บทที่ 124 - ตำนานชาวไซย่าปีศาจ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 124 - ตำนานชาวไซย่าปีศาจ
“พี่หลินเฉิน เราลงไปดูกันไหม?” ไทต์เอ่ยถาม
“เอาสิ” หลินเฉินพยักหน้าและควบคุมยานอวกาศให้ลงมาบนดาวเคราะห์ซาดาลา
ในไม่ช้า พวกเขาก็ลงมาบนพื้นผิวของดวงดาว
เมื่อทั้งสามคนออกจากยานอวกาศ หลินเฉินและฮานาเซียก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
“นี่คือดาวบ้านเกิดของชาวไซย่าเหรอ? มันเหมือนกับดาวเคราะห์เบจิต้าไม่มีผิดเลย…” ไทต์พึมพำ
“น่าจะเพราะดาวเคราะห์เบจิต้าได้ถูกเลือกจากชาวไซย่า เพราะมันความคล้ายคลึงกับดาวเคราะห์ซาดาลา” หลินเฉินกล่าว
ขณะที่พวกเขาทั้งสามกำลังมองไปรอบๆ ทันใดนั้นร่างหลายสิบร่างก็โผล่ออกมาจากท้องฟ้าและบินเข้ามาหาหลินเฉินและทั้งสอง
“ชาวไซย่าแห่งดาวเคราะห์ซาดาลา!” ฮานาเซียกล่าว “แข็งแกร่งมาก กระทั่งระดับพลังของคนพวกนี้เกือบจะเท่ากับข้าแล้ว!”
คนที่เข้ามาคือชาวไซย่าของดาวเคราะห์ซาดาลา เมื่อใช้เครื่องวัดพลังเพื่อตรวจสอบพวกเขา ก็พบว่าระดับพลังของคนพวกนี้มีมากกว่าหนึ่งล้านและบางคนมีมากกว่า 1.5 ล้านด้วยซ้ำ ซึ่งพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าฮานาเซียเล็กน้อย
ฮานาเซียจึงเริ่มรู้สึกกังวลพอสมควร
ชาวไซย่าลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็ได้เข้ามาล้อมรอบหลินเฉินและทั้งสองไว้
ชายร่างกำยำในหมู่พวกเขาที่เป็นผู้นำได้ก้าวไปข้างหน้าและถามว่า “เจ้าเป็นใคร? ทำไมเจ้าถึงเข้ามาในดินแดนของชาวไซย่า?”
“ฝ่าบาท...”
“ไม่เป็นไร ข้าจัดการเอง”
หลินเฉินยิ้มขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าและทักทายพวกเขา “สวัสดี เราเป็นนักเดินทางจากนอกอวกาศ เราพบว่ามีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้ เราจึงลงมาดู”
"นักเดินทาง?" ชายร่างกำยำเหลือบมองพวกเขา “ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าพวกเจ้าดูคล้ายกับชาวไซย่ากัน?”
ในขณะนั้นเองจู่ๆ ชาวไซย่าอีกคนก็เดินเข้าไปหาชายร่างกำยำและชี้ไปที่หลินเฉินและฮานาเซียด้วยสีหน้าเป็นกังวล
หลินเฉินสังเกตเห็นว่าทิศทางของนิ้วของอีกฝ่ายดูเหมือนจะชี้ไปยังหางที่ขดอยู่รอบเอวของพวกเขา
"หาง? ทำไมพวกเจ้าถึงมีหาง?”
“เราคือชาวไซย่า ก็ต้องมีหางอยู่แล้วสิ!” ฮานาเซียโยกหางของนางไปมา
แต่นางไม่ได้คาดคิดเลยว่าชาวไซย่าเหล่านั้นกลับร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก
"หาง! มันเป็นหางจริงๆ ด้วย!”
“สตรีนางนี้บอกว่านางเป็นชาวไซย่า!”
“ชาวไซย่าที่มีหาง! พวกมันคือคนนอกคอก!”
จากนั้นชายร่างกำยำก็ยกมือขวาขึ้นและตะโกนออกมา “กองกำลังป้องกันซาดาลา! เตรียมรับศึก!”
ทันใดนั้นออร่าของชาวไซย่าที่อยู่รอบๆ ก็ปะทุออกมาและพวกเขาดูราวกับว่าพร้อมจะต่อสู้ทุกเมื่อ
สิ่งนี้ทำให้หลินเฉินและทั้งสองสับสนยิ่ง
“ขอโทษทีนะ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดเลย เราไม่ใช่ศัตรูของพวกเจ้าสักหน่อย เราแค่ผ่านทางมา”
“โกหก! เจ้าเป็นพวกนอกคอก เจ้าต้องมาที่ดาวเคราะห์ซาดาลาด้วยเจตนาไม่ดีแน่!”
ชาวไซย่าที่อยู่ข้างๆ เขาตะโกนขึ้นมา
หลังจากที่เขาพูดจบไป คนอื่นๆ ก็พร้อมที่จะโจมตีพวกเขา
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะเคลื่อนไหว หลินเฉินก็รู้ว่าพูดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ดังนั้นเขาจึงเงยหน้าขึ้นและแสงเย็นยะเยือกก็ส่องประกายในดวงตาสีดำของเขา ทันใดนั้นออร่าที่โหมกระหน่ำคล้ายพายุก็ได้พัดพาออกมา
ระดับพลังปัจจุบันของหลินเฉินในร่างปกติมีมากกว่า 7 ล้าน แม้จะไม่ได้เปลี่ยนร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า แต่เขาก็อยู่เหนือคนพวกนี้มาก
ชาวไซย่าแห่งดาวเคราะห์ซาดาลาไม่มีอุปกรณ์เครื่องวัดพลังเหมือนของจักรวาล 7 แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเชี่ยวชาญวิชาสัมผัสพลังเช่นเดียวกับชาวโลก
เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าที่รุนแรงสะท้านปฐพีที่ปะทุออกมาจากตัวหลินเฉิน พวกเขาก็เผยแววตาอันตื่นตระหนกออกมา
พวกเขาที่กำลังจะเข้าไปโจมตีก็ได้หยุดมือลงอย่างกะทันหัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินเฉินก็ยับยั้งออร่าของเขาและพูดว่า “พูดตามตรง ตอนนี้ข้าใช้พละกำลังน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น…”
"อะไรนะ?"
"เป็นไปไม่ได้! พลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จะเป็นพลังของเจ้าแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ได้ยังไง?”
“หรือว่า…เจ้าอาจจะเป็นปีศาจชาวไซย่าในตำนาน?”
“โอ้…โอ้ ไม่ดีแล้ว เราไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้เช่นนี้ได้หรอก…”
เมื่อสังเกตเห็นความกลัวบนใบหน้าของพวกเขา หลินเฉินก็ยิ่งสับสนและพูดไปว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย”
ผู้นำของพวกเขารีบตะโกนออกมาทันที “จ-เจ้าไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ หรือ?”
“ถ้าข้ามีเจตนาไม่ดี เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ?” หลินเฉินถามกลับไป
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชาวไซย่าก็กลืนน้ำลายและพูดว่า “เข้าใจแล้ว กองกำลังป้องกันซาดาลา ถอยกันก่อน!”
“หัวหน้าเรนโซ่?”
“ทุกคนถอยไป เจ้าน่าจะรู้สึกได้ถึงออร่าของชายผู้นี้แล้ว พวกเจ้าทุกคนไปแจ้งทุกคนก่อน จงอย่าสร้างปัญหา ข้าจะรั้งพวกเขาและสหายของเขาไว้เอง”
“นี่คือคำสั่ง!”
เมื่อได้ยินคำสั่งแล้ว แม้คนอื่นๆ จะไม่เต็มใจ แต่พวกเขาก็ได้แต่ต้องถอนตัวออกไป
หลังจากนั้น ชาวไซย่าที่ชื่อเรนโซ่ก็คิดที่จะพาหลินเฉินและอีกสองคนไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
แต่หลินเฉินก็คิดอยู่ครู่หนึ่งและได้กล่าวไปว่า “ช่างเถิด เรนโซ่ ดูเหมือนว่าดาวเคราะห์ของเจ้าจะมีความเข้าใจในด้านลบต่อชาวไซย่ามีหางเช่นข้าสินะ? ถ้าข้าเดินไปมาบนดางเคราะห์ดวงนี้ ผู้คนของเจ้าจะไม่เป็นกังวลเอาเหรอ?”
“ถ้าอย่างนั้น…ไปยานอวกาศของเราดีไหม? ข้าอยากรู้เกี่ยวกับดาวเคราะห์ซาดาลาของเจ้าด้วย”
"อืม" เรนโซ่พยักหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเฉินก็พาเรนโซ่ไปในห้องรับรองของยานอวกาศ
หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าไซย่าคนนี้คือเรนโซ่ หัวหน้ากองกำลังป้องกันของดาวเคราะห์ซาดาลา
“เจ้าสิ่งที่ดื่มอยู่นี้ ทางเราเรียกมันว่ากาแฟ”
“ทางเราหรือ?” เรนโซ่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะมองไปยังของเหลวสีน้ำตาลตรงหน้าเขา เขาจิบและดูประหลาดใจมาก
“ยามนี้ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรกันแล้ว เรนโซ่ บอกตามตรง เราไม่ได้มาจากจักรวาลนี้จริงๆ ฮานาเซียและข้าเป็นชาวไซย่าจากอีกจักรวาลหนึ่ง ส่วนไทต์มาจากสถานที่ที่เรียกว่าดาวโลกของอีกจักรวาล”
“โลก? ดูเหมือนเจ้าคงจะไม่ได้โกหก เพราะเท่าที่ข้ารู้มา โลกในจักรวาลของข้าได้ถูกทำลายไปแล้ว” เรนโซ่ตะลึงไปพักใหญ่เลย เมื่อได้ยินเรื่องนี้
"หา? โลกในจักรวาลนี้ถูกทำลายไปแล้วเหรอ?” ไทต์ถามด้วยความประหลาดใจ
เรนโซ่พยักหน้า “ใช่ ข้าได้ยินมาว่าดาวเคราะห์ดวงนี้ทำลายตนเองเพราะสงครามก่อนที่มันจะได้พัฒนาเป็นอารยธรรมระดับสูงที่สามารถเข้าสู่จักรวาลภายนอกได้ เพราะอย่างนั้นชาวโลกจึงไม่มีเหลือแล้ว…”
.
“ข้าไม่คิดเลยว่า…” ไทต์ชะงักไปชั่วขณะ
จู่ๆ หลินเฉินก็ถามขึ้นมาว่า “เรนโซ่ ข้าได้ยินใครบางคนเรียกเราว่าชาวไซย่าปีศาจ? มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ที่นี่มีชาวไซย่ามีหางด้วยเหรอ? ข้าคิดว่าเจ้าไม่มีหางเพราะความแตกต่างในจักรวาลเสียอีก……”
“ไม่เลย แต่ข้าได้ยินมาตั้งแต่สมัยก่อนว่าชาวไซย่าของดาวเคราะห์ซาดาลาก็มีหางเช่นกัน แต่ต่อมาเพราะอะไรบางอย่าง ชาวไซย่าทั้งหมดจึงได้ละทิ้งหางของพวกเขา”
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” หลินเฉินถามด้วยความสงสัย
“เป็นเพราะตำนานที่สืบทอดกันมาบนดาวเคราะห์ซาดาลา!” เรนโซ่หัวเราะ “พวกเจ้าโชคดีที่ได้พบข้า ในฐานะหัวหน้ากองกำลังป้องกันซาดาลา ข้าจึงได้อ่านเอกสารมาบ้าง ถ้าเป็นผู้อื่นคงเล่าให้เจ้าฟังไม่ได้แน่ เพราะมันเป็นตำนานโบราณสมัยบรรพกาล”