ในมือของเจ้าในอนาคต”
“เป้าหมายแรกของเจ้าในตอนนี้คือแข็งแกร่งขึ้นและโจมตีซากปรักหักพัง!”
“ข้าเข้าใจแล้ว” ซืออวี๋พยักหน้า
จากนั้น ประธเานเฟิงก็รีบเรียกเลขาของเขาและเตรียมหาคนพาซืออวี๋กลับบ้าน
แม้ว่าซืออวี๋จะต้องการปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านความกระตือรือร้นของประธานเฟิง
การดูแลนี้… เหมือนกับการบีบมะนาวใส่ตาของเหล่านักฝึกสัตว์อสูรโดยรอบ
นี่เป็นการดูแลของอัจฉริยะงั้นเหรอ? แม้ว่าจะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ หรือแม้กระทั่งประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร แต่พวกเขาก็ต้องกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้ม
“บัดซ* ข้าจะซื้อแคปซูลสดชื่นจนกว่าของจะหมด!”
“ข้าไม่เชื่อว่าการกินอาหารเสริมเดียวกันกับซืออวี๋จะทำให้ข้ามีพลังไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของเขา!”
ด้านหลัง เฉินไคได้ปฏิญาณอย่างยิ่งใหญ่
“อาหารเสริมที่ซืออวี๋กินงั้นเหรอ? เจ้าหมายความว่าอะไรกัน…”
หลังจากที่ซืออวี๋จากไป การสนทนาและเสียงอุทานก็ดังมาจากฝูงชน
แพทย์เหลียวเฉียงรู้สึกว่าเขาอาจรู้แล้วว่าความร้อนแรงของแคปซูลสดชื่นในเขตผิงเฉิงมาจากที่ไหน
…
“ขอบคุณมาก…”
ซืออวี๋ผู้ที่ถูกพากลับบ้านด้วยรถทหารนั้นรู้สึกอายเล็กน้ออย ในชีวิตก่อนของเขา เขาไม่เคยนั่งรถตำรวจและเคยนั่งเพียงรถฉุกเฉินเท่านั้น ตอนนี้มันคือรถทหาร
แรงกดดันมหาศาลมาก… เขาต้องรีบคิดว่าจะผ่านด่านที่ห้าได้ยังไง
ซืออวี๋กลับบ้านพร้อมกับถอนหายใจ
เนื่องจากเขารู้ว่าหากเขาต้องการผ่านด่านที่ห้า เขาอาจต้องจ่ายเงินมหาศาลเพื่อเติมเต็มอาหารเสริมของเขา
ร่างกายเล็กๆ ของเขา… แม้ว่าเขาจะมีอาหารเสริม แต่การสอนทักษะระดับสูงก็เจ็บปวดมากเกินไป
หากไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องสอนทักษะ ซืออวี๋ต้องการใช้ทักษะระดับต่ำเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งร่างกายของเขาก่อน
“จิ๋!!!!”
หลังจากที่ซืออวี๋เปิดประตูและเข้าไป หนอนไหมเขียวบนต้นพลับในลานบ้านก็ส่งเสียงร้องออกมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
ซืออวี๋เข้าใจผ่านกระแสจิต
มันแปลว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
“สติปัญญาของหนอนตัวนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ”
ซืออวี๋ค้นพบว่าเมื่อระดับการเติบโตของหนอนไหมเขียวสูงขึ้น ระดับสติปัญญษของมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เช่นกัน
ในระดับปลุกตื่นขั้นหนึ่ง มันยังคงโง่เขลาและเป็นใบ้ แต่ตอนนี้มันสามารถสื่อสารกกับเขาได้ปกติมากขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“มีอาหารเหลือไหม?”
ซืออวี่เหลือบมองหญ้าหนวดมังกรบนแผ่นโลหะใต้กรง ยังเหลืออยู่… ไม่เป็นไร
นั่นสมเหตุสมผล ท้ายที่สุด เขาเพิ่งให้อาหารมันตอนเช้า ไม่ว่าหนอนไหมเขียวจะกินมากเพียงใด มันก็ไม่เหมือนกับอีเลฟเว่นผู้ที่กินอาหารสามถึงสี่มื้อพร้อมกัน
เขาเพิ่มอาหารให้มันอีกเล็กน้อย หลังจากเข้าไปในบ้าน ซืออวี๋ก็โดยกระเป๋าของเขาและล้มตัวลงนอน
การเก็บเก็บครั้งนี้ไม่น้อยเลย แม้ว่าจะไม่รวมคริสตัลพลังงาน แต่หินไร้ตัวตนสี่ก้อนก็ยังคงเป็นทรัพยากรที่หายากมาก
เขาได้ถามประธานเฟิงแล้ว หากเขาใช้หินไร้ตัวตนสี่ก้อนนี้ แม้จะไม่นั่งสมาธิมากนัก แต่มันก็แทบจะทำให้เขาไปถึงระดับสองในสามถึงสี่เดือน
ยิ่งกว่านั้น มันคือมิติฝึกสัตว์อสูรระดับสองที่เน้นความแข็งแกร่งมิติ ระยะมิติ และสภาพแวดล้อมมิติ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะทำสัญญากับสัตว์อสูรตัวที่สองได้
ในขณะเดียวกัน หากมิติฝึกสัตว์อสูรถึงระดับสอง การที่อีเลฟเว่นจะเข้าสู่ระดับเหนือธรรมชาติก็เป็นเรื่องง่ายมาก มิฉะนั้น มิติฝึกสัตว์อสูรระดับหนึ่งจะต้านการเติบโตของมัน
กล่าวโดยย่อแล้ว หินไร้ตัวตนนั้นมีค่ากับซืออวี๋ผู้ที่เริ่มต้นช้าและกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรช้ากว่าคนอื่นในวัยเดียวกันกับเขา…
“ข้าสงสัยว่าความเข้ากันได้ระหว่างธาตุมิติและหนอนไหมเขียวเป็นยังไง” ซืออวี๋คิดอีกครั้ง
ธาตุมิติเป็นคุณสมบัติที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าหินไร้ตัวตนเป็นทรัพยากสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรมาเสมอ ซืออวี๋ไม่รู้วิธีใช้สิ่งนี้กับสัตว์อสูร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหนอนไหมเขียว
แต่หากเขาสามารถได้รับคุณสมบัติมิติ ซืออวี๋รู้สึกว่าระดับเผ่าพันธุ์ที่วิวัฒนาการของหนอนไหมเขียวอาจอยุ่ในระดับราชันย์ด้วยซ้ำ
ผีเสื้อประเภทมิตินะดับราชันย์มีอยู่จริงใช่ไหม? อาจเป็นผีเสื้อไร้ตัวตนหรือผีเสื้อแยกมิติ?
…
ซืออวี๋ไม่ปล่อยให้จินตนาการของเขาโลดแล่นไปกับหนอนไหมเขียวนานเกินไป ท้ายที่สุด สิ่งต่างๆ ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการพิชิตซากปรักหักพัง
ในปัจจุบัน มีสองเส้นทางสำหรับซืออวี๋ในการผ่านด่านที่ห้า
วิธีแรก ทำให้ความล้ำลึก ‘เกราะสายฟ้า’ สมบูรณ์
เขาจำเป็นต้องเพิ่มการเคลือบแข็งและฝ่ามือสายฟ้าถึงขั้นสมบูรณ์
ในเวลานี้ อีเลฟเว่นและหนอนไหมเขียวยังไม่เชี่ยวชาญทักษะถึงขั้นสมบูรณ์เลย ซืออวี๋ยังไม่รู้ว่าเขาต้องสอนพวกมันกี่ครั้งจากขั้นชำนาญถึงขั้นสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม เขามีลางสังหรณ์ว่ายิ่งความเชี่ยวชาญสูงมากเพียงใด ความยากก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
นั่นเป็นเรื่องปกติ สำหรับทักษะที่ฝึกฝนได้ง่าย ตราบใดที่พรสวรรค์ของสัตว์อสูรไม่เลวเลยเกินไป พร้อมกับสภาพแวดล้อมฝึกฝนที่เหมาะสม… หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งปี มันก็สามารถเชี่ยวชาญทักษะนั้นได้
