นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 60
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 60
"พนันเหรอ?”
ริมเมอร์ย่นคิ้ว มองเมทันขึ้นและลง
"ทำไมจู่ๆ ถึงอยากเดิมพันกันล่ะเนี่ย?"
"มาพนันกันว่าสนามฝึกซ้อมที่ห้าจะดีที่สุดอย่างที่แกพูดจริงรึเปล่า"
"อ๋า...นายมาหาเรื่องกันสินะ?”
"อย่ามาพูดจาแบบนั้น”
"ท้าประลองกับหาเรื่องก็เป็นอย่างเดียวกันนั่นแหละ แบบนี้พูดง่ายกว่า"
ริมเมอร์ยิ้มและยกเบียร์อีกแก้วขึ้นดื่ม เมทันยังคงยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นหิน
ถึงแม้พวกเขาจะเป็นอาจารย์เหมือนกัน แต่นิสัยของพวกเขาก็ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
"โอ้! ริมเมอร์กับเมทันจะต่อยกันงั้นเหรอ?”
"ไม่ใช่โว้ย พวกเขาจะให้นักเรียนสู้กันต่างหาก!”
"สนามฝึกอบรมที่ห้ากับหกน่ะเหรอ? เรื่องใหญ่เลยนะนี่!"
คนในบาร์ลุกขึ้นและไปยืนมุงรอบริมเมอร์กับเมทัน
"ฉันขอเดิมพันทุกอย่างให้เมทัน!”
"โง่รึไง ริมเมอร์ต่างหากที่จะชนะ! อย่าลืมว่ามีเด็กที่ชื่อมาร์ธา,เบอร์เรนกับรูนันอยู่กับริมเมอร์ด้วยนะ!"
"ถูกต้อง สนามฝึกซ้อมที่หกมีเด็กสายรองยอะก็จริง แต่ไม่มีสมาชิกสายตรงเลยแม้แต่คนเดียว เห็นได้ชัดว่าสนามฝึกที่ห้าจะชนะ!”
"ข้อมูลนั่นมันเก่าแล้วไอ้บ้า ไปอัปเดทข้อมูลบ้างนะ ไม่รู้จริงๆรึไงว่าท่านไคน์ก็พึ่งเข้าร่วมในสนามฝึกที่หกน่ะ?"
เมื่อได้ยินว่ามีสมาชิกสายตรงได้เข้าร่วมสนามฝึกที่หก ทุกคนก็ดูสนใจ
“ฮะ? เขาบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง?”
"ไอ้โง่ นั่นมันเรื่องของสองปีก่อน"
"โห งั้นก็คงพูดยากว่าใครจะชนะ ท่านไคน์ก็มีความสามารถมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรับรู้และออร่าของเขาที่ทรงพลังสุดๆ.."
"ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ฉันว่าคราวนี้สนามฝึกซ้อมที่หกได้เปรียบสุดๆ ท่านไคน์และเด็กสายรองที่อยู่กับเขามีอายุสิบหกปีแล้วนะ"
"ข้อมูลนี้น่าสนใจมาก!"
"เร็วๆ เข้า รีบลงพนันกันสักทีสิ"
ผู้คนในบาร์เริ่มตะโกนเชียร์สนามฝึกซ้อมที่ห้าและหก แล้วก็ทยอยวางเงินลงไปบนโต๊ะ
"ถ้าแบบนี้ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วน่ะสิ”
ริมเมอร์ยกยิ้ม แต่ดูเหมือนเขาจะสนุกกับมัน
การแสดงออกของเมทันก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ดูเหมือนเขาจะคาดหวังไว้ให้เป็นแบบนี้
"นี่นายอยากจะหาเรื่องเด็กๆ เพราะฉันจริงๆ งั้นเหรอ?”
"ไม่ได้เรียกว่าหาเรื่อง..."
"ช่างเรื่องนั้นเหอะน่า”
"แกไม่รู้จริงๆ รึไงเนี่ย?"
"งั้นก็เพราะอาณาจักรโอเว่นใช่มั้ยล่ะ?"
ริมเมอร์ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง
"ใช่ ความภาคภูมิใจของเด็กๆ ของฉันถูกทำลายเพราะอาณาจักรโอเว่นได้ขอประลองกับเด็กฝึกหัดในสนามฝึกที่ห้าเพียงที่เดียวนั่นแหละ”
"แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาเอง”
"นั่นก็ใช่ เพราะตอนนั้นพวกเขายังไม่ได้ทำเต็มที่แล้วฉันก็สอนพวกเขายังไม่ดีเอง แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน"
เมทันจ้องตาริมเมอร์
"ตั้งแต่ที่ไคน์ ซีกฮาร์ทเข้ามาที่สนามฝึกที่หกตอนห้าเดือนก่อน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปมาก ทุกคนตื่นมาฝึกฝนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นจนถึงกลางคืนแถมพวกเขาก็ผ่านการฝึกสัปดาห์นรกมาได้ทั้งหมด”
"เห? สัปดาห์นรกงั้นเหรอ?”
ริมเมอร์อ้าปากค้าง
"ใช่ ไม่มีใครยอมแพ้กลางคันเลยสักคน”
"สุดยอดไปเลยนะเนี่ย"
สัปดาห์นรกเป็นการฝึกอบรมของซีกฮาร์ทที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดร้ายของมัน มันเป็นเรื่องน่าตกใจที่เด็กฝึกหัดจะผ่านการฝึกอันโหดร้ายแบบนั้นมาได้ทุกคน
"ฉันคิดว่าฉันควรให้พวกเขาได้แสดงความสามารถจริงๆ ออกมาเสียที”
"ก็เลยอยากจะใช้เด็กจากสนามฝึกที่ห้าเป็นเหยื่อสินะ?”
“......”
เมทันตอบคำถามด้วยความเงียบ
"แต่ฉันก็ชอบนะ”
ริมเมอร์ยิ้มและเคาะโต๊ะ
"แล้ววิธีการล่ะ? จะให้ประลองแบบหนึ่งต่อหนึ่งเหรอ?"
"ไม่ ฉันไม่คิดว่าแบบนั้นจะดี”
เมทันส่ายหัว
"หืม? แล้วจะให้สู้ยังไงล่ะ?”
"ไม่ได้มีแค่การประลองแบบหนึ่งต่อหนึ่งสักหน่อย"
“อ๋า!”
ริมเมอร์ยิ้มออก
"การต่อสู้แบบกลุ่มสินะ?"
"ใช่ ในเมื่อเด็กของแกมีสี่สิบสามคน ฉันก็จะเลือกเด็กๆ ไว้สี่สิบสามคนเหมือนกัน เป็นไง?"
"จะบอกว่าเหมือนสงครามจริงๆ ก็ยังไงอยู่ งั้นขอเรียกว่าเป็นสงครามย่อมๆ ละกัน"
ริมเมอร์พยายามจะหยิบเหรียญทองของเมทันขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็โดนขัดขวาง
"งั้นฉันมีข้อเสนอ”
"ข้อเสนอเหรอ?"
"สนามฝึกที่หกมีเด็กฝึกหัดเยอะกว่าสนามฝึกที่ห้าตั้งเกือบเท่าตัวใช่มั้ยล่ะ?"
"ใช่"
"ฉันอยากจะให้โอกาสเด็กๆ มากขึ้น เอาเด็กของนายมาหกสิบคนเลย”
"หา?"
"ใช่แล้ว เด็กสี่สิบสามกับหกสิบคน"
"นี่นายกำลังดูถูกเด็กๆ ของฉันใช่ไหม?"
เมทันปล่อยแรงกดดันออกมา โต๊ะที่ริมเมอร์นั่งเริ่มสั่นคลอน
"ฉันไม่ได้ดูถูกนะ! แต่นายต้องยอมรับว่าพวกเขาส่วนมากขาดความสามารถและประสบการณ์"
“อืม...”
"ก็คิดดูสิ ฝั่งฉันมีเด็กสายตรงเยอะกว่า มีทั้งครอบครัวขุนนางแล้วก็มีเด็กสายรองระดับสูงหลายคนอีก คงไม่มีใครมองว่ามันน่ารังเกียจหรอกถ้านายพาเด็กมาเยอะกว่า”
หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย เมทันก็พยักหน้า
"โอเค เอาแบบนั้นก็ได้”
"แล้วเวลากับสถานที่ล่ะ?"
"ให้ฉันเลิอกเหรอ? ไม่กลัวฉันแอบโกงรึไง?"
แววตาของเมทันดูวูบไหว
"ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนขี้โกง”
เมทันยอมยกนิ้วออกจากเหรียญแล้วริมเมอร์ก็รีบตะครุบไว้ทันที
"แต่แกคิดผิดอยู่เรื่องหนึ่ง"
เมทันหันมองรอบๆ
"คิดผิดเหรอ?”
"ไคน์ ซีกฮาร์ท ฝึกฝนออร่าและการรับรู้ของเขาทุกวันตลอดระยะเวลาหนึ่งปีครึ่ง ตั้งแต่ตอนที่เขายังบาดเจ็บอยู่นั่นแหละ"
“หือ?”
"เรียกได้ว่าออร่าของเขาไม่ได้แตกต่างจากนักดาบรุ่นใหญ่เลย"
เขามองไปที่ริมเมอร์อย่างมั่นใจ
"ไคน์อาจจะเอาชนะเด็กของแกทั้งหมดเลยก็ได้ แกคงต้องเตรียมตัวหนักแล้วล่ะนะ ส่วนนี่คือเงินสำหรับการเดิมพันครั้งนี้"
เมทันเอาถุงเงินออกมาวางไว้หน้าริมเมอร์ แล้วหันหลังเดินออกไปจากบาร์
"ว้าว!”
"แล้วเราไปดูด้วยได้รึเปล่า?"
"เอาแล้วๆๆ ฉันขอเดิมพันเงินทั้งหมดของฉันกับสนามฝึกที่หก!”
"ข้าขอลงเดิมพันฝั่งสนามฝึกที่ห้า!”
"แกพนันด้วยเงินแค่นั้นเองเหรอ งั้นฉันขอพนันด้วยบ้านทั้งหลังเลย!”
เมื่อวงพนันเปิดขึ้นมา ทั่วทั้งบาร์ก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย
“อืม...”
ริมเมอร์ยิ้มหลังจากได้เห็นถุงเงินตรงหน้า
"ลาภปากอีกแล้วสิ"
เขาดูสงบ ราวกับว่าเขาก็คาดการณ์ไว้แล้วเหมือนกัน
"ทีนี้ก็ไปบ่อนพนันได้แล้วสินะ! ฮ่าๆๆ”
* * *
* * *
รุ่งอรุณสลัวก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
ที่มุมหนึ่งของอาคารรอง ราอนกำลังนั่งอยู่พร้อมกับหลับตา ควันสีแดงปกคลุมอยู่บนไหล่ของเขา
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น พลังงานสีแดงเหล่านั้นก็ค่อยๆ ลดลงจนในที่สุดก็หายไปหมด
ราอนค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ดวงตาของเขามีไฟลุกขึ้นมา มันสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเช้า
“ฮู่ว...”
ราอนหายใจออกเพื่อเอาสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกาย แล้วตาของเขาก็กลับมาเป็นอย่างปกติ
'เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ’
เขาลุกขึ้นยืนดูดวงอาทิตย์กำลังขึ้น
สามวันผ่านไปนับตั้งแต่เขากลับจากการทำภารกิจครั้งแรก
ในการฝึกสามวันนี้ เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายและออร่าของเขาสามารถพัฒนาไปพร้อมๆ กันได้อย่างรวดเร็ว
ชิ้ง!
หลังจากยืดหยุ่นร่างกายเสร็จ ราอนก็ชักดาบออกมา ราอนใช้'หมื่นเปลวเพลิง'รวมกับ'ดาบรวมดาว'ฝึกฝนต่อเนื่องจนจบกระบวนท่า
ออร่าของเขาเพิ่มขึ้นจนสามารถมองเห็นได้แล้ว มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย
'แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะสำหรับตอนนี้’
เขายังมีเวลาอีกมากสำหรับการพัฒนาส่วนอื่นๆ
ยังไงการประสานระหว่างออร่ากับร่างกายก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทำได้ภายในเวลาสามวัน
เขาจำเป็นต้องฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้'ร่างดาบ'มา
เขาฝึกซ้อมวิชาดาบขั้นพื้นฐานของซีกฮาร์ทตั้งแต่ต้นจนจบแล้วก็เก็บดาบเข้าฝัก
เมื่อเขามองขึ้นไปที่ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นมาจนเต็มดวงแล้วบนท้องฟ้า
'สายแล้วสินะ’
เวลาฝึกส่วนตัวตอนเช้ากำลังจะหมดแล้ว เขาต้องรีบไปที่สนามฝึกที่ห้าก่อนการฝึกจะเริ่ม
ราอนรีบเปลี่ยนเอาเสื้อผ้าที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อออกไป และวิ่งไปที่สนามฝึกซ้อมที่ห้า ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงของเด็กฝึกหัดดังออกมาจากข้างใน
"ทำไมเขาไม่อยู่ที่นี่ล่ะ? นี่มันผิดปกติมาก”
"มันคงรู้สึกว่าไม่ต้องฝึกหนักเหมือนเดิมแล้วก็ได้มั้ง ก็ทำภารกิจได้คนเดียวเลยนี่”
"หึ ถ้าฉันเป็นมันก็คงทำได้เหมือนกันแหละ"
"ใช่มั้ยล่ะ? ก็แค่พวกโจรเอง ต่อให้บางคนจะมีออร่าแต่มันก็เป็นแค่โจรธรรมดาๆ มันโชคดีชะมัดที่เจอพวกโจรก่อนน่ะ"
ราอนที่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าใครกำลังพูด พวกเขาเป็นเด็กฝึกหัดสายรองที่ชอบตามตูดเบอร์เรนแน่ๆ
'น่าสมเพชจริงๆ’
ราอนเดาะลิ้น ก็แค่บทสนาของพวกขี้แพ้ เขาไม่จำเป็นต้องให้ค่าเลยสักนิด
'แต่ทำไมสนามฝึกวันนี้ถึงหนาวแปลกๆ’
เมื่อเขากำลังจะเปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงคนพูดขึ้นมา
"พวกน่าสมเพช"
มันเป็นเสียงของเบอร์เรน เสียงนั้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสายรองพวกนั้น
"ใครๆ ก็ทำได้งั้นเหรอ? แล้วตอนนั้นพวกนายหาร่องรอยพวกโจรได้รึยัง? หรือได้ช่วยเหลือใครบ้างรึเปล่า? ฆ่าโจรได้สักคนหรือยัง?"
"น-นั่นมัน..."
"ท-ท่านเบอร์เรน... คือพวกเราแค่พูดเล่นกันน่ะครับ"
เด็กพวกนั้นกำลังอึ้ง
"ใครๆ ก็มีความอิจฉา แต่ถ้าพูดแบบนั้นออกมามันจะทำให้พวกนายดูเป็นคนที่น่าสมเพชที่สุด ฉันเคยเป็นแบบนั้นแล้ว ดังนั้นหยุดทำแบบนี้ซะ!"
ฟึ่บ!
ทันทีที่เบอร์เรนพูดจบก็มีคนกระโดดลงมาจากต้นไม้
"ฮ่าๆ ถ้าไอ้หมอนี่ไม่เสนอหน้าเข้ามา ฉันคงจะหักคอพวกแกไปแล้วล่ะ”
เป็นมาร์ธา เธอพูดเสียงดังจนได้ยินกันทั่วสนามฝึก
"พวกแกควรรู้สถานะของตัวเองนะ ถ้าพวกแกอยู่ตรงนั้นแทนเขา พวกแกคงจะถูกฆ่าทันทีไม่ก็โดนอาจารย์สักคนลากออกไปเหมือนหมา”
"ท-ท่านมาร์ธา..."
"แล้วช่วงพักที่ผ่านมาพวกแกได้ทำอะไรบ้างล่ะ? คงนอนตีพุงอยู่บ้านสินะ พวกแกไม่แม้แต่คิดถึงการฝึกด้วยซ้ำ”
“นั่นมัน…”
“หืม?”
เด็กฝึกหัดกลุ่มนั้นประหม่าอย่างมากจากคำพูดตรงๆ ของมาร์ธา
"ไอ้หมอนั่นมันออกมาฝึกที่นี่ทุกวัน ในขณะที่พวกแกเอาแต่นอนอยู่ในห้องนอน เขาเริ่มฝึกตั้งแต่วันที่กลับมาถึงเลยด้วยซ้ำ"
"จริงเหรอ?”
"ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามมันเองสิ”
มาร์ธายิ้มเยาะเย้ยเด็กพวกนั้น
"เธอรู้ดีจังเลยนะ เป็นสตอล์กเกอร์รึไง?"
"หา? ไอ้เวรนี่พูดบ้าอะไรอยู่ อี๋!"
มาร์ธาหันไปชกกำแพงเพราะคำพูดของเบอร์เรน
"แล้วฉันพูดผิดตรงไหน? เธอจะรู้ได้ไงล่ะถ้าไม่ได้แอบตามเขาอยู่น่ะ?"
"หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นะ!"
เบอร์เรนกับมาร์ธาจ้องตาและปล่อยแรงกดดันออกมาใส่กัน
“เฮ้อ”
ราอนถอนหายใจแล้วค่อยๆเปิดประตูเข้าไป
จากนั้นสนามฝึกก็ตกอยู่ในความเงียบ เบอร์เรนและมาร์ธาที่กำลังจะเปิดศึกกันก็หันหน้ามาทางเขา
“ราอน!”
รูนันวิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมด้วยแววตาสีเงินที่เป็นประกาย เกล็ดหิมะสะท้อนแสงขึ้นมาจากบนหัวไหล่ของเธอ
'เป็นเพราะเธอนี่เอง’
เขาสงสัยว่าทำไมสนามฝึกถึงหนาวกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะรูนันกำลังปล่อยเกล็ดหิมะออกมาเป็นจำนวนมาก
"นายอาจจะวางใจแล้วหลังจากที่ทำภารกิจได้ด้วยตัวคนเดียว แต่วันนี้นายมาสายเกินไปแล้วนะ!”
แม้แต่มาร์ธาก็ขำให้กับคำพูดของรูนัน
"ฉันฝึกอยู่ที่คฤหาสน์ของฉันน่ะ ขอโทษที่มาช้านะ”
ราอนตอบแล้วเดินไปที่กลางสนาม
"การฝึกกำลังจะเริ่ม ทุกคนมาเข้าแถว!”
ทุกคนมีอาการไม่พอใจเล็กน้อย
"ตอนนี้ก็ยืดหยุ่นร่างกายกันก่อน"
ราอนลอบยิ้มกับตัวเองเล็กน้อยและเริ่มอบอุ่นร่างกายไปพร้อมกับทุกคน
***
สองเดือนผ่านไปนับตั้งแต่พวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจครั้งแรก
สายตาของแต่ละคนเมื่อมองไปที่ราอนนั้นแตกต่างกัน แต่ราอนก็มุ่งเน้นที่การฝึกของตัวเองเพียงอย่างเดียว
น่าเบื่อมาก เจ้าเอาแต่ฝึกซ้ำๆ อย่างเดิมๆ วนไปวนมาเนี่ยนะ? เจ้านี่มันเป็นมนุษย์ที่น่าเบื่อสุดๆ
'ไม่หรอกน่า’
ราอนหัวเราะเล็กน้อย
'มันเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ฉันต้องทบทวนมันอยู่ตลอด’
ทุกคนรู้ว่าพื้นฐานคือสิ่งสำคัญ แต่ที่คนส่วนใหญ่มักจะทำคือการข้ามไปฝึกเทคนิคขั้นสูงแทนทั้งๆ ที่พื้นฐานยังไม่แข็งแรง
เหตุผลก็ง่ายๆ เลย
เพราะมันมีการเปรียบเทียบไงล่ะ
'เพราะมันจะรู้สึกเหมือนตามหลังคนอื่นสินะ’
ถ้าคนอื่นข้ามไปฝึกการใช้ดาบออร่ากันหมดแล้ว ใครกันจะกล้าเอาแต่ฝึกวิชาดาบพื้นฐานต่อ
'แต่มันก็น่าเบื่อจริงๆ นั่นแหละ’
วิชาดาบและจังหวะเท้าขั้นพื้นฐานนั้นเรียบง่ายและธรรมดามาก เด็กฝึกหัดทั่วๆ ไปก็ใช้เวลาเรียนรู้มันแค่อาทิตย์เดียว
ไม่มีใครอยากที่จะฝึกฝนมันเป็นปีหรอก
ราอนก็รู้สึกเหมือนกัน เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมามากๆ
'แต่ฉันก็ต้องทำมัน’
การฝึกขั้นพื้นฐานก็เหมือนกับการสร้างบันไดเพื่อปีนขึ้นไปบนหน้าผา
ผู้ที่ปีนขึ้นด้วยมือและเท้าจะออกตัวได้เร็ว คนที่สร้างบันไดจะเริ่มต้นได้ช้ากว่าแต่จะเร็วกว่าในตอนหลังและแซงหน้าคนอื่นๆ ในที่สุด
ราอนมั่นใจในความอดทนของตัวเองมากกว่าใครๆ ในโลกนี้ ดังนั้นราอนจึงเอาแต่ฝึกพื้นฐานต่อไป
"เขาไม่เบื่อบ้างรึไง?”
"เขาฝึก'ดาบรวมดาว'มากี่รอบแล้วเนี่ย?”
"เขาบ้าแน่ๆล่ะ แบบว่าบ้ามากจริงๆ..."
"ฉันทำไม่ได้แน่นอน ฉันคงเบื่อตายไปก่อน"
เด็กฝึกหัดประหลาดใจที่ราอนยังคงทำเทคนิคพื้นฐานนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก มันไม่มีการเยาะเย้ย พวกเขาแค่ประหลาดใจ
"ใช่มั้ยล่ะ? เขาทำซ้ำๆ ได้ยังไงกันนะ? ฉันก็คิดว่าเขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ”
จู่ๆ ก็มีเสียงที่ไม่ใช่ของเด็กฝึกหัดดังขึ้นมา
“เอ๋!”
"อ-อาจารย์!"
"ทำไมมาเร็วจังล่ะครับ?"
"หวัดดี!"
ริมเมอร์โบกมือให้เด็กๆ
"พื้นฐานเป็นสิ่งที่น่าเบื่อแต่แบบนี้จะทำให้เขาไปได้ไกลกว่าคนอื่นๆ แน่นอน ฉันรู้จักนักดาบเก่งๆ หลายคนเลยที่ผ่านการฝึกพื้นฐานมาอย่างหนัก”
ริมเมอร์วิ่งขึ้นไปบนเวที
"ทุกคน! ฟังทางนี้หน่อย!”
ริมเมอร์ปรบมือดึงความสนใจของทุกคน เด็กฝึกหัดทุกคนหยุดการฝึกและวิ่งไปหน้าเวที
"มีเรื่องอะไรเหรอครับ?"
เบอร์เรนยกมือขึ้นถาม ทุกคนกำลังสงสัยว่าทำไมริมเมอร์ถึงเข้ามาในเวลานี้
"อ๋อ คือฉันลืมบอกพวกเธอบางอย่างน่ะ”
"อะไรนะครับ? ลืมเหรอ?"
"ลืมอีกแล้วเหรอคะ?"
เด็กฝึกหัดถามแต่ก็ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่คำตอบของริมเมอร์ทำให้พวกเขาตกใจ
"เราจะต้องสู้กับสนามฝึกที่หกล่ะ”
"สู้กับสนามฝึกที่หก? หมายถึงให้ประลองกับพวกเขาเหรอครับ?”
"ไม่ใช่แค่ประลองซะหน่อย นี่จะเป็นสงครามขนาดย่อมๆ เลย พวกเธอสี่สิบสามคนกับเด็กฝึกหัดทางนั้นอีกหกสิบคนจะลงสนามพร้อมกันทีเดียว"
"...ละ-แล้วต้องสู้ตอนไหนครับ?"
เบอร์เรนถามขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เด็กฝึกหัดหลายคนยังคงตัวแข็งทื่อหลังจากได้ยินสิ่งที่ริมเมอร์พูด
ริมเมอร์ดูสนุกกับการได้เห็นปฏิกิริยาของเด็กๆ
"วันพรุ่งนี้เลย!"