บทที่ 139 ความแข็งแกร่งของ เฟิงซินหยู
บทที่ 139 ความแข็งแกร่งของ เฟิงซินหยู
มุมปากของหลินเป้ยยกขึ้น เพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้ เขาจึงซื้อโอสถระดับ 5 ในจากระบบเป็นพิเศษ
โอสถระดับ 5 ชนิดนี้ มีผลทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ที่สำคัญ ผลของยามันได้ผลมากยิ่งขึ้นกับสัตว์อสูร
สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ถ้ากินโอสถชนิดนี้ลงไป มันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้ว ประสิทธิภาพของโอสถชนิดนี้ก็แรงเกินไป
มีเพียงสัตว์อสูรเท่านั้นที่สามารถต้านทานพลังของโอสถนี้ได้ ด้วยโอสถนี้ สามารถทำให้ร่างกายของเสี่ยวเฮยแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
เดิมทีในฐานะสัตว์อสูร การป้องกันของเสี่ยวเฮยนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนมนุษย์ทั่วไปมากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ มันแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกเท้าตัว
โอสถนี้ใช้หลินเป้ยจ่ายไป 700,000 แต้ม ซึ่งมันค่อนข้างแพงจริงๆ
ในฐานะหมาป่าสีคราม การป้องกัยของเสี่ยวเฮยอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรทั่วไป ความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของหมาป่าสีครามคือความเร็ว
แต่ตอนนี้ การป้องกันจองมันได้รับการปรับปรุงแล้ว ทำให้เสี่ยวเฮยมีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งควบคู่กันไป
ปรษณกระบี่เพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอที่จะทำร้ายเสี่ยวเฮยได้
ในตอนนี้บนเวทีประลอง ร่างสีดำเคลื่อนตัวและพุ่งตรงไปยังเฟิงซินหยู
เมื่อเห็นเสี่ยวเฮยรีบวิ่งมาหานาง ใบหน้าของเฟิงซินหยูก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สัตว์อสูรระดับ 3 ขั้น 10 ยังค่อนข้างยุ่งยากสำหรับนาง
เฟิงซินหยูเคลื่อนไหวและหลบเลี่ยงโดยตรง ปล่อยให้เสี่ยวเฮยกระโดพลาดไป
ร่างกายของเฟิงซินหยูนั้นเป็นร่างจิตวิญญาณแห่งลม ซึ่งเป็นร่างกายที่มีคุณลักษณะของลม ซึ่งมีผลต่อความเร็วของร่างกาย
เมื่อประกอบกับความจริงที่ว่า นางมีทักษะท่าร่างระดับ 3 จึงไม่ยากที่จะหลบการโจมตีของเสี่ยวเฮย
วิธีการโจมตีของเสี่ยวเฮยตรงไปตรงมามากเกินไป มันไม่มีทักษต่อสู้และสามารถต่อสู้ในระยะใกล้ได้เท่านั้น ซึ่งก็คือการกัดหรือใช้กรงเล็บของมันโจมตี
“ให้ตายเถอะ!” เฟิงซินหยูเริ่มหงุดหงิดเพราะเสี่ยวเฮยไล่ตามนางอย่างใกล้ชิด
"รับนี่ไปซะ!" เฟิงซินหยูเห็นเสี่ยวเฮยพุ่งเข้าหานางอีกครั้ง นางขยับตัวหลบเล็กน้อย และโจมตีเสี่ยวเฮยด้วยกระบี่ของนาง
คราวนี้เฟิงซินหยูฟันด้วยพละกำลังทั้งหมดของนาง คมกระบี่สามารถทะลุการป้องกันของเสี่ยวเฮ่ยได้แล้ว และรอยเลือดก็เริ่มปรากฏบนร่างของเสี่ยวเฮย
แต่มันไม่ลึกมากแต่ก็ยังมีเลือดออกมา
เสี่ยวเฮยคำรามด้วยความเจ็บปวด แต่มันก็สู้กลับด้วยการใช้กงเล็บตบเฟิงซินหยูเช่นกัน ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
เพื่อที่จะโจมตี เฟิงซินหยูก็เลยไม่สามารถหลบการโจมตีของเสี่ยวเฮยได้ ทำให้นางถูกกรงเล็บขนาดใหญ่ของเสี่ยวเฮยกระแทกเข้าที่ท้อง และเฟิงซินหยูก็ถอยหลังไปมากกว่าสิบก้าวก่อนที่จะล้มลง
พลังของเสี่ยวเฮยยังคงแข็งแกร่งมาก
“นี่มัน…” หลายคนประหลาดใจเมื่อเห็นฉากนี้
การเคลื่อนไหวของเสี่ยวเฮยเหมือนกับสายลม และไม่ต้องสงสัยเลยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของมัน
การเคลื่อนไหวของเฟิงซินหยูก็ไม่ช้าเช่นกัน นางสามารถหลบการโจมตีมากมายของเสี่ยวเฮยได้ การเคลื่อนไหวของนางทำให้ปรมาจารย์นักรบหลายคนรู้สึกถึงความกดดัน
ออร่าปราณที่เฟิงซินหยูปล่อยออกมานั้น เป็นออร่าปราณของปรมาจารย์นักรบขั้น 7 และหลายคนก็รู้สึกได้
ความแข็งแกร่งนี้ ถือว่าแข็งแกร่งมากในหมู่ผู้อาวุโสของ 4 ตระกูลหลัก แต่เฟิงซินหยูอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น และด้วยความสามารถดังกล่าว มันทำให้ผู้อาวุโสส่วนมากต้องอับอายจริงๆ
ตอนนี้ เฟิงซินหยูทำร้ายเสี่ยวเฮยได้ และเสี่ยวเฮยก็ทำให้เฟิงซินหยูถอยหลังได้เหมือนกัน ในรอบนี้ถือว่าทั้งคู่เสมอกัน
เฟิงซินหยูเริ่มหวาดกลัว นางไม่เคยคิดเลยว่าเสี่ยวเฮยจะทรงพลังและแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรระดับ 3 ขั้น 10 ทั่วไปมาก
เฟิงซินหยูสวมชุดเกราะด้านใน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันชั้นในระดับ 3 จึงสามารถป้องกันพลังโจมตีส่วนใหญ่ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะเกราะด้านในช่วยกำจัดพลังโจมตีส่วนใหญ่ออกไป เฟิงซินหยูก็คงเจ็บหนักมากกว่านี้ แต่ในตอนนี้ หากนางถูกเสี่ยวเฮยโจมตีด้วยกำลังทั้งหมดอีกครั้ง นางคงต้องกระอักเลือดอย่างแน่นอน
เสี่ยวเฮยเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งและว่องไว แถมตอนนี้ความเร็วที่เฟิงซินหยูภาคภูมิใจนั้น ไม่สามารถได้เปรียบเสี่ยวเฮยได้มาก!
เสี่ยวเฮยจ้องมองด้วยสายตาที่ดุร้ายและรีบวิ่งเข้าหาอีกครั้ง
“กระบวนท่ากระบี่ปาฟาง(แปดทิศ)” เฟิงซินหยูโบกกระบี่บางๆ ในมือของนาง เปิดใช้งานปราณจิตวิญญาณ และสร้างชุดกระบี่ขนาดเล็ก 8 เล่ม
แน่นอนว่ากระบี่นั้นถูกสร้างขึ้นจากปราณจิตวิญญาณที่ควบแน่นและไม่ใช่กระบี่ของจริง มันเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของทักษะวรยุทธ
กระบี่ทั้ง 8 เล่มก่อตัวขึ้นจากการควบแน่นของปราณจิตวิญญาณ มันหมุนไปพร้อมๆ กัน
กระบวนท่ากระบี่ปาฟาง ซึ่งเป็นทักษะต่อสู้ระดับ 3 และยังเป็นทักษะต่อสู้ที่เฟิงซินหยูใช้บ่อยที่สุด
เสี่ยวเฮยรีบวิ่งไปหานาง และกระบวนท่ากระบี่ปาฟางของเฟิงซินหยูก็โจมตีโดนเสี่ยวเฮยโดยตรง
ทันใดนั้นปราณกระบี่ก็เข้าที่หัวของเสี่ยวเฮย
พายุลมปราณขนาดใหญ่พัดเข้าหสมันอย่างรุนแรง
เสี่ยวเฮ่ยถูกโจมตีจนกระเด็นไปมากกว่าสิบก้าว แต่เฟิงซินหยูก็ไม่ได้ดีไปกว่าเช่นกัน ผลกระทบอันทรงพลังในตอนนี้ ทำให้นางถอยกลับไปมากกว่าสิบก้าวอีกครั้ง
โชคดีที่ลานประลองมีขนาดใหญ่พอ ไม่เช่นนั้นเฟิงซินหยูอาจกระเด็นออกจากลานประลองได้
“เสมอกันอีกงั้นเหรอ?” หลายคนมีข้อสงสัยเช่นนี้
ในเวลาเดียวกัน พวกเขารู้สึกทึ่งในความแข็งแกร่งของเฟิงซินหยูเช่นกัน อย่าลืมว่านางใช้ขอบเขตปรมาจารย์นักรบขั้น 7 เพื่อต่อสู้กับเสี่ยวเฮยซึ่งเทียบเท่ากัยปรมาจารย์นักรบขั้น 10 ของเผ่ามนุษย์ได้อย่างสูสี
ด้วยสิ่งนี้ทำให้ผู้ชมทุกคนรู้ว่า อัจฉริยะในเมืองหลวงนั้น ทรงพลังมากจริงๆ!
ที่สำคัญ เสี่ยวเฮยทรงพลังอย่างมาก ถ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดโจวต้วน ซึ่งเป็นปรมาจารย์นักรบขั้น 9 ต่อสู้กับเสี่ยวเฮย เขาต้องจบชีวิตภายใต้กรงเล็บหรือเขี้ยวของเสี่ยวเฮยอย่างแน่นอน
กลับมาที่ลานประลอง ในตอนนี้ มีบาดแผลมากมายบนหัวของเสี่ยวเฮย มันมีเลือดออกและดูน่ากลัว
พลังของกระบวนท่ากระบี่ปาฟางนี้ แข็งแกร่งกว่ากระบวนท่ากระบี่ม่านเทียนมากจริงๆ
ท้ายที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นทักษะต่อสู้แบบโจมตีกลุ่ม ดังนั้นพลังโจมตีเป้าหมายเดียวจึงอ่อนแอลงตามธรรมชาติ
ส่วนกระบวนท่ากระบี่ปาฟางนี้ เป็นทักษะต่อสู้แบบโจมตีเป้าหมายเดียว และพลังของมันก็แข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า
“ความแข็งแกร่งของแม่นางเฟิงนั้นพิเศษมากจริงๆ แต่ข้ายังมีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณตัวอื่นที่ข้ายังไม่ได้ปล่อยออกมา เจ้าอยากลองเล่นกับมันในตอนนี้ไหม?” หลินเป้ยกล่าวในเวลานี้
หลินเป้ยรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับเสี่ยวเฮย ที่จะเอาชนะเฟิงซินหยู เนื่องจากเฟิงซินหยูมีร่างจิตวิญญาณลม ทำให้นางหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเสี่ยวเฮยไม่รู้จักทักษะต่อสู้ ดังนั้นมันจึงเสียเปรียบอย่างมาก
เฟิงซินหยูสามารถโจมตีด้วยทักษะต่อสู้จากระยะไกลและยังสามารถต่อสู้ในการต่อสู้ระยะประชิดได้ นางมีข้อได้เปรียบอย่างมาก ยกเว้นแต่ว่าฐานบ่ทเพาะของนางนั้นอ่อนแอกว่าเสี่ยวเฮยเล็กน้อย
ทักษะบ่มเพาะของเฟิงซินหยูนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง และยังมีผลกระทบทางบวกเพิ่มขึ้นในการต่อสู้อีกด้วย
หลินเป้ยโบกมือ และราชาหมาป่าสีครามทั้ง 5 ตัว ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พวกมันทั้งหมดอยู่ในระดับ 3 ขั้น 4 ไปจนถึงระดับ 3 ขั้น 5
สัตว์อสูรระดับ3 ถึง 5 ตัว ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้หลายคนตกใจมาก!
หลินเป้ยมีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณมากขนาดนี้เลยหรือ!?
เมื่อเฟิงซินหยูเห็นราชาหมาป่าสีครามระดับ 3 ถึง 5 ตัว ปรากฏตัวอีกครั้ง ใบหน้าของนางก็ซีดลง นางไม่เคยคาดหวังว่า เขาจะมีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณระดับ 3 มากมายขนาดนี้
แค่หนึ่งตัวที่ขอบเขตเหนือกว่าก็น่าประทับใจมากแล้ว แต่นี่มาถึง 6 ตัว!
ผู้ชมหลายคนมองหลินเป้ยด้วยความตกใจ นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินเป้ยใช่หรือไม่?
ความแข็งแกร่งนี้ แข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์นักรบทุกคนในปัจจุบันมาก
หมิงหลานจ้องมองหลินเป้ยด้วยท่าทางแปลกๆ นางไม่คิดว่าพรสวรรค์ของหลินเป้ยจะสูงขนาดนี้
ขอบเขตนักรบแท้จริงที่มีสัตว์เลี้ยงจิตวิญาณระดับ 3 ถึง 6 ตัว มันน่าทึ่งมาก นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของหลินเป้ยในการควบคุมสัตว์อสูรอีกด้วย
หากเจ้าต่อสู้ในฐานะผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณ สัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณทั้งหมดภายใต้ ย่อมสามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ได้ แต่ตัวของผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณเองเท่านั้นที่ไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ได้
ตอนนี้หลินเป้ยปล่อยราชาหมาป่าสีคราม 6 ตัว ซึ่งไม่ได้ฝ่าฝืนกฎ เพียงแต่ว่าหลินเป้ยไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขามาก่อนเท่านั้น
“หลินเป้ย เจ้ามันคนน่ารังเกียจ!” เฟิงซินหยูตระโกนด้วยความโกรธ
นางพบว่าเพียงแค่เสี่ยวเฮยก็ยากลำบากในการจัดการอยู่แล้ว นางไม่คาดคิดว่าเขาจะมีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณเพิ่มมาอีก 5 ตัว
แล้วนางจะเป็นคู่ต่อสู้ได้อย่างไรกัน!?