ด้วยเหตุนี้ สัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพเหล่านั้นจึงเชี่ยวชาญหลายทักษะเผ่าพันธุ์ขั้นชำนาญ
อย่างไรก็ตาม ทักษะขั้นสมบูรณ์ไม่เรียบง่ายเลย
ขั้นสมบูรณ์เป็นตัวแทนของจุดสูงสุดของทักษะ สัตว์อสูรจำนวนมากพบว่าการบรรลุเป้าหมายนี้เป็นเรื่องยากมากแม้ว่าพวกมันจะใช้เวลาทั้งชีวิตของพวกมันก็ตาม
เมื่อเทียบกับการบ่มเพาะที่ใช้เวลานานแล้ว ขั้นนี้ต้องพึ่งพาพรสวรรค์และวิธีการฝึกฝนมากกว่า
สัตว์อสูรที่มีทักษะขั้นสมบูรณ์เป็นสัญลักษณ์ของนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์
สำหรับขั้นเหนือธรรมชาติ นั่นหมายความว่ามันได้ก้าวข้ามทักษะและปลดปล่อยทักษะจากขีดจำกัดซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำลึกมาก
แม้แต่ในบรรดานักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะทำได้เพียงฝึกฝนทักษะระดับต่ำของสัตว์อสูรของพวกเขาถึงขั้นสมบูรณ์เท่านั้น ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตของพวกเขาในการทำเช่นนี้
การไปถึงขั้นสมบูรณ์นั้นเป็นเรื่องยากมากสำหรับทักษะระดับกลางหรือทักษะระดับสูง
ยิ่งระดับทักษะสูงมากเพียงใด ความซับซ้อนก็มากยิ่งขึ้นเท่านั้น การเชี่ยวชาญมันจนถึงขั้นสมบูรณ์ก็จะยิ่งยากขึ้น นับประสาอะไรกับขั้นเหนือธรรมชาติ
“ข้าควรเริ่มต้นด้วยทักษะระดับสูง”
วิธีที่สองในการพิชิตซากปรักหักพังคือการเพิ่มความเชี่ยวชาญของทักษะระดับสูง
ซืออวี๋ตัดสินใจอย่างเรียบง่ายและรู้สึกว่าการเชี่ยวชาญเกราะสายฟ้าเป็นเรื่องยากมาก เพื่อเอาชนะสัตว์อสูรดุร้าย 100 ตัว… อันที่จริง เป็นไปได้ว่าเขาต้องมีสามทักษะระดับสูงที่ถึงขั้นชำนาญ
การเข้าถึงขั้นชำนาญเป็นเรื่องค่อนข้างง่าย
การปราบปรามขั้นชำนาญสามารถสร้างแรงกดดันทางจิตใจวงกว้างกับสัตว์อสูรดุร้ายได้ หากโชคดี พวกเขาสามารถสังหารสัตว์อสูรดุร้าย 100 ตัวได้ในทันที
การทวีคูณขั้นชำนาญ… แม้ว่าซืออวี๋จะยังไม่รู้ว่าทักษะนี้จะนำพาอีเลฟเว่นไปสู่ทิศทางไหน แต่ดูเหมือนว่าขนาดและความแข็งแกร่งของมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับมันที่จะทำลายกลุ่มสัตว์อสูรดุร้ายด้วยหมัดเดียว
การหลับลึกขั้นชำนาญสามารถใช้การนอนหลับระยะสั้นเพื่อฟื้นฟูพละกำลังมากยิ่งขึ้น มันเป็นทักษะการฟื้นฟูที่เรียบง่าย
เขาควรจะเพิ่มอะไรก่อนดี?
“ข้าไม่ควรมีปัญหาในการเลือก ข้าจะสอนพวกมันทั้งหมด”
“ข้าจะเพิ่มสุดยอดการมองเห็นและการรักษาความเร็วสูงจนถึงขั้นชำนาญ”
“ข้าจะไปหลังจากที่อีเลฟเว่นถึงขั้นชำนาญในทุกทักษะ ไม่ต้องกล่าวถึงด่านที่ห้า แม้แต่ด่านที่หกที่มีสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติ ข้าก็จะบดขยี้มันได้อย่างแน่นอน!”
ซืออวี๋กล่าวอย่างกล้าหาญในขณะที่ร่างกายของเขาสั่น ท้ายที่สุด นี่เป็นโครงการขนาดใหญ่…
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน