บทที่ 58: พูดคุย
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 58: พูดคุย
การต่อสู้ในบริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิลก็ได้สิ้นสุดลง
พวกเขาทั้งสี่มาพบกันในร้านอาหารจีนใกล้ๆ เป็นฐานชั่วคราว
“แล้วพวกนายเป็นใครกันแน่? ทำไมพวกนายถึงมาสู้กับนินจาที่มิดแลนด์เซอร์เคิลล่ะ?!” เจสซิก้าเลิกคิ้วเรียวยาวขึ้นขณะสำรวจผู้ชายที่ดูแปลกๆ ตรงหน้าเธอ โดยเฉพาะแมตต์ที่กำลังสวมหน้ากากอยู่
"ดีเฟนเดอร์ส ทีมที่ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับเดอะแฮน" แม้ว่าลุคและอาซิงจะช่วยให้แมตต์สามารถเอาชนะนินจาของเดอะแฮนที่อยู่ในบริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิลได้สำเร็จ แต่การต่อสู้ครั้งนี้ก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนร่างกายของเขา แมตต์หอบหายใจขณะที่เขาปิดบาดแผลจากดาบบนไหล่ของเขา
"ดีเฟนเดอร์สเหรอ? ฟังดูเหมือนพวกแก๊งลูกกระจ๊อกเลยแฮะ"
“อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว นายควรเปลี่ยนชื่อนะ” เมื่อหันไปมองแมตต์ ลุคก็พูดพร้อมกับยักไหล่
อาซิง "ไม่หรอก ฉันว่าชื่อนี้ฟังดูดีแล้ว"
ลุคเคจ "อาซิง นายเข้าใจใช่ไหมว่าดีเฟนเดอร์สมีความหมายว่าอะไร?"
อาซิง "ฉันรู้น่า นายก็แค่ไม่ชอบนี้ต่างหากล่ะ ก็เหมือนกับชื่อที่ป๊อบตั้งให้นายไง นายก็ไม่ชอบมันเหมือนกัน "
ลุคเคจ “นั่นเป็นเพราะชื่อที่ป๊อบตั้งให้มันห่วยต่างหาก”
อาซิง “ในเมื่อนายมีไอเดียมากมาย ไหนไม่ลองตั้งชื่อให้เราดูล่ะ?”
ลุคเคจ “เพราะฉันไม่ต้องการเข้าร่วมอยู่แล้ว จะไปตั้งทำไม?”
อาซิง “งี้ก็ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเรื่องชื่อเลยนิ”
ลุคเคจ “ก็ถ้าชื่อมันไม่เจ๋ง เดี๋ยวคนเขาก็ไม่กลัวกันหรอก”
...
หลังจากดูอาซิงและลุคทะเลาะกันอยู่พักหนึ่ง...
เจสซิก้าก็หันไปพูดกับแมตต์ที่กำลังรักษาบาดแผลของเขา "ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมทีมของนายจะมีปัญหากับชื่อดีเฟนเดอร์สนะ"
“อืม แต่อย่างน้อยถ้าเป็นการต่อสู้ พวกเขาทั้งคู่ก็ไว้ใจได้” หลังจากจัดการกับบาดแผลบนไหล่ของเขาแล้ว แมตต์ส่ายมือของเขาเพื่อดูว่าการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเขาไหม เขาหันหน้าไปทางเจสซิก้าและถามว่า “แล้วคุณล่ะ? คุณเป็นใครกันแน่? ผมไม่คิดหรอกนะว่านักสืบจะทำแบบที่คุณทำได้”
"บางทีเพราะฉันอาจจะเป็นคนพิเศษ" เธอทำหน้าบูดบึ้งไปทางแมตต์ จากนั้นเจสซิก้าก็เล่าถึงสาเหตุที่เธอมายังบริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิล "เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้คดีมาคดีหนึ่งและหลังจากติดตามคดีแล้ว ฉันก็พบว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับองค์กรที่มีชื่อเรียกว่าเดอะแฮน ฉันจึงติดตามเบาะแสจนมันนำมาถึงบริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิล จากนั้นฉันก็ได้พบกับพวกนาย”
“คุณรู้เรื่องเดอะแฮนสินะ มันไม่ใช่สิ่งที่นักสืบเอกชนจะรู้ได้เลย” แมตต์ขมวดคิ้วและถามต่อ
“ฉันมีวิธีของฉันน่า” เจสซิก้าพูดออกมาอย่างลึกลับ
' ไอ้ ' ทาง ' ที่ว่าของเธอก็นั่งอยู่ข้างๆ นั่นไง'
ในร้านขายของเก่า ไรอันสังเกตสถานการณ์ในร้านอาหารจีนผ่านร่างแยกของเขา เมื่อได้ยินคำพูดของเจสซิก้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดเงียบๆ ในใจ
...
“ผมได้ยินมาว่าแผนล่าสุดของคุณไปได้ไม่สวยเลยนะ มาดามเกา”
ณ บริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิล เมื่อมองไปที่ร่องรอยการต่อสู้ที่ดีเฟนเดอร์สทิ้งไว้ ชายชราผมเงินร่างบางก็เดินเข้ามาใกล้มาดามเกาและพูดด้วยเสียงแหบพร่า
“มันเป็นเพราะความประมาทของฉันเอง” มาดามเกาพิงไม้เท้าของเธอ เหลือบมองไปที่บริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิลและหยุดอยู่ที่รูใหญ่บนผนัง "ฉันคิดว่ามันเป็นแค่หนูตัวเล็กๆ สองตัวที่ฉันจะสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย แต่ดูท่ามันจะกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่แล้วสิ"
“เวลากำลังจะหมดลงแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งในร่างกายที่มันกำลังเลือนหายไป”
ชายชราเตือนมาดามเกา ซึ่งอยู่ข้างๆ เขาว่า "ดูเหมือนว่าเวลาของเรากำลังจะมาถึงอีกครั้งแล้ว"
"ไม่ต้องห่วง คนของฉันพบเบาะแสไอรอนฟิสต์ในประเทศกัมพูชา เรายังมีเวลาเหลืออยู่"
หลังจากผ่านไปหลายศตวรรษ มาดามเกาก็ไม่เคยมีแผนเดียวอยู่แล้ว เพราะเธอเป็นคนที่กลัวตายมากที่สุด แต่เดิม เป้าหมายของเดอะแฮนก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำให้พวกเขาทั้งห้าเป็นอมตะ
"ผมหวังว่าทุกอย่างจะไปได้ด้วยดีนะ" ชายชราพยักหน้า เขามองไปที่บริษัทการเงินมิดแลนด์เซอร์เคิลที่มืดมิดและพูดว่า "ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถเข้ามาดูแลคนพวกนี้ให้คุณได้"
"ไม่จำเป็นหรอก“มาดามเกาส่ายศีรษะและค่อยๆ หันกลับไปพร้อมกับไม้เท้าของเธอและพูดออกมาว่า”คุณไม่จำเป็นต้องทำให้มือของคุณต้องเปื้อนเลย พอดีว่าฉันบังเอิญรู้จักใครบางคนที่มีความเกลียดชังกับคนพวกนี้อยู่"
"คุณกำลังจะสื่อถึง... คิงพินสินะ?"
...
"แล้วสายของเธอบอกอะไรอีกบ้างล่ะ?"
ในร้านอาหารจีน ลุคถามเจสสิก้าขณะกินอาหารจีนที่ดูไม่ใช่ของต้นตำรับมากนัก
“มากกว่าที่นายคิด…ว่าแต่นี้มันกุ้งเหรอ?” เจสซิก้าหันไปหาลุคขณะที่ชี้ไปยังจานที่กำลังจะมาถึงตรงหน้าและถามออกมา
"ไม่หรอก นี้มันอาหารหมูต่างหาก" แมตต์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งข้างๆ เธอ
"แล้วคุณรู้ได้อย่างไรล่ะเนี่ย? คุณมองไม่เห็นไม่ใช่เหรอ?" ถึงจะเห็นในระหว่างการต่อสู้ว่าแมตต์ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เจสซิก้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าเขาสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างอาหารแต่ละจานได้
"เมื่อตาของคุณมองไม่เห็น ความสามารถของประสาทสัมผัสอื่นๆ ก็จะถูกขยายเพื่อแทนที่การมองเห็น"
"ฉันว่าแล้วเชียว! มันคงเป็นแบบเดียวกับความสามารถวิชายุทธ์สายตาแห่งจิตของเราสินะ” อาซิงพูดขึ้นมา คล้ายกับตนอยากเรียกร้องความสนใจ
"พวกนายมันพวกตัวประหลาดชัดๆ" เมื่อมองไปที่คนทั้งสามตรงหน้า เจสซิก้าก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างนั้น จากนั้นเธอก็พูดถึงตัวเอง "ฉันก็เหมือนกันด้วย"
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เจสซิก้าก็เริ่มบอกพวกเขาทุกอย่างที่เธอได้ยินมาจากไรอัน "เท่าที่ฉันรู้มา เดอะแฮนเป็นองค์กรที่ค่อนข้างเก่าแก่และชั่วร้าย พวกเขามีพลังวิเศษบางอย่าง พวกเขารวบรวมผู้คนจำนวนมากเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างในนิวยอร์ก สามีของลูกค้าของฉันก็หายไปเพราะพวกเขา ที่จริง... ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังพยายามทำอะไรกัน"
ลุคเคจ “พลังวิเศษแบบไหนกัน?”
เจสสิก้า “ความเป็นอมตะนับไหม?”
"..."
คำพูดของเจสซิก้าทำให้ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ถึงแม้ว่าแมตต์จะต่อสู้กับเดอะแฮนมาตั้งแต่ต้น ทว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเดอะแฮนจะสามารถใช้พลังลึกลับและน่าสะพรึงกลัวได้เช่นนี้
“ความเป็นอมตะเหรอ? นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอกน่า” ลุคส่ายศีรษะ เขาไม่เชื่อโดยเด็ดขาด
"แล้วการที่คนๆ หนึ่งมีร่างกายคงกระพันป้องกันมีดและเตะทะลุกำแพงก็คงเป็นเรื่องเป็นไปได้สินะ"
'เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมคำพูดของเธอมันดูคุ้นๆ ขนาดนี้?'
คำพูดของเจสซิก้าทำให้ไรอันรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด