ตอนที่แล้วบทที่ 60 หินไร้ตัวตน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 62 เป้าหมายการฝึกฝนพิเศษใหม่

บทที่ 61 พรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด


“พวกเจ้าต้องการต่อสู้กันงั้นเหรอ?”

ผู้บัญชาการเหอเป็นคนหยาบคายผู้ที่ไม่ชอบเรื่องจุกจิก เขากล่าวว่า “น่าสนใจมาก!”

(ขอแก้จากรองผู้บัญชาการเป็นผู้บัญชาการนะครับ)

“ข้าจะหาคนมาทำความสะอาดสนามประลองให้แก่พวกเจ้า!”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับทหารพวกนั้นที่จะเปิดโลกทัศน์”

คนหนึ่งคือญาติของเฒ่าเฟิง ส่วนอีกคนคือมือใหม่สัตว์ประหลาดที่ผ่านด่านที่สี่ กล่าวโดยย่อ พวกเขาทั้งสองคนไม่ง่ายเลย

เขาก็ต้องการเห็นความแข็งแกร่งของสองคนนี้เช่นกัน

ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะได้กระตุ้นกำลังใจแก่มือใหม่ที่อยู่ภายใต้เขาเช่นกัน ไม่เลวเลย

“การเป็นเด็กนั้นดีอย่างแท้จริง” ประธานเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขาหรี่ตาลง เขากำลังเตรียมดูการแสดง

“ถ้าเช่นนั้นก็รอหลังมื้อเที่ยงก็แล้วกัน พวกเจ้าพักผ่อนก่อน ต่อสู้หลังจากที่พวกเจ้าอิ่มแล้ว”

“ตกลง” เฉิงกงกล่าวอย่างเฉยเมย

ซืออวี๋ไม่ได้ติดใจอะไร

ด้านนอก จ่าของกองทัพนักฝึกสัตว์อสูรกำลังพูดคุยกับนักฝึกสัตว์อสูรกลุ่มนี้

เนื้อหาการสนทนาก็คือเรื่องที่ทุกคนสามารถท้าทายซากปรักหักพังอีกครั้งในเดือนหน้า

อย่างไรก็ตาม พวกเขาใช้เวลาท้าทายหนึ่งวันเท่านั้น

ในเดือนนี้ ทุกคนสามารถกลับบ้านหรืออยู่ที่นี่ก็ได้ ไม่ว่ายังไง ค่ายที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และพวกเขาก็ได้กินอาหารสามมื้ออย่างแน่นอน

“ข้าตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่จากไปจนกว่าข้าจะผ่านบททดสอบที่สอง”

เฉินไคผู้ที่ผ่านเพียงหนึ่งด่านรู้สึกละอายใจ

เขาเป็นขยะอย่างแท้จริง เขาผ่านแค่หนึ่งด่านเท่านั้น…

“แต่แคปซูลสดชื่นของเจ้าเพียงพองั้นเหรอ?” เพื่อนร่วมห้องผู้ที่ผ่านการประเมินพร้อมกับเฉินไคได้เอ่ยถามขึ้นมา เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเพียงคนเดียวที่ผ่านเงื่อนไขการเข้าซากปรักหักพัง

“บัดซ* ดูเหมือนมันจะไม่พอ เราต้องกลับไปเตรียมเสบียงสำหรับหนึ่งเดือนก่อน” เฉินไคกล่าวหลังจากตอบสนอง

บัดซ*! เห็นได้ชัดว่าเขาก็กินแคปซูลสดชื่นเช่นกัน ทำไมเขาถึงทำไม่ได้เช่นเดียวกับซืออวี๋ล่ะ?

ในการต่อสู้ครั้งก่อน ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ต่างกันมากนัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปไม่นาน เขาผ่านแค่ด่านแรก และซืออวี๋ผ่านด่านที่สี่ ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งนั้นทะลุขอบฟ้า

เป็นไปได้ไหมว่าซืออวี๋จะได้กินอาหารเสริมที่ดียิ่งกว่านี้?

“ข้าต้องเตรียมบางอย่างเช่นกัน” เพื่อนร่วมห้องของเฉินไคกล่าวออกมา เขาก็เป็นผู้เข้าร่วมจากภูเขาเทียนหมังเช่นกัน

ในขณะที่พวกเขาสองคนสนทนากัน เฉียวเหลียง แพทย์หนุ่มจากโถงร้อยสมุนไพรผู้ที่ไม่ต้องการแอบฟังก็ได้มีสีหน้าแปลกประหลาด

ทำไมถึงยังมีคนกล่าวถึงอาหารเสริมในซากปรักหักพังนี้อีกล่ะ?

เกิดอะไรขึ้นกับอาหารเสริมที่ร้อนแรงเมื่อไม่นานมานี้กัน?

ซืออวี๋ก็เช่นกัน นักฝึกสัตว์อสูรที่อ่อนแอซึ่งกินอาหารเสริมทุกวันกลายเป็นพี่ใหญ่ได้ยังไงกัน?

เป็นไปได้ไหมว่า… อาหารเสริมเหล่านี้มีผลกระทบลับเหรอ?

แพทย์เฉียวเหลียงผู้ที่ศึกษาเรื่องยามาเป็นอย่างดีนั้นก็ลังเลเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริง

ทำไมเขาถึงไม่ลองดูล่ะ?

ผู้คนที่นี่สลายตัวกันอย่างรวดเร็ว บางคนวางแผนที่จะอยู่ต่อ บางคนวางแผนที่จะกลับไปเตรียมตัว

แต่ในขณะนี้ ทหารกลุ่มหนึ่งได้ทำความสะอาดสนามประลองอย่างกะทันหัน ทำให้หลายคนงงงวย

สนามประลองถูกทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว เหล่านักฝึกสัตว์อสูรมีความสงสัยมากยิ่งขึ้นและเดินไปข้างหน้าเพื่อสอบถาม

คำถามนี้ทำให้เหล่านักฝึกสัตว์อสูรตกตะลึง

ผ่านไปสักพักหนึ่ง ข่าวก็แพร่สะพัดไปยังค่ายอื่น

ไม่เพียงแค่กองทัพนักฝึกสัตว์อสูรที่ประจำการอยู่ที่นี่เท่านั้นที่รู้ เหล่านักฝึกสัตว์อสูรมือใหม่ทั้ง 80 คนก็รู้เช่นกัน

“บัดซ* เฉินกงที่ผ่านด่านที่สามกำลังจะต่อสู้กับซืออวี๋ที่ผ่านด่านที่สี่!”

“ประธานเฟิงและผู้บัญชาการเหอก็อนุญาตแล้ว ทุกคนสามารถดูการต่อสู้ได้!!!”

เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ทุกคนก็หายเหนื่อยและไม่หิวอีกต่อไปในทันใด พวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

“มีการต่อสู้ให้ดูด้วยเหรอ? ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะยังไม่ไปแล้วกัน ข้าต้องการเห็ยความแตกต่างระหว่างข้ากับพี่ใหญ่”

“ข้าก็จะอยู่ดูการต่อสู้กับเจ้าเช่นกัน”

“ข้าเช่นกัน”

คนเหล่านี้คือนักฝึกสัตว์อสูรมือใหม่

เหล่านักฝึกสัตว์อสูรจากกองทัพนักฝึกสัตว์อสูรเงียบมากเป็นพิเศษ

เจ้าหน้าที่ระดับมืออาชีพเหล่านั้นไม่เป็นไร แต่ทหารระดับฝึกหัดธรรมดามีความรู้สึกซับซ้อน

ท้ายที่สุด ไม่มีใครผ่านด่านที่สามได้เลย

และสองคนนี้ คนหนึ่งผ่านสามด่าน และอีกคนหนึ่งผ่านสี่ด่าน… เปรียบเทียบกันไม่ได้เลย

“ข้าต้องการเห็นว่าพวกเขาทรงพลังมากเพียงใด” หลายคนคิดกับตัวเอง

พื้นที่โดยรอบซากปรักหักพังเริ่มมีชีวิตชีวา

พอถึงเที่ยง ทุกคนก็เลือกที่จะกินข้าวเที่ยงที่ค่าย

ในขณะนี้ ไม่มีใครสามารถหาได้ว่าซืออวี๋และเฉิงกงอยู่ไหน

พวกเขาปรากฎตัวหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ

เนื่องจากพวกเขาทั้งสองคนถูกผู้บัญชาการเหอเรียกไปกินอาหารพิเศษ

อาหารที่มีสารอาหารสุงสามารถเร่งความเร็วการฟื้นฟูของสัตว์อสูรในมิติฝึกสัตว์อสูรได้ หลังจากกินมัน พวกเขาทั้งสองคนก็เกือบจะอยู่สถานะสูงสุดของพวกเขาแล้ว

แม้ว่า… หากซืออวี๋ไม่กินมัน อสูรกินเหล็กของเขาก็อยู่สถานะสูงสุด ท้ายที่สุด อีเลฟเว่นมีบัฟการฟื้นฟูคู่ระหว่างการหลับลึกและมิติฝึกสัตว์อสูร

“มาแล้ว มาแล้ว”

ในชณะที่ซืออวี๋และเฉิงกงปรากฎตัว ดฟล่าทหารที่มีระเบียบวินัยนั้นเงียบสงบมาก แต่เหล่านักฝึกสัตว์อสูรมือใหม่ส่งเสียงดังในทันที

ภายใต้การเรียกของผู้บัญชาการเหอ ทุกคนก็ได้มารวมตัวกัน

ในชั่วพริบตา ซืออวี๋และเฉิงกงก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ

“สนามประลองนี้ไม่ใหญ่เกินไปเหรอ?” เฉิงกงประหม่า

เขาไม่เชื่อลแะต้องการท้าทายซืออวี๋เพื่อดูความแตกต่าง ทำไมเขาถึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจได้ล่ะ?

หากเขาพ่ายแพ้ นั่นจะไม่น่าอายมากหรอกเหรอ?

ซืออวี๋ก็รู้สึกว่าบรรยากาศดูยิ่งใหญ่มากเกินไปป แต่เพราะเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ทำได้เพียง…

จากนั้น พวกเขาสองคนก็เดินไปที่สองด้านของลานประลอง

ผู้บัญชาการเหอพยักหน้าเดินไปที่ขอบสนามประลองด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะเป็นผู้ตัดสินให้พวกเจ้าเอง”

“ตกลง ขอบคุณมาก” นักสู้ทั้งสองคนกล่าวออกมา

ผู้บัญชาการเหอพยักหน้าและกล่าวอย่างจริงจังในทันที “พวกเจ้าสองคน ส่งสัตว์อสูรของพวกเจ้าออกมาพร้อมกัน”

“ฟังสัญญาณจากข้าและเริ่มการต่อสู้ได้!”

หลังจากกล่าวไปเช่นนี้ สถานที่แห่งนี้ก็เงียบลงอย่างสมบูรณ์ ทุกคนจับจ้องไปที่พวกเขาทั้งสองคนด้วยความตั้งใจ

นั่นเป็นเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ถึงสถานการณ์สัตว์อสูรของพวกเขาสองคน

“อสูรเพลิงจันทรา”

วงแหวนอัญเชิญขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นมา และสัตว์อสูรของเฉิงกงก็ได้เดินออกมาจากระลอกคลื่นมิติ

“กรรร!!!”

เมื่อสัตว์อสูรตัวนี้เดินออกมา มันก็นำคลื่นความร้อนติดมากับมันด้วย

มันเป็นสัตว์อสูรที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรซึ่งมีขนสีแดงราวกับเปลวเพลิงปกคลุมทั่วร่างกายของมัน ลำมีลาย ‘เสี้ยวจันทรา’ อยู่รอบก้นของมัน

มมันดูเหมือนสัตว์อสูรประเภทพังพอนจากดลก มันอาจเป็นเผ่าพันธุ์วิวัฒนาการของพังพอน

[ชื่อ] : อสูรเพลิงจันทรา

[คุณสมบัติ] : ไฟ

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติชั้นสูง

[ทักษะเผ่าพันธุ์] : ระเบิดเพลิง เพลิงจู่โจม กรงเล็บเพลิง

มันไม่ใช่สัตว์อสูรธาตุน้ำแข็ง แต่เป็นสัตว์อสูรธาตุไฟที่หาได้ยากในเมืองทุ่งน้ำแข็ง…

“อู๋—”

เมื่อเทียบกับอสูรเพลิงจันทราแล้ว ทุกคนคุ้นเคยกับอสูรกินเหล็กของซืออวี๋มากกว่า ท้ายที่สุด มันเป็นสัตว์อสูรอันเป็นเอกลักษณ์ของเขตผิงเฉิง…

ในเวลานี้ อีเลฟเว่นก็ไม่มีความสุขเช่นกัน ก่อนหน้านี้มันไม่สามารถผ่านซากปรักหักพังได้ในคราวเดียว ทำให้มันรู้สึกว่าการฝึกฝนยังไม่เข้มข้นมากพอ!

มันต้องขยันให้มากขึ้น ต่อจากนั้น มันก็จะรับการเพิ่มแต้มของซืออวี๋

มันมองไปที่คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ของมัน มันตัดสินใจเริ่มจากการเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้ามันในทันที… หากมันทำไม่ได้ ปริมาณการฝึกฝนของมันจะเพิ่มเป็นสองเท่า!

ความคิดของอีเลฟเว่นถูกส่งไปยังซืออวี๋เช่นกัน และสีหน้าของซืออวี๋ก็ซับซ้น เขาส่งเสริมอีเลฟเว่น

ในขณะนั้นเอง เมื่ออีเลฟเว่นผู้ที่สูงหนึ่งเมตรเดินออกมาจากวงแหวนอัญเชิญ ทุกคนก็เงียบลง

เพราะอีเลฟเว่นตัวเล็กเกินไป มันดูราวกับเป็นทารกสัตว์อสูร

ทุกคนมาจากเขตผิงเฉิง ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าอสูรกินเหล็กตัวเต็มวัยนั้นสูงเกือบสองเมตร ความแตกต่างหนึ่งเมตรนั้นมากเกินไป

มันยังอายุไม่ถึงสองปีเลยงั้นเหรอ?

หลังจากที่ได้เห็นอสูรกินเหล็กแล้ว ดวงตาของเฉิงกงก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อเพราะขนาดของมัน

ซืออวี๋พึ่งพาทารกอสูรกินเหล็กตัวนี้เพื่อผ่านด่านที่สี่งั้นเหรอ? เป็นไปได้ยังไงกัน!

“นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัด เฉิงกง อสูรเพลิงจันทราระดับปลุกตื่นขั้นสิบ”

เฉิงกงเริ่มแนะนำตัวเองกับซืออวี๋

“นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัด ซืออวี๋ อสูรกินเหล็กระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ด”

ไม่มีอะไรต้องปิดบังเกี่ยวกับสัตว์อสูร ดังนั้นซืออวี๋จึงกล่าวออกมาเสียงดัง

เมื่อซืออวี๋กล่าวเสร็จ หลายคนก็ตกตะลึง

ระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดเหรอ? นี่เป็นเรื่องตลกงั้นเหรอ?

ทุกคนรู้ว่าซืออวี๋น่าประทับใจมากสำหรับการผ่านสี่ด่านติดต่อกัน แต่อย่างน้อยที่สุดก็ควรสมเหตุสมผล

หากระดับการเติบโตของสอูรกินเหล็กอยู่ที่ระดับปลุกตื่นขั้นสิบคงไม่มีใครกล่าวอะไร

แต่สุดท้าย อสูรกินเหล็กตัวนี้ไม่เพียงแค่เป็นทารกเท่านั้น แต่ระดับการเติบโตของมันยังไม่ถึงจุดสูงสุดของระดับปลุกตื่นเช่นกันเหรอ?

“มันอยู่ระดับปลุกตื่นขั้นหกเมื่อไม่กี่วันก่อน มันได้ทะลวงขั้นเหรอ?”

การสนทนาของเหล่าศิษย์ในศูนย์ฝึกศิลาไผ่ได้สร้างความเสียหายอันหนักหน่วงให้แก่ผู้คนรอบข้าง

บัดซ*!

ไม่ต้องกล่าวถึงนักฝึกสัตว์อสูรเหล่านี้… แม้แต่ประธานเฟิงผู้ที่อยู่ไม่ไกลนักก็ยังรู้สึกว่านี่มันเรื่องไร้สาระ

ตามข้อมูลของซืออวี๋ เมื่อเขาเข้าร่วมการประเมินที่ภูเขาเทียนหมัง อสูรกินเหล็กอยู่เพียงระดับปลุกตื่นขั้นหกเท่านั้น

ดังนั้นนี่คือสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ… แม้ว่าอสูรกินเหล็กที่มีการเคลือบแข็งขั้นชำนาญจะมีการเติบโตต่ำกว่าระดับปลุกตื่นขั้นสิบ แต่มันก็ไม่สามารถผ่านด่านที่สี่หรือแม้กระทั่งด้านที่สามได้

เหล่านักฝึกสัตว์อสูรที่นี่รู้สึกสับสนมาก และผู้บัญชาการเหอก็เช่นเดียวกัน แต่เขาก็เลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการเข้าใจความลึกลับนี้

“เริ่มการต่อสู้ได้!”

ทันทีที่เขากล่าวเสร็จ เฉิงกงก็ออกคำสั่งในทันที

“อสูรเพลิงจันทรา ระเบิดเพลิง!!!”

สีหน้าของอสูรเพลิงจันทรานั้นดุร้ายในขณะที่มันคำรามออกมา ขนสีแดงเลพิงทั้งหมดบนร่างกายของมันสว่างขึ้น และบอลเพลิงก็ควบแน่นอยู่ที่ปากของมัน

ในชั่วพริบตา บอลเพลิงขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบหนึ่งเมตรซึ่งมีพลังแห่งการระเบิดและคลื่นความร้อนก็ได้ก่อตัวขึ้นโดยตรง!

[ระเบิดเพลิง] : ทักษะธาตุไฟระดับกลาง มันสามารถสร้างเปลวไฟที่มีคุณสมบัติระเบิดได้ พลังทำลายล้างของมันสูงมาก

ในขณะที่อสูรเพลิงจันทราโจมตี น้ำแข็งรอบตัวมันก็หลอมละลายในทันที เหล่านักฝึกสัตว์อสูรก็รู้สึกถึงคลื่นควาามร้อนเช่นกัน

“ความเชี่ยวชาญของระเบิดเพลิงนี้อย่างน้อยก็ขั้นช่ำชอง!”

ผู้บัญชาการเหอคิดกับตัวเอง ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะเอาชนะยักษ์เกราะน้ำแข็งได้ ทักษะไฟนี้รุนแรงมากเป็นพิเศษสำหรับสัตว์อสูรประเภทน้ำแข็ง…

ไม่สิ ไม่ใช่แค่สัตว์อสูรธาตุน้ำแข็งเท่านั้น แต่สำหรับสัตว์อสูรทั้งหมด!

บูม!!!

ระเบิดเพลิงได้พุ่งออกไป เพียงแค่การเคลื่อนไหวนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้นักฝึกสัตว์อสูรหลายคนได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขากับเฉิงกงแล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดก็คือซืออวี๋และอสูรกินเหล็กดูสงบมากอย่างแท้จริงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันทรงพลังนี้

“อีเลฟเว่น เคลือบแข็ง ฝ่ามือสายฟ้า!”

ในขณะที่บอลไฟลอยเข้ามา อีเลฟเว่นก็ยืนนิ่งเฉย เดิมทีขนของมันปลิวไสวตามลมร้อน แต่ในช่วงเวลต่อมา ขนของมันก็นิ่งราวกับขุนเขา

ทักษะระดับต่ำ การเคลือบแข็ง!

เมื่อมองดูอสูรกินเหล็กน้อยแล้ว ทุกคนไม่คุ้ยเคยกับการเคลื่อนไหวนี้

อย่างไรก็ตาม ไม่หลบงั้นเหรอ? มันวางแผนที่จะใช้การเคลือบแข็งเพื่อต้านทานทักษะนี้งั้นเหรอ? ทุกคนไม่เข้าใจเลย

ซิ ซิ ซิ ซิ…

ในวินาทีต่อมา ทุกคนที่ไม่เข้าใจคำสั่งของซืออวี๋ก็ได้พบการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตัวอสูรกินเหล็กน้อย

กระแสไฟฟ้าอันแข็งแกร่งสีน้ำเงินขาวจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกไปจากแขนขวาของอสูรกินเหล็กน้อยอย่างกะทันหัน พลังของมันอาจดูน่าตกตะลึงเป็นพิเศษ

กระแสไฟฟ้าที่น่าสะพรึงได้หมุนวนบนแขนโลหะ เหล่านักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดอาจดูสับสนเล็กน้อยกับฉากนี้ แต่สิ่งนี้ก็ได้ทำให้สีหน้าของเหล่านักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ทักษะผสาน!” นักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพทุกคนตกตะลึง มันเป็นทุกษะที่มีคุณสมบัติต่างกัน!

ในขณะนี้ บอลเพลิงได้ใกล้เข้ามา

อีเลฟเว่นใช้ทักษะผสาน ‘การเคลือบแข็ง’ ขั้นชำนาญและ ‘ฝ่ามือสายฟ้า’ ขั้นชำนาญ ต่อยออกไปโดยตรง

ซิซิซิ…

เสียงสายฟ้านั้นราวกับเสียงวิหคนับพันกู่ร้อง แขนของอีเลฟเว่นนั้นดูราวกับหอกสายฟ้า น่าตกตะลึงมาก

การกระทำนี้ทำให้ดวงตาของเฉิงกงเบิกกว้าง

บูม!!!

อีเลฟเว่นดูเหมือนจะถูกระเบิดเพลิงกลืนกิน แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือทันทีที่บอลเพลิงสัมผัสกับอสูรกินเหล็กน้อย มันก็ถูกแบ่งเป็นสองส่วนทันที!

ทักษะระดับกลางระเบิดเพลิงขั้นช่ำชองถูกผ่าเป็นสองส่วนโดยหนึ่งฝ่ามือ

นี่ยังไม่จบลง เนื่องจากระเบิดเพลิงมีคุณสมบัติระเบิด แม้ว่ารูปร่างของมันจะถูกทำลายทันที ทำให้พลังของมันลดลง แต่ระเบิดเพลิงที่เหลือก็ระเบิดทันที

ในตอนนี้ อีเลฟเว่นได้เดินไปหน้าระเบิดเพลิงที่ถูกผ่าเป็นสองส่วน ร่างกายเคลือบแข็งของมันใช้ประโยชน์จากคลื่นกระแทกของการระเบิดของระเบิดเพลิงเพื่อโจมตีอสูรเพลิงจันทราราวกับสัตว์อสูรดุร้ายธาตุเพลิงสายฟ้า ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วมากจนอสูรเพลิงจันทราตอบสนองไม่ทัน

“กรรร!!!” นัยน์ตาของอสูรเพลิงจันทราหดลง มันไม่เข้าใจว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันนั้นเป็นสัตว์อสูรอะไรกัน สัตว์อสูรตัวนี้สามาถตัดระเบิดเพลิงของมันได้

นี่คือเรื่องปกติ ท้ายที่สุด พลังเจาะทะลุของฝ่ามือสายฟ้าขั้นสมบูรณ์สามารถตัดสายฟ้าในธรรมชาติได้ แม้ว่าความเชี่ยวชาญฝ่ามือสายฟ้าของอีเลฟเว่นจะไม่เพียงพอ แต่ด้วยการเสริมพลังของการเคลือบแข็ง พลังของมันก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป

แม้ว่าระเบิดเพลิงนี้จะแข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งของมันก็ไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด

“เพลิงจู่โจม! กรงเล็บเพลิง!”

เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรกินเหล็กน้อยที่พุ่งเข้้ามา หนังศีรษะของเฉิงกงก็มึนงง เขารู้สึกกดดันมาก แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือการต่อสู้กลับ

[เพลิงจู่โจม] : ทักษะธาตุไฟระดับกลาง ทำให้เปลวไฟในร่างกายระเบิดและเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ ทำให้ได้รับความเร็วที่มากขึ้น

เฉิงกงวางแผนที่จะให้อสูรเพลิงจันทราชนะด้วยความเร็ว ท้ายที่สุด การมองเห็นของอสูรกินเหล็กก็ไม่ค่อยดีมากนัก

บูม!

เปลวไฟปะทุออกมาจากร่างกายของอสูรเพลิงจันทรา และมันก็ดูราวกับภาพติดตาเพลิง ความเชี่ยวชาญของเพลิงจู่โจมนี้ถึงขั้นช่ำชองอย่างเห็นได้ชัด และมันไม่ง่ายเหมือนกับขั้นเริ่มต้น

หวูดดด!

อสูรเพลิงจันทราไม่ได้ตั้งใจที่จะต่อสู้กับอีเลฟเว่นแบบซึ่งหน้า กรงเล็บของมันเต็มไปด้วยเปลวไฟ และมันก็พุ่งไปทางซ้ายขวาอย่างแปลกประหลาดในขณะที่พุ่งเข้าหาอสูรกินเหล็กที่กำลังโจมตีมัน

ผ่านมาสักพักหนึ่ง ทั้งสองก็พุ่งผ่านกัน

อย่างไรก็ตาม เฉิงกงและอสูรเพลิงจันทราคำนวณผิดอย่างสมบูรณ์

กลยุทธ์ความเร็วที่พวกเขาเลือกไม่ได้ผลกับอีเลฟเว่นผู้ที่มีสุดยอดการมองเห็นเลย

ปัง!!!

กรงเล็บเพลิงของอสูรเพลิงจันทราหยุดกลางอากาศ และร่างกายของมันก็หยุดค้างกลางอากาศเช่นกัน ในช่วงเวลาสำคัญของการโจมตีของมัน ฝ่ามือของอีเลฟเว่นได้กระแทกเข้าที่ช่องท้องของมัน

ฉากนี้ดูราวกับจะหยุดนิ่ง และในเวลาต่อมา อสูรเพลิงจันทราก็ดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างรุนแรง ลอยกระเด็นออกไป!

ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!

มันกลิ้งไปไกลนับสิบเมตรก่อนที่จะหยุดลง

ฉากนี้ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบลงในทันที

“เป็นการต่อสู้ที่ดีมาก” ในฉากที่เงียบงันนี้ ซืออวี๋เป็นคนแรกที่กล่าวออกมา

ทันทีที่การโจมตีโดนเป้าหมาย อีเลฟเว่นก็ได้ยกเลิกทักกษะผสานและใช้เพียงการเคลือบแข็งเพื่อต่อสู้กับศัตรูเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ความเสียหายต่ออสูรเพลิงจันทราจึงไม่มากนัก มิฉะนั้น ด้วยทักษะผสาน แม้ว่าอสูรเพลิงจันทราจะไม่ตาย แต่มันก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัส

นอกเหนือจากซืออวี๋แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าอีเลฟเว่นเชี่ยวชาญฝ่ามือสายฟ้าขั้นชำนาญ

“ข้า…”

ในเวลานี้ เฉิงกงยังคงสับสนเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นอสูรเพลิงจันมราลอยกระเด็นอย่างกะทันหัน

นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? อสูรกินเหล็กตัวนี้ตามความเร็วของอสูรเพลิงจันมราทันได้ยังไงกัน…

ใบหน้าของเขาซีดลงในทันที

แม้แต่ตอนต่อสู้กับยักษ์เกราะน้ำแข็ง พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกกดดันมากนัก

สัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน… ระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดเหรอ? เขาต้องล้อเล่นอย่างแน่นอน!

“อู๋!!!” ในขณะนี้ อีเลฟเว่นยืนนิ่งโดยไร้ซึ่งบาดแผลและมองตรงไปยังศัตรูที่กำลังลุกขึ้นมา

สำหรับอสูรเพลิงจันทรา แม้ว่ามันจะยืนขึ้นมาได้ แต่การเผชิญหน้าสองครั้งก่อนหน้านี้ก็ทำให้มันสูญเสียเจตจำนงต่อสู้อย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้ ร่างกายของมันสั่นเล็กน้อยในขณะที่มันมองไปที่อีเลฟเว่นด้วยความหวาดกลัว!

แม้ว่ามันจะไม่ได้ใช้การปราบปราม แต่ออร่าของอีเลฟเว่นก็ได้ทิ้งเงาไว้ในใจของอสูรเพลิงจันทราแล้ว!

“เจ้าหนู เจ้าแพ้แล้ว” ผู้บัญชาการเหอซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งผู้ตัดสินและเงียบมาโดยตลอดนั้นได้กล่าวกับเฉิงกง

เมื่อกล่าวเสร็จ เขาก็กล่าวกับซืออวี๋ด้วยน้ำเสียงที่เหลือเชื่อ

เขาเอ่ยคำถามที่ทุกคนต้องการถาม

“มันไม่ใช่การเคลือบแข็งขั้นชำนาญเท่านั้น แต่อสูรกินเหล็กยังเชี่ยวชาญฝ่ามือสายฟ้าขั้นช่ำชองเช่นกันใช่ไหม?”

“ยิ่งกว่านั้น พวกเจ้ายังได้ผสานพวกมันเป็นทักษะผสานใช่ไหม?”

นอกจากนี้ ประสบการณ์ในการต่อสู้ของอสูรกินเหล็กตัวนี้ยังแข็งแกร่งอย่างน่าขัน… มันสามารถหาโอกาสที่จะโจมตีจุดสำคัญของคู่ต่อสู้ได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวหลังจากที่เพลิงจู่โจมได้เร่งความเร็วคู่ต่อสู้ของมันงั้นเหรอ?

นี่คือสัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน… นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้บัญชาการเหอได้เห็นมือใหม่ที่ดุร้ายเช่นนี้

“ใช่แล้ว” ซืออวี๋พยักหน้าตอบกลับ

ในขณะที่เขาพยักหน้า ทุกคนก็เงียบไปสักพักหนึ่ง จากนั้นก็เกิดความโกลาหล

“นั่นคือสุดยอดทักษะของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ ฝ่ามือสายฟ้างั้นเหรอ?”

“ช่างเป็นพลังที่ไร้เหตุผลมาก มันแบ่งบอลเพลิงเป็นสองส่วนได้ด้วยหนึ่งฝ่ามือ”

“เจ้าโง่เหรอ? นั่นไม่ใช่ฝ่ามือสายฟ้าธณรมดา มันคือทักษะผสาน อย่างน้อย มันก็มีพลังของการเคลือบแข็งขั้นชำนาญ มันมีเงื่อนไขสูงมากสำหรับความเชี่ยวชาญทักษะ!”

“เช่นนี้เหรอ?” บางคนได้เอ่ยถามเหล่าศิษย์จากศูนย์ฝึกศิลาไผ่

ในตอนนี้ เหล่าศิษย์จากศูนย์ฝึกศิลาไผ่ก็ตกตะลึงเช่นกันและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ากลับบอกพวกเขาว่าสิ่งนี้เป็นเช่นนั้น

เจียงรุ่ยตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าซืออวี๋พัฒนาขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ หรือเขาไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เมื่อพวกเขาต่อสู้กัน

เหล่านักฝึกสัตว์อสูรทุกระดับมีสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้

ในระดับฝึกหัด การฝึกทักษะของสัตว์อสูรให้ถึงขั้นช่ำชองและขั้นชำนาญก็โดดเด่นมากพออยู่แล้ว

ทักษะผสานอาจเป็นสิ่งที่มีเพียงนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพเท่านั้นที่จะเรียนรู้

สำหรับระดับปรมจารย์ มันคือการเรียนรู้ความล้ำลึกที่เกิดจากทักษะขั้นสมบูรณ์

นี่คือเส้นทางที่เหล่านักฝึกสัตว์อสูรธรรมดาควรจะพบเจอ แต่อสูรกินเหล็กน้อยตัวนี้และซืออวี๋…

ดังนั้นแม้แต่นักฝึกสัตว์อสูรเช่นเฉินไค ไวท์สโตน และเฉียวเหลียงก็ยังตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่เข้าใจว่าอสูรกินเหล็กน้อยระดับปลุกตื่นขั้นเจ็ดนี้ได้ถูกบ่มเพาะแบบไหนกัน

“ข้าแพ้แล้ว” เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรกินเหล็กดังกล่าว เสียงของเฉิงกงก็แหบและแห้งเล็กน้ออย ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้แม้ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้

สำหรับคนอื่น พวกเขารู้แล้วว่าทำไมซืออวี๋ถึงผ่านสามด่านแรกได้อย่างรวดเร็ว

แม้แต่ยักษ์เกราะน้ำแข็งก็ไม่อาจต้านทานทักษะผสานได้!

โลกทัศน์ของพวกเขาแตกสลาย นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้ว่านักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดและสัตว์อสูรของเขาที่มีเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติซึ่งมีการเติบโตต่ำกว่าระดับปลุกตื่นขั้นสิบจะดุร้ายเช่นนี้!

ในมุมหนึ่ง เลขาของประธานสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตผิงเฉิงมองไปที่ประธานที่นิ่งเงียบของเขา ในที่สุดเขาก็ได้รับความคิดเห็น

“ข้าควรจะว่านี่เกี่ยวอสูรกินเหล็ก… หรือว่าเกี่ยวกับนักฝึกสัตว์อสูรดีล่ะ? มันเป็นพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาด มันแปลกจนไม่สมเหตุสมผล” ประธานเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด