ตอนที่แล้วบทที่ 588: ความจริงเกี่ยวกับการตายของคู่หยินเหลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 590: แลกเปลี่ยนตัวประกัน

บทที่ 589: ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์ ข้าก็จะตัดมันทิ้งให้เจ้าเอง! (มีคำเตือน)


**คำเตือน มีเนื้อหาในส่วนของการถูกทำร้ายถึงขั้นอวัยวะฉีกขาด หากผู้อ่านรับไม่ไหว สามารถข้ามเนื้อหาส่วนที่ดอกจันไว้ได้เลยนะคะ**

“หุบปาก!”

หยินชางโกรธมาก เขาเขม็งมองหัวหน้าเผ่าไป๋ผีด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

หยินซางยิ้มเยาะ เขาไม่สนใจท่าทางโกรธของอีกฝ่ายเลยแล้วพูดว่า

“แต่ข้าฉลาด พวกเขาแค่ดูดเลือดของแม่เจ้าไป  ไม่มีใครรู้สักคนว่าร่างของนางต่างหากที่เป็นสมบัติที่แท้จริง”

“หลังจากที่พวกเขาเอาเลือดในตัวนางไปจนหมด ร่างของนางก็ถูกทิ้งเอาไว้ในป่า ข้าจึงแอบเอานางไปซ่อนไว้แล้วค่อย ๆ หั่นเนื้อนางออกมาทีละชิ้น บอกได้เลยว่าเนื้อพวกนั้นมันไม่ต่างจากยาชูกำลังเลยแม้แต่น้อย...”

ระหว่างที่ชายหนุ่มพูด สีหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

“แม้แต่กระดูกข้าก็ยังบดเป็นผงผสมน้ำไว้ดื่ม”

“พวกเจ้าดูสิ ข้าใช้ทุกส่วนของร่างภูตอสูรให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือไม่ การทำแบบที่ข้าทำมันดูมีประโยชน์กว่าการทิ้งร่างนั้นให้สัตว์ป่ากินเสียอีก”

ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจและหัวเราะร่า

ถ้าไม่ใช่เพราะศพของภูตอสูรคนนั้น เขาคงไม่มีทางแข็งแกร่งขึ้นในชั่วข้ามคืน แล้วเอาชนะหัวหน้าเผ่าไป๋ผีที่ดำรงตำแหน่งตอนนั้นเพื่อขึ้นไปเป็นคนที่มีอำนาจสูงที่สุดในเผ่าได้

ยิ่งหยินชางได้ฟังว่าแม่ของเขาถูกกระทำแบบไหนแม้ว่าจะตายไปแล้ว เขาก็ผุดลุกขึ้นตะโกนด้วยความโกรธว่า “ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ไม่สิ เจ้ามันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานด้วยซ้ำ ไอ้สัตว์นรก!”

แม้นหยินเสวี่ยจะเป็นคนที่บอกให้ภูตในเผ่าไป๋ผีมาฆ่าพ่อแม่ของเขา แต่การกระทำของหยินซางก็น่ารังเกียจพอ ๆ กับภูตคนอื่น!

คนพวกนี้มันน่าสาปแช่งให้ตกนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ยิ่งกว่าหยินเสวี่ยเสียอีก

เขาจะต้องฆ่าพวกมันทุกคนเพื่อล้างแค้นให้พ่อแม่ของเขา!

ทางด้านภูตเผ่าไป๋ผีที่อยู่ด้านข้างหยินชางก็รู้สึกมีความสุขไม่ต่างจากผู้เป็นนายของตัวเอง ยามที่พวกเขาเห็นเด็กหนุ่มดิ้นทุรนทุรายเมื่อได้ยินเรื่องแม่ของตน ใบหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย

“ท่านหัวหน้า ท่านพูดถูก มันโชคดีมากที่ท่านได้กินเนื้อภูตอสูร!”

ในขณะนี้ผู้อาวุโสของเผ่าไป๋ผีฟื้นคืนสติกลับมาอีกครั้ง พอเขานึกถึงความเมตตาที่หยินซางจับหมอผีมารักษาอาการป่วยของตน เขาก็รีบพูดประจบประแจงอย่างรวดเร็ว

“ตั้งแต่ที่นางกล้ามาเหยียบเผ่าไป๋ผีของเรา มันก็ถือว่านางได้ทำผิดกฎของเผ่าเราเรียบร้อยแล้ว นางสมควรตาย— อ๊ากกกกกกกกก!!!”

ชายชราพูดในสิ่งที่ตนเชื่อมั่นว่ามันถูกต้องออกมา แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องร้องลั่น

ก่อนหน้านี้ตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกตเห็น หลงหลิงเอ๋อได้หยิบมีดเล่มเล็กออกมาจากย่าม

**********************************************

พอเหล่าภูตหันมามองตามเสียงร้อง พวกเขาก็เห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยกำลังดึงมีดเล่มเล็กออกมาจากตาซ้ายของท่านผู้อาวุโส จากนั้นมีดเล่มสวยก็แทงเข้าไปในตาขวาของเขาต่อ

ฉึก!

คนที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ยืนตกตะลึงอ้าปากค้าง

หมอผีตัวน้อยโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ? นางกล้าแทงผู้อาวุโสเผ่าไป๋ผีจนตาบอด!

แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น…

หลงหลิงเอ๋อดึงมีดออกมาอีกครั้ง แล้วก็ส่งมันเข้าไปในปากชายแก่ ก่อนจะกวนมันอยู่พักนึงจนมีชิ้นเนื้อสีแดงหลุดออกมา

ตามด้วยเส้นเอ็น...

การเคลื่อนไหวทั้งหมดของคนตัวเล็กนั้นพลิ้วไหวดั่งสายน้ำ แม้แต่ตัวหยินซางเองก็ยังตอบสนองไม่ทันด้วยซ้ำ ไม่กี่อึดใจต่อมา คนเป็นผู้อาวุโสก็กลิ้งตัวอยู่กับพื้นพลางร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เสียงร้องของเขาแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์

“เฮอะ! ปากของเจ้าพูดเป็นแต่เรื่องไร้สาระเท่านั้นสินะ ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์ ข้าก็จะตัดมันทิ้งให้เจ้าเอง!!”

หลงหลิงเอ๋อพูดเสียงเย็นก่อนจะถอนต้นหญ้าออกมากำหนึ่ง แล้วเอามันมาเช็ดมีดอันเป็นที่รักของตนด้วยสีหน้ารังเกียจเป็นการตบท้าย

**********************************************

“!!!”

หมอผีคนเมื่อกี้อยู่ที่ไหน? นี่มันปีศาจที่หมายจะคร่าชีวิตผู้คนชัด ๆ!

กลุ่มภูตที่เห็นเหตุการณ์สยดสยองตรงหน้ารีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเพราะกลัวว่าพวกเขาจะเป็นคนที่ถูกตัดลิ้นคนต่อไป

โหดฉิบหาย! หมอผีคนนี้น่ากลัวมาก!

นางจะต้องเป็นปีศาจแปลงกายมาแน่ ๆ!

แม้แต่ตัวหยินชางเองก็ยังตกใจ ทว่าไม่นานความรู้สึกโล่งใจก็เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว

เยี่ยมมาก... อย่างน้อยเขาก็มั่นใจได้ว่าหลิงเอ๋อสามารถปกป้องตัวเองได้

หลังจากที่เด็กหญิงเช็ดมีดให้สะอาดแล้วเก็บกลับไปที่เดิม หยินซางและคนของเขาก็กลับมามีสติ

“เจ้าช่างกล้ามากจริง ๆ! ข้าสั่งให้เจ้าช่วยรักษาเขา แต่เจ้าบังอาจมาทำร้ายผู้อาวุโสของเผ่าเราแบบนี้… พวกเจ้าไปจับตัวนางมาให้ข้า!” เขาคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว

“ข้าจะสั่งสอนนางเอง!”

ในเวลาเดียวกัน ไม่มีร่องรอยความกลัวอยู่บนใบหน้าของหลงหลิงเอ๋อเลยสักนิด

เมื่อนางได้ยินคำพูดของหยินซาง นางก็พูดเยาะเย้ยว่า

“นั่นสินะ เขาเป็นถึงผู้อาวุโสของเผ่าไป๋ผีแท้ ๆ แสดงว่าภูตในเผ่าของเจ้าอ่อนแอมากเลยน่ะสิ!”

“...”

ฝ่ายที่โดนดูถูกกำลังโกรธมาก! เขาโมโหจนอยากจะสับหมอผีจอมอวดดีให้เป็นชิ้น ๆ!

ต่อมา ชายหนุ่มพับแขนเสื้อขึ้นแล้วพูดเสียงดังว่า “ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้สั่งสอนนังเด็กนี่ให้รู้สำนึก ใครหน้าไหนก็อย่ามาเรียกข้าว่าหยินซาง!!”

ในไม่ช้า คนที่เป็นลูกน้องของหัวหน้าเผ่าไป๋ผีก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อคว้าจับตัวเด็กหญิงไว้แน่น

หลงหลิงเอ๋อเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แน่นอนว่านางไม่สามารถสู้แรงของผู้ชายได้ นางต่อสู้ดิ้นรนอยู่ 2-3 ครั้ง พอเห็นว่าตนไม่มีทางหลุดจากมือแข็ง ๆ นี้ไปได้ นางจึงเงยหน้าขึ้นจ้องหยินซางอย่างดื้อรั้น

“แน่จริงเจ้าก็ฆ่าข้าให้ตายสิ ถ้าฆ่าไม่ตาย ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

บัดนี้คนเป็นหัวหน้าเผ่าโกรธจนหน้าแดง เขาเงื้อมือขึ้นเหนือหัวหมายจะเหวี่ยงมันลงบนหน้าของอีกฝ่าย

พอหยินชางเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังจะถูกทำร้าย เขาก็ยกเท้าขึ้นกระทืบเท้าของคนที่จับตัวเขาเอาไว้

ภูตคนนั้นส่งเสียงร้องแล้วยืนเขย่งกุมเท้าตัวเอง เด็กหนุ่มจึงอาศัยโอกาสนี้วิ่งเอาหัวกระแทกเข้าใส่หยินซางเต็มแรง

ปั้ก!!

หัวหน้าเผ่าที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกหัวแข็ง ๆ ชนเข้าที่ซี่โครงจนกระเด็นออกไปหลายเมตร

“ท่านหัวหน้า!” ภูตที่จับหลงหลิงเอ๋อตกใจจนปล่อยมือจากนางแล้วรีบวิ่งเข้าไปช่วยผู้เป็นนาย

“ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย! เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าแตะต้องเจ้าใช่ไหม…”

หยินซางจับซี่โครงที่ถูกกระแทกเอาไว้พลางมองหยินชางด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

หัวของไอ้เด็กนี่มันทำจากหินหรือไง?

ให้ตายเถอะ! กระดูกของข้าแทบจะหัก 2 ท่อน

ทางด้านหยินชางไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองอีกฝ่าย เขาเอาแต่มองสำรวจหลงหลิงเอ๋ออย่างกังวล “หลิงเอ๋อ เจ้าเป็นอะไรไหม?”

แม้ว่ามือและเท้าของเขาจะถูกมัดเอาไว้ แต่เขาก็ยังพยายามปกป้องคนตัวเล็กไว้ข้างหลังตน

“หยินชาง ข้าไม่เป็นไร” เด็กหญิงส่ายหัว นางรู้สึกเป็นกังวลว่าเขาจะรู้สึกสะเทือนใจหลังจากได้ยินสิ่งที่หัวหน้าเผ่าไป๋ผีพูดเมื่อกี้มากกว่า

เมื่อหยินซางเห็นว่าเด็กทั้ง 2 คนเมินตัวเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นไปอีก

“พวกเจ้าคิดว่าภูตมังกรจะมีพลังทำได้ทุกอย่างงั้นรึ? ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ แม้ว่าครั้งนี้เทพอสูรจะมาที่นี่เอง แต่ท่านก็ไม่สามารถช่วยพวกเจ้าได้หรอก!”

“แล้วอีกอย่าง ไม่ใช่แค่พวกเจ้าเท่านั้น แม้แต่คนในเผ่าเยว่หูก็จะตายตามพวกเจ้าไปทั้งหมด!”

หลังจากชายหนุ่มได้เห็นเด็ก 2 คนนี้ตอบโต้ เขาก็ไม่กล้าดูถูกพวกมันอีก

ต่อมา เขาเรียกลูกน้องของตัวเองให้เข้าไปจับอีกฝ่ายไว้ให้แน่น

พอหยินชางกับหลงหลิงเอ๋อถูกศัตรูจับเอาไว้อย่างแน่นหนา ทั้งคู่ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

“เอาชามมา!”

หยินซางออกคำสั่งเสียงดัง และภูตคนหนึ่งก็ยื่นชามหินกับมีดกระดูกคม ๆ ให้เขาทันที

ขณะนั้นชายหนุ่มสูดลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองพลางเดินไปหาหยินชาง

“ข้าจะไม่มีวันโดนหลอกอีก พวกเจ้ากำลังพยายามถ่วงเวลาไว้ใช่ไหม? แม้ว่าตอนนี้บาดแผลของเจ้าจะหายดีแล้ว แต่ข้าจะกรีดเลือดของเจ้าออกมาอีกครั้งเอง”

หัวหน้าเผ่าไป๋ผีพูดจบแล้วก็ยกมีดกระดูกขึ้นมา ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องตรึงแขนของเด็กหนุ่มเอาไว้ จากนั้นก็แทงมีดลงไปเต็มแรง

“ท่านหัวหน้า! ท่านหัวหน้า!”

ในเวลาเดียวกัน จู่ ๆ เสียงร้อนรนของลูกน้องคนหนึ่งนามว่าหยินซื่อก็ดังมาจากภายนอก

มีดที่กำลังจะแทงหยินชางจึงชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ในขณะที่เขาหันกลับไปมองคนที่ร้องเรียกตนอย่างไม่พอใจ

“มีอะไร เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ายุ่งอยู่?!”

หยินซื่อก้มศีรษะลงต่ำพลางเหลือบมองหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางที่ถูกจับกุม แล้วตอบด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

“ผู้หญิงที่ชื่อหูเจียวเจียวและคู่ของนางมาที่นี่!”

เมื่อหยินซางได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“พวกมันรู้แล้วงั้นหรือว่าเราจับตัวไอ้เด็ก 2 คนนี้มาที่นี่? ทำไมถึงรู้เร็วขนาดนี้วะ”

ชายหนุ่มไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิด

คนพวกนี้ยังเป็นภูตอยู่หรือเปล่า ทำไมพวกมันถึงหาตัวเด็กได้เร็วมาก?

แถมเผ่าเยว่หูก็ไม่ใช่เผ่าเล็ก ๆ มันกว้างใหญ่ไพศาลมาก แม้ว่าพวกมันจะต้องค้นไปทั่วเผ่าแบบไม่หลับไม่นอนเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน แต่อีกฝ่ายก็ไม่น่าจะเจอตัวเด็กเร็วนัก!

“มีใครเห็นว่าเราจับเด็กพวกนี้มาหรือเปล่า? ข้าสั่งให้พวกเจ้าแอบทำแบบลับ ๆ ไม่ให้ใครสงสัยแล้วไม่ใช่เรอะ?” เขาหันไปถามลูกน้องทั้งหลายเสียงเข้ม

ทางด้านลิ่วล้อคนอื่นของหยินซางเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

“ทะ-ท่านหัวหน้า เราไม่รู้ แต่ตอนที่เราลงมือไม่มีใครเห็นเลยแม้แต่คนเดียว พวกมันไม่น่าหาตัวเด็กเจอเร็วแบบนี้…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด