ตอนที่ 1316 ..มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมดูเหมือนจะยังไม่ได้บอกคุณลุง.. ว่า ผมเรียนจบหมอมา ดังนั้นผมจึงสังเกตเห็นได้ แม้ว่าลุงคุณจะพยายามทําตัวเป็นปกติ แต่สีหน้าของคุณ.. ก็ยังทรยศคุณ และมันก็บ่งบอกว่าคุณได้รับบาดเจ็บ”
คุณลุงได้อึ้งไป ..ที่แท้ หลินฟาน เป็นหมอ
“ดูไม่ออกจริงๆ เลยว่า คุณที่อายุยังน้อยๆ เช่นนี้เป็นหมอแล้ว ทั้งคุณยังสามารถตัดสินอาการบาดเจ็บของฉันได้ ..อย่างง่ายดาย แบบนี้ทักษะทางการแพทย์ของคุณ ต้องดีมากแน่ๆ” คุณลุงได้กล่าว
หลินฟาน กล่าวว่า : “มันยังไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ทางคุณลุงเอง.. คุณช่วยพูดหน่อยได้ไหมว่าทําไมคุณถึงพูดคุยกับเพื่อนคนนั้นอย่างดุเดือดขนาดนี้ได้?”
คุณลุง ได้กล่าวว่า : “ไม่มีอะไรมาก เราเป็นเพื่อนเก่ากัน แต่พอดีเรา.. แค่ปรึกษากันเรื่องเก่าๆ”
หลินฟาน กล่าวว่า : “พวกคุณปรึกษากันเสร็จแล้ว ..หรือยัง แล้วต้องกลับไปปรึกษากันต่ออีกไหม?”
คุณลุง ตอบว่า : “พอแล้วล่ะ ยังไงมันก็เป็นแค่เรื่องเดียว อีกอย่าง ..ฉันขยับตัวไม่ไหวแล้ว”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมกลับไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ ท่าทางของคุณลุง ดูเหมือนจะกังวลมาก และในฐานะนักศึกษาแพทย์ ผมเองก็ชอบที่จะสังเกตสีหน้าของผู้ป่วยมากกว่า”
คุณลุงที่เห็น หลินฟาน ไม่เชื่อคําพูดของเขา และไม่อยากให้ หลินฟาน ถามต่อ เขาจึงได้แต่พูดกระซิบเบาๆ ไปว่า : “หนุ่มน้อย บางเรื่องคุณไม่ควรเข้ามายุ่งด้วยจะดีกว่า และฉันสามารถรับรองได้ว่า ..มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น โอเค ตอนนี้ฉันเหนื่อยนิดหน่อยแล้ว และอยากจะของีบสักพัก”
พูดจบ คุณลุงก็ไม่สนใจ หลินฟาน อีก เขาได้นอนเอนตัวลงไปบนที่นั่ง และหลับตาลง
เขาดูเหนื่อยเล็กน้อยจริงๆ และเริ่มกรนขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่ช้า
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ไปคุยปรึกษากับเพื่อนเก่า ..จริงๆ อันที่จริงแล้วเขาเพิ่งเผชิญหน้ากับใครบางคนมา และโดนอีกฝ่ายทำร้ายจนบาดเจ็บ
ส่วนเหตุผลที่เขาสู้กับคนอื่น และใครที่ต่อสู้กับเขานั้น หลินฟาน เองก็ไม่รู้
แต่ในเมื่อคุณลุงพูดแล้วว่า ..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินฟาน ก็แค่เชื่อเขาชั่วคราวเท่านั้น บางที.. ก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรจริงๆ แต่ถูกคุณลุงคนนี้เข้าแก้ไขแล้วก็ได้
ในเวลานี้มีแอร์โฮสเตสเดินผ่านทางเดินเข้ามา และเขาที่เพิ่งนอนหลับไปบนเครื่องบิน มาตอนนี้ หลินฟาน ก็รู้สึกคอแห้งเล็กน้อย จึงหันศีรษะไปเรียกแอร์โฮสเตส และยิ้มก่อนจะพูดว่า : “พี่สาว ขอโทษนะครับ ผมรบกวนขอน้ำขวดหนึ่งได้ไหม?”
แอร์โฮสเตส พยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “โอเคคะ กรุณารอสักครู่นะค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้คุณ”
พอแอร์โฮสเตสพูดเสร็จ ..ก็เดินจากไป
และระหว่างที่ หลินฟาน หันไปคุยกับแอร์โฮสเตสอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติ, หาก หลินฟาน ไม่ได้ขอน้ำจาก แอร์โฮสเตส เขาเองก็อาจจะยังไม่ค้นพบมัน…
แต่บังเอิญขณะที่ หลินฟาน หันไปพูดคุยกับ แอร์โฮสเตส เขาก็ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้ ..ไปโดยไม่ตั้งใจ
ไม่ไกลจากที่นั่งของพวกเขา มีคนหนึ่ง ..จ้องมองคุณลุงอยู่!
แม้ว่า หลินฟาน จะหันศีรษะไปคุยกับ แอร์โฮสเตส แต่ผู้ชายคนนี้เองก็กลัวว่าจะถูกสังเกตเห็นเข้า จึงได้หันศีรษะกลับไปทันที
แต่เขาก็ไม่อาจหลบหนีพ้นจากสายตาของ หลินฟาน ไปได้
และแม้ว่า หลินฟาน จะสังเกตเห็นผู้ชายคนนี้แล้ว แต่เขาก็ยังคงทําราวกับว่าเขาไม่ทันได้สังเกตเห็นเขา หลังจากแอร์โฮสเตสเดินจากไปแล้ว หลินฟาน ก็หันกลับไป
คนๆ นี้เป็นใครทำไมถึงต้องจับจ้องคุณลุง?
นี่เป็นคําถามในใจของ หลินฟาน ในขณะนี้
ทั้งคําถามนี้.. ก็ยังไม่มีคําตอบ เพียงแต่ผู้ชายคนนี้ได้ถูกเขาทําเครื่องหมายคำถามเอาไว้แล้ว และคงต้องรอดู ..ต่อไป
ยังไงก็ตามที่คุณลุงบอกว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขากลัวว่าจะเป็นสิ่งที่คุณลุงคิดเองอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า ทั้งตอนนี้มันก็ดูเหมือนเรื่องอะไรๆ ที่ว่านี้.. มันยังไม่จบ
ไม่นาน แอร์โฮสเตสก็เดินกลับมาพร้อมกับยื่นขวดน้ำให้กับ หลินฟาน
สาเหตุที่ตอนนี้.. แอร์โฮสเตสคนนี้เดินไปตามทางเดินในเวลานี้ เป็นเพราะผู้โดยสารที่อยู่โดยรอบๆ ได้ทยอยกันตื่นขึ้นมาแล้ว หลินฟาน มองไปที่นาฬิกาข้อมือ ปรากฏว่ามันใกล้จะถึงเวลากินข้าวเย็น
ผู้โดยสารก็ทยอยกันลุกขึ้น และออกมาเดินไปมารอบๆ เช่นกัน
หลินฟาน เปิดฝาขวด และยกขวดน้ำดื่มไปสองสามอึก และเขาก็หายคอแห้งไปในที่สุด ขณะดื่มน้ำไปพลาง หลินฟาน ก็ได้เงยหน้ามองไปรอบๆ ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในขณะเดียวกันนั้น หลินฟาน ก็เห็นว่าคนที่เพิ่งจ้องมองคุณลุง ได้ลุกขึ้น และกําลังเดินไปที่ห้องน้ำ
เนื่องจากบุคคลนี้เดินไปข้างหลังแล้ว หลินฟาน จึงสามารถมองสังเกตดูเขาได้อย่างสบายใจ คนๆ นี้เขาเป็นผู้ชาย รูปร่างปานกลาง หากตัดสินจากเสื้อผ้า ก็ไม่มีอะไรพิเศษ และเขาก็เป็นเพียงผู้โดยสารธรรมดาๆ
ในขณะที่ทุกคนลุกขึ้นทํากิจกรรมส่วนตัว ทางด้านแอร์โฮสเตสเองก็กําลังยุ่งอยู่กับการเตรียมขายข้าวกล่อง คุณลุงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็ผล็อยหลับไป ดูเหมือนว่าเขา ..จะรู้สึกว่าเขาได้แก้ไขปัญหาแล้ว และในที่สุดก็สามารถนอนหลับไปได้อย่างสบายใจ
หลินฟาน พูดไม่ออกเล็กน้อย ไม่ว่าคุณลุงคนนี้จะเจอปัญหาอะไร.. แต่เขาเองเกรงว่าปัญหาของเขาจะยังคง ..ไม่ได้รับการแก้ไข และซึ่งก็ดูเหมือนว่าตอนนี้ เขาเองจะสบายใจเร็วเกินไปจริงๆ
“นี่คุณ.. เดินไม่มีตาหรือยังไง!?”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาจากข้างหลัง
ทุกคนก็ได้หันไปมอง และก็ได้เห็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีสีหน้าไม่พอใจ ทั้งยังกำลังชี้ไปที่เด็กสาวคนหนึ่ง แล้วดุด่าออกมา
ปรากฏว่าเด็กสาวคนนี้เผลอเดินไปชนกับผู้หญิงวัยกลางคน และได้ไปเหยียบรองเท้าของอีกฝ่ายเข้า ซึ่งมันได้ให้ผู้หญิงวัยกลางคนเกิดความไม่พอใจขึ้นมา
เด็กสาวคนนี้ก็อารมณ์ไม่ดีนัก เมื่อเห็นผู้หญิงวัยกลางคนดุร้ายแบบนี้ เธอก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมาแล้วเช่นกัน
“ฮ่าๆ ขอโทษด้วย คือฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เด็กสาว ได้พูดออกไป แม้จะเป็นการขอโทษ แต่เธอก็ดูไม่มีท่าทีที่จะขอโทษแม้แต่น้อย
ผู้หญิงวัยกลางคนที่เห็นเช่นนี้ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น : “เด็กสมัยนี้นี่มันอะไร พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือยังไงกัน มาเหยียบเท้าฉัน และฉันแค่จะพูดว่านิดหน่อย ไม่ได้ว่างั้น?”
เด็กสาว พูดว่า : “นี่.. คุณป้า พอได้แล้วมั้ง ฉันเองขอโทษคุณไปแล้ว ยังจะเอาอะไรกับฉันอีก หรือว่าต้องให้ฉันคุกเข่าขอโทษคุณเหรอไง?”
ผู้หญิงวัยกลางคน พูดว่า : “ถ้าคุณจะคุกเข่าขอโทษฉันจริงๆ ก็เอาสิ งั้นคุณก็รีบๆ คุกเข่าให้ฉันเร็วๆ!”
เด็กสาวได้มุ่ยหน้า และยิ้มก่อนพูดไปว่า : “คุณมันนับเป็นตัวอะไร.. แล้วอีกอย่างกับคนอย่างคุณ ..มันสมควรได้รับไหม?”
ผู้หญิงวัยกลางคนโกรธจัดมาก : “อีนี่ แกมันพูดว่าอะไรนะ!”
เด็กสาวคนนั้นพูดว่า : “ฉันพูดว่า ..คุณอยากให้ฉันคุกเข่าขอโทษคุณ แต่คุณมันสมควรได้รับไหม? และนี่คงไม่ได้มองดูตัวเองสินะ และคงคิดว่าตัวเองเจ้าหญิงเอ๋ย ราชินี ฉันขอโทษที่เผลอไปแตะสัมผัสคุณ แล้วตอนนี้คุณโอเคมั้ย?”
ผู้หญิงวัยกลางคน ได้ตะโกนกลับไปทันทีว่า : “คุณนี่มันมีทัศนคติอย่างไรกัน คุณชนฉัน นั่นมันก็นับว่าผิดอยู่ก่อนแล้ว แต่ดูคุณตอนนี้สิ ไหนการขอโทษด้วยความจริงใจ ทัศนคติแบบนี้ ดูท่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนไม่พอ แต่ดูเหมือนจะยังไร้การศึกษาด้วยมั้ง!”
เมื่อเห็นทั้งคู่ยิ่งทะเลาะกันเสียงดังมากขึ้น แอร์โฮสเตสบางคนก็ได้รีบเข้าไปเกลี้ยกล่อมทั้งสองคน : “คุณทั้งสอง ที่นี่เป็นที่สาธารณะ ขอให้พวกคุณทั้งสองคุยกันดีๆ ด้วยคะ อย่าได้ส่งเสียงดังรบกวนผู้โดยสารคนอื่นๆ”
ผู้หญิงวัยกลางคน พูดว่า : “คุณมาก็ดี คุณมาช่วยฉันตัดสิน เธอมาเหยียบเท้าฉัน และฉันก็ขอให้เธอขอโทษ แต่เธอมันกลับไม่ยอม!”
“ฉันไม่ยอมตรงไหน ฉันไม่ได้พูดด้วยซ้ำ และคุณก็อย่าได้มาคิดเล็กคิดน้อย และก็หยุดพูดจาพล่อยๆ ด้วยนะ!” เด็กสาวได้พูดโต้กลับ
ทั้งสองก็เห็นว่าจะทะเลาะกันอีก ผู้หญิงวัยกลางคนถึงกับก้าวขึ้นไปผลักเด็กสาว และนั่นก็ทำให้ฉาก ..มันเริ่มดูวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ
ในจังหวะนั้น แอร์โฮสเตสอีกคนก็ได้เดินเข้ามาจากทิศทางของห้องโดยสารซึ่งไม่มีอะไรอยู่ในมือของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอแตกต่างจากแอร์โฮสเตสที่กำลังเตรียมอาหารเย็น ..อย่างเห็นได้ชัด
แอร์โฮสเตสคนดังกล่าวได้เดินตรงมาหาคุณลุง และเห็นว่าคุณลุงกำลังหลับอยู่ จึงเอื้อมมือไปเขย่าตัวคุณลุง
“คุณคะ ตื่นก่อนเถอะค่ะ” แอร์โฮสเตส ได้ร้องเรียกเบาๆ
ทันใดนั้นคุณลุงก็ได้ตื่นขึ้นมาทันที และหันมองไปที่แอร์โฮสเตส
แอร์โฮสเตส กล่าวว่า : “คุณคะ เชิญมากับฉันด้วยค่ะ”
คุณลุงเองดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และเมื่อนั้นเขาก็ได้ลุกขึ้นทันที และเดินตามแอร์โฮสเตสคนนี้ไปยังทิศทางของห้องโดยสาร
หลินฟาน มองไปรอบๆ และเห็น ผู้หญิงวัยกลางคนกับเด็กสาว ที่กำลังทะเลาะกันโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ความสนใจของทุกคนเองก็ได้ถูกดึงดูดไปโดยพวกเขา
หลินฟาน นิ่งเงียบไปสักพัก จากนั้นเขาเองก็ได้ลุกขึ้น และเดินไปในทิศทางเดียวกับ คุณลุง ที่ได้เดินเข้าไปในห้องโดยสาร..