ตอนที่ 134 สระบัววารี(อ่านฟรี)
ตอนที่ 134 สระบัววารี
ลุคลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงพร้อมด้วยแพทย์หลายคนที่พยายามตรวจสอบเขาอยู่ ด้านข้างมีนิโคล บอสตันและไอกะ ทั้งสามอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขากำลังมองดูลุคด้วยความเป็นกังวล
“หมอเข้าเป็นยังไงบ้าง”
“หมอก็ไม่แน่ใจ แต่จากอาการน่าจะเป็นอาการบาดเจ็บตอนทะลวงระดับ หมอแนะนำให้แจ้งทางสำนักงานเหนือมนุษย์เพื่อจะได้ขอแพทย์เฉพาะทางให้มาดูแลคุณลุค ซันเดอร์” หมอกล่าวอย่างระมัดระวัง เพราะชายที่นอนอยู่นี้คือคนที่ทรงอิทธิพลมากคนหนึ่งของเมืองเลย
“ฉันจะไปแจ้งทางสำนักงานเหนือมนุษย์” บอสตันกล่าวกำลังจะหันหลังออกไปจากห้อง เพื่อเดินทางไปสำนักงานเหนือมนุษย์ในทันที
แต่แล้วตอนนั้นนิโคลที่มองดูลุคอยู่ตลอดเวลาก็เห็นลุคลืมตาขึ้นมาแล้ว
“เขาฟื้นแล้ว” นิโคลรีบแทรกตัวผ่านทุกคนไปหาลุคในทันที
“นายเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันรู้สึกคัน” ลุคดึงเอาหน้ากากออกซิเจนออก ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองขึ้น
หมอรีบเข้ามาตรวจอาการของลุคก็พบว่าดวงตาและทุกอย่างของเขาปกติดีมาก
“หมอขอตรวจดูบาดแผลหน่อย” หมอเริ่มปลดผ้าพันแผลบนตัวของลุคบางส่วน ซึ่งตอนนี้ทั้งตัวของลุคโดนพันไปด้วยผ้าพันแผล เพราะตอนพบตัวของเขาร่างกายเหมือนจะปริแตกบาดคล้ายการฉีกของผิวหนังปรากฏไปทั่วทั้งตัว
“แผลยังไม่หาย แต่ว่ากำลังฟื้นตัว” หมอกล่าวออกมา
“ขอบคุณมากหมอ คนอื่น ๆ ด้วย” ลุคกล่าวขอบคุณ
ก่อนที่เขาจะขอให้ทุกคนออกไป เหลือเพียงพรรคพวกตัวเองเท่านั้นที่ยังรั้งรออยู่
“เกิดอะไรขึ้นกับนาย อยู่ ๆ ก็มีระเบิดขึ้นในชั้นที่นายอยู่ พอไปถึงก็พบว่านายนอนด้วยสภาพเลือดท่วมตัวอยู่” บอสตันเข้ามาสอบถาม
“ฉันทำการทะลวงระดับ แต่ว่าพลังงานมันมากเกินไปเลยบาดเจ็บ”
พอได้ยินว่าทำการทะลวงระดับและบาดเจ็บทั้งสามคนก็ทำหน้าตกใจทันที
“บาดเจ็บ! คลื่นพลังเป็นยังไง?!”
นิโคลรีบสอบถามด้วยความเป็นห่วง การทะลวงระดับผิดพลาดนับเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก มันอาจจะแฝงอาการบาดเจ็บถาวรไว้และร้ายแรงสุดถึงขั้นไม่อาจจะทะลวงระดับได้อีกตลอดชีวิต
ลุคเองก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้คลื่นพลังของตัวเองเป็นยังไงบ้าง แต่เขามั่นใจว่าในช่วงสุดท้ายเขาทะลวงระดับผ่านแล้วจริง ๆ
หลังจากตรวจสอบสภาพของตัวเองอีกสักพักลุคก็ต้องขมวดคิ้วในทันที
“ฉันทะลวงผ่านแล้ว แต่ว่าดูเหมือนจะเกิดอาการบาดเจ็บจริง ๆ” ลุคตอบกลับและมองดูสภาพตัวเอง เขาเอยู่ในระดับ D แล้ว แต่ว่าที่ทำให้ลุคมึนงงคือคลื่นพลังเขาอยู่แค่ 10 หน่วยเท่านั้น
นิโคลคิดจะใช้คลื่นพลังของตัวเองตรวจสอบลุค แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ อย่างมากแค่สัมผัสตัวและรับรู้ถึงระดับพลังเท่านั้น เนื่องจากเธอเป็นเพียงระดับ E
“คลื่นพลังของฉันผิดปกติ แต่ว่าถ้าบาดแผลกำลังฟื้นตัวแสดงว่าคลื่นพลังก็อาจจะค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาด้วย” ลุคกล่าว
ทั้งสามคนพยักหน้าเห็นด้วย ถ้าบาดแผลยังฟื้นตัวแสดงว่ามันไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่พลังในการฟื้นตัวของเหนือมนุษย์ใช้การไม่ได้ พวกเขาปล่อยให้ลุคพักผ่อนก่อน ส่วนนิโคลและบอสตันยังมีงานต้องทำ การเปิดของประตูมิติโลกสมบูรณ์ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว พวกเขาต้องเดินทางไปยังที่ตั้งของประตูมิติเพื่อตรวจสอบสถานการณ์
ที่จริงแล้วพวกแข็งแกร่งบางคนเดินทางเข้าไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
หลังจากทุกคนออกไปลุคก็มองดูสภาพมัมมี่ของตัวเองและเลือกจะนอนพักต่ออีกหน่อย ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการฟื้นฟูตัวเอง
บาดแผลเขากำลังหายเรื่อย ๆ พลังในการรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองในระดับ D แข็งแกร่งกว่าระดับก่อนหน้านั้นมาก
“บาดแผลส่วนใหญ่เกิดจากการที่ร่างกายต้องการระบายพลังงานจึงไม่ใช่อาการบาดเจ็บสาหัสอะไรคงใช้เวลาอีก 1 วันในการรักษาตัวเอง แต่ว่าคลื่นพลังอาจจะต้องใช้เวลา 10 กว่าวันในการฟื้นฟูตัวเอง มันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ”
เขาไม่แน่ใจว่าคลื่นพลังหลังทะลวงระดับของตัวเองอยู่ที่เท่าไหร่ แต่มันต้องไม่ต่ำแน่นอน เพราะในตอนที่เขาทะลวงระดับ E มันมากถึง 500 หน่วยเลยทีเดียว คงต้องรอให้ฟื้นคืนมาสมบูรณ์ก่อนจึงจะรู้ได้
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ ลุคเลยถือโอกาสนอนต่อสักหน่อย
หนึ่งชั่วโมงต่อมาไอกะเอาอาหารมาให้ คราวนี้เป็นอาหารจานเนื้อมอนสเตอร์ระดับ D มันเป็นเนื้อที่ให้พลังงานเหมาะในระดับของเขาตอนนี้ ลุคกินพวกมันอย่างหิวโหย เนื้อในระดับ D อร่อยมาก ซึ่งเป็นเนื้อที่หอการค้าหีบสมบัติส่งเข้ามาให้ ทางหอการค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับกิลด์เทพศาสตราวุธ จนถึงขนาดสร้างห้างสาขาอีกแห่งที่เขต 5 ติดกับพื้นที่ของกิลด์เลยทีเดียว
อันที่จริงถ้าใครมองการพัฒนาของกิลด์เทพศาสตราวุธออกพวกเขาก็มองทันทีว่ากิลด์เทพศาสตราวุธจะเติบโตขึ้นไปได้เรื่อย ๆ ด้วยการมีลุคสนับสนุนอยู่ ดังนั้นพื้นที่รอบ ๆ กิลด์จะเจริญมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนั้นพื้นที่ในเขต 5 ราคาที่ดินและอำนาจทางเศรษฐกิจได้แซงเขต 1 ไปแล้ว เนื่องจากมันอยู่ในพื้นที่ใกล้กับประตูมิติมากกว่า
...
ตกบ่ายลุคออกจากห้องพัก เพราะบาดแผลส่วนใหญ่ไม่มีเลือดไหลแล้ว และการอยู่นิ่ง ๆ ทำให้ลุครู้สึกไม่ค่อยชิน เขาเลยออกมาเดินเล่นบ้าง
ตึกกิลด์ในตอนนี้ถูกปิดไปชั่วคราว เพื่อตรวจสอบความเสียหายอีกที เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คนส่วนใหญ่ย้ายออกไปพักยังตึกหลังต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่กิลด์
ส่วนลุคตอนนี้เขาอยู่ที่โรงแรมที่เคยใช้จัดงานเลี้ยง ที่นี่กลายเป็นที่พักของสมาชิกกิลด์และครอบครัว ลุคมีห้องพักส่วนตัวมันเป็นโซนแยกไว้สำหรับสมาชิกระดับสูงโดยเฉพาะแยกออกมาแบบส่วนตัว
ที่นี่มีสระน้ำและสวนขนาดใหญ่ด้วย แต่หลังจากลุคได้ครอบครองโรงแรม เขาก็ปรับเปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นสระบัวและศาลากลางน้ำไป
ลุคไม่ได้ปลูกบัวทั่วไป แต่เขาใช้เหง้าบัววารี เป็นสมุนไพรวิเศษที่พบในป่าบนภูเขาด้านหลังหมู่บ้านผาริมธาร ตอนนั้นลุคได้รับมา โดยมีน้ำตาวารีและเหง้าบัว น้ำตาวารีเขาใช้ไปหมดแล้ว ส่วนเหง้าบัวลุคยังคงเก็บไว้อยู่
ในเมื่อมีแล้วลุคก็ถือโอกาสปลูกมัน แต่ไม่ได้ปลูกเพราะจะทำเงินจากมัน ในตอนนี้ลุคมีเงินจำนวนมากจนไม่สนใจการขายน้ำตาวารีแล้ว แต่เขาปลูกไว้เพื่อชมความงามของดอกบัวเท่านั้น
ตอนแรกคิดว่าจะต้องรอหลายปีกว่าเหง้าบัววารีจะเติบโต แต่หลังจากคืนที่ผ่านมาบัววารีก็เติบโตอย่างรวดเร็วมากจนขยายใบและดอกเต็มสระบัว แม้แต่ลุคก็ยังตื่นตะลึงไม่น้อยเมื่อเห็นมัน
“ดูเหมือนพืชสมุนไพรวิเศษจะตอบสนองมากที่สุด พวกมันเติบโตกันมากขนาดนี้เลยเหรอ” ลุคมองนิ่งค้างไป นอกจากนั้นการที่มีบัววารีจำนวนมากก็ส่งกระทบทำให้มีหมอกปรากฏบนผิวน้ำ ส่วนน้ำในสระก็ใส่ราวกับความว่างเปล่า มันเหมือนกับที่เขาเห็นในถ้ำตอนนั้นไม่มีผิด
“พืชสมุนไพรคงปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เข้ากับตัวของมัน” เขานั่งลงที่ศาลกลางน้ำและรู้สึกว่าที่นี่อากาศเย็นสบายและสดชื่นกว่าที่อื่นมาก
ถ้ามันมีหมากและน้ำชาวางอยู่ด้วย ทิวทัศน์ที่นี่คงเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดไม่มีผิด
แน่นอนว่าลุคไม่ใช่คนที่จะเล่นหมากหรือดื่มของอย่างน้ำชาแบบนั้น แต่เขาก็ยังดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่ได้
...
นิโคลและบอสตัน ทั้งสองขับรถบนถนนลาดยางที่พึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ มันตรงไปที่ป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้โดยตรง ทำให้การเดินทางไม่เสียเวลามากนัก แค่ครึ่งวันก็ไปถึงแล้ว
สุดที่ไปถึงเป็นสถานที่ซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านพักสำหรับฮันเตอร์ที่มักจะเข้าไปในป่ามาก่อน เป็นที่เธอและลุคพบเจออีลิก แต่ตอนนี้บ้านทั้งหมดถูกทุบทิ้งและรอบป่าก็มีกำแพงเหล็กตั้งตระหง่านสูง 10 เมตรกำแพงพวกนี้เป็นแบบประกอบทีละชิ้นจึงสามารถได้ค่อนข้างเร็ว
มันล้อมทั้งพื้นป่าไว้ ไม่รู้ว่าสหพันธรัฐลงทุนไปเท่าไหร่เพื่อสร้างพวกมัน แต่มันก็คุ้มค่ามาก เพราะประตูมิติโลกสมบูรณ์มีความสำคัญมากมายเกินกว่าจะคำนวณได้
ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่สหพันธรัฐและยังมีขุมกำลังใต้น้ำมากมายที่แอบต่อต้านสหพันธรัฐอยู่ ทำให้สหพันธรัฐไม่มีทางให้ขุมกำลังพวกนั้นมีโอกาสแอบลักลอบเข้ามาที่ประตูมิติโลกสมบูรณ์เป็นแน่
ด้านหน้ามีประตูเหล็กกล้าหนา 3 เมตรสูง 10 เมตรกว้าง 10 เมตร สามารถเปิดแยกจากตรงกลางได้ มันปิดขวางเส้นทางมุ่งต่อไป แต่ไม่มีใครคิดจะเข้าไปได้ข้างในคือพื้นที่หวงห้ามแล้ว ทุกคนหยุดรอดอยู่หน้าประตูกันไม่ต่ำกว่าหลายพันคนรวมทั้งนิโคลและบอสตันด้วย
ทั้งสองลงจากรถ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับสายตาที่มองประตูหินสูงขึ้นไปบนฟ้าด้วยความทึ่งและตะลึงกับสิ่งที่เห็น
พวกเขาคิดว่าประตูเหล่านี้ไม่เหมือนสร้างมาให้มนุษย์ตัวเล็ก ๆ แบบพวกเขาเข้าเลย มันราวกับสร้างมาเพื่อยักษ์ ถ้ามียักษ์เดินออกมาจากประตูได้พวกเขาก็คงไม่แปลกใจอีกแล้ว
ประตูมิติโลกสมบูรณ์นี้คล้ายสร้างมาจากหินเป็นรูปตัว U คว่ำลง ไม่มีลวดลายอะไรที่ชวนสะดุดตา ส่วนตรงกลางประตู มันมีหมอกแสงปรากฏขึ้นมาปกปิดไว้ไม่อาจจะมองผ่านไปได้
“พวกเราช่างเล็กกระจ้อยร่อยนัก” บอสตันกล่าวด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ
นิโคลไม่ได้ตอบอะไรกลับ แต่เธอก็รู้สึกไม่ต่างกัน
คลื่น............!!!
“ดูนั้นประตูเปิดแล้ว”
ตอนนั้นเองประตูก็เปิดออก ก่อนที่จะมีทหารขับรถออกมา พวกเขามาพร้อมกับคำประกาศขนาดใหญ่ที่มาติดไว้ที่หน้าประตู คนอื่น ๆ รีบเบียดเข้าไปเพื่ออ่านพวกมัน
นิโคลเบียดเข้าไปด้วยพร้อมกับใช้แหวนเครือข่ายไกอาสแกนรหัสประกาศ ก่อนจะถอยออกมา รหัสเหล่านั้นมีไว้สำหรับการคัดลองประกาศ เพื่อแสดงบนแหวนเครือข่ายไกอา
ทั้งสองกลับมาที่รถ พวกเขาอ่านประกาศพร้อม ๆ
“พวกเขากำลังเตรียมกำลังคนสำรวจรอบแรก” บอสตันมองไปที่ประตูขนาดใหญ่เบื้องหน้า
“กลับกันเถอะ ควรให้ลุคตัดสินใจ”
ทั้งสองกลับไปที่กิลด์เทพศาสตราวุธทันที