ตอนที่ 542 ความโกรธเกรี้ยวของหมิงกุย
ตอนที่ 542 ความโกรธเกรี้ยวของหมิงกุย
ช็อก!
โคตรช็อก!
“ไม่นะ!! นี่มันเครื่องวิเคราะห์ระดับสูงที่มีราคาตั้ง 65,000 คริสตัลขาวเชียวนะ” หมิงกุยอุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
พี่น้องตระกูลหยูก็กำลังอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงเช่นเดียวกัน เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าเครื่องวิเคราะห์น้ำยาระดับสูงเครื่องนี้พังลงไปได้ยังไง
ขณะเดียวกันถึงแม้ว่ายาเสพติดจะขายได้ในราคาสูง แต่เงินจำนวน 65,000 คริสตัลขาวก็ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าหมิงกุยจะเป็นบุคคลที่ร่ำรวย แต่เงินจำนวนนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปเป็นเวลานาน
“ชิพประมวลผลทุกอย่างในเครื่องเสียหายหมดเลย แม้แต่ข้อมูลการทดลองที่ฉันเก็บรวบรวมเอาไว้ก็ถูกทำลายหายไปด้วยเหมือนกัน แน่ใจนะว่าสิ่งที่พวกนายเอามาเป็นเพียงแค่ขวดน้ำยาซ่อมแซมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 จริง ๆ?” หมิงกุยกล่าวขึ้นมาอย่างหนักใจ หลังจากที่เขาได้เข้าไปตรวจสอบเครื่องวิเคราะห์น้ำยาที่วงจรภายในถูกทำลายไปจนหมดแล้ว
เพียงแค่เครื่องวิเคราะห์น้ำยาได้รับความเสียหายมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเขามากพออยู่แล้ว ที่สำคัญคือข้อมูลที่เขาได้บันทึกเอาไว้ก็หายไปจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องในครั้งนี้ด้วย มันจึงทำให้หมิงกุยรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะข้อมูลพวกนั้นคือข้อมูลที่เขาใช้เวลาในการรวบรวมมาเป็นเวลานาน และถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินมหาศาลแต่เขาก็ไม่สามารถที่จะหาซื้อข้อมูลพวกนั้นได้
“ไม่ทราบว่าเครื่องวิเคราะห์นี้พอจะซ่อมได้หรือเปล่าครับ?” หยูชิงเหอกล่าวถามอย่างระมัดระวัง
“ถ้าจะให้เปลี่ยนชิพประมวลผลทุกชิ้นมันก็ค่อนข้างแพงเกินไป ฉันคิดว่าการซื้อเครื่องใหม่น่าจะคุ้มค่ากว่า” หมิงกุยกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
คำตอบจากหมิงกุยทำให้สองพี่น้องจากตระกูลหยูหน้าซีดนิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน เพราะเงินจำนวน 65,000 คริสตัลขาวเทียบเท่ากับเงินส่วนใหญ่ในบัญชีของพวกเขาเลย
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
สาเหตุที่เครื่องพังเป็นเพราะวงจรในเครื่องได้รับความเสียหาย หรือมันเป็นเพราะสูตรน้ำยาของเซี่ยเฟย?
หมิงกุยหยิบขวดยาสีเหลืองของเซี่ยเฟยขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง เพราะเขาไม่เข้าใจว่าน้ำยาขวดนี้ทำให้เครื่องวิเคราะห์น้ำยาของเขาพังได้ยังไง
“มันเป็นน้ำยาซ่อมแซมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ชั้นยอดแน่ ๆ อย่างมากที่สุดสูตรในการผลิตน้ำยาก็เป็นเพียงแค่สูตรที่แปลกประหลาด นี่มันเกิดจากความผิดพลาดของตัวเครื่องเองงั้นเหรอ?” หมิงกุยพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ
“ท่านอาจารย์น้ำยาขวดนั้นมันแปลกมาก พวกเรายอมปล่อยมือจากมันไปดีไหม?” หยูกู่เหอกล่าวขึ้นมาอย่างลนลานเมื่อได้เห็นท่าทางของหมิงกุย
“ปล่อยมือ? ฉันไม่คิดจะยอมแพ้เรื่องนี้ง่าย ๆ หรอกนะ นี่คือน้ำยาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนและฉันก็ไม่คิดว่ามันจะมีใครกล้าใช้หญ้าซูดานมาผลิตน้ำยาแบบนี้ด้วย” หมิงกุยกล่าวตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ จากนั้นเขาก็เริ่มถามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งว่า
“นายเห็นกับตาตัวเองจริง ๆ ใช่ไหมว่ามันไม่ได้มีการใส่ตัวป้องกันลงไปในยาขวดนี้?”
“ผมสังเกตการปรุงยาของเขาตั้งแต่แรกแล้ว ผมสาบานได้เลยว่าเขาไม่ได้ใส่ตัวป้องกันลงไปในน้ำยาขวดนี้จริง ๆ” หยูกู่เหอรีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
“โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็ตามฉันมา” หมิงกุยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
จากนั้นหมิงกุยก็นำพี่น้องตระกูลหยูไปยังห้องอีกห้องหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในยานอวกาศ ซึ่งเมื่อเทียบกับพื้นที่บริเวณชั้นนอกที่มีคนเดินไปเดินมาอย่างปลุกพล่านแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็ดูสะอาดกว่าและมีการตกแต่งที่หรูหรามากยิ่งกว่า
ภายในห้องมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ถูกติดตั้งเอาไว้ 2 เครื่อง แล้วมันก็มีพนักงาน 3 คนคอยดูแลทำความสะอาดเครื่องจักรเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา
“นี่คือเครื่องวิเคราะห์น้ำยาแม่นยำสูงที่ฉันซื้อพวกมันมาด้วยเงินเก็บทั้งหมดที่ฉันมี ทั้งดินแดนกฎมีเครื่องจักรรุ่นนี้อยู่เพียงแค่ 2 เครื่องเท่านั้น และฉันก็กว้านซื้อพวกมันมาหมดเลย” หมิงกุยกล่าวอย่างภูมิใจ
“พวกมันดูดีมากเลยครับ แสดงว่าพวกมันจะต้องมีราคาสูงมากเลยใช่ไหม?” หยูชิงเหอกล่าวถามด้วยความระมัดระวัง
“ราคาของมันแพงกว่าเครื่องด้านนอกนั่นประมาณ 100 เท่า มันจึงทำให้แม้แต่ตระกูลใหญ่ ๆ ภายในดินแดนผู้ใช้กฎก็ไม่กล้าจะซื้อพวกมันมา พวกมันจึงกลายมาเป็นลูกรักของฉันและเป็นเครื่องจักรที่สำคัญที่สุดในโรงงานของฉันด้วยเหมือนกัน” หมิงกุยกล่าวตอบ
แพงกว่าเครื่องด้านนอกประมาณ 100 เท่า!!
มันอาจจะสามารถกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเครื่องจักรรุ่นนี้มีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านคริสตัลขาว หรือก็คือเครื่องจักรทั้งสองเครื่องนี้มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 12 ล้านคริสตัลขาว และถ้าหากว่าเราได้แปลงคริสตัลขาวกลายเป็นคริสตัลม่วงซึ่งเป็นเงินสกุลหลักในดินแดนของผู้ใช้กฎ มันก็ทำให้มูลค่าของเครื่องจักรทั้งสองเครื่องนี้มีราคามากกว่า 1,200 ล้านคริสตัลม่วง
หมิงกุยมองไปยังใบหน้าที่ตกตะลึงของสองพี่น้องตระกูลหยูอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อขึ้นมาว่า
“นี่คือห้องทดลองที่ฉันใช้เวลาสร้างมาทั้งชีวิต เพราะฉันแค่ต้องการจะให้ทุกคนได้รู้ว่าแม้แต่นักปรุงยาสายดำอย่างฉันก็สามารถจะเป็นนักปรุงยามืออาชีพได้”
หลังจากพูดคุยโอ้อวดสรรพคุณของเครื่อง หมิงกุยก็เริ่มหยดตัวอย่างน้ำยาของเซี่ยเฟยเข้าไปตรวจสอบภายในเครื่องอีกครั้ง ซึ่งตัวเลขสรรพคุณของน้ำยาที่แสดงออกมาก็มีความแม่นยำถึงตำแหน่งทศนิยมที่ 6 หรือมันก็หมายความว่าเครื่องจักรเครื่องนี้มีความแม่นยำมากกว่าเรื่องวิเคราะห์ด้านนอกหลายหมื่นเท่า
“นี่แหละคือผลลัพธ์ของเครื่องจักรจากบริษัทฟิกส์” หมิงกุยกล่าวพร้อมกับกอดอกอย่างภาคภูมิใจ
คำตอบนี้ทำให้สองพี่น้องตระกูลหยูตกใจอีกครั้ง
บริษัทฟิกส์คือบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเผ่าเทพเจ้า และบริษัทนี้ก็เป็นตัวตนที่รู้จักกันดีในฐานะบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดภายในดินแดนของผู้ใช้กฎ
ไม่ว่าจะเป็นเข็มทิศมิติ, ชุดเกราะโลหะเหลวหรือเครื่องวิเคราะห์น้ำยาความแม่นยำสูง ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทฟิกส์ทั้งสิ้น และหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของบริษัทนี้คือผลิตภัณฑ์ของพวกเขามีราคาที่แพงมาก
หากเปรียบเทียบเครื่องมือชนิดเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัททั่วไปจะมีราคา 100 คริสตัลม่วง แต่ผลิตภัณฑ์จากบริษัทฟิกส์จะมีราคา 10,000 คริสตัลม่วง ทั้ง ๆ ที่ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชิ้นนี้แทบที่จะไม่มีความแตกต่างกันในด้านการใช้งานเลย
แต่ถึงแม้ว่าบริษัทฟิกส์จะตั้งราคาเอาไว้สูงมากขนาดนี้ แต่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาก็ยังคงขายได้อยู่เรื่อย ๆ เพราะผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นตัวแทนของความซับซ้อนและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากที่สุด การได้ครอบครองผลิตภัณฑ์จากบริษัทนี้จึงไม่ต่างไปจากการใช้ของแบรนด์เนมในพันธมิตร
ยิ่งไปกว่านั้นดินแดนของผู้ใช้กฎยังมีการแบ่งระดับชนชั้นออกเป็นระดับต่าง ๆ มันจึงทำให้แม้แต่ตระกูลหยูก็ยังไม่มีสิทธิ์ซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทฟิกส์โดยตรง ซึ่งมันก็มีเฉพาะ 9 ตระกูลชั้นนำในดินแดนของผู้ใช้กฎเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทฟิกส์โดยตรงได้
แต่ถึงกระนั้นหมิงกุยก็ยังสามารถหาซื้อเครื่องวิเคราะห์น้ำยาความแม่นยำสูงของบริษัทฟิกส์มาเก็บสะสมได้ถึงสองเครื่อง ซึ่งมันก็หมายความว่าชายคนนี้จะต้องมีเส้นสายที่หนาแน่นมาก ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาจะได้ครอบครองเครื่องจักรคุณภาพสูงจากบริษัทฟิกส์ได้เลย
แต่ในระหว่างที่หมิงกุยกำลังโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ ภาพเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นตรงหน้าของพวกเขาอีกครั้ง เพราะในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อมาเครื่องจักรที่เขาภาคภูมิใจก็เริ่มส่งเสียงดังขึ้นมาแปลก ๆ คล้ายกับเสียงของสัตว์ร้ายที่ถูกบีบคอจนส่งเสียงร้องออกมาอย่างโหยหวน
“ปิดเครื่องเดี๋ยวนี้!”
หมิงกุยตกใจจนหน้าซีด เพราะถ้าหากว่าเครื่องวิเคราะห์น้ำยาเครื่องนี้ได้รับความเสียหาย มันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเขาอย่างหนัก
พนักงานที่ดูแลเครื่องรีบตัดพลังงานทันทีที่ได้รับคำสั่ง แต่น่าเสียดายที่พวกเขายังคงเชื่องช้ามากจนเกินไป มันจึงมีควันสีเขียวพวยพุ่งออกมาจากตัวเครื่องและกลิ่นเหม็นไหม้ที่ฟุ้งกระจายไปทั้งห้อง
นี่คือเครื่องวิเคราะห์น้ำยาชั้นนำในดินแดนของผู้ใช้กฎเชียวนะ!
ทำไมมันถึงเจ๊งลงไปอีกแล้ว!!
หมิงกุยมองไปยังภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา และการที่เครื่องวิเคราะห์น้ำยาได้พังซ้ำ ๆ กันแบบนี้ มันก็เห็นได้ชัดแล้วว่าสาเหตุของความหายนะเกิดขึ้นมาจากน้ำยาของเซี่ยเฟย
“ไอ้บ้าที่ไหนมันปรุงยาบ้า ๆ นี้ขึ้นมา! ในเมื่อมันกล้าทำลายสมบัติของฉัน ฉันก็จะไปฆ่ามันเอง!!” หมิงกุยตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
พนักงานที่อยู่ข้าง ๆ และสองพี่น้องตระกูลหยูต่างก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คนเดียว เพราะถ้าหากพวกเขาทำให้หมิงกุยรู้สึกขุ่นเคือง มันก็อาจจะเป็นพวกเขาที่จะต้องจ่ายค่าชดเชยกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในวันนี้
“ฉันไม่เชื่อ! นักรบกฎกระจอก ๆ แบบนั้นจะสามารถปรุงน้ำยาที่ทำลายเครื่องจักรวิเคราะห์ชั้นยอดได้ยังไง?!” หมิงกุยกล่าวด้วยแววตาที่อาฆาตพร้อมกับทุบมือไปยังโต๊ะตรงหน้าอย่างรุนแรง
พรสวรรค์ในเรื่องการปรุงน้ำยาของหมิงกุยอยู่ในระดับที่สูงมาก และถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเขาเลือกเดินมายังเส้นทางสายดำ เขาก็คงจะเป็นประธานสมาพันธ์นักปรุงยาในดินแดนของผู้ใช้กฎไปตั้งนานแล้ว
ด้วยพรสวรรค์ชั้นเลิศเช่นนี้นี่เองในอดีตเขาจึงเคยแกะสูตรน้ำยาชนิดต่าง ๆ มาแล้วเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน จนทำให้เขาสร้างศัตรูเป็นนักปรุงยาชั้นแนวหน้าของดินแดนผู้ใช้กฎมาแล้วอย่างมากมาย
ด้วยเหตุนี้เองหมิงกุยจึงไม่คิดที่จะยอมแพ้ เขาจึงหยิบน้ำยาของเซี่ยเฟยตรงไปยังเครื่องวิเคราะห์น้ำยาอีกเครื่อง ซึ่งมันเป็นเครื่องรุ่นใหม่และมีราคาแพงกว่าเครื่องจักรรุ่นที่ใช้เมื่อสักครู่
“เริ่มวิเคราะห์น้ำยาเดี๋ยวนี้! ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะถอดสูตรน้ำยาออกมาไม่ได้!!” หมิงกุยร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความโกรธ
ท้ายที่สุดเครื่องจักรก็เป็นเพียงแค่เครื่องจักร มันจึงปฏิบัติตามคำสั่งของหมิงกุยอย่างซื่อสัตย์ แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นภาพเหตุการณ์คล้าย ๆ เดิม เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นเครื่องจักรที่มีราคาแพงมากแค่ไหน แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ส่วนผสมน้ำยาของเซี่ยเฟยได้
ฟี้! ตูม!
ที่สำคัญคือปฏิกิริยาของเครื่องจักรเครื่องนี้รุนแรงกว่าเดิม เพราะไม่เพียงแต่มันจะส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาเท่านั้น แต่มันยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากภายในเครื่องจักรด้วย
โชคดีที่เปลือกโลหะด้านนอกของเครื่องจักรค่อนข้างหนา มันจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดในครั้งนี้ แต่ถึงยังไงเนื่องมาจากการระเบิดภายในอย่างรุนแรง มันจึงทำให้ทั้งตัวเครื่องมีควันสีดำพวยพุ่งออกมาอย่างหนาทึบ
เมื่อระบบดับเพลิงภายในห้องตรวจพบควันดำ พวกมันจึงพ่นโฟมสีขาวลงมาจากเพดานทำให้หมิงกุย, สองพี่น้องตระกูลหยูและพนักงานที่คอยดูแลเครื่องอีก 3 คนตัวเปียกโชกกันไปหมด
“ฉันไม่ยอม!! ฉันไม่ยอม!!!!” หมิงกุยส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว แต่เนื่องมาจากทั่วทั้งตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยโฟมสีขาว มันจึงทำให้รูปร่างของเขาดูคล้ายกับซานตาคลอส
พี่น้องตระกูลหยูกำลังสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัวโดยไม่กล้าที่จะหายใจออกมาแรง ๆ อีกต่อไป เพราะหมิงกุยคือนักปรุงยาสายดำที่มีชื่อเสียง และเขาก็ยังมีกลุ่มนักรบที่แข็งแกร่งอยู่ภายใต้คำสั่งของเขาด้วย
หากนักปรุงยามีความสามารถที่สูงพอสถานะของพวกเขาก็ไม่ต่างไปจากปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการกลั่นพลังงานมากนัก และถ้าหากว่าพวกเขาริเริ่มส่งข้อความขอความช่วยเหลือออกไป นักสู้ชั้นยอดเป็นจำนวนมากก็จะรีบมารวมตัวกันเพื่อเอาอกเอาใจนักปรุงยาระดับสูงเหล่านี้ทันที
ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยไม่ใช่คนโง่ที่ไม่ได้ใส่ตัวป้องกันลงไปในน้ำยาของเขา และสาเหตุที่หมิงกุยต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าเขาประเมินเซี่ยเฟยต่ำเกินไป
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์มาเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า ใครก็ตามที่กล้ามองว่าเซี่ยเฟยคือคนโง่ในที่สุดพวกเขาก็จะกลายเป็นคนโง่เสียเอง
ตูม!
หมิงกุยโยนข้าวของทุกชิ้นทิ้งไปอย่างเกรี้ยวโกรธพร้อมกับตะโกนชื่อของเซี่ยเฟยออกมาซ้ำ ๆ เพราะเขากำลังโทษว่าความสูญเสียทุกอย่างที่เขาได้พบเจอต่างก็ล้วนแล้วแต่มีต้นเหตุมาจากชายหนุ่มทั้งหมด
ในระหว่างนั้นมันก็มีชายหัวโล้นร่างใหญ่รีบวิ่งเข้ามาจากประตู และเมื่อเขาได้เห็นท่าทางของหมิงกุยเขาก็ค่อย ๆ รายงานเรื่องสำคัญออกมาอย่างแผ่วเบา
“นายท่านครับ สายลับของเรารายงานมาว่าหยูโหย่วตู้เสียชีวิตแล้ว”
“อะไรนะ! หยูโหย่วตู้ตายแล้ว เขาตายได้ยังไง?” หมิงกุยกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด เพราะในวันนี้มันเป็นวันรวมเรื่องร้าย ๆ สำหรับเขาจริง ๆ
“เขาถูกบีบบังคับจากนักสู้ที่ชื่อว่าเซี่ยเฟยจนต้องกินยาฆ่าตัวตายครับ”
“เซี่ยเฟย? เซี่ยเฟย!!!”
“ทำไมมันถึงเป็นเซี่ยเฟยอีกแล้ว!!!!!!”
***************
แม้แต่น้ำยาที่พี่เฟยปรุงก็โหดเหมือนคนปรุงด้วยหรอเนี่ย บ้าไปแล้ววว