บทที่ 8: [ด่าน 0] ศึกชี้ชะตา (3)
บทที่ 8: [ด่าน 0] ศึกชี้ชะตา (3)
ก๊าซซ-!
สัตว์ประหลาดหลั่งไหลมาอย่างไม่สิ้นสุด ปืนใหญ่มานายามนี้ได้ถูกบรรจุกระสุนนัดที่สามเรียบร้อยแล้ว
แนวป้องกันที่ลูคัสดูแลอยู่ยังคงยึดมั่นอยู่ แต่มันคงอยู่ได้อีกไม่นาน
"เตรียมพร้อมยิงเรียบร้อยขอรับ!”
"เดเมียน!”
พลปืนใหญ่ตะโกนออกมาเมื่อการเตรียมพร้อมเสร็จสิ้น ข้าจึงตะโกนใส่เดเมียนทันที
"ยิงได้!”
ดวงตาของเดเมียนทั้งสองข้างได้ถูกย้อมด้วยสีแดงโลหิต เส้นเลือดได้ผุดออกมา
มันอาจจะเป็นผลข้างเคียงของดวงตาพันลี้ ทว่านี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องนั้น
กึก!
เดเมียน เล็งเสร็จแล้วก็เหนี่ยวไกโดยไม่ลังเลเลย
กึก!
ฟูมมม!
นี่เป็นนัดที่สาม
กระสุนมานาเจาะท้องฟ้าพุ่งผ่านไปในระยะไกล
ตู้มม...!
ยืนยันแล้ว กระสุนตกที่ตัวของราชินีแมงมุมดำ
เป็นการยิงที่เล็งได้แม่นมาก
ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดของพระเจ้าหรือเรื่องตลกที่นักพัฒนาเอามาใส่ ดวงตาของเดเมียนก็คือปาฏิหาริย์ที่มีอยู่ในตอนนี้
ทว่ายามนี้ปัญหาคือ
ก๊าซซซ-!
ตัวราชินีแมงมุมไม่ล้มลงเลย
ราชินีไม่ได้โง่ เมื่อนางถูกโจมตีเป็นครั้งที่ 2 นางก็รู้ว่านางได้กลายเป็นเป้าหมายของมือปืนและจึงได้เริ่มเปลี่ยนแผน
แผนของนางง่ายและมีประสิทธิภาพมาก นางใช้ศพของผู้ใต้บังคับบัญชาของนางเป็นโล่
กระสุนมานาที่ตกลงมาในรูปทรงโค้งมนได้ถูกพวกแมงมุมตัวเล็กตัวน้อยกันเอาไว้
มานายิงทะลุผ่านเกาะทั้งหมด แต่เมื่อถึงราชินี พลังการยิงก็ได้ลดลงแล้ว
“ราชินีแมงมุมดำถูกโจมตี แต่มันยังคงไม่ตายขอรับ…!”
ทหารที่มองผ่านกล้องส่องทางไกลรายงานด้วยเสียงสั่นเทา ข้าตะโกนออกมาขณะที่พยายามจะตั้งสติไว้
“พวกเจ้ายืนอยู่เฉยทำไมกัน?! นี่ไม่ใช่เวลามาพักผ่อน! ใส่กระสุนและยิงต่อไปเร็ว!”
ทหารปืนใหญ่ที่ทำความเย็นให้ปืนใหญ่ก็ใส่ลูกกระสุนใหญ่ต่อไป ร่างกายของพวกเขาเปียกโชกด้วยเหงื่อและหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
"ย๊ากกก-!”
ชั้นแรกของแนวหน้า
ลูคัสกวัดแกว่งดาบของเขาอย่างสิ้นหวัง โดยสั่งการแนวป้องกันที่ถูกผลักกลับไปตั้งหลักก่อน
"ปกป้องหน่วยปืนใหญ่เอาไว้! พวกเราจะต้องปกป้ององค์ชายเอาไว้ให้ได้!”
ลูคัสต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ เพราะเขาเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากองทหารที่นี่
แม้ว่าเขาจะอยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์ประหลาดแมงมุมดำ แต่เขาก็ใช้ดาบของเขาอย่างชำนาญและป้องกันกรงเล็บของพวกมัน พยายามต่อสู้อย่างหนักเท่าที่จะทำได้
ที่ที่ลูคัสอยู่ แนวป้องกันยังไม่ได้ถูกพังลงไป
แต่ในส่วนอื่นของแนวป้องกัน,
"เหวอ!”
"อ๊ากก"
"ช่วยด้วย! ส่งข้ากลับบ้านที..."
จำนวนคนตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในหน้าต่างข้อมูล จำนวนทหารของข้าตายจำนวนมาก ข้าไม่สามารถทนมองมันได้อีกต่อไปจึงปิดมันลง
ข้าไม่รู้เลย
ข้าไม่รู้มาก่อนเลยตอนข้าเล่นเกมส์
ว่าที่แห่งนี้เป็นที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่กัน
คนที่ตายลงไปไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลข พวกเขาจากโลกนี้ไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวและกลิ่นคาวเลือด
แนวหน้าของเราถูกผลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว กระสุนห้านัดเหรอ? แบบนี้แค่ยิงนัดที่สี่ก็มีหวังไม่ทันไปก่อนแน่
"เฮ้ยไอ้สัตว์ประหลาด เฮงซวยเอ้ย!"
ในช่วงเวลานั้นเอง…
จากนอกแนวป้องกัน มีคนส่งเสียงคำรามแหบแห้งออกมา ข้าก้มลงไปมองที่นั่น
คนที่ยืนอยู่ท่ามกลางสัตว์ประหลาดและร้องตะโกนออกมาคือเคน
"ข้าอยู่นี่แล้ว! มองมาสิสิ! มองมาทางนี้สิไอ้พวกบัดซบ!”
ก่อนหน้านี้ เคนสามารถดึงดูดแมงมุมส่วนหนึ่งโดยการล่องหนซ้ำแล้วซ้ำเล่าและดึงดูดความสนใจของศัตรูที่อยู่นอกกำแพงปราสาทได้
แต่เมื่อราชินีแมงมุมเปลี่ยนคำสั่งของนาง แมงมุมทั้งหมดก็รีบไปที่ป้อมปืน เขาจึงถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังข้างนอก
ที่จริงเขาควรจะหนีไป เพราะเขายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูแล
“ให้ตายเถอะเจ้าแมงมุมบัดซบ! ข้าคือเคน อัศวินแห่งจักรวรรดินี้!”
แต่เคนก็ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของเขาจนถึงที่สุด
แม้ว่าเขาจะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่เขาก็ยังคงดึงความสนใจของศัตรูด้วยเสียงตะโกนต่อไป
มันอาจเป็นเพราะคำขู่ของข้า? หรือว่า…
ก๊าซซ-!
เมื่อแมงมุมหลายสิบตัวที่ทำลายแนวป้องกันหันมามองที่เคน ข้าก็รู้สึกได้ถึงความกล้าของเขา
มันเป็นความรู้สึกที่ข้าไม่อาจถามหาเหตุผลได้จากเขาอีกต่อไป
แมงมุมดำหลายสิบตัวหยุดการโจมตี หันกลับไปหาเคนและเริ่มพุ่งเข้าหาเขา
เคนพาพวกมันออกไป ใช้ความสามารถการล่องหนของเขาด้านหลังกำแพงหินที่พังทลาย แต่-
"อ๊าก”
เขาไม่สามารถที่จะเปิดใช้งาน [วิถึการเอาตัวรอดของโจร] ได้เพราะเลือดของเขาไม่เพียงพอ
แมงมุมดำหลายสิบตัววิ่งไปที่เขา เคนมองมาที่ข้าที่ยืนอยู่ด้านบนของกำแพงและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ด้วยใบหน้าที่ราวกับกำลังร้องไห้
“ให้ตายเถอะ ข้าไม่น่าไปหลงเชื่อ—”
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ทั้งที่อยู่ไกลออกไป ข้าก็ยังสามารถได้ยินเสียงขาแมงมุมฉีกเฉือนเนื้อได้อย่างชัดเจน
ข้าไม่ได้หันหนีจากเหตุการณ์ตรงหน้า ภาพการตายของเขาอยู่ในสายตาของข้า
มันไม่ใช่แค่เคน ทุกคนที่อยู่ข้างนอกนั่นต่างก็ถูกสัตว์ประหลาดฆ่า
เลือดได้ไหลออกมาขณะที่ข้ากัดริมฝีปาก
ก่อนที่ข้าจะมายังโลกนี้ ข้าเสียยอมเสียกำลังของข้าหากจำเป็น
เพราะเกมเวรตะไลนี้มันออกแบบมาเพื่อการนั้น เพื่อที่จะก้าวต่อไปก็ต้องมีใครสักคนตาย
เพื่อช่วยใครสักคนเอาไว้ เพื่อที่จะได้ไอเท็ม เพื่อทำภารกิจย่อยให้สำเร็จ เพื่อปลดล็อคความสำเร็จบางอย่าง…
ก็ต้องมีใครสักคนมาตายไป ข้าเองก็ฆ่าพวกเขาทิ้งไปด้วยความเต็มใจ
เพื่อที่จะเคลียร์เกมทั้งหมดให้ได้ ข้าจึงมักเอาผู้ใต้บังคับบัญชานับไม่ถ้วนไปตายโดยไม่รู้สึกผิด ข้าไม่เคยนึกย้อนกลับมาแม้แต่ครั้งเดียว
"หยุด”
แต่ทว่าตอนนี้ข้าก็ได้เข้าใจมันแล้ว
"หยุดซะ"
ผลที่ตามมาจากสิ่งที่ข้าทำลงไป
"ข้าบอกว่าให้หยุดไงเล่าไอ้พวกสัตว์ประหลาดบัดซบ!”
ความจริงที่ว่าความตายทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพราะคำสั่งของข้า
เมื่อเห็นผู้คนล้มลงไปด้วยเลือดที่กระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าข้า ข้าก็ได้แต่กรีดร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง
"หยุด-!”
ทว่าพวกมันก็ไม่ยอมหยุดกันเลย
สัตว์ประหลาดอย่างพวกมันไม่มาหยุดเพราะเสียงโห่ร้องบ้าๆ นี้หรอก มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะหยุดสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้
เราต้องฆ่าพวกมัน
ก่อนที่เราจะถูกพวกมันฆ่า
"องค์ชาย!”
ข้ามองไปตามเสียงของพลปืนใหญ่
"กระสุนนัดที่สี่พร้อมยิงแล้วขอรับ ทว่าการใช้ซ้ำและการลดความร้อนของปืนใหญ่ทำให้ลำกล้องอ่อนลงมาก ดังนั้น…”
"เดเมียน!”
ข้าตัดบทที่พลปืนใหญ่กำลังจะพูดและตะโกนใส่เดเมียน
"ยิงได้-!”
เลือดได้ไหลออกมาอาบดวงตากลมโตของเดเมียน
ใบหน้าของเขาซีดจาง ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อการใช้งานได้ [ตาพันลี้] ได้อีกต่อไป
แต่เดเมียนยังคงกัดฟันและเหนี่ยวไกปืน
กึก!
กึก…!
ฟูมมมม!
กระสุนนัดที่สี่ถูกยิง
มานาสีน้ำเงินเข้มได้ยิงตัดผ่านท้องฟ้าเป็นเกลียวและบินไปยังฝูงฝั่งราชินีอีกครั้ง
คราวนี้แมงมุมคุ้มกันหลายสิบตัวได้เข้ามารวมตัวเพื่อป้องกันกระสุนมานา
แต่การยิงมานาคราวนี้ทำให้เกิดวงก้นหอยประหลาดขึ้นในอากาศ มันหลบพวกแมงมุมส่วนใหญ่ได้และ-
ตู้ม!
โดนแล้ว
แล้วยังโดนเข้าหัวราชินีของมันจังๆ ด้วย
นี่คือประสิทธิภาพของดวงตาพันลี้
ค่าความแม่นยำที่ล้นหลามจากคุณลักษณะพิเศษตัวละครนี้ได้มองข้ามกฎแห่งฟิสิกส์และสามารถยิงใส่ราชินีได้สำเร็จ
เคี๊ยกก…
แต่ทว่า—
เคี๊ยกก!
ในควันจากการระเบิดและเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นมา ราชินีแมงมุมตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่
หลังจากได้ยินเสียงร้องอันน่าสยดสยองของราชินี พวกทหารปืนใหญ่ทรุดตัวลงบนพื้น เดเมียนที่กำลังยืนและถือปืนก็ไม่สามารถยืนได้อีกต่อไปและล้มลงด้วย
ความสิ้นหวังปรากฏชัดบนใบหน้าของเราทุกคน
"การโจมตีของพวกเรามันไม่ได้ผล"
ทหารปืนใหญ่กล่าวด้วยเสียงกระซิบอันเหนื่อยล้า มือของเขาที่ถูกไฟไหม้จากการทำความเย็นเต็มไปด้วยแผลพุพอง
"ตัวปืนเองก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หากพวกเรายิงมันออกไปอีกนัดล่ะก็ กระบอกปืนได้ระเบิดออกมาแน่”
“......”
"มันจบแล้ว เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว"
ทหารคนอื่นๆ ทั้งหมดมองมาที่ข้าราวกับว่าพวกเขาเห็นด้วยกับคำพูดนั้น ข้าสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วมองไปรอบๆ
แนวป้องกันกำลังถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
แมงมุมล้อมรอบกองปืนใหญ่
ตอนนี้ลูคัสกำลังปกป้องแนวป้องกันสุดท้าย โดยให้กำลังใจทหารที่เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง
ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดของเขาเองมากกว่าเลือดของแมงมุม
ข้าหันไปหาเดเมียน เดเมียนคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเพราะมีเลือดไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทของเขา
ตัวปืนเองก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่แบบสุดๆ แถมแนวป้องกันก็มาล่มไปแล้วอีก พลยิงของเราก็เเทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้วด้วย
ข้ารวบรวมความเสียสละของทุกคนเพื่อถล่มราชินีสัตว์ประหลาดนั่น แต่นั่นไม่เพียงพอที่จะเอาชนะราชินีได้
นี่มันจบแล้วเหรอ?
นี่มันหมดหวังแล้วจริงๆ ใช่ไหม?
"ไม่ขอรับ!”
ในช่วงเวลานั้นเอง…
"พวกเราสามารถสร้างความเสียหายให้กับมันได้จริงด้วยขอรับ! ผิวหนังของราชินีของพวกมันกำลังหลุดออกแล้วขอรับ!’
มีคนตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ ทุกคนต่างหันไปมองทางนั้น
แม้ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ ก็ยังมีทหารที่ทำหน้าที่ของตัวเองจนถึงที่สุดอยู่ดี เขาเป็นเพียงทหารผู้หนึ่งที่กำลังหยิบกล้องส่องทางไกลที่ทำหน้าที่รายงาน
"หากเรายิงอัดเข้าไปอีกหนึ่งนัด พวกเราก็สามารถฆ่ามันได้-"
ขณะที่เขากำลังกล่าวออกมา
กึกกัก…
ปืนใหญ่เริ่มสั่น
ตู้ม!
พื้นพังทลาย
แมงมุมหน่วยบุกทะลวงได้พุ่งเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ กระแทกร่างกายที่หุ้มเกราะหนักของพวกเขาทั้งหมดในคราวเดียวและทุบแกนพลังงาน
กองปืนใหญ่ทั้งหมดถูกทำลายด้วยการโจมตีของมันเพียงครั้งเดียว ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านบนกำแพงได้ร่วงลงมา
ท่ามกลางผู้คนที่กำลังไหลลงมา ยามนี้ก็เหลือแต่เพียงซากปืนใหญ่
ข้าหลับตาขณะที่ล้มลงกับพื้น
มันจบลงแล้ว
โลกทั้งใบนี้และความหวังที่จะเคลียร์มัน
ทั้งหมดเลย
* * *
"องค์ชาย”
ข้าได้ยินเสียงที่แจ่มชัดเสียงหนึ่ง
ข้าแทบจะลืมตาไม่ขึ้น ด้วยความเจ็บปวดที่รู้สึกเหมือนร่างกายของข้ากำลังฉีกขาดออกจากกัน
ต่อหน้าข้า…ก็คือลูคัส
ลูคัสหมอบอยู่บนตัวข้าราวกับพยายามป้องกันร่างกายของข้าไว้
และบนหลังของเขามีเศษซากของอาคารที่ถล่มลงมา
“ลูคัส!”
ข้ารีบลุกขึ้นหลังจากได้สติกลับมา
เมื่อข้าพยายามลุกขึ้นจากพื้น ลูคัสก็ขยับก้อนหินบนหลังของเขาออกมาพร้อมกับเสียงร้องครวญคราง
"องค์ชาย ท่านบาดเจ็บหรือเปล่าขอรับ?”
"มันควรเป็นทางนี้ต่างหากที่ต้องถาม! เจ้าเป็นอะไรไหม..."
ข้าหยุดสิ่งที่กำลังจะพูด
หลังของลูคัสปกคลุมไปด้วยเลือด บาดแผลที่เขาได้รับจากการปกป้องข้าจากตึกถล่มนั้นใหญ่กว่าบาดแผลที่เขาได้รับจากแมงมุมเสียอีก
"แค่ก!”
ลูคัสพึมพำด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าขณะที่เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด
"องค์ชาย ท่านยังจำได้ไหมขอรับ? เรื่องในอดีตเกือบ 20 ปีที่แล้ว”
“......”
ข้าจำไม่ได้หรอก
สำหรับผู้เล่นในเกมนี้ที่พึ่งได้ร่างกายนี้มาครอง ข้าไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับตัวของร่างกายนี้อยู่เลย
"ยามแรกที่ฝ่าบบาทได้รับมอบหน้าที่องค์รักษ์ของท่านให้กับข้า องค์ชายก็ได้บอกกับข้าในตอนนั้นเอาไว้ว่า..."
“...ข้าบอกว่าอะไรไปหรือ?”
"'แม้ว่าตัวข้าจะขึ้นไปเป็นจักรพรรดิไม่ได้ ข้าก็จะเป็นชายที่เจ๋งที่สุดในโลกให้ได้’”
รอยยิ้มบางเบาปรากฏบนใบหน้าของลูคัส เมื่อเขานึกถึงวัยเด็กของเขา
"ฉะนั้นแล้วสำหรับคนที่จะมาเป็นอัศวินของข้าผู้นี้ ก็จงมีมุ่งหมายเป็นอัศวินที่เจ๋งที่สุดในโลกใบนี้ซะ”
“......”
"แม้ว่าวันนั้นข้าจะยังเป็นเพียงแค่เด็ก แต่คำพูดขององค์ชายนั้นซึ้งกินใจข้าสุดๆ ไปเลย กระทั่งวันนี้ข้าก็ยังยึดถือคติของท่านมาโดยตลอด”
ลูคัสมองมาที่ข้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดมากมาย
"องค์ชาย ข้าเองก็เชื่อในตัวท่านนะขอรับ”
"แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้น่ะเหรอ?”
"ไม่ว่าอย่างไงข้าก็เชื่อท่าน”
แล้วลูคัสก็ได้ล้มลง
ข้าอุ้มลูคัสที่ล้มลงด้านข้างแล้ววางเขาลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง บาดแผลดูเหมือนสาหัส แต่โชคดีที่เขายังไม่ตาย
'อดทนไว้ก่อนนะลูคัส’
เจ้าเป็นตัวละครหลักเลยนะ เป็นผู้กอบกู้ของโลกใบนี้
เจ้าจะมาตายไปในที่แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้ข้าก็ต้องทำความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันก่อน จุดที่ข้าอยู่นี้คือที่ๆ อยู่ใต้ของหน่วยปืนใหญ่เหรอ? นั่นเหล่าทหารในหน่วยปืนใหญ่ใช่ไหม?
ทำไมพวกแมงมุมยังไม่ฆ่าเราล่ะ?
"องค์ชาย”
คำถามที่ข้าได้คิดในใจก็ได้รับการตอบอย่างรวดเร็ว
บนชั้นแรกของกองปืนใหญ่ที่ทรุดตัวลงที่ ทางเข้าของทางเดินแคบๆ
"เรายังไม่แพ้กันนะคะ”
ลิลลี่ยืนอยู่ตรงนั้น
ความสามารถ [กายาเพลิง] ของนางถูกเปิดใช้งาน นางรับการโจมตีของแมงมุมด้วยร่างกายของนาง นางป้องกันไม่ให้แมงมุมเข้ามาได้
ลิลลี่ที่ดื่มยามานาขวดสุดท้ายไปก็กล่าวถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา และใบหน้าที่ซีดเผือด
"ใช่ไหมคะ?”