ตอนที่แล้วบทที่15
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่17

บทที่16


หลังจากรับหลิวเฉิงแล้ว หลินเสวี่ยก็ได้ทิ้งหม่าเสี่ยฉิงและซูหลิงอย่างไร้ความปราณี เพราะหลินเสวี่ยต้องการคุยกับพี่ชายของเธอให้มากกว่านี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของเธอและเขาด้วยการพาหลิวเฉิงทัวร์รอบมหาวิทยาลัย

เนื่องจากว่าทางหอพักยังไม่ปิดไฟ ดังนั้นหลิวเฉิงจึงยังเข้าไปในหอพักเพื่อจับผีไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้นักเรียนคนอื่นตื่นตระหนก

อาจารย์ใหญ่จางเซว่เฟิง บอกเขาเอาไว้ว่าให้เขามาดึกหน่อย รอให้หอพักปิดไฟให้พวกนักเรียนเข้านอนกันจนหมด ค่อยเข้ามา

ถึงอย่างนั้น การชมโรงเรียนตอนกลางคืนก็น่าเบื่อไปหน่อย

ทั้งสองคนหาที่นั่งคุยกันแทนการทัวร์โรงเรียน

“พี่ชาย ตอนที่ซูหลิงขอเบอร์วีแชทจากพี่ ทำไมพี่ไม่ให้ล่ะ แถมยังบอกเธอว่าพี่ไม่เล่นวีแชทด้วย คิดว่าเธอจะเชื่อไหม?”

หลินเสวี่ยถามขึ้น ขณะที่นอนอยู่บนม้านั่งยาวตัวหนึ่งและใช้หัวนอนหนุนตักหลิวเฉิงแทนหมอน เธอไม่ได้กลัวการที่มีคนอื่นเห็นเลย

นิสัยของเธอก็เป็นแบบนี้ ใจร้อน ไม่คิดหน้าคิดหลังแต่ก็ร้อนแรงระดับหนึ่ง

“ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ดีแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคตน่ะ” หลิวเฉิงตบขาของหลินเสวี่ยให้นั่งดี ๆ แต่เธอกลับไม่สนใจและทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง

มีคำกล่าวที่ว่า หากมีขาขาว ๆหรือผู้หญิงสวยมาอยู่ใกล้ ๆคุณ ตราบใดที่ไม่มีอะไรผิดปกติหรือชายคนนั้นไม่ได้เป็นเกย์ คนคนนั้นจะต้องรู้สึกอะไรบ้าง

หลิวเฉิงถอนหายใจ เมื่อเจอกับสาวที่ร้อนแรงและไม่ระวังตัว หนุ่ม ๆอย่างเขามักทนไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่

“จะว่าไปนะ พี่ไม่คิดว่าซูหลิงสวยเหรอ พี่นี่หวังสูงจริง ๆ สเป็คสูงแบบนี้ระวังจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตนะ”

“ไปไกล ๆเลย ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าไม่สวย นอกจากนี้นะ แค่เธออ้าปากฉันก็รู้ไส้รู้พุงเธอหมดแล้ว” หลิวเฉิงเอนหลังบนเก้าอี้แล้วเหยียดแขนออกอย่างสบาย ๆ

หลินเสวี่ยจงใจพาเพื่อนร่วมห้องที่หน้าตาดูธรรมดาของเธอมาเพื่อทำให้ตัวเองดูสวยขึ้นและกลบความงามของเพื่อนทั้งสองคน ดังนั้นเธอจะไม่ถูกเพื่อน ๆทั้งสองคนนั้นแย่งหลิวเฉิงไป

ถือว่าฉลาด

“ฮึ่ม! ถ้าพี่ฉลาด ทำไมถึงไม่รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่น่ะ”

“..........”

หลิวเฉิงเหลือบมองเซี่ยว่านชิวข้าง ๆโดยไม่รู้ตัว เขาพบว่าสีหน้าของเธอนั้นไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เธอไม่สนว่าหลิวเฉิงจะคุยกับผู้หญิงคนอื่นหรือพูดคำพูดกำกวมกับใคร

เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็ยังเป็นแฟนที่รักและภักดีต่อหลิวเฉิงสุด ๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเซี่ยว่านชิวเป็นผี หลิวเฉิงคงอยากแต่งงานกับเธอ

“พี่ชาย พี่มองอะไรอยู่น่ะ?”

หลินเสวี่ยเห็นหลิวเฉิงมองไปยังความมืดข้าง ๆและอดถามเขาไม่ได้

เธอมองตามสายตาหลิวเฉิงไปแต่ก็ไม่เห็นอะไร ไม่มีแม้แต่นักศึกษาที่เดินผ่านไปมา

เพราะตอนนี้มันเป็นเวลานอนแล้ว นักเรียนก็กลับขึ้นหอไปหมดแล้วก็ใกล้ได้เวลาปิดไฟแล้วด้วย

“ไม่มีอะไรหรอก แค่มองไปเรื่อยน่ะ” หลิวเฉิงส่ายหัว

หากจะให้เขาพูดจริง ๆล่ะก็ มีผีอยู่กับพวกเขาด้วยตนหนึ่ง ซึ่งเป็นผีที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ หากเขาพูดแบบนี้ให้หลินเสวี่ยฟัง เธอต้องร้องไห้ทันทีแน่

สาวน้อยคนนี้มีบุคลิกร้อนแรง กระตือรือร้น ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินแต่กลับกลัวผีเป็นพิเศษ ซึ่งอาจเป็นเพราะตอนเด็ก เธอกลับผีเพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเธอด้วยก็เป็นได้

“เอาล่ะพี่ ตอนนี้มันดึกแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ” หลินเสวี่ยเห็นว่าดึกแล้ว เธอจึงยันตัวลุกขึ้นมาจากเก้าอี้

“กลับบ้าน? ไม่ วันนี้เราจะไม่กลับบ้านกัน”

“ฮะ?” หลินเสวี่ยชะงัก

“พี่ พี่ไม่ได้มารับฉันหรอกเหรอ กลับกันเถอะ ฉันสาบานเลยว่าไม่ได้โกหกจริง ๆ มีบางอย่างน่ากลัวในโรงเรียนนี้ ฉันเห็นกับตาตัวเองเมื่อสองวันก่อน ไม่ใช่แค่ฉันนะแต่นักศึกษาหลายคนเองก็ได้เห็นมัน มีแม้กระทั่งนักศึกษาที่ถูกผีอำด้วย คนที่โดนอำต่างก็มีอาการประสาทหลอนด้วยนะ” หลินเสวี่ยพูดด้วยเสียงจริงจัง

เธอกลัวเรื่องน่ากลัวแบบนี้จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็ว ๆนี้หลินเสวี่ยเพิ่งจะรู้สึกว่าเธออาจจะเข้าไปพัวพันกับสิ่งเหล่านี้ด้วยแล้ว ช่วงนี้เธอฝันร้ายทุกคืน เธอไม่กล้าแม้แต่จะเข้าห้องน้ำคนเดียวด้วยซ้ำไป เธอจะต้องอดทนกลั้นมันเอาไว้จนกว่าจะเช้า

แม้ว่าที่นี่จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตก็ตาม แต่มันก็ยังมีคนโดนผีอำอยู่ดี

เพราะไม่มีใครเป็นอะไร มหาวิทยาลัยเจียงไห่เลยยังคงเปิดสอนตามปกติ

แต่...

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง

เรื่องนี้มันยากจะพูด...

“ไม่เป็นไร คืนนี้เธอไม่ต้องนอนค้างที่โรงเรียน ฉันจองโรงแรมข้างนอกเอาไว้ให้เธอแล้ว”

“เอ๊ะ? ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”

“ไม่นานมานี้ ก่อนมานี่น่ะ” หลิวเฉิงหยิบมือถือออกมาแล้วเขย่าให้หลินเสวี่ยดู

ยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะกิน เที่ยว พักผ่อน แค่กดมือถือไม่กี่ครั้งก็จัดการได้ง่ายดาย

“..........” หลินเสวี่ยกรอกตา

เธอพูดไม่ออก แน่นอนว่าพี่ชายตรงหน้าเธอยังคงตรงและแข็งเหมือนเหล็กเช่นเดิมจริง ๆ

“โอเค เราไปโรงแรมกันก่อนก็ได้” หลินเสวี่ยถอนหายมใจหนักออกมาครั้งหนึ่งอย่างเหนื่อยหน่าย

เธอก็ต้องการเห็นเหมือนกันว่าพี่ชายตัวเหม็นของเธอจะอยู่โรงแรมกับเธอได้นานแค่ไหน

แม้ว่าจะอยู่โรงแรมก็จริง แต่หากผีไม่ได้ถูกกำจัด หลินเสวี่ยก็ไม่กล้าที่จะกลับมาใช้ชีวิตในหอพักอีกอยู่ดี

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด