บทที่ 583: เจ้าเชื่อในตัวข้าหรือไม่?
หลังจากหูเจียวเจียวร้องบอกหลงโม่ เธอก็หันศีรษะไปมองที่ลูก ๆ ทั้ง 4 คน ก่อนจะพูดกับพวกเขาว่า
“อวี้เอ๋อ เจ้าพาน้อง ๆ เข้าไปรอแม่ในบ้าน ถ้าหิวก็เข้าครัวหาอะไรกินรองท้องไปก่อน อีกสักพักพ่อกับแม่จะกลับมา”
“ท่านแม่! เสี่ยวเหยาก็จะออกไปตามหาพี่สี่กับพี่หยินชางด้วย!” หลงเหยามองแม่จิ้งจอกด้วยท่าทีกระตือรือร้น
เมื่อหลงจงได้ยินดังนั้นจึงกดศีรษะของน้องชายคนเล็กไว้แล้วพูดว่า “เสี่ยวเหยา อย่าสร้างปัญหา”
ส่วนหลงอวี้ก็พยักหน้ารับคำผู้เป็นแม่อย่างเชื่อฟัง “ท่านแม่ไปเถอะ ข้าจะคอยดูแลพวกเขาเอง”
“ท่านแม่ ท่านออกไปตามหา 2 คนนั้นเร็วเข้าเถอะ” หลงเซียวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ท่าทางของเด็ก ๆ ดูเชื่อฟังมาก หูเจียวเจียวจึงไม่กล้าที่จะเสียเวลาอีกต่อไป
หลังจากหญิงสาวกำชับให้พวกเขาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยเวลาอยู่ที่บ้านอีกครั้ง เธอก็ออกไปตามหาหลงหลิงเอ๋อและหยินชางพร้อมกับหลงโม่
มังกรหนุ่มรู้ดีว่าจิ้งจอกสาวอาจจะไม่สบายใจถ้าต้องรออยู่ที่บ้าน ดังนั้นเขาจึงตกลงที่จะพานางออกมาด้วย
ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มตามหาหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางในเส้นทางที่พวกนางใช้กลับบ้านเป็นประจำ แต่เขาก็ยังไม่พบพวกนาง ทั้ง 2 คนจึงวางแผนที่จะค้นหาให้ละเอียดมากขึ้นอีก
ขณะเดียวกันนั้น ในลานบ้าน
ทันทีที่พ่อแม่จากไป หลงอวี้ หลงจง และหลงเซียวก็หันมามองหน้ากัน
“ไปไหม?”
“ไป!”
หลิงเอ๋อกับหยินชางหายตัวไป แล้วจะให้พวกเขาทนรออยู่เฉย ๆ ได้อย่างไรกัน?
หลงเหยาที่กำลังมองดูพี่ทั้ง 3 คนด้วยสายตาว่างเปล่าก็เอ่ยถามขึ้น
“พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พวกท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไรงั้นหรือ? พวกท่านจะไปไหนกัน?”
