1090 - การพิสูจน์เต๋าที่ล้มเหลว
1090 - การพิสูจน์เต๋าที่ล้มเหลว
ทั้งสามคนหยุดและรู้สึกถึงอันตรายอันยิ่งใหญ่ กระแสน้ำวนที่เกิดจากแสงอันวุ่นวายนี้น่ากลัวมากพอที่จะบดขยี้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ได้อยากง่ายดาย
“สถานที่ที่แสงอมตะภาคเหนือถือกำเนิดนั้นช่างบิดเบือนจริงๆ มันไม่มีทางที่ร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหวังจะกลายเป็นผู้อมตะได้ด้วยแค่แสงนี้!” หลี่เทียนกล่าว
“มีคนอยู่ในบ่อน้ำ!” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว
ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขานั้น มีสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ซ่อนตัวอยู่ในกระแสน้ำวน ดวงตาสีแดงก่ำของมันกำลังจับจ้องอยู่ที่พวกเขาตลอดเวลา
“มันเป็นลิงหิมะแก่ๆ”
“ไม่ใช่ มันเป็นยักษ์แก่ มันแก่มาก และเอวของมันก็งอจนเกือบจะขนานพื้นแล้ว”
ยักษ์โบราณตัวนี้พยายามดิ้นรนอย่างหนัก มันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในบ่อน้ำ ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่ามันกำลังค้นหาแสงอมตะเพื่อฟื้นฟูความเยาว์วัยอีกครั้ง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายักษ์โบราณตัวนี้มีพลังมากแค่ไหน ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปในบ่อน้ำและปล่อยให้พลังแห่งความหนาวเย็นแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด
เย่ฟ่านและคนอื่นๆ เพียงเฝ้าสังเกตอย่างระมัดระวังและไม่ได้ขัดขวางกระบวนการนี้
ในเวลาต่อมากลุ่มของเย่ฟ่านเริ่มเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ พวกเขาสำรวจใจกลางของทะเลสาบเป็นเวลาหลายชั่วยาม จนกระทั่งเดินมาถึงจุดๆหนึ่งดวงตาของเย่ฟ่านก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
มีหญิงชรานั่งสมาธิอยู่ตรงกลางของบ่อน้ำ!
พวกเขาทั้งสามต่างผงะและถอยกลับด้วยความหวาดกลัว
ในพื้นที่ตอนกลาง แสงทุกชนิดจะเข้มข้นยิ่งขึ้น และยังมีรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวของสุริยันจันทราอย่างสุดจะพรรณนา แสงเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ทัศนะวิสัยของทั้งสามคนพล่ามัวไปชั่วขณะ และพวกเขาก็เดินเข้าสู่เขตแดนของหญิงชราโดยไม่รู้ตัว
“นางเอง!”
เย่ฟ่านจำทุกอย่างได้ในคราวเดียว “นี่คือหญิงชราเมื่อหกพันปีก่อน นางเป็นคนยุคเดียวกับชายชราผู้บ้าคลั่ง”
ก่อนหน้านี้นางได้แย่งชิงเอาพีระมิดที่มีแสงแห่งสุริยันจันทราและดวงดาวไป
“นางหายไปหลายปีแล้ว ไม่คิดว่านางจะมาอยู่ที่นี่!”
เย่ฟ่านยังคงจำได้ชัดเจนว่าพีระมิดสีเขียวนั้นถูกขุดขึ้นมาจากเหมืองโบราณในภาคเหนือและทำให้หลายคนตกใจมาก แต่ในที่สุดมันก็กลายเป็นสมบัติของหญิงชราคนนี้
หญิงชรานั่งสมาธิเหนือบ่อน้ำวิเศษ นางยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอนเพียงแต่ไม่รู้ว่านั่งสมาธิอยู่เช่นนี้มากี่ปีแล้ว รอบตัวของนางนั้นมีแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกดึงดูดจากท้องฟ้าอย่างไม่หยุดยั้ง
กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างของหญิงชรานั้นทรงพลังมากกว่าราชาโบราณทุกคนที่กลุ่มของเย่ฟ่านเคยสัมผัส แต่เมื่อเปรียบเทียบกับชายชราผู้บ้าคลั่งยังคงอ่อนแอกว่าเล็กน้อย!
หญิงชราดูเหมือนจะนั่งสมาธิอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่านางกำลังรอคอยแสงแห่งความเป็นอมตะเช่นกัน
เมื่อเห็นท่าทางของหญิงชราเย่ฟ่านก็รู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย นั่นก็เพราะดูเหมือนหญิงชราจะนั่งอยู่ที่นี่มาเกือบยี่สิบปีแล้ว หากนางค้นพบแสงอมตะนางคงจากที่นี่ไปตั้งแต่แรก แล้วพวกเขาต้องรออีกนานแค่ไหน?
“มีแสงลอดเข้ามามากมายในถ้ำน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้น และมีศพของผู้คนไม่น้อย” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว
“ให้ข้าดูหน่อย”
ดวงตาของเย่ฟ่านเป็นประกาย จากนั้นดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ถูกปลดปล่อย สายตาของเย่ฟ่านจับจ้องไปยังสถานที่อันห่างไกลหลายร้อยวาทันที
“นี่คือดวงตาสวรรค์หรือ”
หลี่เทียนอุทาน จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าเบาๆ กลิ่นอายที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดวงเย่ฟ่านยังไม่รุนแรงเพียงพอที่จะเป็นดวงตาสวรรค์ แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว
“ถ้ำน้ำแข็งมีสีสัน แสงระเหยคล้ายหมอก น้ำแข็งกัดเซาะ มีซากศพของสิ่งมีชีวิตนับร้อยอยู่ภายใน ส่วนใหญ่ถูกแช่แข็งและแตกร้าว เครื่องแต่งกายของซากศพเหล่านั้นมีลักษณะแตกต่างกันเห็นได้ชัดว่ามาจากคนละยุคสมัยอย่างแน่นอน”
“ฮะ!”
จู่ๆ เย่ฟ่านก็อุทานด้วยความตกใจอีกครั้ง ในน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ชิ้นพิเศษ มีชายหนุ่มคนหนึ่งถูกผนึกไว้ตรงกลาง เขาจ้องมองด้วยความงุนงงและเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนั้นคือตู้เฟย
เมื่อเย่ฟ่านพยายามมองให้ชัดเจน ชิ้นส่วนของน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ก็จมลงในของเหลวเบื้องล่างและไม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง นั่นทำให้เย่ฟ่านไม่สามารถมองเห็นตู้เฟยได้อีก
“นี่คือตู้เฟยจริงๆหรือ? เขาตกลงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว?” เย่ฟ่านตกอยู่ในความงุนงง
“ไม่ ข้าต้องเข้าไปดูด้วยตาของตัวเอง!” ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากจะรู้
“เจ้าเด็กน้อยอย่าเสี่ยงดีกว่า มีเพียงเซียนเท่านั้นที่สามารถก้าวเข้าไปข้างในได้ แม้ว่าเจ้าจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งไม่มีใครเทียบได้ แต่เจ้าก็ต้องตายอย่างแน่นอน” หลี่เทียนพยายามห้ามปราม
อย่างไรก็ตาม เย่ฟ่านได้ตัดสินใจแล้ว จุดประสงค์หลักของการเดินทางครั้งนี้คือการตามหาตู้เฟย ตอนนี้เขามองเห็นตู้เฟยแล้วเขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร
“บูม!”
ดูเหมือนเย่ฟ่านจะพังเข้าไปในหลุมดำที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายร้อยวาคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากบ่อน้ำและกวาดออกไปรอบทิศทาง
อย่างไรก็ตาม เย่ฟ่านไม่ได้เกิดความหวาดหวั่น ร่างของเขาพุ่งเข้าไปในทิศทางนั้นอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า
“ร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งยิ่งกว่ายักษ์โบราณเหล่านั้นเสียอีก?” หลี่เทียนอุทาน
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เย่ฟ่านเข้าใกล้ถ้ำโบราณแห่งนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มมีบาดแผลปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยวาแต่เลือดของเขากลับไหลอาบไปทั่วร่างกาย
“ไม่ใช่เซียนจงหยุดยั้ง!”
มีแผ่นหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของถ้ำโบราณ อักขระเหล่านี้ทำให้เย่ฟ่านรู้สึกตกตะลึง และสัมผัสได้ถึงรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากตัวอักษร
ในเวลานี้ แม้ว่าเขาจะเอาค้อนทองคำม่วงออกมามันก็ไม่มีทางที่เขาจะเข้าไปในถ้ำที่อยู่ตรงหน้าได้ หากฝ่าฝืนเก้าเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อยร่างของเขาจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน
“พี่เย่ได้โปรดหยุดก่อน สหายของเจ้าถูกแช่แข็งมานานนับสิบปีแล้วหากเขาตายก็คงตายไปตั้งแต่แรก หากเขายังไม่ตายก็ควรจะทนได้อีกหลายปี เจ้าควรจะกลับมาอีกครั้งหลังจากที่บรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว”
เอี๋ยนอี้ซีกล่าวด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จากทางด้านหลัง
เย่ฟ่านขมวดคิ้วและมองไปข้างหน้า เขาไม่มีทางผ่านไปได้จริงๆ อย่างน้อยที่สุดต่อให้เขาไม่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะก็ควรจะบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เสียก่อน
“ผู้อาวุโสยังจำข้าได้หรือไม่? พวกเราเคยเจอกันในภาคเหนือของตงหวง” เย่ฟ่านตะโกน
อย่างไรก็ตาม หญิงชราที่นั่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ราวกับว่านางตายไปหลายสิบปีแล้ว
เย่ฟ่านเกิดความตกใจเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าปฏิกิริยาของหญิงชราคนนี้คืออะไร นี่คือปรากฏการณ์ในระหว่างที่ผู้บ่มเพาะกำลังจะพิสูจน์เต๋าเพื่อกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ
หากนางประสบความสำเร็จนางจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แต่หากประสบความล้มเหลวนางจะหลับไหลไปตลอดกาล
“ผู้อาวุโสราชาแห่งเผ่าพันธุ์โบราณมากมายทยอยตื่นขึ้นแล้ว ผู้อาวุโสชายชราผู้บ้าคลั่งเสียชีวิตในการต่อสู้ที่ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ย ตอนนี้ผู้อาวุโสเป็นเพียงคนเดียวที่จะสามารถยับยั้งสถานการณ์อันเลวร้ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้” เย่ฟ่านตะโกนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหญิงชรายังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างเงียบๆ และไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา!
“นางกำลังรอแสงอมตะที่ส่องสว่างมาจากนอกโลกเพื่อใช้พิสูจน์เต๋า หรือว่านางพิสูจน์เต่าล้มเหลวไปแล้ว?”
เย่ฟ่านตกใจ เพราะหลังจากที่เขาใช้ดวงตาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง เขาก็เห็นว่าร่างกายของหญิงชรารายล้อมไปด้วยลวดลายเต๋าที่ซับซ้อนต่างๆ ในเวลาเดียวกันวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางก็หายสาบสูญไปโดยสิ้นเชิง
นี่คือสัญลักษณ์พิเศษของเซียนโบราณที่พิสูจน์เต๋าไม่สำเร็จและร่างของนางกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นพลังของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นราคาที่ทุกคนต้องจ่ายหากที่สุดเต๋าล้มเหลว!
“บางทีนางอาจจะตายไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน?”
เย่ฟ่านอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและถอนหายใจ เซียนมนุษย์อีกคนตายไปแล้ว เมื่อเหล่าราชาโบราณตื่นขึ้นจะมีใครสามารถปกป้องมนุษย์ในโลกใบนี้ได้
แม้จะมีการส่งเสียงเรียกอีกหลายครั้ง แต่หญิงชราตรงหน้านางก็ไม่ตอบสนองเลย นางยังคงนิ่งเฉย ราวกับรูปปั้นหิน เย็นชาและไม่มีชีวิตชีวา
มีเพียงพีระมิดสีเขียวที่อยู่ในฝ่ามือขวาของนางเท่านั้นที่ยังคงปลดปล่อยแสงสีเขียวจางๆ เข้าสู่ร่างกายของหญิงชรา และทำให้สภาพร่างกายของนางเหมือนกับผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่
“หรือว่าพีระมิดนี้กำลังรักษาร่างกายของนางไว้เพื่อรอคอยให้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง…”
เย่ฟ่านถอนหายใจ กระบวนการนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าหญิงชราที่อยู่ตรงหน้าตายไปแล้ว เย่ฟ่านเชื่อว่านางอาจจะกำลังรอให้แสงอมตะปรากฏขึ้น แต่นางก็ล้มเหลวที่จะได้มันมา ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ตายอยู่ที่นี่แบบนี้