นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 216 - จบการแข่งขัน
“ในที่สุดก็จบเสียที!” เดวิดลุกขึ้นยืน ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อันที่จริงแล้วเขากังวลเรื่องอันดับของตัวเองเป็นอย่างมาก กลัวว่าจะมีใครบังเอิญโชคดีเก็บคะแนนการล่าได้อย่างมหาศาลในวินาทีสุดท้าย และแซงหน้าเขาขึ้นไปครองอันดับที่ 1 ได้
แต่ตอนนี้เดวิดวางใจได้แล้ว ไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างจบสิ้นลงไปด้วยดี คะแนนการล่าของเขายังคงเป็นอันดับที่ 1 ในตารางคะแนนอยู่
หลังจากลองขยับตัวดูว่าร่างกายไม่ได้มีส่วนไหนติดขัด รวมทั้งตรวจสอบบาดแผลที่เอวว่ามันสมานกันได้อย่างสมบูรณ์จริง ๆ แล้ว เดวิดก็เลือกหยิบเสื้อผ้าที่อัลวีรวบรวมมาด้วยขึ้นดู และสวมมันเข้าไปอย่างไม่เรื่องมากนัก นำขวดน้ำออกมาล้างหน้าล้างตาอย่างลวก ๆ ในที่สุดเดวิดก็พร้อมสำหรับออกไปพบหน้าผู้คนอีกครั้งแล้ว แม้จะด้วยสภาพที่ไม่ได้น่าพิสมัยมากนักก็ตาม
สีหน้าของอัลวีที่นั่งซุกอยู่ตรงมุมห้องดูมีความสุข ดูเหมือนว่าเธอจะต้องการให้กิจกรรมครั้งนี้จบลงโดยเร็วที่สุด เมื่อเห็นหน้าตาที่ยิ้มแย้มของเธอ เดวิดก็อดถามออกไปไม่ได้
“ทำไมถึงได้ดีใจขนาดนั้น?” ไม่รู้ว่าเขาไปหากระจกกับหวีมาจากไหน เดวิดกำลังพยายามจัดทรงผมของตัวเองอยู่อย่างขมักเขม้น
“ทำไมถึงจะไม่ดีใจล่ะ? ฉันติดอยู่ใน 500 อันดับแรกด้วยนะ!” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเธอ มันบ่งบอกได้อย่างชัดเจน อัลวีลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยหวาดกลัวเดวิดขนาดไหน
และคำตอบนั้นทำให้คิ้วของเดวิดเลิกขึ้นอย่างสงสัย หันไปจ้องหน้าเธอสักครู่ ก่อนจะให้ความสนใจกับทรงผมของตัวเองอีกครั้ง “โอ้! ติด 500 อันดับแรกแล้วมีอะไรเหรอ มันมีรางวัลอะไร?”
“มีสิ! นายไม่ได้อ่านคู่มือหรือยังไง มันได้รางวัล 1,000 คะแนนจีโน และยังมีโอกาสขอให้ศาสตราจารย์มาเป็นคนช่วยคุมคุมกระบวนการยกระดับขึ้นไปเป็นเฟสเซอร์ได้ด้วย” อัลวีไม่ได้สนใจน้ำเสียงที่แฝงความเยาะเย้ยของเดวิดเลย เธออธิบายออกมาอย่างคนที่กำลังมีความสุขมาก
คราวนี้เดวิดได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ “อ้อ! อย่างนั้นหรือ?”