“แน่นอนว่าไปหาหลิงเอ๋อกับพี่หยินชางไงล่ะ พวกเราจะออกไปช่วยตามหาด้วย!” หลงจงพูดอย่างกระตือรือร้น
เด็กน้อยที่ได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างทันที
“แต่… ท่านแม่เพิ่งบอกว่าให้เรารออยู่ที่บ้าน แล้วก็ไม่ให้ออกไปวิ่งเล่นที่ไหนนะ”
สมองเล็ก ๆ ของเขาตามความคิดของพี่ชายทั้ง 3 ไม่ทันเลยจริง ๆ
“อีกอย่าง พี่ใหญ่ก็เพิ่งจะรับปากกับท่านแม่ว่าจะอยู่ที่บ้านอย่างเชื่อฟัง…”
หลงจงเหลือบมองไปทางน้องเล็กอย่างหมดความอดทนก่อนจะชิงถามขึ้นมาว่า “แล้วเจ้าจะไปไหม? ถ้าไม่ไปก็อยู่บ้าน”
“ไป!” หลงเหยาที่ยังกังวลเกี่ยวกับคำสั่งของแม่จิ้งจอกก่อนหน้านี้ก็ตอบกลับทันทีโดยแทบไม่ได้หยุดคิด
จากนั้นเด็กทั้ง 4 จึงแปลงเป็นร่างสัตว์แล้วพากันออกจากบ้านไป และไม่ลืมที่จะปิดประตูบ้านให้เรียบร้อยก่อนอีกด้วย
หากมองจากนอกบ้าน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าในตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านเลยสักคน
…
กลับไปที่อีกฝั่งหนึ่ง
ขณะนี้หูเจียวเจียวกับหลงโม่กำลังค้นหาไปตามถนนที่มุ่งสู่บ้านของตน
ปัจจุบันท้องฟ้าเกือบจะมืดแล้ว ทำให้บริเวณโดยรอบปกคลุมไปด้วยความมืดมิด และผู้คนที่อยู่ตามท้องถนนก็น้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้การค้นหาเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังคงไม่พบหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางเลย
เวลาผ่านไปไม่นาน ในที่สุดมังกรดำก็ร่อนลงมาถึงสถานที่ซึ่งยังคงมีกลิ่นอายของเด็กทั้ง 2 คนอยู่
“เบาะแสสุดท้ายของหลิงเอ๋อกับหยินชางน่าจะอยู่ที่นี่”
เมื่อจิ้งจอกสาวได้ยินดังนั้น เธอจึงรีบกระโดดลงจากหลังของมังกรตัวโตแล้วมองไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาร่องรอยของเด็ก ๆ
ทว่าเธอกลับรู้สึกเหมือนเจอทางตัน เพราะร่องรอยบนพื้นดูเหมือนจะถูกทำความสะอาดไปแล้ว ทำให้ไม่พบรอยเท้าหรือเบาะแสใด ๆ อยู่เลย
“เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าพวกเขาไปทางไหน?” หูเจียวเจียวขมวดคิ้วพลางถามสามีหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นกังวล
หลงโม่ส่ายหัวตอบเสียงเข้ม “กลิ่นที่นี่ถูกกลบไปหมดแล้ว มันทำให้ข้าไม่สามารถจับทิศทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปได้”
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเตรียมตัวมาอย่างดี
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางไม่ได้หลงทางด้วยตัวเองแน่นอน
จากสถานการณ์ตึงเครียดที่ต้องเผชิญทำให้ใบหน้าของหูเจียวเจียวซีดเผือดทันที ตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดและทรมานจนแทบจะขาดใจราวกับตัวเองกำลังจมอยู่ในน้ำ
“เจียวเจียว” จู่ ๆ หลงโม่ก็เรียกเธอก่อนจะชี้ให้เธอมองไปทางพงหญ้าแห้งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทั้งคู่ยืนอยู่เท่าไหร่
เมื่อมองจากตรงจุดนี้ เธอเหมือนจะเห็นนิ้วของภูตอยู่ในพงหญ้านั้น
อีกทั้งยังมีเลือด 2-3 หยด ที่เปื้อนอยู่บนหญ้าแห้ง คงเป็นเพราะคนร้ายเร่งรีบจนเกินไป จึงพากันจากไปโดยไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน
วินาทีนั้นลมหายใจของหูเจียวเจียวแทบหยุดนิ่ง เธอกับหลงโม่รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ
สิ่งที่พวกเธอเห็นคือภูตชาย 2 คนที่คอยคุ้มกันหลงหลิงเอ๋อ
เมื่อตรวจดูดี ๆ แล้วทั้ง 2 คนยังคงหายใจอยู่ พวกเขาเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น และบาดแผลบนร่างกายของอีกฝ่ายไม่ได้ใหญ่มาก แต่แผลลึกเกินไปทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด สุดท้ายทั้งคู่จึงหมดสติไป นั่นคงเป็นสาเหตุที่พวกเขาถูกโยนทิ้งไว้ในพงหญ้า
ขณะที่จิ้งจอกสาวกำลังตรวจดูแผลบนร่างกายของชายทั้ง 2 จู่ ๆ ก็มีลูกท้อลูกใหญ่กลิ้งลงมาแทบเท้าเธอ พอหญิงสาวสังเกตเห็นมัน เธอก็จำได้ทันทีว่าลูกท้อ 2 ลูกนี้เป็นผลไม้จากในมิติที่ตนนำออกมาแล้วโกหกว่าเก็บมันได้จากในป่า
ในความเป็นจริงลูกท้อในป่าสุกจนเน่าไปตั้งนานแล้วต่างหาก
ทั่วทั้งเผ่าเยว่หู มีเพียงครอบครัวของเธอเท่านั้นที่มีลูกท้อลักษณะแบบนี้
“หลิงเอ๋อกับหยินชางต้องตั้งใจทิ้งสิ่งนี้ไว้แน่ ๆ” แม่จิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าคนที่บาดเจ็บไม่ใช่ลูก ๆ ของตนเอง เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
คนร้ายที่จับตัวหลงหลิงเอ๋อไปจะต้องรู้ว่านางเป็นหมอผี และคนพวกนั้นไม่มีทางที่จะทำร้ายนางแน่นอน ส่วนหยินชางเองก็ฉลาดมากและเขาเก่งมากพอที่จะปกป้องตัวเองได้
ในขณะนี้ชีวิตของเด็กทั้ง 2 คนไม่ควรจะตกอยู่ในอันตราย แต่หลังจากนั้นก็ไม่แน่ว่าพวกเขาจะยังปลอดภัยดีหรือไม่
หูเจียวเจียวยังไม่กล้าที่จะวางใจ เธอหันไปบอกกับหลงโม่ว่า
“หลงโม่ เราหาคนมาพาพวกเขาไปหาหมอก่อนเถอะ แล้วค่อยไปตามหาลูกต่อ”
ภูตผู้คุ้มกันทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เพราะพวกเขาคอยปกป้องหลงหลิงเอ๋อกับหยินชาง ดังนั้นหูเจียวเจียวจึงไม่สามารถปล่อยอีกฝ่ายทิ้งไว้เช่นนี้ได้
“อืม” หลงโม่จึงแบกภูตชาย 2 คนไปที่บ้านของภูตที่อยู่ใกล้บริเวณนี้ที่สุดในทันที
เมื่อคนเหล่านั้นเห็นว่าเป็นภูตมังกรที่มาขอความช่วยเหลือจากตน พวกเขาก็ตอบตกลงโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย
หลังจากส่งผู้ที่บาดเจ็บทั้ง 2 ถึงมือคนอื่นแล้ว หลงโม่กับหูเจียวเจียวก็เริ่มคิดวิธีการค้นหาเด็ก ๆ อีกครั้ง
“ข้าจะไปหาหัวหน้าหลินและขอให้เขาส่งภูตออกไปค้นหาลูก ๆ ให้ทั่วเผ่า” มังกรหนุ่มบอกกับผู้เป็นภรรยาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ตอนนี้พวกเขามีกันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น จึงไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะค้นหาได้ทั่วทั้งเผ่า
หลงหลิงเอ๋อมีสถานะเป็นหมอผี หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนาง แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ร้องขอ แต่หูหลินก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยค้นหานางโดยไม่ลังเลแน่นอน
หลังจากหูเจียวเจียวได้ยินหลงโม่บอกแผนการ เธอก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า
“นั่นช้าเกินไป”
สำหรับพวกเธอ ในตอนนี้เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด
เมื่อมังกรหนุ่มมองไปยังคิ้วที่ขมวดจนแทบจะเป็นปมของจิ้งจอกสาว เขาก็พูดด้วยท่าทางที่รู้สึกผิด
“ถ้ารู้แบบนี้ ข้าน่าจะไปรับหลิงเอ๋อด้วยตัวเอง”
หากเขาไปรับพวกเด็ก ๆ มาก่อนหน้านี้ ทั้งหลิงเอ๋อกับหยินชางก็จะไม่หายตัวไป และเจียวเจียวจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจเช่นนี้
“มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ถ้าความฝันนั้นเป็นลางบอกเหตุ ถึงยังไงเรื่องที่ควรจะเกิดก็ต้องเกิดอยู่ดี”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหาว่าใครเป็นคนผิด เธอเพียงแค่ต้องการให้ลูก ๆ ของเธอกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ในทางตรงกันข้าม ควรจะบอกว่าเธอโชคดีที่ได้รู้เรื่องนี้เร็ว ซึ่งมันทำให้เธอหาวิธีแก้ไขได้ทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เรื่องราวจบเหมือนกับในความฝัน
ต่อมา หูเจียวเจียวก้มศีรษะลง พร้อมกับดวงตาของเธอที่สั่นไหวราวกับว่าเธอกำลังตัดสินใจเรื่องบางอย่างที่สำคัญอยู่
“หลงโม่ เจ้าเชื่อในตัวข้าหรือไม่?” ในที่สุดจิ้งจอกสาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ใบหน้าคมเข้มของมังกรหนุ่มด้วยท่าทางจริงจัง
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ภรรยาสาวของเขาถึงถามคำถามแบบนี้ขึ้นมา แต่เขาก็ตอบกลับไปทันทีโดยไม่ลังเล
“ตราบใดที่เป็นเจ้า ข้าเชื่อทุกอย่าง”
เจียวเจียวเป็นคู่ของเขา ถึงแม้ว่านางจะทำอะไรผิดก็ตาม แต่เขาก็จะมองว่านางถูกต้องเสมอ
“เข้าใจแล้ว” พอหูเจียวเจียวมองเห็นถึงแววตาที่จริงใจของหลงโม่ ความรู้สึกปั่นป่วนในหัวใจของเธอก็หายไปทันที ก่อนที่เธอจะพูดอย่างหนักแน่นว่า
“ข้ามีวิธีหาหลิงเอ๋อกับหยินชาง”
ตั้งแต่ที่หญิงสาวได้รู้ว่าความฝันของเธอคือฝันที่เป็นลางบอกเหตุ เธอจึงคอยพยายามหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในความฝันเกิดขึ้น และเธอยังคิดแผนสำรองไว้แล้วด้วย
เพราะภายในมิติมีของเกือบทุกอย่างที่เธอต้องการ เธอจึงติดตั้งอุปกรณ์ระบุตำแหน่งขนาดเล็กไว้บนตัวลูกสาว
อุปกรณ์ในมิตินั้นล้ำหน้ามาก มันสามารถใช้งานได้แม้ว่าจะไม่มีเครือข่ายสัญญาณดาวเทียมในโลกของภูตก็ตาม
อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็หมดปัญหาเรื่องการระบุตำแหน่งที่หลงหลิงเอ๋ออยู่ ณ ปัจจุบัน
เครื่องระบุตำแหน่งที่ว่านี้จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลักในมิติเพื่อตรวจสอบตำแหน่งของเด็กหญิง ซึ่งถ้าเธอนำมันออกมาจะสามารถบอกได้ทันทีว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ของที่อยู่ในโลกภูต
ถัดมา หูเจียวเจียวเหลือบมองหลงโม่ที่ยังคงเชื่อมั่นในตัวเธอโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
เมื่อหญิงสาวยกมือขึ้นแล้วแบออก หน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดเท่าฝ่ามือที่ดูคล้ายกับโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันก็ปรากฏขึ้นในพริบตา