ตอนที่ 549 2 ทางเลือก
ตอนที่ 549 2 ทางเลือก
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังสับสนกับตัวตนของหยูฮัวที่เขาไม่เคยเห็น จู่ ๆ คู่ต่อสู้ของเขาก็เริ่มทำการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
“ฉันจะฆ่าแก!!” ความตายของจินเหยาหยางทำให้จินกู่ร้องคำรามออกมาด้วยความโศกเศร้า จากนั้นเขาก็หยิบลูกบอลโลหะสีดำออกมาจากแหวนมิติของเขา
“เรามาตายไปพร้อมกันเถอะ!!” จินกู่ส่งเสียงตะโกนก่อนที่เขาจะทุบลูกบอลโลหะลงกับพื้น
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็สัมผัสได้ถึงอันตรายจากสัญชาตญาณ และเขาก็อยากจะรีบพุ่งตัวออกไปเพื่อหยุดจินกู่เอาไว้
“มานี่!” หยูฮัวรีบคว้าร่างของเซี่ยเฟยไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะตะโกนอธิบายขึ้นมาว่า
“นั่นมันคือระเบิดพลังกฎ มันคืออาวุธทำลายล้างสูงที่รุนแรงที่สุดของตระกูลจิน”
ตูม!
ทันทีที่ระเบิดถูกจุดชนวนพื้นที่มิติในบริเวณนั้นก็ถูกทำลายแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ซึ่งในระหว่างนั้นหยูฮัวก็จับเซี่ยเฟยเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งสร้างประตูมิติขึ้นมาในอากาศ
พริบตาต่อมาร่างของหยูฮัว, เซี่ยเฟย, ขนอุยและอุกกาบาตดาร์คเมทัลก็หายไปจากพื้นที่บริเวณนั้นอย่างไร้ร่องรอย
อ๊ากกกก!!
ทันทีที่ร่างของพวกเขาหลุดออกมาจากประตูมิติ หยูฮัวก็กระอักเลือดออกมาจากปากอย่างรุนแรง เพราะเพียงแค่การต่อสู้กับราชากฎพร้อมกัน 2 คนก็เป็นเรื่องที่ตึงมือของเขามากแล้ว แต่เขายังต้องพยายามใช้พลังมิติฝ่าการป้องกันของอาณาเขตปิดกั้นมิติ ในระหว่างที่มันมีการระเบิดมิติเกิดขึ้นอย่างรุนแรงอีกด้วย มันจึงส่งผลกระทบให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรงด้วยเช่นกัน
—
ดวงอาทิตย์เริ่มปรากฏขึ้นบนฟ้าอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้เซี่ยเฟยกับหยูฮัวก็กำลังอยู่ในภูเขาอันแปลกประหลาด ซึ่งนอกเหนือจากขนอุยแล้วมันยังมีอุกกาบาตสีดำและแขนของจินเหยาหยางเดินทางมาพร้อมกับพวกเขาด้วย
ปัจจุบันหยูฮัวกำลังยืนพิงก้อนหินและกระอักเลือดออกมาเป็นระยะ ๆ เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเขามากแค่ไหน
หลังจากนั้นหยูฮัวก็นั่งลงขัดสมาธิพร้อมกับหลับตาโดยไม่พูดอะไร เพื่อพยายามใช้พลังงานส่วนใหญ่ไปที่การฟื้นฟูพละกำลังให้กลับมาโดยเร็วที่สุด
เซี่ยเฟยเลือกที่จะนั่งรออยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ซึ่งระเบิดพลังกฎในก่อนหน้านี้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมาก และถ้าหากว่าหยูฮัวไม่ได้ใช้พลังของกฎปิดกั้นคลื่นกระแทกเอาไว้ ชายหนุ่มก็คิดว่าร่างของเขาก็คงจะแหลกสลายไปพร้อมกับระเบิดแล้วเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันยิ่งเซี่ยเฟยได้รู้จักผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวของหยูฮัวมากขึ้นเท่านั้น เพราะในมุมหนึ่งเขาก็เป็นเพียงแค่พ่อค้าขี้งกที่คิดเงินทุกเหรียญทุกคริสตัลที่เขาเคยเป็นหนี้ชายคนนี้เอาไว้ แต่อีกมุมหนึ่งหยูฮัวก็เป็นราชากฎผู้น่าเกรงขามที่มีมุมบ้า ๆ ในระหว่างการต่อสู้คล้ายกับตัวของเขาด้วย มันจึงทำให้ชายหนุ่มไม่รู้ว่าตัวตนในมุมไหนคือตัวตนที่แท้จริงของหยูฮัวกันแน่
เซี่ยเฟยไม่ชอบคนที่เขาอ่านไม่ออกแบบนี้เลย เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนอันตราย
เมื่อมองไปยังอุกกาบาตดาร์คเมทัลอันล้ำค่า เซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะระงับความตื่นเต้นเอาไว้ได้ นอกจากนี้มันยังมีแหวนมิติสีทองอันส่องประกายอยู่บนนิ้วของจินเหยาหยางที่เดินทางมาพร้อมกับพวกเขาด้วย และในฐานะที่ชายชราผมแดงคนนี้เป็นถึงราชาผู้ใช้กฎ สิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ในแหวนมิติของเขาย่อมไม่ใช่สิ่งของธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน
ลมหายใจของหยูฮัวค่อย ๆ กลับมาคงที่ทีละนิด ขณะที่สีผิวของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีซีดเผือดกลับมาเป็นสีผิวที่มีชีวิตชีวาทีละน้อย
ทันใดนั้นมันก็มีความคิดชั่ว ๆ โผล่เข้ามาภายในหัวของเซี่ยเฟย เพราะถ้าหากว่าเขาฉวยโอกาสสังหารหยูฮัวในตอนนี้ได้สำเร็จ ทั้งอุกกาบาตดาร์คเมทัลและแหวนมิติของจินเหยาหยางก็จะกลายมาเป็นของเขาโดยไม่มีใครมาแย่งไปได้
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หยูฮัวยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดถ้าหากว่าชายหนุ่มต้องการที่จะลงมือ
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ละทิ้งความคิดนี้ไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขารู้ดีว่าหยูฮัวมีระดับพลังที่สูงมาก ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีทางสังหารราชากฎขั้นสูงเพียงลำพังได้ นอกจากนี้เขายังไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะบังเอิญสังหารหยูฮัวได้จริง ๆ แต่การติดอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาเหมือนกัน
หลังจากได้ข้อสรุปภายในใจเซี่ยเฟยก็เดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามของหยูฮัว พร้อมกับหยิบคริสตัลขาวออกมาจากแหวนมิติและเริ่มฝึกฝนกฎแห่งมิติของตัวเอง เพราะท้ายที่สุดเขาก็อยู่ห่างจากการเป็นนักรบกฎขั้นที่ 5 เพียงแค่ก้าวเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะละทิ้งโอกาสเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าหากว่าเขาได้มีเวลาในการพัฒนาตัวเอง
เมื่อหยูฮัวสัมผัสได้ถึงเซี่ยเฟยที่กำลังจดจ่ออยู่กับการพัฒนาพลัง เขาก็เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
‘ฉลาดดีนี่’ หยูฮัวแอบคิดกับตัวเองภายในใจ
…
ในเวลาเพียงแค่ไม่นานเซี่ยเฟยก็เข้าสู่สมาธิทำให้เรื่องอุกกาบาตดาร์คเมทัลไม่ได้เข้ามารบกวนสมาธิของเขาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงมันก็คล้ายกับว่าเขาจะลืมการดำรงอยู่ของตัวเอง เพราะเขาได้มุ่งสมาธิทั้งหมดไปที่การพัฒนาพลังของกฎแห่งมิติ
ในที่สุดอักขระตัวที่ 5 ในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาก็ถูกถักทอขึ้นมาอย่างเสร็จสมบูรณ์ และเมื่อเขาได้ลืมตาตื่นขึ้นมาเขาก็ได้พบกับหยูฮัวที่กำลังจ้องมองมาทางเขาด้วยรอยยิ้ม
อุกกาบาตดาร์คเมทัลและแหวนมิติของจินเหยาหยางยังคงอยู่ที่เดิม ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าหยูฮัวยังไม่ได้แตะต้องของทั้งสองสิ่งนั้นในระหว่างที่เขาใช้เวลาไปกับการพัฒนาพลัง
“นายเลื่อนระดับได้อีกแล้วเหรอ?” หยูฮัวถามด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ ผมพึ่งเลื่อนระดับเป็นนักรบกฎขั้นที่ 5 ว่าแต่ตอนนี้ร่างกายของคุณดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“นายสามารถพัฒนากลายเป็นนักรบกฎขั้นที่ 5 ได้ในเวลาเพียงแค่ 1 เดือนครึ่งเนี่ยนะ! นายรู้ตัวหรือเปล่าว่านายได้สร้างสถิติใหม่ของตระกูลแล้ว ฉันไม่เคยเห็นใครพัฒนาพลังได้เร็วเหมือนกับนายมาก่อนเลย”
“ส่วนร่างกายฉันตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรเท่าไหร่แล้ว ถ้าได้พักสัก 2-3 วันร่างกายก็น่าจะกลับมามีสภาพสมบูรณ์” หยูฮัวกล่าว
“ระเบิดพลังกฎลูกนั้นมันคืออะไรกันแน่? ทำไมพลังทำลายของมันถึงน่าเหลือเชื่อมากขนาดนั้น” เซี่ยเฟยกล่าว
“ตระกูลจินเป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้กฎแห่งมิติในการป้องกันก็จริง แต่ภายในตระกูลของพวกเขาก็มีผู้อาวุโสจินหยานเค่อซึ่งเป็นปรมาจารย์นักประดิษฐ์ชั้นนำอีกด้วย ระเบิดพลังกฎลูกนั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาจากผู้อาวุโสคนนี้นั้นแหละ ตอนนี้ทั่วทั้งดาวคาซาคงจะตกอยู่ในความยุ่งเหยิง เพราะรัศมีการทำลายของระเบิดพลังกฎจะบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างในระยะมากกว่า 100 กิโลเมตร”
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างเข้าใจและต้องยอมรับว่าระเบิดลูกนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่อันตรายมากจริง ๆ
“แต่ตอนจบแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน เพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกเราสังหารคนของตระกูลจินและตระกูลหลิว ท้ายที่สุดทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ตายไปกันหมดแล้ว มันคงไม่เหลือหลักฐานสืบสาวมาจนถึงพวกเราแล้วล่ะ” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกไปเบา ๆ
ทุกครั้งที่หยูฮัวพูดเขาจะจงใจเน้นคำว่า ‘เรา’ มาก ซึ่งมันก็เป็นการสื่อเป็นนัย ๆ ว่าถ้าหากว่าเรื่องนี้หลุดออกไปมันจะต้องมีต้นเหตุมาจากเซี่ยเฟยอย่างแน่นอน
“เอาล่ะถึงแม้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้พวกเราจะมีอันตรายถึงชีวิต แต่ผลตอบแทนที่เราได้รับมาก็คุ้มค่าด้วยเหมือนกัน น่าเสียดายที่ฉันรีบร้อนหนีออกมาก่อน ฉันเลยไม่มีเวลาหยิบแหวนมิติของหลิวฮานซ่งมาด้วย” หยูฮัวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียดาย
เซี่ยเฟยยังคงรับฟังอย่างสงบนิ่งต่อไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“พวกเรามาเริ่มแบ่งของกันเถอะ” หยูฮัวกล่าวขณะเหลือบสายตามองไปยังขนอุยที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม
“พวกเราจะแบ่งกันยังไงดี นายพอจะมีความคิดดี ๆ บ้างไหม?” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับใช้มือยกขึ้นมาลูบคาง
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามทดสอบเขาอยู่
“ที่เราได้รับของพวกนี้มามันก็เพราะพลังของคุณเพียงลำพัง ดังนั้นคุณจะแจกจ่ายพวกมันอย่างไรเรื่องนี้มันก็ล้วนแล้วแต่ความคิดของคุณเลย” เซี่ยเฟยตอบกลับ
“แร่ดาร์คเมทัลมีมูลค่าสูงมาก ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะไม่เสี่ยงชีวิตแย่งชิงมันมาแบบนี้… เอาล่ะฉันมีตัวเลือกอยู่ 2 ทางเลือก นายเลือกมาตัวเลือกหนึ่งก็แล้วกัน”
“ถ้าหากว่านายไม่ต้องการแร่ดาร์คเมทัล นายก็เอาแขวนของจินเหยาหยางไปได้เลย อย่างน้อยเขาก็เป็นราชาผู้ใช้กฎภายในแหวนมิติของเขาย่อมมีสิ่งล้ำค่ากักเก็บเอาไว้มากมายอย่างแน่นอน”
“แต่ถ้าหากว่านายอยากได้แร่ดาร์คเมทัลด้วย ฉันจะแบ่งแร่นี้ให้กับนาย 1 ใน 3 แต่ของทุกอย่างในแหวนมิติจะเป็นของฉัน ซึ่งถ้าหากตัดสินจากขนาดของอุกกาบาต ฉันก็คิดว่าเราน่าจะได้แร่ดาร์คเมทัลสัก 15 กิโลกรัมได้ล่ะมั้ง”
คำพูดของหยูฮัวมีความชัดเจนตั้งแต่แรก โดยเขาพยายามบอกว่าตระกูลจินมีความเก่งกาจในเรื่องการสร้างสิ่งประดิษฐ์ และพยายามใช้แหวนมิติของจินเหยาหยางในการล่อลวงไม่ให้เซี่ยเฟยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับแร่ดาร์คเมทัล
“อุกกาบาตลูกนี้แปลกประหลาดมาก ผมขอเลือกทางเลือกที่ 2 ก็แล้วกันครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ
“นายต้องการที่จะละทิ้งของในแหวนมิติวงนี้ แล้วเลือกอุกกาบาตลูกนี้ใช่ไหม?” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ผมชอบสะสมของแปลก ๆ ตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้สิ่งประดิษฐ์ของตระกูลจินอาจจะนำพาความวุ่นวายมาให้ผมในอนาคตได้เหมือนกัน เพราะถ้าหากว่าผมได้ครอบครองอาวุธพิเศษของตระกูลจินแต่ไม่มีคำอธิบาย มันก็อาจจะทำให้ผมพบเจอกับอันตรายได้ถ้าหากว่าผมบังเอิญไปพบกับสมาชิกของตระกูลจินคนอื่นเข้า” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างมีชั้นเชิง
หยูฮัวรู้สึกหดหู่ไปชั่วขณะ เพราะเขาพยายามใช้แหวนมิติของจินเหยาหยางเพื่อหลอกล่อเซี่ยเฟยแล้ว แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับเพิกเฉยแหวนมิติวงนั้นโดยสมบูรณ์ และอีกฝ่ายก็ยังมีเหตุผลทุกอย่างมารองรับชนิดที่ว่าเขาไม่เหลือช่องว่างที่จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้อีกแล้ว
“โอเค ตกลงตามนั้น! ต่อจากนี้ฉันจะเอาอุกกาบาตลูกนี้ไปถลุงเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันได้โลหะบริสุทธิ์แล้วฉันจะแบ่งโลหะบริสุทธิ์ 1 ใน 3 ให้กับนาย” หยูฮัวกล่าว
“รบกวนด้วยนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากทำการย้ายของทั้งหมดออกจากแหวนมิติแล้ว หยูฮัวก็โยนแหวนทองคำวงเล็ก ๆ ให้กับเซี่ยเฟย
“พื้นที่ในแหวนพอใช้ได้เลย มันน่าจะประมาณ 10,000 ลูกบาศก์เมตรได้ละมั้ง”
10,000 ลูกบาศก์เมตร! นั่นมันมีพื้นที่มากกว่าแหวนมิติวงปัจจุบันของเขาถึง 10 เท่าเลยนะ!!
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เซี่ยเฟยได้ทำการตรวจเช็คแหวนมิติวงนี้แล้ว เขาก็ได้พบว่าความจริงพื้นที่ในแหวนไม่ได้มีเพียงแค่ 10,000 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น แต่มันควรจะมีพื้นที่อย่างน้อย 12,000 ลูกบาศก์เมตรต่างหาก
“หยูฮัวคนนี้ถือว่าเป็นคนดีพอสมควร เพราะถ้าหากว่าเป็นคนอื่นเขาก็คงจะฆ่านายปิดปากไปแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมาแบ่งของให้นายแบบนี้หรอก” อันธกล่าว
“ถึงยังไงเราก็ต้องรอดูเขาไปยาว ๆ ยังดีที่ตอนนี้เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อฉัน แต่ฉันก็จำเป็นจะต้องระวังเขาเอาไว้อยู่ดี เพราะท้ายที่สุดฉันยังมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ
“เชื่อฉันเถอะว่าเขาเป็นคนดี อย่าลืมนะว่าเขาคือคนที่พานายมาดินแดนของผู้ใช้กฎ” อันธกล่าว
“นายคิดดี ๆ ว่ามันเป็นเพราะเขาหรือเป็นเพราะเจ้านี่กันแน่” เซี่ยเฟยลูบขนของขนอุยที่อยู่ในอ้อมแขนเบา ๆ พร้อมกับป้อนคริสตัลขาวให้มันฟื้นฟูพลังงานกลับคืนมา
หลังจากที่เขาได้เดินทางเข้ามาในดินแดนของผู้ใช้กฎ เขาก็สามารถสัมผัสได้เลยว่าหยูฮัวและหยูเจียงให้ความสำคัญกับขนอุยมากกว่าตัวเขาเอง เพราะในตอนนั้นเขาเป็นเพียงแค่คนสมองพิการที่ไม่ได้มีความสามารถในการฝึกฝนกฎใด ๆ ได้ด้วยซ้ำ แล้วมันก็ไม่มีทางที่ราชากฎถึงสองคนจะไม่รู้เรื่องพื้นฐานแบบนี้
“เอาล่ะฉันยังต้องการเวลาพักผ่อนอีก 2-3 วัน นายใช้ประโยชน์จากเวลานี้พยายามเลื่อนระดับไปเป็นนักรบกฎขั้นที่ 6 ก็แล้วกัน”
“แต่ถ้าหากว่านายได้รับความช่วยเหลือจากฉัน การเลื่อนระดับพวกนั้นก็กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ไปเลย ฉันพอจะมีเคล็ดลับที่เอาไว้เร่งการพัฒนาอยู่ นายสนใจอยากจะรู้เคล็ดลับของฉันไหมล่ะ?” หยูฮัวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ลึกลับ
‘เคล็ดลับเร่งความเร็วในการพัฒนา! มันมีของแบบนี้อยู่ในดินแดนของผู้ใช้กฎด้วยงั้นเหรอ?’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจอย่างตกตะลึง
การพยายามเลื่อนขั้นไปยังนักรบกฎขั้นที่ 6 เป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งผู้ใช้กฎหลาย ๆ คนก็ติดอยู่ที่กำแพงนี้ตลอดทั้งชีวิตของพวกเขา แต่จู่ ๆ หยูฮัวกลับต้องการที่จะบอกเคล็ดลับให้เซี่ยเฟยฟัง แล้วเขาจะไม่ตกใจกับเรื่องแบบนี้ได้ยังไง
“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วว่าเขาเป็นคนดี ดูสิเขาจะสอนนายแม้กระทั่งเคล็ดลับการเลื่อนระดับด้วยซ้ำ” อันธกล่าวอย่างมีชัย
“นี่ฉันระแวงเขามากเกินไปหรือเปล่านะ?” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ
***************
แล้วทุกคนล่ะคิดว่าพี่เฟยระแวงเกินไปรึเปล่า?