“ใช่สิ! แล้วนายรู้มั้ย ฉันต้องใช้เวลานานแค่ไหนอยู่ในป่า พยายามที่จะฆ่าพวกสัตว์ร้ายกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์พวกนั้น ขนาดพวกระดับสีดำขั้นต่ำนี่ยังลำบากมากไม่น้อยเลย หนังของพวกมันหนามาก การโจมตีทั่วไปไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย จำเป็นต้องโจมตีด้วยทักษะการต่อสู้อย่างเดียวเท่านั้น นี่ยิ่งทำให้ล่าพวกมันอย่างต่อเนื่องไม่ได้เลย ต้องเสียเวลาเพื่อพักฟื้นอยู่เป็นระยะไม่หยุด แต่ถึงจะยากแค่ไหน ฉันก็ทำได้สำเร็จแล้ว พอแน่ใจว่าคะแนนนั้นเพียงพอแล้ว ฉันก็กลับมาพักผ่อนอยู่ที่นี่ จนนายโผล่เข้ามา...” ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ตัวว่ากำลังพูดออกมาอย่างยืดยาวมากเกินไป นั่นมันทำให้เสียงที่ดูภาคภูมิใจของอัลวีค่อย ๆ เบาจนหยุดลงในที่สุด
“อือ” เดวิดที่เพิ่งจัดแต่งทรงผมเสร็จส่งเสียงรับรู้ออกมา “เก็บของเถอะ! จุดรวมพลอยู่ไกลไม่น้อยเลยทีเดียว เธอคงไม่ยากพลาดเรือเหาะที่จะพากลับสถาบันใช่มั้ย? พวกเราควรไปกันได้แล้ว” เขาก้มลงกวาดข้าวของที่คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ใส่ลงในกระเป๋าเป้จนหมด ไม่ได้คิดจริงจังอะไรมากนัก แค่รู้สึกว่ากระเป๋าของตัวเองมันเบาจนเดินไปเท่านั้น
อัลวีพยักหน้ารับ เธอรีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว
........................
“นายคิดจะทำบ้าอะไรกันแน่โบรแกน? หาเรื่องใส่ตัวทำไม!!?” ฟิลลิดาตะโกนใส่หน้าโบรแกนอย่างเกรี้ยวกราด สายตามองจ้องเลยไปยังด้านหลังของเขา ตรงนั้นเหลือคนชุดดำรอดกลับมาเพียงแค่ไม่กี่คน
เธอกำลังฟื้นฟูสภาพร่างกาย และพยายามนึกทบทวนการต่อสู้ระหว่างตัวเองกับเดวิดอยู่ แต่ก็ต้องโดนขัดด้วยรายงานด่วนที่แจ้งเข้ามาว่าโบรแกนพาลูกน้องกลุ่มใหญ่ออกไปทำภารกิจลับ
ในตอนแรกฟิลลิดาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพียงเปิดดูภาพจากกล้องสังเกตการณ์เผื่อเอาไว้ก่อนเท่านั้น เธอเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของที่นี่ ทำให้สามารถควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยได้ทุกอย่าง แค่การจะติดตามใครสักคนที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแห่งนี้ เป็นเรื่องลำบากแค่ขยับปลายนิ้วเท่านั้น
และฟิลลิดาก็นึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้ปล่อยปละละเลยจนเกินไป เพราะเมื่อเห็นเป้าหมายของโบรแกน เธอก็ต้องรีบทิ้งทุกอย่างเอาไว้ด้านหลัง แล้วรีบมุ่งไปยังจุดเกิดเหตุด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่ทำได้ ไม่ใช่เพื่อช่วยเดวิด! แต่ไปเพื่อห้ามไม่ให้เดวิดฆ่าโบรแกนต่างหาก
ใช่! ฟิลลิดาต้องการให้โบรแกนตาย ๆ ไปเสีย อันที่จริง ถ้ามีโอกาสเหมาะ ๆ เธออาจจะลงมือสังหารเขาด้วยตัวเองเลยก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้! โบรแกนจะมาตายอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่ตัวเองมีอำนาจควบคุมอยู่อย่างเต็มที่ไม่ได้ เขาจะตายภายใต้ความดูแลของเธอไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ฟิลลิดาเป็นคนที่มองหาความสมบูรณ์แบบ เธอจะปล่อยให้เรื่องด่างพร้อยแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ต้องนับว่าการที่ต้องเสียคะแนนการล่าไปจำนวนมหาศาลจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมากอยู่แล้ว ถ้าเกิดปล่อยให้โบรแกนเสียชีวิตไปอีก ฟิลลิดาจะไม่เหลือข้อแก้ตัวใด ๆ กับทางตระกูลอีกเลย ตำแหน่งผู้นำรุ่นเยาว์ในตระกูลจะต้องถูกถอดถอนแน่ ไม่ว่าตัวเธอจะมีพรสวรรค์ที่สูงส่งมากเพียงใด ด้วยทรัพยากรที่แทบจะไร้สิ้นสุดของตระกูล ถ้าจำเป็นขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาสามารถทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างคนที่ดีกว่าเธอขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
โบรแกนที่ไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ติดตามฟิลลิดากลับมาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว เขารู้ว่าตัวเองทำพลาดไปอย่างมหันต์ แต่การถูกตะโกนใส่ต่อหน้าลูกน้องเป็นเรื่องที่เกินจะรับเอาไว้ได้จริง ๆ
“ทำไม? ฉันแค่จะไปทวงคะแนนการล่าที่เธอเสียไปยังไงล่ะ!! ใครใช้ให้เธอประมาทจนเสียคะแนนไปมากขนาดนั้น!!” เขาตะโกนโต้ออกมาอย่างเหลืออดแล้ว
“หือ!!?? ทวงคะแนน!? นายบอกว่าจะไปทวงคะแนน!! จากใคร? จากคนที่ไล่อัดฉันราวกับว่าเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ จากคนที่ไล่อัดฉันทั้ง ๆ ที่อยู่ในชุดรบไปทั่วห้องเนี่ยนะ!!! นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร!!!” เสียงของฟิลลิดานั้นเกรี้ยวกราดอย่างที่สุด ดูเหมือนว่าเธอจะเหลืออดมากกว่าโบรแกนเสียอีก
และสิ่งที่เธอเพิ่งตะโกนออกมาทำให้โบรแกนและลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงนั้นหน้าเสีย ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“จ-จริงหรือ? ม-มันเก่งขนาดนั้น?”
“นายก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้วไม่ใช่หรือไง? แล้วนั่นน่าจะเป็นแค่ไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ หลักฐานคือการที่พวกนายยังรอดชีวิตมาได้ ฉันยังมีเวลาไปช่วยกลับมาได้ทัน ถ้าเจ้านั่นเอาจริง คิดหรือว่าฉันจะไปที่นั่นได้ทันเวลาแบบนั้น!” เสียงของฟิลลิดาคำรามขึ้นอีกครั้ง และเริ่มยกมือขึ้นบีบขมับตัวเองเพื่อข่มอารมณ์
“แต่ว่า เจ้านั่นติดหนี้บุญคุณเธออยู่ใช่มั้ย มันคงจะไม่ทำอะไรเพื่อแก้แค้นใช่มั้ย?” โบรแกนกระซิบ
“น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันก็ไม่แน่ใจนัก เท่าที่เห็นท่าทางของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่จะไม่ได้สนใจเรื่องบุญคุณเท่าไร ที่พวกนายรอดมาได้ นั่นเป็นเพราะฉันขู่เขาต่างหาก” สีหน้าของฟิลลิดาเริ่มเปลี่ยนเป็นครุ่นคิดอย่างหนัก
“ในตอนแรก ฉันคิดว่าเขาคงจะไม่ฟังคำพูดอะไรเลย และจะคงลงมืออย่างต่อเนื่อง มันทำให้ฉันต้องสั่งให้อาวุธทั้งหมดของพื้นที่ปลอดภัยเล็งไปที่เขา ถ้าเจ้านั่นไม่ยอมหยุด กล้าที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของฉัน อาวุธทั้งหมดจะล็อคเป้าและโจมตีโดยอัตโนมัติ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะฉลาดหรือไม่ก็มีสัญชาตญาณที่ดีพอตัว เขาเลือกเวลาหยุดได้อย่างเหมาะสมเกินไปจริง ๆ” ฟิลลิดาถอนหายใจออกมา ก่อนจะกล่าวต่อ
“ในตอนแรก ฉันต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเอาไว้ เรื่องบุญคุณนั้นอย่างน้อย ๆ ก็สามารถเอาไว้เป็นข้ออ้างได้ แต่เพราะพวกนาย! สิ่งที่พวกนายทำลงไปโดยพละการ มันทำลายแผนของฉันไปจนหมด แล้วตอนนี้เป็นยังไง? กลายเป็นพวกเรามีศัตรูตัวเป้งขึ้นมาแล้ว! แถมต่อให้ฉันเปลี่ยนแผนเป็นคิดจะกำจัด เจ้าหมอนั่นก็ดันไม่หลงกลเสียอย่างนั้น!”
ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่น้อย และสิ่งที่กล่าวออกมาก็เป็นเรื่องจริง หลังจากที่รู้ว่ายังไงเสียก็ต้องช่วยโบรแกน ฟิลลิดาตั้งใจจะกำจัดเดวิดด้วยอาวุธของระบบป้องกันภัย แต่มันไม่สำเร็จ...เดวิดไม่หลงกลเธอ!