บทที่ 113 - เบจิต้าปะทะเอเลี่ยนจักรกลชุย
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 113 - เบจิต้าปะทะเอเลี่ยนจักรกลชุย
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ชาวไซย่าทั้งหมดดาวเคราะห์เบจิต้าก็เดินไปที่สนามแข่งขันที่ 65 ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับศึกชิงจ้าวยุทธภพรอบสุดท้ายของดาวเคราะห์เบจิต้า
สนามแข่งขันที่ 65 มีขนาดใหญ่ ด้วยความยาวและความกว้าง 1,000 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าสนามประลองในรอบคัดเลือกมาก
ยิ่งไปกว่านั้น มันแตกต่างจากสนามในรอบคัดเลือก เพราะมีที่นั่งสำหรับผู้ชมด้วย
สภาพของมันแทบไม่ต่างจากโคลอสเซียมของโรมัน ที่นั่งผู้ชมเป็นเหมือนบันไดที่เป็นระเบียบและตรงกลางมีลานประลองที่ปูด้วยหินเป็นพิเศษ แต่ละจุดมีความยาวและกว้าง 600 เมตร
รอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่นี่
ในฐานะราชาแห่งชาวไซย่า หลินเฉินจึงมีที่นั่งวีไอพีเป็นของตัวเอง
นอกจากภรรยาทั้งสองของหลินเฉินแล้ว ยังมีที่นั่งพิเศษของราชาเบจิต้า บาร์ดัคและครอบครัวของพวกเขาด้วย
“ตอนนี้ข้าขอประกาศว่ารอบสุดท้ายของการแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพของดาวเคราะห์เบจิต้าครั้งที่ 1 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!”
เมื่อหลินเฉินอนุพยักหน้า พารากัสที่เป็นพิธีกรชั่วคราวก็ประกาศเริ่มการแข่งขันด้วยเสียงอันดังสนั่น
หลังจากเสียงตะโกนด้วยความตื่นเต้นของผู้ชมดังขึ้น การแข่งขันรอบแรกก็ได้เริ่มขึ้นตาม
ผู้ที่สามารถเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึกตะลุมบอนล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งกันทั้งนั้น
การประลองตัวต่อตัวระหว่างพวกเขา แม้ว่าจะไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เท่ากับการต่อสู้ครั้งก่อน แต่ก็รุนแรงและน่าตื่นเต้นกว่ามาก
มันแทบจะทำให้เลือดของผู้ชมทุกคนเดือดพล่านเมื่อพวกเขาดูผู้เข้าแข่งขันต่อสู้กัน
ส่วนทางด้านหลินเฉิน แม้จะเหมือนไก่จิกหยอกเล่นกัน แต่คิดเสียว่ากำลังรับชมภาพยนตร์อยู่ก็คงพอแก้ขัดได้บ้าง
ที่น่าชมสุดคงเป็นเบจิต้า คนที่เขาสนใจมาก
ในฐานะที่เป็นถึงลูกของอดีตราชาชาวไซย่า เบจิต้าเป็นผู้มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง
ในหมู่ชาวไซย่าวัยเดียวกัน แทบจะไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าเขาเลย
หลังจากเข้าสู่รอบ 64 อันดับแรก ความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขาไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากผู้เข้าแข่งขันทุกคนล้วนสามารถผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากมาได้
ดังนั้นในระหว่างการต่อสู้ หลายคนจึงมีระดับพลังเกือบจะเท่าๆ กัน
ทว่าทางด้านเบจิต้า ไม่ว่าเขาจะเจอกับใคร เขาก็สามารถเอาชนะได้ในทันที
ถึงจะต้องเผชิญหน้ากับนักรบชั้นยอดที่มีระดับพลังมากกว่า 500,000 เบจิต้าก็ยังได้เปรียบกว่าอย่างล้นหลาม
ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้ง นักรบชั้นยอดที่มีระดับพลังมากกว่า 500,000 ก็พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเบจิต้า
การกระทำของเขาได้ดึงดูดเสียงเชียร์จากเหล่าผู้ชมในทันที
มันไม่ใช่แค่เรื่องความแตกต่างของระดับพลังอีกต่อไป ในแง่ของความสามารถและเทคนิคการต่อสู้ เบจิต้าได้ชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดอย่างสมบูรณ์!
“สู้เข้า พี่เบจิต้า! คว้าแชมป์มาให้ได้! พี่น่ะแข็งแกร่งที่สุด!”
ในสนามแข่งขัน ชาวไซย่าที่ดูคล้ายกับเบจิต้าตะโกนมาจากด้านล่าง
เบจิต้าที่เพิ่งชนะการแข่งขันก็เหลือบมองเขาและเดินออกจากสนามประลองด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาไม่สนใจเสียงเชียร์และไม่คิดตอบด้วยซ้ำ
“นั่นทาร์เบิลใช่ไหม?” หลินเฉินถามราชาเบจิต้าและชี้ไปทางชาวไซย่าคนนั้น
"ขอรับ" ราชาเบจิต้าพูดด้วยสายตาที่ดูอายๆ นิดหน่อย “เด็กผู้นี้โง่เขลามาก ถ้าเป็นในอดีต เขาคงถูกส่งไปยังดาวที่ห่างไกลโดยข้าแล้ว ต้องขอบคุณความเมตตาของฝ่าบาทที่ทำให้เขาสามารถอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์เบจิต้าได้ แต่จนถึงตอนนี้ ระดับพลังของเขายังน้อยกว่า 10,000 อยู่เลย ข้าไม่คิดว่าเขาจะเติบโตได้มากกว่านี้หรอก”
"ยังไม่ใช่เสียทีเดียว"
หลินเฉินแตะคางพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เท่าที่เขารู้มา ทาร์เบิลเป็นชาวไซย่าใจดีที่หาได้ยาก ซึ่งเกิดมาพร้อมกับจิตใจอันชอบธรรม
หากนับรวมโกคูและซุนโกฮังแล้ว ยามนี้ก็คงมีสามชาวไซย่าที่มีจิตใจดี
เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าในตำนานจะสามารถมีได้ก็ต่อเมื่อมีชาวไซย่า 6 คนที่มีจิตใจดีงาม
ดังนั้นในอนาคต ความแข็งแกร่งของทาร์เบิลอาจมีประโยชน์
เมื่อเทียบกับเบจิต้าที่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น คนๆ อื่นที่แข็งขันก็ดูต่อสู้กันอย่างยากลำบากมาก ราดิชที่โชคดีพอที่จะผ่านการต่อสู้แบบตะลุมบอน ก็แพ้ในรอบนี้และถูกกำจัด
"เหอะ! ราดิช ถ้าเจ้าใช้เวลาในห้องแรงโน้มถ่วงมากกว่านี้ เจ้าคนผู้นั้นคงไม่อาจเอาชนะเจ้าได้!”
เมื่อราดิชออกจากสนามแข่งขันด้วยสีหน้าเขินอายในความอ่อนแอของตน เบจิต้าก็กล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม
“ข้าขอโทษด้วยท่านเบจิต้า”
ราดิชดูอับอายพอสมควรและในขณะเดียวกัน เขาก็กลัวเบจิต้ามาก แต่โชคดีที่ทาร์เบิลได้เข้ามา จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบผ่อนคลายขึ้นพอสมควร
“พี่ราดิชอย่าท้อแท้สิ มันน่าทึ่งจะตายที่พี่สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ หากไม่นับฝ่าบาทลิงค์กับท่านพ่อของเรา ความแข็งแกร่งของพี่น่ะสามารถไปถึง 100 อันดับแรกของดาวเคราะห์เบจิต้าได้แล้ว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นเช่นนั้นหรือ?” เมื่อราดิชได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็เบิกบานมาก
มีเพียงเบจิต้าที่ดูไม่มีความสุขเลย “ทาร์เบิล เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว!”
“ข้าขอโทษด้วยท่านพี่...”
“ว้าว!!!”
ทันใดนั้น เสียงอุทานก็ดังขึ้นมาจากกลุ่มผู้ชม
เบจิต้าและคนอื่นๆ หันกลับมาและเห็นนักรบชาวไซย่าซึ่งกำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด เพราะคอของเขาถูกจับด้วยมือข้างเดียวโดยเอเลี่ยนจักรกลหมายเลข 7
เพื่อที่จะหลุดพ้นจากมือของหมายเลขเจ็ด ชาวไซย่าจึงได้ปล่อยกระสุนพลังงานใส่เขาด้วยมือทั้งสองข้าง แต่เมื่อพวกมันโดนหมายเลข 7 มันก็ไม่มีผลอะไรนอกจากเพียงสร้างควันขึ้นมาเท่านั้น
หลังจากหมดแรงที่ไปแล้ว ชาวไซย่าก็หมดสติไปอย่างสมบูรณ์และถูกโยนออกจากสนามประลองอย่างง่ายดายโดยหมายเลขเจ็ด
หลังจากชนะ หมายเลข 7 ก็ไม่ได้ออกไปทันทีด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนเขาจะแค่นเสียงใส่เบจิต้าที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นจึงได้เดินออกไป
“พี่เบจิต้า เอเลี่ยนจักรกลตัวนั่น…” ทาร์เบิลมองไปที่เบจิต้าด้วยความสับสน
ทว่าเบจิต้าก็กอดอกและไม่ได้อธิบายอะไร
เมื่อเห็นเช่นนี้ ราดิชจึงเป็นคนอธิบายแทน “ทาร์เบิล แต่เดิมหมายเลข 7 คนนั้นมีชื่อว่าชุย เป็นนักรบชั้นยอดภายใต้กองกำลังฟรีเซอร์ ก่อนที่พวกเราชาวไซย่าจะก่อกบฏต่อฟรีเซอร์ พี่ชายของเจ้ากับข้าเคยอยู่ในหน่วยเดียวกับเขา เจ้าหมอนั้นไม่ชอบชาวไซย่าและมักจะทะเลาะกับเราอยู่เสมอ”
"ราดิช!"
จู่ๆ เบจิต้าก็ตะโกนออกมา ทำให้ราดิชหุบปากทันที
“มันก็แค่เศษสวะ ถ้ามันคิดว่าหลังจากแปลงร่างเป็นหุ่นเชิดแล้วจะสามารถเอาชนะชาวไซย่าผู้ยิ่งใหญ่ได้ ข้าก็จะแสดงให้มันเห็นถึงความเป็นจริงด้วยมือของข้าเอง!” เบจิต้ากำหมัดแน่นและหัวเราะเยาะออกมา
แต่ถึงเขาจะดูหมิ่นชุยที่กลายร่างเป็นเอเลี่ยนจักรกล แต่มันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเอเลี่ยนจักรกลหมายเลข 7 สามารถเอาชนะชาวไซย่าหลายคนได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับตัวเขา
รอบสุดท้ายของศึกชิงจ้าวยุทธภพดาวเคราะห์เบจิต้า มันคือศึกระหว่างเบจิต้าปะทะกับเอเลี่ยนจักรกลหมายเลข 7!
เมื่อเบจิต้าก้าวเข้าสู่สนามแข่งขัน ชาวไซย่าทุกคนก็ตะโกนชื่อของเขาเสียงดัง
ทุกคนเฝ้ารอให้เบจิต้าได้กลายเป็นแชมป์ของการแข่งขัน
เพราะพวกเขาไม่อยากเห็นชาวไซย่าแห่งดาวเคราะห์เบจิต้าต้องอับอายที่จะแพ้เอเลี่ยนจักรกลในการแข่งขันศึกชิงจ้าวยุทธภพที่พวกเขาจัดขึ้นมาเอง
“เบจิต้า!”
“เบจิต้า!”
“เบจิต้า!”
ขณะที่ชาวไซย่าตะโกน การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!