(ฟรี)ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 793 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 793 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เส้นทางสุดท้ายของเขาคืออะไร?
เขาจะต้องรอจนกว่าเขาจะทะลวงขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดก่อนจึงจะพิจารณาได้
ศิษย์ของเขาเติบโตขึ้นและสร้างเต๋าของตนเองขึ้นมาแล้ว
ฉู่เซวียนจะเพียงชี้แจงข้อสงสัยของพวกเขาเท่านั้น และจะไม่ก้าวก่ายเส้นทางที่เหล่าศิษย์จะเดินไป
เขามองไปที่ต้นกำเนิดมหาเต๋า ซึ่งขณะนี้ได้ห่อหุ้มหนึ่งในสามของโลกตะวันสวรรค์
ในช่วง 100,000 ปีที่ผ่านมา ความเร็วที่ต้นกำเนิดมหาเต๋าขยายตัวภายในอาณาเขตแห่งความว่างเปล่านั้นเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
มันได้สร้างต้นกำเนิดกฎเหนือลิขิตของอาณาเขตแห่งความว่างเปล่าแล้ว
ความเร็วที่ความโกลาหลและโลกตะวันสวรรค์หลอมรวมกันเพิ่มขึ้น และความเร็วการฝึกฝนของอัจฉริยะที่อยู่ภายในก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีสนามรบโบราณและเขตแดนลับบางแห่งที่ปรากฏเมื่อเร็ว ๆ นี้ซึ่งมีมรดกจากยอดฝีมือโบราณมากมาย
สิ่งเหล่านี้ดึงดูดอัจฉริยะนับไม่ถ้วนให้ต่อสู้เพื่อมัน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีซากปรักหักพังโบราณอีกแห่งหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งมีข่าวลือว่าเป็นสุสานของมังกรฟ้า หนึ่งในสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณ
ฉู่เซวียนรู้สึกประหลาดใจ
เป็นไปได้หรือไม่ว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณทั้งสี่ตัวถูกคนผู้นั้นฆ่าเพื่อประโยชน์ของตน?
หากเป็นเช่นนั้น แสดงว่าคนผู้นี้เคลื่อนไหวเร็วกว่าที่เขาคาดไว้มาก
ฉู่เซวียนมองไปที่มังกรฟ้า
แม้ว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่จะเป็นรางวัลจากระบบ แต่ต้นกำเนิดของพวกมันก็เหมือนกับอสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณทั้งสี่อย่างไม่ต้องสงสัย
เป็นไปได้ว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ที่เขามีอยู่นั้นถูกระบบสร้างขึ้นจากแก่นแท้ของต้นกำเนิดของอสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณ
เมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ในยุคทอง อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่คือยอดฝีมือขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุด หากขุมอำนาจลึกลับสามารถสังหารพวกเขาได้ในตอนนั้น เขคนผู้นั้นก็น่าจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และอาจต่ำกว่าหรือเทียบเท่ากับยอดฝีมือขอบเขตสวรรค์ชั้นฟ้าน้อย
ช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร
แน่นอนว่าซากศพของมังกรฟ้าจะอยู่ในซากปรักหักพังโบราณนั้นหรือไม่นั้นก็ยังต้องรอดูกันต่อไป
ด้วยการปรากฏตัวของซากปรักหักพังโบราณนี้ อัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์อสูรก็ปรากฏออกมาอย่างล้มหลาม
ฉู่เซวียนมองไปที่อาณาเขตระหว่างความโกลาหลและโลกสวรรค์ เขาพบว่าความโกลาหลดูเหมือนจะจมลงอยู่ภายใต้โลกตะวันสวรรค์
หยินและหยาง?
หากมีสองอาณาเขต แต่ละอาณาเขตเป็นตัวแทนของหยินและหยาง คนผู้นั้นก็มีแนวโน้มที่จะต้องการที่เป็นผู้ปกครองโลกใหม่ที่เขาเปิดขึ้น
ผู้ปกครองความโกลาหลและคนอื่น ๆ วางแผนที่จะทำลายแผนการนี้หรือไม่?
คนผู้นั้นพยายามสร้างสังสารวัฏเช่นกัน
ฉู่เซวียนยังสามารถเดาเหตุผลเบื้องหลังทั้งหมดนี้ได้ นอกเหนือจากการเปิดโลกใหม่และเส้นทางแห่งการฝึกฝนแล้ว คนผู้นี้ยังต้องการเป็นผู้ปกครองโลกใหม่ที่สร้างขึ้นมาอีกด้วย
ผู้ปกครองความโกลาหลและคนอื่น ๆ วางแผนที่จะทำลายแผนนี้หรือไม่?
ฉู่เซวียนมีข้อมูลน้อยเกินไปที่จะสรุปแผนการของอีกฝ่าย
ไม่ว่าในกรณีใด เขาก็เป็นมือที่สามที่แท้จริง ไม่มีใครตระหนักถึงตัวตนหรือเน้าหมายของเขา
ในแง่นั้น ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของฉู่เซวียน
เขาคือผู้บงการที่แท้จริง
ฉู่เซวียนตัดสินใจที่จะขยายแผนการเต๋าสวรรค์ และไม่ได้จำกัดเพียงความโกลาหล เขาต้องการให้เต๋าสวรรค์เข้ามาแทนที่กฎแห่งโลกตะวันสวรรค์ และเติบโตจนกลายเป็นกฎแห่งเต๋าสวรรค์เพียงหนึ่งเดียว
สำหรับต้นกำเนิดมหาเต๋า มันจะกลายเป็นกฎแห่งอาณาเขตแห่งความว่างเปล่า
เมื่อสถานการณ์คืบหน้า อี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงก็จะใช้ประโยชน์จากเวลาที่เปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับอัจฉริยะคนอื่น ๆ
ทุกคนต่างแย่งชิงมรดกที่ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องในสนามรบโบราณและเขตแดนลับมากมาย
ม่านพลังที่แยกโลกตะวันสวรรค์ได้จางหายไปแล้ว และโลกตะวันสวรรค์ก็กลับสู่สถานะสูงสุด มันกำลังเริ่มขยายตัว
อย่างไรก็ตาม มันถูกจำกัดโดยอาณาเขตแห่งความว่างเปล่า และขยายได้เชื่องช้า
หมื่นปีหลังจากที่อี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงบรรลุขอบเขตเต๋าเหนือลิขิต อัจฉริยะจากรุ่นของพวกเขาก็ทะลวงคอขวดด้วยมรดกที่พวกเขาได้รับ
หนึ่งในอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์อสูรได้รับมรดกที่มีอยู่ในซากปรักหักพังโบราณ ซึ่งมีเขามังกรของมังกรฟ้า เมื่อมีมันอยู่ในมือ อัจฉริยะคนนั้นก็ทะยานไปอีกระดับ และสามารถเอาชนะอัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้มากมาย
ในช่วงเวลาหนึ่ง โลกตะวันสวรรค์เต็มไปด้วยอัจฉริยะเช่นนี้ หลายคนเชื่อว่าเขามีศักยภาพที่จะนำเผ่าอสูรไปสู่จุดสูงสุด
เสวี่ยผิงรู้สึกว่าคนผู้นี้หยิ่งมากเกินไป และตัดสินใจกำราบอีกฝ่าย
มหาสงครามเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองและแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีเขามังกร แต่ก็ยังคงพ่ายแพ้ให้กับเสวี่ยผิง
อย่างไรก็ตาม เสวี่ยผิงไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ เนื่องจากเขามังกรเคยเป็นสมบัติระดับจ้าวเหนือสูงสุด มันเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา
ต่อมา อี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงกลับมาขอคำแนะนำจากฉู่เซวียน
จากนั้นทั้งสองคนได้อ่านตำราขอบเขตเต๋าปฐมกาลในศาลาคัมภีร์เพื่อเตรียมเส้นทางสู่ขอบเขตเต๋าปฐมกาล
การปิดด่านของพวกเขากินเวลานานกว่าหมื่นปี และในช่วงเวลานี้ ฉีเล่อร์และฉู่หยู่ก็เริ่มไล่ตามอัจฉริยะรุ่นเก่าได้ทันแล้ว
จนหนึ่งแสนปีผ่านไป ฉีเล่อร์และฉู่หยู่ก็ได้บรรลุขอบเขตเต๋าเหนือลิขิต
ในซากปรักหักพังโบราณ ฉีเล่อร์และอัจฉริยะเผ่าอสูรได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ได้อย่างสูสี
ท้ายที่สุดแล้ว ฉีเล่อร์เพิ่งทะลวงคอขวดได้ และคู่ต่อสู้นั้นก็มีเขาของมังกรฟ้า
ไม่นานหลังจากนั้น ซากปรักหักพังโบราณที่มีมรดกของเต่าดำก็ถูกเปิดออก
ผลที่ตามมาคืออัจฉริยะเผ่าพันธุ์อสูรอีกคนก็ปรากฏขึ้น
ในหลายหมื่นปีต่อจากนั้น สุสานและซากปรักหักพังของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังโบราณก็ปรากฏขึ้นทีละคน และอัจฉริยะหลายคนได้รับประโยชน์ในเวลานั้น พวกเขาใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้อย่างเต็มที่
ขุมอนาจเล็ก ๆ จำนวนมากก็มีความโดดเด่นเมื่ออัจฉริยะของพวกเข้าได้รับโอกาส
ตอนนี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวที่โดดเด่นอีกต่อไป และพวกเขาถูกกดดันจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ
โชคดีที่สถานการณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน สุสานของผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดโบราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้เปิดออก อัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้รับมรดกนั้น
อย่างไรก็ตาม อัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เพิ่งปรากฏได้หลงเสนห์ฉู่หยู่ และยั่วยุฉีเล่อร์ อีกฝ่ายพยายามโจมตีฉีเล่อร์ด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้ทั้งสองต้องต่อสู้กัน
การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลาครึ่งเดือน
ในที่สุดฉีเล่อร์ก็ชนะและทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขาต้องการที่จะฆ่าคนผู้นั้น แต่อีกฝ่ายสามารถหลบหนีไปได้เนื่องจากมรดกและสมบัติที่ได้รับจากสุสานโบราณ
สิ่งนี้ทำให้ความแค้นเกิดขึ้น
ยอดฝีมือรุ่นเก่าของเผ่าพันธุ์มนุษย์หลายคนใช้เหตุการณ์นี้โจมตีฉีเล่อร์ และแบ่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ออกเป็นฝ่าย ทำให้อัจฉริยะหลายคนเริ่มแตกแยกกัน
ท้ายที่สุดแล้ว สำนักเร้นลับนั้นทรงพลังเกินไป และศิษย์จากสำนักก็สังหารยอดฝีมือและอัจฉริยะไปมากมาย สิ่งนี้ทำให้หลายคนอิจฉาพวกเขา
ผู้ที่พ่ายแพ้ให้กับฉีเล่อร์ถึงกับประกาศอย่างหยิ่งผยองว่าเขาจะฆ่าฉีเล่อร์หากพวกเขาต่อสู้อีกครั้งในหนึ่งหมื่นปีหลังจากนี้
ฉีเล่อร์รู้สึกกดดัน ในขณะที่เขาตระหนักว่าสมบัติและมรดกของผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดเหล่านี้ไม่ธรรมดา
ด้วยเหตุนี้ เขาและฉู่หยู่จึงกลับไปที่หุบเขา ซึ่งทำให้หัวใจของซูเซียนเอ๋อร์และชุนหลานชื่นใจ ท้ายที่สุดแล้ว พวกนางได้เลี้ยงดูฉีเล่อร์และฉู่หยู่มาแต่เด็ก
ฉีเล่อร์เล่าให้พวกนางฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และรู้สึกโมโหเป็นพิเศษเมื่อเขากล่าวถึงอัจฉริยะที่หลงใหลในความงามของฉู่หยู่ อีกฝ่ายพยายามช่วงชิงนางไปจากเขา
เมื่อซูเซียนเอ๋อร์ได้ยินดังนั้น นางก็โกรธจัดทันที
ฉู่หยู่เกิดมาจากสมุนไพรวิญญาณ นางงดงามราวกับโดนเทพจ้าแกะสลัก นางปราศจากมลทินจากโลกมนุษย์
แน่นอนว่าคงมีคนชื่นชอบนางมากมาย อย่างไรก็ตาม มันชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ฉีเล่อร์และฉู่หยู่เป็นกิ่งทองใบหยก คู่สวรรค์สร้าง
เป็นเพราะฉีเล่อร์ที่ทำให้ฉู่หยู่ได้รับสติสัมปชัญญ นางเปลี่ยนแปลงและหลีกเลี่ยงโชคชะตาที่จะถูกฉู่เซวียนปรุงเป็นอาหาร
“มันเป็นเพียงสมบัติระดับจ้าวเหนือสูงสุด สำนักเร้นลับมีสิ่งเหล่านี้มากมาย” ซูเซียนเอ๋อร์ตะคอก
“เสี่ยวเล่อร์เอ๋อร์ ครั้งต่อไปที่เจ้าเห็นเขา ฆ่าเขาซะ สอนเขาถึงราคาของความเย่อหยิ่งนั้น!”