ตอนที่ 97 อันดับที่หนึ่งจะถูกเขียนขึ้นใหม่
ตอนที่ 97 อันดับที่หนึ่งจะถูกเขียนขึ้นใหม่
“ฝ่าบาท ประมุขเหยี่ยวถูกซู่เฮาเที่ยนสังหารแล้ว จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ยังมีชายที่แข็งแกร่งอีกคนปรากฏตัวขึ้นเพื่อเข้าร่วมกับซู่เฮาเที่ยนด้วย”
ภายในห้องโถงที่มืดมิด หมิงหวังชิ่งกำลังฟังสิ่งที่ชายในชุดคลุมสีดำพูดอย่างเงียบๆ
“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าเด็กนั่นต่ำไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นแค่แสงของหิ่งห้อยเท่านั้นไม่สามารถเทียบกับแสงพระอาทิตย์อย่างข้าได้ ไปบอกเจ้า ลิง หนู และกระทิงให้ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้!!”
……
“เป็นไปไม่ได้ นายน้อยที่ฆ่าเหล่าสิบนายพลที่ปกป้องอาณาจักรแห่งนี้ได้งั้นรึ?”
ซู่หยุนที่ยืนอยู่ต่อหน้าบรรพบุรุษของเขา พูดออกมาด้วยความไม่เชื่อ
เขารู้สึกตกใจเล็กน้อยและสงสัยว่าทำไมลูกชายของเขาถึงได้กล้าและบ้าได้ขนาดนี้ เป็นไปได้ไหมว่าเป้าหมายของเขาคือการทำให้อาณาจักรเที่ยนซวนทั้งหมดล่มสลาย? ซู่หยุนในตอนนี้ไม่สามารถล่วงรู้ความคิดของซู่เฮาเที่ยนได้อีกต่อไปแล้ว
“ดูเหมือนว่าเขาจะเหนือกว่าเจ้ามากนะ พูดตามตรง ลูกคนที่สามของเจ้านั้นแข็งแกร่งกว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า ดังนั้นอย่าปล่อยให้ลูกชายของเจ้าดูถูกเอาได้และรีบโค่นตระกูลฉินอย่างรวดเร็ว”
บรรพบุรุษของตระกูลซู่มองไปที่ซู่หยุนด้วยความเกลียดชังและพูดด้วยความโกรธ
….
ในตอนเที่ยงของวันนั้น ซู่เฮาเที่ยนกำลังฝึกฝนการแปลงกาย 72 ร่าง และเพลงกระบี่หกสายอยู่ด้านหลังรถม้า
“ความสำเร็จของนายน้อยที่สามนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เขาสามารถเป็นผู้นำได้เมื่อต้องอดทนต่อความยากลำบาก ดังนั้นในอนาคตเขาจะต้องเป็นผู้นำที่ดีได้อย่างแน่นอน!!!”
ซู่เฉิงเฟิงในตอนนี้ไม่ได้ขี่ม้าแต่กำลังตามซู่เฮาเที่ยนด้วยการเดินเท้า
แน่นอนว่าซู่เฮาเที่ยนนั้นได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน
ซู่ขลุ่ยและซู่หนิงซื่อที่ติดตามเขามาก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว นายน้อยที่สามของตระกูลซู่นั้นไม่มีใครสามารถเข้าใจเขาได้อย่างแท้จริงอีกต่อไป
“อีกสามชั่วโมงพวกเราก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว”
ซู่เฉิงหลงเดินไปที่แถวหน้าของกลุ่มรถม้าแล้วหันกลับมาพูดเสียงดังๆให้ทุกคนได้ยิน
หลังจากการเดินทางหนึ่งเดือน ในที่สุดพวกเขาก็ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว
“ข้าไม่รู้ว่าสุดยอดการประลองซวนหลงนั้นจะยากมากแค่ไหน? เพราะแค่พลังของนายน้อยที่สาม ข้าก็รู้สึกว่าข้าไม่สามารถเทียบกับคนอื่นๆที่จะมาเข้าร่วมได้เลย”
ซู่ขลุ่ยจ้องมองไปบนท้องฟ้าและพึมพัมอย่างกังวล
“แม้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะสูงที่สุดในกลุ่มเด็กๆของตระกูลซู่ก็ตาม แต่การเปรียบเทียบกับคนทั่วทั้งอาณาจักรนั้นก็เหมือนกับการขว้างเม็ดทรายไปบนทะเล
เนื่องจากเหล่าอัจฉริยะที่มารวมตัวกันในสุดยอดการประลองซวนหลงนั้นไม่ได้เป็นเพียงอัจฉริยะของตระกูลเพียงตระกูลเดียวเท่านั้น แต่เป็นอัจฉริยะของตระกูลและนิกายทั้งอาณาจักรอีกด้วย ไม่สำคัญว่าพวกเขานั้นจะมีฐานะมากแค่ไหนเพราะเมื่อเทียบกันด้านระดับความสามารถแล้ว เจ้าก็เป็นเพียงเด็กน้อยจากชนบทเท่านั้น หากเจ้าต้องการมีรายชื่อติดหนึ่งร้อยอันดับแรก อย่างน้อยเจ้าจะต้องไปถึงขั้นที่ห้าของระดับผู้เปลี่ยนแปลงพลังจิตวิญญาณ”
ซู่เฉิงเฟิงอธิบายให้ซู่ขลุ่ยได้ฟัง
"ไม่ยากนะ"
"มันก็ไม่ใช่เรื่องยากนะ"
"ใช่มันไม่ใช่เรื่องยากเลย"
แฝดสามนั้นตัวไปด้านหน้าแล้วพูดเบาๆ
มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแฝดทั้งสามคน แต่สำหรับพวกเขาที่ได้เข้าสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญพลังจิตวิญญาณนั้น มันยากพอๆกับการปีนเขาด้วยมือข้างเดียว
ซู่หนิงซื่อเม้มริมฝีปากของเธอด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ครั้งหนึ่งเธอผู้เคยเย็นชาและเย่อหยิ่งแต่ตอนนี้กลับมีความยับยั้งชั่งใจมากขึ้น เธอนั้นไม่มีความมั่นใจของเธอที่จะข่มซู่เฮาเที่ยนอีกต่อไป
“ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในบรรดารายชื่อของคนที่อยู่ในอันดับเฉียนหลงนั้นคือผู้ระดับผู้ฝึกหัดพลังจิตวิญญาณ ซึ่งเห็นได้ว่าการแข่งขันนั้นมันดุเดือดขนาดไหน การแข่งขันนั้นมีการกำหนดอายุไว้ให้ต่ำกว่าหนึ่งร้อยปี แน่นอนว่าภายใต้ระดับเดียวกันนั้น ยิ่งอายุน้อยกว่าก็ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น
ในตอนนี้เจ้าชายอัจฉริยะที่อยู่ในนิกายหวู่หลิงของอาณาจักรเที่ยนซวนนั้น ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 975 ในอันดับรายชื่อ
เนื่องจากเจ้าชายนั้นอยู่ในอันดับที่สองของอัจฉริยะในอาณาจักรเที่ยนซวน แล้วใครเป็นอันดับที่หนึ่ง?
อัจฉริยะอันดับที่หนึ่งของอาณาจักรเที่ยนซวนนั้นคือตงชิงหยาง ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 935 ในอันดับรายชื่อ เมื่ออายุเพียงสามสิบแปด ปี เขามีระดับการฝึกตนผู้ใช้พลังจิตวิญญาณปฐพี ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแกร่งส่วนตัวหรือคุณสมบัติด้านการฝึกฝน เขาล้วนเป็นอัจฉริยะ เมื่อเมียบกับบุตรทั้งทั้งสิบสามนั้น บุตรทั้งสิบสามไม่สามารถเทียบได้เลยแม้แต่น้อย”
ซู่เฉิงเฟิงอธิบายอีกครั้ง
“ท่านผู้อาวุโส ข้าคิดว่าชื่อของอัจฉริยะอันดับที่หนึ่งของอาณาจักรเที่ยนซวนจะถูกบันทึกใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ เขาอายุเพียงสามสิบปีเท่านั้นและมีระดับพลังที่เท่ากับอัจฉริยะอันดับที่หนึ่งในตอนนี้”
ทันทีที่พวกเขาได้ยินแบบนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้น พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ซู่เฮาเที่ยนที่กำลังฝึกฝนอยู่
เขาจะเขียนประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเที่ยนซวนขึ้นใหม่อีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดเชื่อแบบนี้