บทที่ 121 - ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์จักรวาล
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 121 - ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์จักรวาล
"เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน?"
หลินเฉินเดินเข้ามาถาม ถึงแม้เขาจะไม่เปิดปากพูด แต่อีกฝ่ายก็เข้าใจสิ่งที่เขากำลังถามได้ทันที
ในศึกชิงจ้าวยุทธภพครั้งก่อน หลินเฉินได้รางวัลเป็นเวทมนตร์ของพระเจ้า ซึ่งนั่นก็รวมถึงเวทมนตร์โทรจิตด้วย มันสะดวกกว่าเครื่องแปลภาษาเสียอีก
หลังจากเข้าใจแล้ว หลินเฉินก็ตระหนักว่าดาวเคราะห์ดวงนี้ที่ถูกปกคลุมด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ของมหาสมุทรมีชื่อว่าดาวเคราะห์ดีเมอร์ มันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในจักรวาลที่ 6
ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากราชาของดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นหนี้จำนวนมาก ดาวเคราะห์ดวงนี้จึงถูกซื้อไปโดยมนุษย์ต่างดาวที่มีชื่อว่าแพลน
ตอนนี้ผู้ปกครองที่แท้จริงของดาวดวงนี้ได้เปลี่ยนจากราชาดีเมอร์เป็นแพลน ซึ่งแพลนผู้นี้เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงในจักรวาลที่ 6 เขาเชี่ยวชาญในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ของดาวเคราะห์เป็นอย่างยิ่ง
ยามนี้แพลนกำลังขับไล่ชาวดีเมอร์ทั้งหมดออกจากบ้าน เพราะเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนดาวดวงนี้ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดินแดนบนดาวทั้งใบจะถูกเปลี่ยนเป็นสุดยอดโรงแรมและพวกดีเมอร์ที่อาศัยอยู่ในตอนแรกกำลังถูกแพลนไล่ออกจากดาวเคราะห์!
สิ่งที่หลินเฉินและทั้งสองกำลังเห็นอยู่ตอนนี้เป็นภาพของเหล่าดีเมอร์ที่สูญเสียบ้านของพวกเขา เตรียมที่จะอพยพหนีจากดาว
ยานอวกาศขนาดใหญ่เหนือทะเลพวกนั้นคือยานอวกาศอาณานิคมของดีเมอร์
หลังจากรู้สถานการณ์ของดาวเคราะห์ดวงนี้ หลินเฉินก็ถึงกับพูดไม่ออก
เขาไม่ได้คิดเลยว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วย นี่พวกเขาเสียดาวเกิดไปเชียวนะ แถมยังถูกขับไล่อีก จะยอมรับอย่างใจเย็นแบบนี้เลยเหรอ?
“พวกเจ้าไม่ต้องการที่จะต่อต้านบ้างหรือ? ที่นี่คือบ้านเกิดของเจ้าไม่ใช่หรือไง?”
ชาวดีเมอร์ได้แต่ส่ายศีรษะตอบ “ไม่ใช่ว่าไม่มีใครอยากต่อต้าน แต่แพลนเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในจักรวาล ตัวของเขารายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งมากมาย คนที่ต้องการต่อต้านได้ถูกฆ่าโดยคนของเขาไปหมดแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย หลินเฉินก็ใช้เครื่องวัดพลังดู ชาวดีเมอร์นั้นล้วนอ่อนแอมาก มีระดับพลังเพียงไม่กี่สิบ ส่วนอีกจุดหนึ่งมีคนที่ระดับพลังหลักพันและหลักล้านกระจุกตัวอยู่ คนที่มีระดับพลังสูงสุดก็อยู่ที่ 5 ล้านเลย
“ระดับความแข็งแกร่งต่างกันมาก…ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครกล้าต่อต้าน” หลินเฉินส่ายศีรษะเช่นกัน
เขาไม่ได้คิดที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องธุรกิจของคนอื่นอยู่แล้ว แถมมันยังเป็นดีเมอร์เองต่างหากที่ทำให้ดาวเคราะห์ของตนหายไปเอง
ดังนั้นหลินเฉินจึงสอบถามเกี่ยวกับที่ตั้งของตลาดท้องถิ่นและหลังจากยืนยันว่าเขาสามารถซื้อเสบียงที่นั่นได้ เขาก็ออกไปพร้อมกับไทต์และฮานาเซีย
ระหว่างทางเมื่อฟังหลินเฉินพูดถึงสถานการณ์ของดาวเคราะห์ดวงนี้ ไทต์และฮานาเซียต่างก็ถึงอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ทางด้านไทต์รู้สึกประหลาดใจที่มีคนสามารถซื้อดาวเคราะห์ได้ ส่วนด้านฮานาเซียกลับประหลาดใจที่ชาวดีเมอร์กลับขี้ขลาดอย่างน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งพวกนางก็เหมือนกับหลินเฉิน ไม่คิดจะไปยุ่งเรื่องของพวกเขา
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสามคนก็มาที่ตลาด
แม้ว่าผู้คนบนดาวเคราะห์ทั้งใบกำลังยุ่งอยู่กับการอพยพ แต่เนื่องจากพวกเขากำลังอพยพผู้คนจำนวนมาก จึงต้องมีการเตรียมเสบียงสำหรับการเดินทางย้ายถิ่นฐานของพวกเขาด้วย
ดังนั้นในตลาดจึงยังคงมีชีวิตชีวามากพอสมควร
ในไม่ช้า หลินเฉินก็พบร้านค้าที่สามารถจัดหาอุปกรณ์พลังงานและจึงได้เจรจาข้อตกลงการซื้อพลังงานกัน
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หลินเฉินได้ใช้แคปซูลพกพา 3 แคปซูลเพื่อให้ได้พลังงานเพียงพอสำหรับยานอวกาศที่จะเดินทางเป็นเวลาหนึ่งปี
มันก็เป็นเช่นเดียวกับในจักรวาลที่ 7 แคปซูลพกพาจากโลกเป็นเทคโนโลยีมิติที่หายากมากในจักรวาลที่ 6 และมันมีค่ามากสำหรับเหล่าดีเมอร์
หลินเฉินสามารถแลกแคปซูลพกพาสามชิ้นเป็นพลังงานจำนวนมาก ส่วนแคปซูลพกพาอีก 10 แคปซูล เขานำมันไปซื้ออาหาร
แคปซูลพกพาในยามนี้นั้นคล้ายกับเครื่องมือวิเศษสำหรับเหล่าดีเมอร์ที่กำลังอพยพกัน
ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะได้ของที่ต้องการครบหมดแล้ว แต่ก็มีชาวดีเมอร์จำนวนหนึ่งตามหาหลินเฉินเพื่อขอแลกเปลี่ยนกับแคปซูลพกพาสักชิ้นสองชิ้น
เมื่อหลินเฉินและทั้งสองถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มดีเมอร์ ทันใดนั้นเครื่องบินสามลำก็พุ่งเข้ามา
"จงถอยไป! ไสหัวออกไปเสีย!"
"อ่า! นั่นมันเครื่องบินของแพลน!”
เหล่าดีเมอร์ที่อยู่รอบๆ พวกเขาเงียบไปทันที ก่อนที่พวกเขาจะหลีกทางให้
“ข้าได้ยินมาว่ามีคนมาขายแคปซูลที่สามารถเก็บของได้งั้นเหรอ? เป็นผู้ใดกัน?”
เครื่องบินทั้งสามลำลงจอดตรงหน้าหลินเฉิน จากนั้นเอเลี่ยนอวบอ้วนผมสีทองสละสลวยก็เดินลงมาตามด้วยกลุ่มบอดี้การ์ดเอเลี่ยนที่มีรูปร่างหน้าตาหลากหลาย แต่มีออร่าที่ทรงพลังพอสมควร
มนุษย์ต่างดาวผมสีทองคนนี้คือแพลน ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์จักรวาลที่กำลังครอบครองดาวเคราะห์ดีเมอร์อยู่
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ดีเมอร์ทุกคนในที่นี่ก็ชี้ไปทางหลินเฉิน
"เป็นเจ้า? เจ้าไม่ใช่ดีเมอร์นิ?" แพลนมองไปทางหลินเฉินและเอ่ยถาม
"ถูกต้องแล้ว" หลินเฉินพยักหน้า
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แพลนก็ยิ้มอย่างมุ่งร้ายทันที “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ส่งแคปซูลทั้งหมดของเจ้ามาเสีย! ดาวเคราะห์ดีเมอร์เป็นดินแดนส่วนตัวของข้า อีกทั้งข้าก็ยังได้ออกกฎหมายมาแล้ว ยกเว้นดีเมอร์ที่ยังไม่ได้อพยพ ห้ามมิให้ผู้อื่นเข้ามาในดาวเคราะห์ดวงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต!”
“เอาแคปซูลของเจ้ามาให้ข้าและข้าจะไว้ชีวิตเจ้าที่เข้ามาบุกรุก มิฉะนั้นข้าจะให้คนของข้าโยนพวกเจ้าทั้งหมดลงไปในทะเล!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลินเฉินก็เงี่ยหูฟังและมองมาทางอีกฝ่ายด้วยสีหน้าขบขัน
หลินเฉินใช้เวทมนตร์ของเขากับฮานาเซียและไทต์อยู่ ดังนั้นพวกนางจึงสามารถเข้าใจคำพูดของแพลนได้เช่นกัน พวกนางพอได้ยินก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาทันที
“เจ้ากำลังหัวเราะอะไรกัน? รีบส่งมันมาอย่างเชื่อฟังเดี๋ยวนี้นะ!”
แพลนที่โกรธจัดได้โบกมือไล่หลังเขา เพื่อบอกให้ลูกน้องของเขาใช้กำลังได้เลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินเฉินก็อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะไปมา
พวกเขาวางแผนที่จะไม่ยุ่งเรื่องของดาวใบนี้และพร้อมที่จะออกเดินทางทันทีที่การซื้อขายเสร็จสิ้น
ทว่าเจ้าคนผู้นี้กลับกำลังรนหาที่ตายเสียอย่างนั้น
“ฝ่าบาท! ให้ข้าจัดการเอง!” ฮานาเซียกำหมัดแน่นด้วยสีหน้ากระตือรือร้น
จากนั้นฮานาเซียก็บินออกไปโดยไม่รอหลินเฉินพูดอนุญาต นางระเบิดออร่าอันน่าอัศจรรย์ออกมาทันที
ผู้คนโดยรอบถูกพัดหายไปทันที
"เอาเลย! ฆ่านางซะ!”
.
แพลนตะโกนออกมา แต่ก่อนที่บอดี้การ์ดของเขาจะตอบสนอง มันก็ราวกับว่าหมาป่าได้เข้ามาในฝูงแกะ ฮานาเซียฆ่าพวกมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ในยามนี้ แพลนตกตะลึงอย่างมาก เขารีบหนีไปที่เครื่องบินของเขาด้วยความตื่นตระหนก
“อย่าวิ่งหนีสิ!”
เป็นโอกาสหาได้ยากที่ฮานาเซียจะสามารถอวดพลังของตนได้ ดังนั้นนางจึงไม่คิดจะทำพลาดโดยเด็ดขาด ในขณะที่นางกำลังจะตามไป ทันใดนั้นยานอวกาศสีทองขนาดใหญ่ก็บินมาจากระยะไกล มันลอยอยู่เหนือศีรษะของนางจนทำให้ฮานาเซียต้องหยุดและมองดูมัน
สาเหตุที่นางชะงักไป ก็เพราะมีชายผู้หนึ่งที่มีพลังมหาศาลกำลังจ้องลงมาจากยานอวกาศสีทอง