ตอนที่ 547 ดาร์คเมทัล
ตอนที่ 547 ดาร์คเมทัล
อุกกาบาตพุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงทิ้งเปลวไฟเอาไว้ด้านหลังเป็นทางยาว ขณะเดียวกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดภายในดาวก็เกิดการหยุดชะงักขึ้นมาอย่างกะทันหัน เนื่องมาจากอุกกาบาตลูกนี้ได้ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาอย่างรุนแรง
ตูม!
เมื่ออุกกาบาตปะทะกับพื้นดิน มันก็ได้สร้างคลื่นกระแทกอันรุนแรงราวกับพายุ คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนถึงกับโดนพัดปลิวกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า แม้แต่อาคารเก่า ๆ บางหลังก็ยังพังทลายลงเนื่องมาจากว่ามันไม่สามารถทนต่อคลื่นกระแทกอันรุนแรงได้
เซี่ยเฟยรีบยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาป้องกันใบหน้าและยึดเท้าเอาไว้กับพื้นอย่างมั่นคง แต่ในทันใดนั้นเครื่องสื่อสารที่หยูฮัวให้ไว้บนข้อมือของเขาก็เริ่มร้อน พร้อม ๆ กับมีประกายไฟแลบแปร๊บ ๆ ออกมา
ชายหนุ่มรีบถอดเครื่องสื่อสารโยนทิ้งอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่ออยู่ในพายุแม่เหล็กไฟฟ้าชิพทั้งหมดจะถูกทำลายในทันที ดังนั้นถ้าเขาไม่รีบถอดมันออกมา แขนของเขาก็อาจจะได้รับความเสียหายในระหว่างที่ชิพเกิดการระเบิดได้
โดยปกติแล้วดาวเคราะห์ที่มีอารยธรรมจะมีการติดตั้งเครื่องป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากอุกกาบาตลูกนี้มีความรุนแรงมาก จนทำให้ถึงแม้ว่ามันจะมีเครื่องป้องกันแต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์
“กระป๋อง!”
เซี่ยเฟยตะโกนขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด เพราะกระป๋องเป็นหุ่นยนต์ที่มีชิพประมวลผลอยู่ทั่วทั้งร่างกาย เขาจึงไม่รู้ว่ากระป๋องได้รับผลกระทบจากคลื่นพายุแม่เหล็กไฟฟ้าลูกนี้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากว่ากระป๋องได้รับผลกระทบเข้าไปจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ตามมามันก็อาจจะเป็นหายนะ
ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฟยจึงรีบนำกระป๋องออกมาจากแหวนมิติในทันที ซึ่งหุ่นยนต์ตัวเล็กก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวอยู่เล็กน้อย แต่ร่างของมันก็ยังไม่แสดงถึงปัญหาจากการถูกรบกวนจากพายุคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
“นายท่าน ที่นี่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารุนแรงมาก” กระป๋องกล่าวพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทางที่หวาดกลัว
“ตอนนี้นายโอเคไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
“เมื่อกี้กระป๋องอยู่ในแหวนมิติที่มีชั้นของมิติกั้นอยู่กระป๋องเลยไม่เป็นอะไร ส่วนตอนนี้กระป๋องก็ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน เพราะกระป๋องได้ร่างกายใหม่มาจากเทพธิดาผู้พิทักษ์ ซึ่งมันทนทานต่อการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ดีมาก” กระป๋องกล่าวตอบ
เมื่อได้รับคำตอบเซี่ยเฟยก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากที่เขายืนยันแล้วว่ากระป๋องยังคงปลอดภัยดี เขาก็เก็บมันเข้าไปในแหวนมิติอีกครั้งเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ด้วยการที่อุกกาบาตตกลงมาอย่างฉับพลัน มันจึงทำให้ทั่วทั้งท้องถนนตกอยู่ในความโกลาหล ทั่วทุกที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและส่งเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาตลอดเวลา ขณะที่นักธุรกิจกำลังบ่นว่าอุปกรณ์ที่เสียหายทำให้ข้อมูลการค้าทั้งหมดของพวกเขาหายไป
“นี่มันเป็นผลของดาร์คเมทัลจริง ๆ สินะ” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ
“ดาร์คเมทัล? มันคืออะไร?” อันธถามด้วยความสับสน
“ดาร์คเมทัลเป็นโลหะผสมคุณภาพสูงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถสังเคราะห์โลหะชนิดนี้ขึ้นมาได้ ทำให้มันกลายเป็นโลหะที่มีมูลค่าสูงมาก ฉันได้เรียนรู้เรื่องนี้มาตอนที่ฉันกำลังศึกษาเทคโนโลยีของอารยธรรมโบราณ”
“นี่คือหนึ่งในโลหะที่ดีที่สุดสำหรับการนำไปใช้สร้างอาวุธ ส่วนพายุคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่กำลังสร้างความเสียหายอยู่ตอนนี้ ก็เกิดขึ้นมาจากการที่อุกกาบาตที่มีดาร์คเมทัลได้เสียดสีกับชั้นบรรยากาศ” เซี่ยเฟยอธิบายขณะจ้องมองไปยังทิศที่อุกกาบาตได้พุ่งลงไปตกในระยะไกล
เนื่องมาจากดาวคาซาเป็นดาวศูนย์รวมทางการค้า มันจะต้องมีผู้คนจำนวนมากที่รู้จักคุณค่าของดาร์คเมทัลอย่างแน่นอน และในขณะนี้การต่อสู้เพื่อแย่งชิงดาร์คเมทัลมันก็น่าจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามเครื่องสื่อสารที่หยูฮัวได้ให้เขาเอาไว้ก็ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถจะกู้คืนกลับมาได้อีกแล้ว เซี่ยเฟยจึงไม่รู้ว่าเขาจะติดต่อกับหยูฮัวยังไง และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังอยู่ที่ไหน
“พวกเราลองไปดูที่เกิดเหตุกันก่อนเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวก่อนที่เขาจะรีบวิ่งตรงไปยังจุดตกของอุกกาบาตอย่างรวดเร็ว
“หือ? นี่แม้แต่ประตูมิติก็ยังได้รับความเสียหายด้วยเหรอเนี่ย?! พายุแม่เหล็กไฟฟ้ารอบนี้รุนแรงมากจริง ๆ” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อในระหว่างทางเขาได้พบว่าแม้แต่ประตูมิติของเมืองก็ยังได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
หากประตูมิติทั้งหมดได้รับความเสียหาย มันก็อาจจะสามารถกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเส้นทางเข้าออกเมืองคาซาได้ถูกปิดกั้นเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะอุปกรณ์ทุกชิ้นต่างก็ล้วนแล้วแต่จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นประตูมิติหรือยานอวกาศต่างก็ไม่สามารถนำมาใช้การบนดาวดวงนี้ได้
ระหว่างทางเซี่ยเฟยได้พบกับนักสู้หลายคนกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังจุดตกอุกกาบาตด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ชายหนุ่มยังไม่สามารถยืนยันได้ว่านักสู้พวกนี้กำลังเดินทางออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น หรือพวกเขาต้องการจะแย่งชิงดาร์คเมทัลที่อยู่ในอุกกาบาตกันแน่
มูลค่าของดาร์คเมทัลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่าได้อย่างแท้จริง และเมื่อพิจารณาจากปริมาณของดาร์คเมทัลที่อยู่ในอุกกาบาต มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองดาร์คเมทัลครั้งนี้ใช้ชีวิตอย่างสบายไปชั่วชีวิต
สถานที่ซึ่งเป็นจุดตกของอุกกาบาตยุบลงไปในพื้นดินหลายร้อยเมตร และพื้นดินบริเวณโดยรอบก็เป็นดินร้อน ๆ ที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังมุ่งหน้าเข้าหาปล่องภูเขาไฟ
“ฆ่ามัน!”
ก่อนที่เซี่ยเฟยจะเข้าใกล้จุดตกของอุกกาบาต เขาก็ถูกกลุ่มคนจำนวนมากปิดล้อมเอาไว้เสียก่อน
“ฉันต้องหลบพวกนี้ไปก่อน!!”
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยบิดตัวหลบการโจมตีพร้อมกับเร่งความเร็วอย่างฉับพลัน แต่หลังจากที่เขาได้วิ่งไปข้างหน้าอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เขาก็ได้พบว่าพื้นที่บริเวณนี้ก็มีการฆ่าฟันอยู่เหมือนกัน
การต่อสู้มีอยู่ทุกที่!
เลือดไหลนองไปทั่วทั้งพื้นดิน!
เสียงร้องโหยหวนของผู้บาดเจ็บดังขึ้นมาตลอดเวลา!
เซี่ยเฟยพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ทั้งหมดและมุ่งหน้าเข้าใกล้จุดตกของอุกกาบาต โดยอาศัยความเร็วและวิชาเล่ห์กายาในการหลบหลีกการโจมตีทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว
ในที่สุดชายหนุ่มก็ได้พบกับอุกกาบาตสีดำที่กำลังนอนอยู่ก้นหลุม ซึ่งมันเป็นอุกกาบาตที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงแค่ประมาณ 1 เมตร เพราะด้วยแรงเสียดทานจากชั้นบรรยากาศในระหว่างที่มันพุ่งตกลงมา มันจึงทำให้พื้นผิวอุกกาบาตถูกเผาไหม้ไปแล้วเป็นส่วนใหญ่
ขณะเดียวกันสถานการณ์ในปัจจุบันก็มีคน 3 คนยืนนิ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยสายตาของพวกเขาต่างก็กำลังจับจ้องมองไปยังอุกกาบาต และมีนักรบกฎบางคนที่กำลังต่อสู้อยู่บริเวณรอบ ๆ
หยูฮัว!
เซี่ยเฟยสามารถจดจำได้อย่างรวดเร็วว่า 1 ใน 3 คนที่กำลังอยู่ใกล้อุกกาบาตมากที่สุดคือหยูฮัว ส่วนชายอีกสองคนเป็นชายชราผมแดงและชายวัยกลางคนร่างขาว
ขณะเดียวกันมันก็อาจจะเป็นเพราะรูปลักษณ์ปัจจุบันของเซี่ยเฟยที่อยู่ในร่างของชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าอันน่ากลัว มันจึงทำให้เขาถูกปิดล้อมในทันทีที่เขาได้ปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชน
ตอนแรกเขาได้ใช้น้ำยาศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เขาสามารถสืบหาข้อมูลของหมิงกุยได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แต่ใครจะไปรู้ว่ารูปลักษณ์ใหม่นี้ได้ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจทันทีในทุก ๆ ที่ที่เขาเดินทางไป
“ไปลงนรกซะ!”
ผู้ใช้กฎแห่งสสารคนหนึ่งเริ่มทำการเคลื่อนไหวบังคับพื้นดินให้กลายเป็นคมมีดจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยบิดตัวหลบไปด้านข้าง จากนั้นเขาก็พุ่งตัวด้วยความเร็วไปปรากฏตัวบริเวณด้านหลังของนักรบคนนั้น
ตูม!
หมัดที่ผสมไปด้วยกฎแห่งความโกลาหลปะทะเข้ากับร่างของผู้ใช้กฎแห่งสสารอย่างรุนแรง จนทำให้มีเลือดสด ๆ สาดกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่
“แรงมาก!!” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นการโจมตีด้วยกฎแห่งความโกลาหลขั้นที่ 2 เป็นครั้งแรก
ในความเป็นจริงแม้แต่ตัวของเซี่ยเฟยเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน เพราะเขาเพิ่งจะมีโอกาสใช้กฎแห่งความโกลาหลขั้นที่ 2 เข้าร่วมการต่อสู้ในสถานการณ์จริงครั้งนี้เป็นครั้งแรก เขาจึงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพลังของมันจะได้เพิ่มขึ้นจากเดิมไปหลายเท่าแบบนี้
ในเวลาเดียวกันหยูฮัวก็หรี่ตาลงพร้อมกับขมวดคิ้ว เพราะการเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยมันเกินกว่าความคาดหมายของเขาไปไกลมาก
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสามคนก็กำลังยืนนิ่งอยู่เฉย ๆ เป็นรูปสามเหลี่ยม ราวกับว่าพวกเขาเป็นรูปปั้น เซี่ยเฟยจึงไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้กำลังพยายามทำอะไรอยู่กันแน่
ทันใดนั้นเองมันก็ได้มีเสียงร้องคำรามดังขึ้นมาจากพื้นที่ใจกลางหลุมอุกกาบาต ก่อนที่มันจะได้มีร่างของผู้ใช้กฎคนหนึ่งพยายามจู่โจมเข้าใส่หยูฮัว แต่โชคไม่ดีที่ร่างของเขาเหมือนกับได้ปะทะเข้ากับอะไรบางอย่าง และมันก็มีพลังงานอันน่ากลัวแทรกซึมเข้าไปภายในร่างของเขาในทันที
อ๊ากกกก!
ชายคนนั้นล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมากและเสียชีวิตลงไปในเวลาเพียงแค่ไม่นาน เนื่องมาจากไม่สามารถทนรับพลังงานอันปั่นป่วนภายในร่างกายได้
“ที่แท้หยูฮัวก็กำลังสู้กับสองคนนั้นอยู่นี่เอง แต่พลังกฎที่พวกเขาปล่อยออกมาทำให้เกิดสภาวะสมดุลย์ พวกเขาเลยยืนนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่แบบนั้น” อันธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เซี่ยเฟยพยายามพิจารณาร่างทั้งสามอย่างใกล้ชิด และเขาก็ได้พบว่าอากาศบริเวณรอบ ๆ ตัวคนพวกนั้นคล้ายกับกำลังถูกแช่แข็ง
มันจะต้องเป็นพลังของกฎแห่งมิติแน่ ๆ!
คนพวกนั้นสามารถเผชิญหน้ากับหยูฮัวได้อย่างเท่าเทียมกันงั้นเหรอ? มันหมายความว่าอีกสองคนก็เป็นราชากฎด้วยใช่ไหม?
ราชากฎ 3 คนได้มารวมตัวกันอย่างหาได้ยาก และพวกเขาก็กำลังพยายามแย่งชิงดาร์คเมทัลอันล้ำค่า
เซี่ยเฟยค่อย ๆ เดินอ้อมไปทางด้านหลังของหยูฮัว และคิดว่าเขาจะนำแร่ก้อนนี้ออกไปจากที่นี่ได้ยังไง แต่โชคไม่ดีที่ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดหาวิธีแค่ไหน เขาก็ยังคิดหาวิธีหนีรอดไปจากราชากฎพวกนี้ไม่ได้เลย
กลุ่มคนค่อย ๆ มารวมตัวกันด้านหลังราชากฎอีกสองคนด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือลูกน้องของราชากฎคนนั้น ๆ
“ทำไมพวกเราไม่ปิดที่นี่เอาไว้ก่อนล่ะ? ถ้าหากราชากฎคนอื่นมาพวกเราคงต้องตายอย่างอนาถแน่ ๆ” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของราชากฎอีกสองคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะถ้าหากว่ามันมีราชากฎอีกคนปรากฏตัวขึ้นมาในเวลานี้ มันก็จะทำให้สมดุลย์พลังของพวกเขาทั้งสามพังทลายลงอย่างง่ายดาย
ชายชราผมแดงพยักหน้าเป็นสัญญาณให้กับลูกน้อง ก่อนที่ชายที่อยู่ด้านหลังชายชราคนนั้นจะหยิบวัตถุรูปทรงพีระมิดออกมาจากแหวนมิติ และเอาไปวางไว้ใกล้ ๆ กับจุดศูนย์กลางของหลุมอุกกาบาต
“นั่นมันอาณาเขตปิดกั้นมิติ! ที่แท้ผู้อาวุโสผมแดงคนนั้นก็เป็นคนของตระกูลจิน”
ฝูงชนอุทานขึ้นมาด้วยความกลัว ซึ่งมันก็ดูเหมือนกับว่าตระกูลจินจะเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจในดินแดนของผู้ใช้กฎ
ทันใดนั้นวัตถุรูปทรงพีระมิดก็เริ่มยิงลำแสงสีแดงขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่ลำแสงสีแดงเหล่านั้นจะตกลงมาเหมือนกับสายฝนปกคลุมหลุมอุกกาบาตเอาไว้ ทำให้คนนอกไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ด้านใน แต่คนในสามารถมองเห็นเหตุการณ์ด้านนอกได้อย่างชัดเจน
“จินกู่ จัดการคนนอกให้หมด” ชายชราผมแดงกล่าว
ทันทีที่ชายชราพูดจบนักสู้จากตระกูลจินก็เริ่มสังหารนักสู้ทุกคนในทันที เว้นแต่เหล่าบรรดาผู้ติดตามของราชากฎทั้งสาม
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และมันก็โชคดีที่เขาได้เดินมาอยู่ด้านหลังของหยูฮัว มันจึงทำให้คนอื่นคิดว่าเขาคือลูกน้องของหยูฮัวไปโดยอัตโนมัติ
ขนอุยในอ้อมแขนของเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงอันตราย มันจึงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยแววตาที่บ้าคลั่ง
เซี่ยเฟยต้องพยายามสื่อสารบอกมันว่าให้อยู่นิ่ง ๆ เอาไว้ก่อน เพราะในตอนนี้ราชากฎทั้งสามกำลังเผชิญหน้ากันอย่างเคร่งเครียด และตระกูลจินก็เป็นฝ่ายที่มีนักรบอยู่ในสังกัดมากกว่า 10 คน ส่วนทางฝ่ายของชายร่างขาวก็มีผู้ติดตามอยู่ 8 คน ซึ่งแน่นอนว่าทางฝ่ายของเขาคือฝ่ายที่อ่อนแอที่สุด เพราะมีเพียงแค่เขากับหยูฮัวเพียงแค่สองคนเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ขนอุยจึงได้กลายเป็นไพ่ตายของเขาไปแล้ว และเขาก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กปรากฏตัวออกมาง่าย ๆ เว้นแต่ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ
ในที่สุดคนนอกก็ถูกกำจัดไปจนหมดเหลือเพียงแค่คนของราชากฎทั้งสามฝ่ายเท่านั้น
“ในเมื่อพวกเราไม่สามารถตัดสินผลลัพธ์กันได้ พวกเราก็ควรแบ่งดาร์คเมทัลนี้เท่า ๆ กันเพื่อป้องกันไม่ให้มันกระทบกับมิตรภาพระหว่างพวกเราด้วย” ชายชราผมแดงกล่าว
ชายผิวขาวเริ่มแสดงสีหน้าออกมาอย่างลังเล แต่หยูฮัวกลับส่งเสียงตะคอกออกไปอย่างเย็นชา
“แบ่งเท่า ๆ กัน!? ฝันไปเถอะ!!” ทันทีที่พูดจบหยูฮัวก็ได้ปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างแรงกล้า และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เซี่ยเฟยได้พบว่าพ่อค้าจากตระกูลหยูก็มีด้านที่ดุร้ายแบบนี้เก็บซ่อนเอาไว้อยู่ด้วย
***************
หรือว่าหยูฮัวจะไม่ใช่แค่ราชากฎ?!