ตอนที่แล้วบทที่ 8: [ด่าน 0] ศึกชี้ชะตา (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10: [ด่าน 0] สิ้นสุดด่านฝึกสอน

บทที่ 9: [ด่าน 0] ศึกชี้ชะตา (4)


บทที่ 9: [ด่าน 0] ศึกชี้ชะตา (4)

"ลิลลี่”

ข้าพยายามเดินเข้าไปหาลิลลี่ แต่ลิลลี่เอื้อมมือออกมาและหยุดข้าไว้

"ทางนี้ยื้อต่อไปไม่ไหวแล้วนะคะ ถึงตอนนี้จะยังพอกั้นพวกมันทั้งกองทัพเอาไว้ได้อยู่ก็จริง แต่อีกไม่นานพวกสัตว์ประหลาดจะทะลวงกำแพงเข้ามาได้แน่"

“......”

“พวกเราไม่มีเวลากันอีกแล้ว รีบเร่งมือเข้าเถอะค่ะ”

ขณะที่แผ่นหลังอันเรียวยาวของนางป้องกันแมงมุมสีดำหลายสิบตัวที่อยู่ข้างหลังนาง ลิลลี่ก็ตอบด้วยรอยยิ้มที่แสนแข็งแกร่ง

"อย่าทำให้ความตายของพวกข้าต้องสูญเปล่านะคะ"

ข้ากัดฟันแน่นขณะที่ลุกขึ้นยืน

"พลตั้งปืนใหญ่ พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่?!"

ร่างของพลปืนใหญ่ยามนี้ยังไม่อาจแม้แต่จะสามารถยืนได้อย่างมั่นคงเนื่องจากแรงกระแทก แต่ข้าก็ตะโกนออกมาเต็มแรง

"รีบบรรจุกระสุนนัดสุดท้ายเข้าไปซะ!"

"แต่ว่าองค์ชายขอรับ—"

ดูเหมือนว่าข้อเท้าของพลปืนใหญ่จะหักจากการล้ม พลปืนใหญ่จึงได้แต่รายงานกลับออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“พวกเราก็บอกไปแล้วนะขอรับว่าตัวลำกล้องปืนมันถึงขีดจำกัดไปแล้ว”

“......”

“แกนมานาก็มีขีดจำกัดเช่นกัน เมื่อใดที่พวกเรายิงออกไป ตัวมันเองจะระเบิดเละแน่ขอรับ”

"แต่หากพวกเราไม่ทำอะไรกันเลย พวกเราได้ตายเพราะแมงมุมบัดซบพวกนี้แน่"

ข้าเดินไปทางปืนใหญ่มานาที่วางอยู่บนพื้น

ฐานของปืนใหญ่ถูกทำลายจนหมดสิ้น แต่โชคดีที่ตัวปืนใหญ่ยังไม่ถูกทำลาย

"ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็มาเดิมพันกับมันสักตั้งไม่ดีกว่าหรือไง ถึงมันจะหมายถึงการตายในกองเพลิง เราก็มีแต่ต้องเสี่ยงกันอยู่ดี"

“......”

พลปืนใหญ่เงียบไปครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น

“เช่นนั้นแบบนี้เราจะเล็งเป้าเช่นไรขอรับ?”

ข้าเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับเขา

กองปืนใหญ่พังลงมาที่ชั้นหนึ่งของอาคาร เศษกำแพงที่พังทลายกลายเป็นกำแพงล้อมรอบเรา

รู้สึกเหมือนติดอยู่ในบ่อน้ำ พวกเราไม่อาจมองเห็นสภาพข้างนอกด้วยซ้ำ แบบนี้เราไม่มีทางระบุหาตำแหน่งตัวราชินีของพวกมันได้

"พวกเราไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ ไม่มีแม้แต่ขาตั้งปืนที่จะเล็งไปที่ราชินี กระทั่งขาตั้งปืนก็แหลกเป็นชิ้นไปแล้ว"

"ก็เอามือของพวกเจ้าไปยกมันไว้สิ"

ถึงจะจนตรอกสักแค่ไหน ก็มีแต่ต้องลุยมันเท่านั้น

"เราไม่จำเป็นต้องเล็งหรอก แค่เดเมียนเป็นคนยิงมันออกไปก็พอแล้ว"

ข้าไม่รู้หรอกนะว่า [ดวงตาพันลี้] ทำงานยังไง แต่ว่าตราบใดที่เดเมียนเป็นคนเหนี่ยวไก มันจะต้องเข้าเป้าอย่างแน่น่อน

ข้าต้องเชื่อมั่นเท่านั้น

"บรรจุกระสุนนัดสุดท้ายเข้าไปซะ นี่เป็นคำสั่ง"

"...ขอรับ"

พลปืนใหญ่ไม่ได้พูดอะไรอีก และเริ่มใส่ลูกปืนใหญ่ลูกสุดท้ายเข้าไปในปืนใหญ่อย่างเงียบๆ

ข้าเดินไปหาเดเมียน เดเมียนยามนี้กำลังนั่งอยู่บนพื้น หอบหายใจสั่นเครือเล็กน้อย

"เดเมียน”

“......”

เดเมียนหลับตาลง แล้วหันมองมาที่ข้า

ใบหน้าของเขาเหนื่อย มีเลือดไหลอาบดวงตาของเขา เดเมียนหายใจเข้าด้วยความเจ็บปวด

"นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ขอแค่เจ้าทำการยิงอีกเป็นครั้งสุดท้ายก็พอแล้ว"

“......”

"ช่วยฝืนตัวเองอีกสักครั้งหนึ่งด้วยเถอะนะ"

“…องค์ชาย”

เดเมียนส่ายได้แต่ศีรษะ

"ทั้งหมดนี่เพื่ออะไรกันขอรับ? ไม่ว่าข้าจะทำอะไรไป ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย”

"หากเจ้ายิงโดนมันอีกนัดหนึ่งแล้วล่ะก็ ไอ้สัตว์ประหลาดบัดซบนั่นจะตายอย่างแน่นอน”

"ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นซะหน่อย"

"แค่ก! แค่ก!”

เดเมียนไออย่างรุนแรงและพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"เอาเป็นว่าถ้าข้าลั่นไกออกไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว ราชินีแมงมุมตาย แล้วมันก็จะไปเปลี่ยนอะไรได้อีกล่ะขอรับ?"

รอยยิ้มที่ผิดหวังปรากฏบนริมฝีปากเรียวของเดเมียน

“ขอข้าหยุดแค่นี้เถอะ แวนสหายของข้าก็ได้ตายไปแล้ว ไม่ว่าข้าจะพยายามเท่าไร เขาไม่มีวันกลับมาหรอก”

“......”

“มันเป็นแบบนี้เสมอเลย ไม่ว่าข้าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม แม้ว่าข้าจะทุ่มเทตัวเองจนตาย โลกก็ยังแย่งทุกอย่างไปจากข้า มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย”

"เดเมียน”

“ขอข้าหยุดแค่นี้เถอะ ข้าไม่ขอใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ต่อไปอีกแล้ว ข้าอยากไปหาแวน...”

"เดเมียน!”

ข้าพูดตัดบทเขาและถามเขากลับ

"นี่เจ้ากำลังมองว่าโลกนี้มันบ้าบอคอแตกไร้เหตุผลอยู่หรือไง?"

เดเมียนเงียบไปสักครู่แล้วเขาก็พยักหน้าของเขา

"ขอรับ”

"นี่เจ้ากำลังคิดว่าถึงจะสามารถเอาชนะอุปสรรคชิ้นโตนี้ไปได้ การมีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับตกนรกเหรอ?!"

"...ขอรับ"

ข้ายิ้มให้กับเดเมียน—

"ถ้างั้นก็หุบปากแล้วเลิกพล่ามอะไรที่มันเห็นๆ กันอยู่แบบนี้ซะทีเถอะ ไอ้บัดซบเอ้ย!"

"อึก?!”

ข้าคว้าคอเดเมียนแล้วดึงเขาขึ้นมาใกล้ๆ หน้าข้า

ข้าตะโกนใส่เดเมียนที่กำลังหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

"หากโลกใบนี้มันจัดอยู่ในระดับยาก ก็เรียกได้ว่ายากนรกแตกเลยด้วย! แล้วก็ยังเป็นโหมดเกมที่คนอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์บันทึกหรือโหลดแล้วย้อนกลับไปได้ด้วยซ้ำ"

ที่นี่มันไม่ใช่เกม แต่เป็นโลกแห่งความเป็นจริง ที่มีความยากระดับนรกโคตร

หากเทียบกับเกมก็ไม่ต่างกับความยากระดับไอรอนแมนนรกแตก

"มันทั้งไร้เหตุผลและไม่ยุติธรรม อะไรๆ ต่างก็ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ! แต่นี่แหละคือชีวิต! มีใครไม่รู้อีกล่ะว่ามันเป็นอย่างนี้?"

พวกเราต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เน่าเฟะนี้กันทั้งนั้น

เพราะอย่างนั้นแล้ว...

"แล้วไงล่ะ? เจ้าเลือกที่จะยอมแพ้ไปซะ ยิ้มร่าจนกระทั้งโดนเชือดคอตายหรือไง?!"

แค่เพราะเหตุผลพรรณนั้นน่ะเหรอ?

"ไม่!”

พวกเราก็มีแต่ต้องสู้กันไปเรื่อยๆ

จนกว่าจะหมดลมหายใจสุดท้ายไป

"ข้าเองก็จะขอสู้มันสักตั้ง! ข้าจะขอดิ้นรนและคิดหาทางต่อสู้จนกว่าตัวเองจะหมดลมหายใจ!"

ปึก!

ข้าโยนเดเมียนลงบนพื้น

เดเมียนถูกโยนลงไปที่พื้น ข้าดึงดาบออกจากปลอกที่เอวและกวาดมันไป

"หากอยากจะถอดใจและตายๆ ไปมากขนาดนั้นล่ะก็...!"

ข้าเอาดาบชี้ที่เดเมียน เดเมียนตัวแข็งทื่อ

"ก็เอามีดนี่ไปเฉือนคอตัวเองทิ้งซะเดี๋ยวนี้เลย!"

“......”

"แต่ว่า หากเจ้ามันเป็นพวกขี้ขลาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะทำแบบนั้นแล้ว..."

แคร๊ง-

ข้าขว้างดาบออกไปโดยไม่สนใจและนั่งอยู่ตรงหน้าเขาในระดับสายตา

"ก็ไปเป็นพลยิงซะ"

"ขอรับ?"

"แล้วจงเลิกคร่ำครวญหาสหายเจ้าที่ตายไปได้แล้ว สิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำยามนี้ต้องลุกขึ้นมาสู้"

ข้าวางมือของข้าบนไหล่ของเดเมียนและบีบแน่น

"แล้วจงอย่าเอาเหตุผลไร้สาระไร้ราคาแบบนั้นมาเป็นเสาหลักในการใช้ชีวิต เจ้าคือตัวหมากของข้า! เป็นกุญแจของข้า! เป็นพลยิงของข้าผู้นี้! ทั้งหมดที่เจ้าต้องเป็นก็มีแค่นี้!"

“......”

"นั่นคือทั้งหมดที่ข้าต้องการจากเจ้า เดเมียน"

ในช่วงเวลานั้นเอง…

[แอช (EX) ปลดล็อกความสามารถใหม่!]

[ทักษะติดตัว-ผู้บัญชาการที่ไม่ย่อท้อ]

หน้าต่างระบบบดบังมุมมองของข้า แต่ข้าก็ไม่ได้สนใจกับมัน ข้าคว้าไหล่ของความหวังเดียวที่ข้ามี

"และนี่คือคำสั่ง พลยิงของข้า"

แสงบางเบาได้ออกมาจากปลายนิ้วของข้า ดูเหมือนว่าความสามารถที่ข้าเพิ่งปลุกจะถูกเปิดใช้งานแล้ว

ข้าไม่รู้ว่าความสามารถของมันคืออะไร แต่ไหล่ที่สั่นเทาของเดเมียน… สงบลงอย่างช้าๆ

ข้าพยักหน้าอย่างหนัก

"ไประเบิดหัวไอ้สัตว์ประหลาดนั่นทิ้งซะ"

“......”

เดเมียนยืนนิ่งโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เหมือนกับรูปปั้นหินที่ผุกร่อน

เวลาผ่านไปไม่กี่วินาที

ในที่สุด

"...ขอรับองค์ชาย”

เดเมียนเงียบและพยักหน้าของเขา

ด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้โดยไร้น้ำตา

"ข้าจะทำตามที่ท่านสั่ง"

"แต่พวกเราไม่มีทางหล่อเย็นตัวลำกล้องปืนได้เลยนะขอรับ"

พลปืนใหญ่ได้กล่าวหลังจากที่ใส่กระสุนนัดสุดท้ายเสร็จสิ้น

"ไม่มีเวทมนตร์ระบายความร้อนหรือน้ำที่จะใช้เป็นน้ำหล่อเย็นแล้ว หากเป็นแบบนี้ล่ะก็..."

"หลีกไปซะ”

ข้าไปยืนอยู่ข้างๆ ปืนใหญ่มานาที่วางอยู่บนพื้น

"ข้าจะเป็นคนถือมันไว้เอง"

"อ..องค์ชาย?!"

พลปืนใหญ่พยายามที่จะหยุดข้า

"ตัวปืนใหญ่มีความร้อนสูงมาก! หากท่านไปจับมันด้วยมือเปล่าแล้วล่ะก็ ได้เป็นแผลไฟไหม้ขั้นรุนแรงแน่!

"ดีไม่ดีจะได้โดนไฟคลอกตายเอาเลยด้วย นั่นเป็นการตายในเพลิงนรกเลยนะขอรับ"

ข้ารู้สึกถึงความร้อนจากปืนใหญ่ เพียงแค่อยู่รอบนอกมัน

ข้าหายใจลึกและมองกลับไป

"เดเมียน เจ้าพร้อมแล้วหรือยัง?"

เดเมียนยังคงหมอบอยู่บนพื้นโดยหลับตาลง และมือของเขาวางอยู่บนไกปืน

"องค์ชายขอรับ ดวงตาของข้ามันมองไม่เห็นเลยนะขอรับ"

"ไม่เป็นไร”

"แต่ข้ายังสัมผัสถึงฝ่ามือของตัวเองได้อยู่ขอรับ"

"ไม่เป็นไร”

ข้าพูดด้วยความพยายามอย่างมากด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

"เเค่นั้นก็พอแล้วล่ะ เดเมียน”

“......”

เดเมียนกัดริมฝีปากซีดเผือดของเขา

ข้าจับถังปืนใหญ่มานาด้วยมือทั้งสองข้าง

อ๊ากกกกก!

ทันใดนั้น ถุงมือของข้าก็ไหม้ไปพร้อมกับฝ่ามือด้านใน

"อ๊ากก..."

ข้าได้กลิ่นผิวที่ไหม้อยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่กำลังลุกไหม้

แต่ข้าจะอดทนกับมัน

เพราะสิ่งเดียวที่ข้าทำได้ตอนนี้คือสิ่งนี้

"อ๊ากกกกกกก!”

ข้ากรีดร้องและวางกระบอกปืนไว้บนไหล่ของข้า

ไหล่ของข้ากำลังถูกความร้อนแผดเผา

จากความร้อนอันน่าสะพรึงกลัวและน้ำหนักอันมหาศาล มันรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของข้ากำลังพังทลายลง ข้ารู้สึกเหมือนข้ากำลังจะเหลือเพียงขี้เถ้าเมื่อใดก็ได้

ทันใดนั้น

"รีบเข้าไปช่วยองค์ชายเร็วเข้า!"

พลปืนใหญ่ที่รอดตายวิ่งมายกปืนข้างข้า

กลิ่นไหม้ยังเล็ดลอดออกมาจากมือของพลปืนใหญ่ที่ถือกระบอกปืน พวกเราทุกคนตะโกนออกมาและชี้ปืนใหญ่ขึ้นไปบนฟ้า

กึก! ครืนน!

ทันใดนั้น แมงมุมดำก็พังกำแพงและเข้ามาได้

หลังจากกำแพงได้พังทลายลง แมงมุมหลายร้อยตัวก็กระโดดข้ามกำแพงที่ถล่มลงมาและพุ่งเข้ามาหาเรา

ข้ามองกลับไปและตะโกน

"เดเมียน!”

ในขณะนั้นเอง เดเมียนลืมตาขึ้น

แสงสีขาวบริสุทธิ์ส่องประกายภายในนัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาที่มองขึ้นไปยังท้องนภา

"ยิงได้-!”

เดเมียนเหนี่ยวไกด้วยพลังทั้งหมดของเขา

กึก!!

มานาที่ไหลออกมาจากแกนเวทย์มนตร์ได้พุ่งขึ้นเหมือนกระแสไฟฟ้าผ่านลำกล้องปืนใหญ่

มานามหาศาลเสียดแทงทะลุร่างกายของข้า แต่ข้าก็ยังไม่ล้มลง

หลังจากนั้น...

ฟูมมม!

เสียงคำรามอึกทึกได้ดังขึ้น กระสุนนัดสุดท้ายได้ถูกยิงออกไปแล้ว

'โดนสักทีเถอะ'

ข้ามองขึ้นไปที่กระสุนมานาสีน้ำเงินที่ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ระหว่างกรงเล็บของแมงมุมที่รุมล้อมอยู่รอบทุกทิศทาง...

'ช่วยเข้าเป้าทีเถอะนะ"

จากนั้นข้าก็ได้หมดสติไป

* * *

กระสุนทะยานพุ่งทะลวงผ่าน

กระสุนนัดสุดท้ายจากฐานปฏิบัติการที่ถล่มลงมาพุ่งสูงขึ้นราวกับประทัดและแทงวาดผ่านทะลุท้องฟ้า

แล้วมันก็พุ่งลงไป

หมุนนวนแล้วตกลงมาเหมือนดาวตก

เคี๊ยกกกกกก

เมื่อราชินีแมงมุมดำสังเกตเห็นกระสุนเวทย์มนตร์ ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง แมงมุมสีดำที่ปกป้องราชินีก็เริ่มสร้างกำแพงขึ้นทันที

ภารกิจนี้ตั้งแต่แรกก็เป็นอะไรที่ไม่สามารถจะเคลียร์ได้ด้วยซ้ำ

การยิงใส่ศัตรูทั้งที่พวกเราอยู่ข้างล่างของป้อมที่ถล่มลงมาและไม่อาจมองเห็นกระทั่งเป้าหมายได้นั้น...

มันไม่มีทางที่มันจะไปถูกเป้าหมายได้อยู่แล้ว

ฟูมม!

แต่ทว่า

ตัวกระสุนได้พุ่งตรงเข้าไปหาตัวราชินีแมงมุม

เรื่องความแตกต่างของระดับความสูง

ไม่มีผล

เรี่องระยะทาง

ก็ไม่มีผลเช่นกัน

ส่วนเหล่าฝูงสัตว์ประหลาดนับพันในเส้นทางที่มันเคลื่อนผ่านไป

ก็ไม่มีผลเช่นกัน

หลังจากผ่านอุปสรรคทั้งหมดไป มันก็ได้มาถึงตัวราชินี

ตัวมันเองคล้ายกับมีเป้าหมายได้ถูกเล็งไว้แล้ว

ตัวมันพุ่งตรงเข้าไปหาราชินีแมงมุมที่กำลังกรีดร้องด้วยความโกรธและความกลัว

ฟูมม-!

มันลงบนหัวราชินีแมงมุมอย่างแม่นยำ

ตู้มม!

แล้วกระสุนนัดนั้นก็ได้เป่าหัวราชินีแมงมุมจนหมดอย่างไม่เหลือซาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด