นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 59
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 59
ราอนต้องเปลี่ยนแผนจากการฝึกซ้อมเป็นการมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลักแทน
เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันหนักอึ้งออกมาจากห้องโถงหลักของคฤหาสน์ แม้ว่าจะมาที่นี่หลายครั้งแล้วก็ตาม
นี่เป็นเพราะบุคคลที่รอเขาอยู่ด้านในอย่างแน่นอน
"ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เขาคงจะไม่ได้พูดอะไรไม่ดีหรอก”
ริมเมอร์ยิ้มและตบไหล่ของพวกเขา
“อึ้ม”
รูนันตอบกลับ เธอเป็นคนเดียวที่ดูไม่ได้กังวลมากนักเมื่อต้องพบกับหัวหน้าตระกูล
แอด
ประตูห้องโถงเปิดออกพร้อมกับเสียงดังก้องไปทั่วทางเดิน แรงกดดันรุนแรงกระแทกออกมา
พวกเขาอดทนต่อแรงกดดันและเดินเข้าไปในห้องทันที
เกล็นนั่งอยู่บนบัลลังก์ตรงกลาง เขาคือที่มาของแรงกดดันเหล่านี้
เขานั่งอยู่บนบัลลังก์สีทองและมองลงมาที่พวกเขา
"สวัสดีครับท่านหัวหน้าตระกูล"
เมื่อริมเมอร์กล่าวทักทาย ทั้งสามคนก็นั่งคุกเข่าอย่างพร้อมเพรียง
'เขาจะชื่นชมเราจริงๆ งั้นเหรอ?’
ราอนแอบขมวดคิ้ว เขาคิดยังไงถึงปล่อยแรงกดดันพวกนี้ออกมาก่อนที่จะชื่นชมพวกเขา
"ลุกขึ้นได้"
เสียงอันน่าเกรงขามของเกล็นดังก้องไปทั้งห้อง
"ราอน ซีกฮาร์ท, รูนัน ซัลเลียน ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอทำภารกิจแรกได้ดีทีเดียว”
"พวกเราเพียงทำตามหน้าที่ครับ”
“……”
ราอนและรูนันโค้งคำนับอีกครั้ง
"ฉันอยากฟังเรื่องที่เกิดขึ้น”
"...ได้ครับ เมื่อเราไปถึงที่นั่น มีสี่สถานที่ที่โจรจะได้ซ่อนตัวอยู่ได้ แต่ผมสงสัยว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ที่อื่นเพื่อที่จะสลัดคนที่ไล่ล่าพวกมันอยู่ ดังนั้น..."
ราอนเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำภารกิจให้เกล็นฟัง ซึ่งเขาก็ดูไม่ค่อยสนใจฟังเท่าไหร่
เขาไม่ได้พยักหน้าหรือกระพริบตา เขาไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ เลย จนราอนรู้สึกอึดอัด
"เช่นนั้น พวกเธอก็ทำภารกิจได้สำเร็จด้วยวิธีการที่ไม่ธรรมดา แต่ว่า..."
สายตาของเกล็นดูมืดมน
"วิธีที่เธอใช้มันทะเล่อทะล่าเกินไป ถ้าเธอพลาดไปหน่อยหรือถ้าพวกโจรแข็งแกร่งกว่านี้เล็กน้อย พวกเธอคงจะตายไปพร้อมกับตัวประกันแล้ว”
น้ำเสียงหนักๆ ของเกล็นทำให้เขารู้สึกกดดัน
"การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กฝึกหัดที่ไม่ได้มีประสบการณ์ใดๆ มาก่อน เธอควรจะลงมือหลังจากเตรียมแผนสำรองไว้หลายๆแผน”
"ครับ/ค่ะ..."
"อันที่จริงเธอน่าจะติดต่อเด็กฝึกหัดคนอื่นแล้วค่อยตามร่องรอยไปด้วยกัน ประสบการณ์ของพวกเธอมันน้อยเกินไปที่จะจัดการกับทุกอย่างเพียงสองคน”
“ขอโทษครับ”
ราอนก้มหัวลง
"นี่คือทั้งหมดหรือเปล่าครับ?”
เขาได้ยินมาว่าเกล็นจะชื่นชมพวกเขา แต่เกล็นกลับเอาแต่ตำหนิสิ่งที่เขาทำพลาด
"แต่ก็นะ ถึงวิธีของพวกเธอจะเต็มไปด้วยช่องว่าง แต่พวกเธอก็ทำมันได้สำเร็จ"
เกล็นพยักหน้า แล้วพ่อบ้านโรเอ็นก็ยื่นแผ่นบางอย่างออกมาด้านหน้าพวกเขา
"ฉันจะให้นี่เป็นรางวัลสำหรับผลงานของพวกเธอ”
"พวกคุณเก่งมากเลยครับ”
โรเอ็นส่งมอบแผ่นทองแดงให้ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”
ราอนและรูนันรับแผ่นทองแดงมาด้วยมือทั้งสองข้างและก้มหัวให้เกล็น
"เอ่อ..ผมมีบางอย่างจะถามหน่อยน่ะครับ”
"อะไรล่ะ?"
"แล้วผมต้องทำยังไงกับยาอมฤตอันนี้?”
ราอนเอาดอกเตตันออกมา มันคือดอกเตตันที่ยังไม่เบ่งบานที่เขาได้มาจากหัวหน้าโจรนั่นเอง
เกล็นมองดูสักพักแล้วส่ายหน้า
"เธอเป็นคนเอามันมาได้ มันก็เป็นของเธอแล้ว เอาไปสิ"
"...ครับ"
ราอนเอียงศีรษะเล็กน้อย เพราะยาอมฤตนั้นค่อนข้างหายาก เขาไม่คิดว่าเกล็นจะยอมให้เขาเอาไปง่ายๆ
"ออกไปได้แล้วล่ะ"
เขาเอนหลังและเท้าคาง เป็นสัญญาณให้พวกเขาออกไป
ราอนและรูนันโค้งคำนับและก้าวออกจากห้องโถง
***
ห้องโถงที่ตอนนี้เหลือเพียงสามคนในห้อง ตกอยู่ในความเงียบ
"คิกๆ"
เป็นริมเมอร์ที่เริ่มกลั้นหัวเราะไม่ไหว
"ขำอะไร? แล้วมาที่นี่ทำไมกันในเมื่อฉันไม่ได้เรียกพบแกเลยสักนิด”
"คือว่านะ นายควรจะพูดกับราอนดีๆ สิ แล้วพวกคำติพวกนั้นคืออะไร?”
ริมเมอร์มองเกล็นขมวดคิ้ว
'เขาไม่เคยพูดตรงกับใจแเลย’
ริมเมอร์ส่งรายงานล่วงหน้ามาแล้วด้วยซ้ำ เกล็นก็รู้เรื่องทั้งหมดดีอยู่แล้ว
เกล็นคงกังวลเกี่ยวกับหลานชายมาก แต่เขากลับตำหนิออกมาอย่างจริงจัง จนมันดูตลก
"สงสารราอนจังที่มีคุณตาใจร้ายขนาดนี้"
"หุบปากซะ!”
“อุ๊บ!”
ริมเมอร์ยกมือขึ้นปิดปากก่อนที่เกล็นจะทำอะไรเขา
"...ดูเหมือนว่าท่านหัวหน้าตระกูลคงจะเห็นความสามารถในการขึ้นเป็นผู้นำของราอนแล้วสินะ”
"หา?"
"พัฒนาการของเขาดีมาก แต่เนื่องจากเขายังคงเป็นเด็กฝึกหัดเขาจึงยังดูแลคนอืนได้ไม่ดีนัก แล้วเหตุผลที่นายขอให้เขาเป็นผู้นำเด็กฝึกหัดเพราะต้องการเตรียมตัวให้เขาพร้อมจะท้าทายบัลลังก์ของซีกฮาร์ทใช่มั้ยล่ะ?
“……”
เกล็นไม่ตอบ เขาเพียงแค่มองไปที่ริมเมอร์เงียบๆ
"ดูเหมือนนายคงจะหวงราอนน่าดู ไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้กับลูกชายบ้าง...."
"หุบปาก"
"ลองซื่อสัตย์กับใจตัวเองบ้างเป็นไง? ฉันแน่ใจว่าราอนคงจะชอบกว่านะถ้านายพูดว่า 'ทำได้ดีมากหลานรัก มาให้ตากอดหน่อยสิ' งื้อ..."
"ริมเมอร์!”
เกล็นปล่อยแรงกดดันมากขึ้น ไม่เพียงแต่ในห้องโถง แต่ทุกส่วนของคฤหาสน์เริ่มสั่นราวกับมีแผ่นดินไหว
“อ๊าก!”
ริมเมอร์รีบขยับตัวหนี แสร้งทำเป็นกลัวแต่ยังกลั้นขำ
“ฮ่าๆ”
เมื่อเกล็นกำลังจะระเบิดพลังออกมา โรเอ็นก็หัวเราะออกมาซะก่อน
"ดีจังนะครับ"
"อะไรดี?"
"ผมไม่ได้เห็นท่านทั้งสองเล่นกันแบบนี้มากว่าสามสิบปีแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้เห็นการแสดงออกที่ซื่อตรงของนายท่านมานานเช่นกัน..."
โรเอ็นได้ระลึกถึงความทรงจำเก่าๆ
“หืม…”
"โห! คุณโรเอ็นจำได้ด้วยเหรอ”
เกล็นผ่อนคลายแรงกดดันของเขา และริมเมอร์ก็ยิ้มกว้าง
"...แล้วก็ยังมีสิ่งที่ราอนไม่ได้เล่าอยู่นะ”
"หมายถึงสหพันธ์เหนือ-ใต้หรือเปล่า?"
"ใช่ มันรู้ชื่อของราอนแล้ว ก่อนที่มันจะหนีไป"
"แล้วทำไมแกไม่ตามจับมัน?"
"มันหนีไปเพราะราอนน่ะแหละเพราะมันยอมรับในตัวราอน ที่นั่นก็ไม่ใช่อาณาเขตของซีกฮาร์ทด้วย ฉันก็เลยปล่อยมันไปก่อน"
“อืม”
เกล็นพยักหน้าแต่เขาดูไม่พอใจ
"แล้วก็สุดท้ายจริงๆ แล้ว ฉันอยากให้นายซื่อตรงกับราอนมากกว่านี้หน่อย นั่นหลานชายนายเลยนะ ไม่ยากหรอกน่า"
"ฉันซื่อตรงกับทุกคนเท่ากัน”
"ไม่จริงอะ ถ้านายซื่อสัตย์จริงๆก็คงทำแบบนี้”
ริมเมอร์นั่งหลังตรงและเริ่มเลียนแบบเกล็น
"ราอน ฉันภูมิใจในตัวเธอมากเลยนะ มาให้ฉันกอดหน่อยสิหลานรัก แค่นี้ราอนก็คงดีใจ นายก็ดีใจ แม้แต่ฉันก็จะดีใจที่ได้เห็น! ทุกคนจะมีความสุข!”
“เฮ้อ...”
เกล็นถอนหายใจและลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เขาปล่อยคลื่นพลังงานที่รุนแรงออกมาทั่วห้องโถง
"เฮ้ย! ฉ-ฉันไปแล้วก็ได้ ฉันต้องไปดื่ม..เอ๊ย หมายถึงฉันมีนัดพอดีน่ะ"
ริมเมอร์รีบเดินถอยหลังแล้วเปิดประตูออกจากห้องทันที
"เฮอะ...ยังทำตัวบ้าบอเหมือนเดิม"
เกล็นเดาะลิ้นและนั่งลง
"ผมชอบนะครับ มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่พวกคุณต่อสู้ไปด้วยกัน”
โรเอ็นยิ้มและย้ายไปด้านข้าง
“ฮึ่ม”
เกล็นเพียงแค่กอดอกแล้วพิงหลังไปกับบัลลังก์
"ทั้งหมดนี้เพราะคุณชายราอนเลย ผมชักจะชอบเขาแล้วสิ”
"นายชอบเขาได้ แต่นายต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างเท่าเทียมกับทุกคน”
"แน่นอนสิครับ”
โรเอ็นก้มหัวลงและยิ้ม เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นเกล็นกำลังแอบยิ้ม มุมปากของเกล็นกำลังยกสูงกว่าปกติ
* * *
* * *
ราอนมุ่งหน้าไปยังอาคารรองทันทีที่เขาออกจากคฤหาสน์หลัก
เขาคิดว่าตัวเองควรไปหาซิลเวียและสาวใช้ที่กำลังกังวลเกี่ยวกับเขาเป็นอันดับแรก
เมื่อเขามาถึง ก็มีเสียงดังออกมาจากข้างใน
'ที่นี่ก็เป็นแบบนี้แหละ’
อาคารรองดูมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา เขารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่
ราอนเปิดประตูอาคารรอง
“หือ?”
ตาของเขาเบิกกว้าง มีใครบางคนที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะอยู่ที่นี่
"ดอเรียน?”
ดอเรียนกำลังยืนอยู่ในห้องรับรองพร้อมกับซิลเวีย,เฮเลนและแม่บ้านคนอื่นๆ
"โอ๊ะ คุณชายกลับมาแล้วค่ะ"
"ทำไมนายถึงมาที่นี่ล่ะ?"
"อ่า...ท่านหญิงซิลเวียให้ผมมาที่นี่แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น”
"งั้นแปลว่า..."
"ครับ ผมเล่าทุกอย่างที่คุณชายราอนทำในระหว่างภารกิจหมดแล้วล่ะ"
ดอเรียนเช็ดน้ำตาของเขาออก
"คุณชาย..."
"คุณชายของพวกเราทำได้ดีจริงๆ"
แม้แต่หญิงรับใช้ยังสะอื้น ดูเหมือนดอเรียนจะบอกพวกเขาทุกอย่างจริงๆ
'ฉันตายแน่...'
ทั้งๆที่ราอนพยายามหลีกเลี่ยงความกังวลของซิลเวียและเฮเลน เขาไม่เคยคาดหวังให้พวกเขาติดต่อเขาก่อน
“ราอน!”
"คุณชายคะ!"
ซิลเวียและเฮเลนวิ่งเข้ามาหาเขา
"คือผมไม่ได้ตั้งใจ...."
"ลูกเก่งมากเลย!”
ขณะที่เขากำลังจะแก้ตัว ซิลเวียก็กอดและลูบหลังเขา
“หือ?”
ดวงตาของราอนกว้างขึ้นเมื่อเจอกับปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิด
"นี่ลูกคิดว่าแม่จะด่าลูกรึไง?”
"ก็ท่านแม่ให้บอกให้ผมระวัง...”
"ซีกฮาร์ทใช้ดาบเพื่อปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าอยู่เสมอ นี่เป็นสิ่งที่ซีกฮาร์ททำมาโดยตลอด”
ดวงตาสีแดงของซิลเวียเป็นประกายเหมือนทับทิม
"แม่เคยอยากจะเป็นนักดาบที่มีจิตวิญญาณของซีการ์ทอยู่นะ ดังนั้นแม่จึงไม่มีทางที่จะด่าลูกที่ช่วยตัวประกันและเสี่ยงชีวิตของตัวเองหรอก”
เธอกุมมือของเขาแน่น ความเหนื่อยล้าของเขาหายไปเพราะอ้อมกอดของเธอ
"แม่ภูมิใจในตัวลูกมากๆ เลยนะ”
“อื้ม!”
"ใช่แล้วล่ะค่ะ!”
"พรุ่งนี้ฉันจะไปที่อาคารหลัก แล้วจะโม้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง!”
ซิลเวียกอดเขาอีกครั้ง เฮเลนและสาวใช้พยักหน้าด้วยน้ำตา
'รอดตัวไป'
ราอนถอนหายใจ
'ฉันยังไม่เข้าใจความรู้สึกสักเท่าไหร่’
แต่เขาไม่ได้เกลียดความอบอุ่นจากพวกเขา
'แต่ว่าดอเรียน!’
เขารีบหันไปหาดอเรียนแต่ก็ไม่เจอเขาแล้ว
ไอ้ขี้ขลาดนั่นหนีไปนานแล้ว
'ให้ตายสิ!’
เขาไวมากจริงๆ
***
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ราอนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินไปที่สนามฝึกที่ห้า ซิลเวียกับเฮเลนบอกให้เขาพักผ่อน แต่เขาต้องการที่จะขยับร่างกาย
"นั่นคือเขาเหรอ?”
"ใช่ๆ ราอน ซีกฮาร์ทไง"
"เขาดูอ่อนแอมากเลยนะ แรงกดดันก็ไม่มี"
"แต่เขาเป็นคนฆ่าพวกโจรทั้งหมดเองนะ”
"ริมเมอร์คงไม่ได้พูดโกหกแต่เขาคงจะพูดเกินจริงไปล่ะมั้ง”
ในระหว่างทางที่เขาเดินไปสนามฝึกก็มีนักดาบมากมายจับจ้องมาทางเขาและซุบซิบ ดูเหมือนว่าข่าวเกี่ยวกับภารกิจได้แพร่ไปทั่วแล้ว
'คนๆ นั้น...'
เขาถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าริมเมอร์เป็นคนเ่าให้คนอื่นๆฟัง
"กวาดล้างกลุ่มโจรสามสิบคน เป็นอะไรที่สุดยอดมากเลย”
"ฉันว่าเขาคงแค่โชคดีล่ะมั้ง เขาป่วยไม่ใช่รึไง"
ราอนเพิ่งเคยรู้สึกอึดอัดเป็นครั้งแรก
แต่เขาต้องควบคุมอารมณ์และจิตใจเอาไว้ เขาไม่จำเป็นต้องสนใจสิ่งที่คนอื่นพูด
ราอนเข้าไปในสนามฝึกซ้อมที่ห้าโดยไม่ได้ใส่ใจคำพูดและสายตาพวกนั้นมากนัก เมื่อเข้ามาด้านใน เขาก็พบกับความว่างเปล่าอย่างเช่นเคย
เขายืดหยุ่นร่างกายแล้วชักดาบออกจากฝัก เขาค่อยๆ ยกดาบขึ้นมา เขาเริ่มตั้งท่าทางให้เหมือนกับการต่อสู้ครั้งล่าสุด
'ตอนนั้นฉันเคลื่อนไหวช้าไป’
เขาควรจะตัดหัวหัวหัวหน้าเสือหิมะตั้งแต่แรก เพราะเขาเป็นกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับเด็กๆ ทำให้เขาตอบสนองช้าลงจนต้องใช้เวลามากเกินไป
ส่วนสำคัญของการต่อสู้คือวิธีที่เขาใช้ความสามารถของตัวเอง เขาจึงถือว่าภารกิจครั้งนี้เขาล้มเหลว
'แต่ว่า...'
เขารู้ความจริงที่ว่า…
นี่เป็นปัญหาเขาสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน
'ออร่าและร่างกายของฉันไม่ได้ดีเหมือนกับคนปกติ’
ร่างกายของเขาค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ออร่าของเขายังอ่อนแอมากๆ
เขาจำเป็นต้องทำให้ออร่าและร่างกายของตัวเองอยู่ในระดับเดียวกัน
ฮู่ว
ราอนถอนหายใจและค่อยๆลดดาบลง ออร่าออกมาจากศูนย์พลังงานในร่างกายของเขาแล้วพุ่งไปตามดาบ นั่นทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อยและแตกออกจากกัน
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขยับตัวมากนักแต่เขามีเหงื่อออกเต็มตัวแล้ว การเคลื่อนไหวของเขายังช้าเกินไป เขาต้องไวกว่านี้
ราอนเหวี่ยงดาบของเขาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพลังงานจากหมื่นเปลวเพลิงหมดลง
เมื่อมันหมด เขาก็ไปที่ห้องทำสมาธิเพื่อเติมเต็มมันขึ้นมาใหม่ แล้วเขาก็ออกไปแกว่งดาบของเขาอีกครั้งและอีกครั้ง ถึงจะเพิ่งกลับมาจากทำภารกิจ แต่เขาก็ออกมาฝึกซ้อมจนตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ
***
ณ บาร์เล็กๆ ภายในตรอกแห่งหนึ่งของเขตซีกฮาร์ท
มีคนมากมายอยู่ที่นั่น แต่มีเพียงคนเดียวที่กำลังพูด
"...ลูกศิษย์ของฉันก็เลยไปช่วยตัวประกัน แล้วหัวหน้าโจรก็ใช้ออร่าบนดาบแต่ราอนตัดดาบของเขาจนหักกระเด็นเลย!”
เอลฟ์ผมสีแดงกำลังบอกเล่าเรื่องราวของราอน เขายืนอยู่บนโต๊ะราวกับกำลังกล่าวสุนทรพจน์ เขาเมาแล้วและใบหน้าของเขาเป็นสีแดง
"ว้าว!”
"ในที่สุดริมเมอร์ก็เจอทางที่ใช่แล้วใช่มั้ยล่ะ? นายสอนเด็กๆ ได้ดีจริงๆ ”
"ไม่มีทางอะ มันแค่โชคดีได้เจอเด็กเก่งๆ แค่นั้นแหละ”
"ข้าก็ว่า มันไม่มีทางเป็นอาจารย์ที่ดีได้หรอกนะ”
คนอื่นๆ ที่ได้ยินก็เริ่มหัวเราะคิกคัก อาจจะดูเหมือนเป็นชาวบ้านทั่วไป แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นนักดาบของซีกฮาร์ท
"ทั้งคู่ต่างหาก ทั้งคู่! ฉันทั้งสอนเก่งแล้วนักเรียนของฉันก็เป็นเด็กที่เก่งที่สุดในบรรดาเด็กฝึกหัดของซีกฮาร์ทในปัจจุบันเลยนะ ไม่สิ น่าจะเก่งสุดในหกราชาด้วยซ้ำ!"
ริมเมอร์ยิ้มและเทเบียร์เข้าปาก บางคนเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูดและบางคนคิดว่าสนามฝึกซ้อมที่หกและเด็กกลุ่มอื่นๆ ก็ดีพอๆ กัน ผู้คนในบาร์เริ่มแบ่งเป็นสองฝั่งและโต้เถียงกัน
"เฮ้ๆๆ อย่าพึ่งเถียงกัน จ่ายเงินให้หน่อยสิ ฉันอุตส่าห์เล่าเรื่องดีๆให้ฟังเชียวนะ ฉันเสียพนันม้าไปจนหมดตัวแล้วดังนั้นฉันต้องรีบกลับไปแก้ตัว..."
เขาวางแก้วเบียร์ที่ว่างเปล่าของเขาลงและขมวดคิ้วเมื่อเห็นเหรียญทองถูกวางลงบนโต๊ะ
“หือ?”
ริมเมอร์เงยหน้าขึ้นหลังจากเห็นเหรียญทอง
ด้วยใบหน้าที่น่าเกรงขามและไหล่กว้างๆ ชายตรงหน้าเขามีท่าทางเหมือนกับผู้บัญชาการอะไรสักอย่าง แต่เขาเป็นหัวหน้าอาจารย์ของสนามฝึกซ้อมที่หก
"เมทันเหรอ? ไม่ได้เจอกันนานนะ”
"อืม"
เมทันพยักหน้า
"ขอบใจที่เลี้ยงนะ!”
“……”
"หือ ขอฉันออกไปหน่อยได้มั้ย"
ริมเมอร์พยายามหยิบเหรียญทองที่วางไว้บนโต๊ะแต่ติดที่นิ้วของเมทันยังกดมันไว้อยู่
"นายจะรับผิดชอบกับคำพูดเมื่อกี้หรือเปล่า?”
"อะไรเหรอ?”
"ก็ที่บอกว่าสนามฝึกที่ห้าเป็นสนามฝึกซ้อมที่ดีที่สุดนั่นไง”
"แน่นอนสิ เพราะลูกศิษย์ของฉันยอดเยี่ยมที่สุด!"
"จำได้ว่านายชอบการพนันมาก”
สายตาของเมทันดูดุเดือดขึ้นมา
"งั้นเราก็มาพนันกัน"